ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 635 ดักโจมตี
บทที่ 635 ดักโจมตี
“พ่อคะ อู๋ฝานมาแล้วค่ะ” เจ้าหย้าหนานเดินนำอู๋ฝานเข้าประตูไป
“อู๋เซียนเซิง ยินดีต้อนรับนะครับ” ภายในโถง เมื่อเห็นคนทั้งสองเดินเข้ามา ชายวัยกลางคนที่หน้าตาคล้ายเจ้าหย้าหนานจึงรีบลุกจากโซฟามาต้อนรับ
“อู๋ฝาน นี่พ่อของฉันเองค่ะ” หญิงสาวเอ่ยบอก
“สวัสดีลุงเจ้าครับ” อู๋ฝานเผยยิ้มออกมา
“ยินดีที่ได้พบผู้มีพระคุณของครอบครัวเรา ฉันขอให้หย้าหนานชวนเธอมาทานอาหารหลายครั้งแล้ว แต่เด็กน้อยนี่ถ่วงเวลามาซะนานเลย” พ่อของเจ้าหย้าหนานขอให้ชายหนุ่มนั่งลงก่อน
“พ่อคะ อู๋ฝานมีกิจการอื่นต้องดูแลด้วยค่ะ เพราะแบบนั้นเขาถึงค่อนข้างยุ่ง” เจ้าหย้าหนานกลอกตามองตอบพ่อตัวเอง
เมื่ออยู่ที่บ้านของตัวเอง เจ้าหย้าหนานก็ไม่ได้มีภาพลักษณ์ของเถ้าแก่สาวสวยแห่งโรงไม้และโรงงานเฟอร์นิเจอร์ แต่เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ค่อนข้างมีชีวิตชีวา
“ลูกนี่ก็เหลือเกิน ทำไมยังไม่ไปรินน้ำชาให้อู๋ฝานอีกล่ะ” พ่อของเจ้าหย้าหนานเอ่ยขึ้น
หญิงสาวถึงกับต้องเดาะลิ้นตอบ ก่อนจะหันไปรินน้ำชาให้
“ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหย้าหนานหรอกนะครับ ไม่นานมานี้ผมมีเรื่องต้องทำหลายอย่างจริง ๆ รบกวนให้คุณลุงเจ้าต้องรอซะแล้วครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสักนิด คนหนุ่มไฟแรงก็มีงานการต้องทำ มาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นอยู่แล้ว” พ่อของเจ้าหย้าหนานตอบกลับ
“พ่อคะ ทำไมตอนถามหนูไม่เข้าใจแบบนี้บ้างล่ะ?” เธอตั้งคำถามขณะยังคงถือถ้วยน้ำชา
“ถ้าลูกมีความสามารถเหมือนอู๋เซียนเซิง พ่อก็คงเข้าใจลูกไปแล้ว” พ่อของเจ้าหย้าหนานตอบกลับ
“ลุงเจ้า เรียกชื่อผมดีกว่าครับ หรือเรียกว่าเสี่ยวอู๋ก็ได้” อู๋ฝานเอ่ยขึ้น “แล้วหย้าหนานก็เป็นคนที่มีความสามารถและทำได้หลายอย่างครับ หลังเธอรับหน้าที่ดูแลโรงงานเฟอร์นิเจอร์และโรงไม้ ทุกเรื่องก็ราบรื่นมาได้ด้วยดีนะครับ”
“พ่อได้ยินไหมคะ ลูกสาวพ่อเก่งตั้งเท่านี้แน่ะ” เจ้าหย้าหนานยืดอก
“ยิ่งชมลูกก็ยิ่งเหลิงน่ะสิ หลังจากนี้ลูกต้องเรียนรู้จากเสี่ยวอู๋ให้มาก ๆ เข้าไว้นะ” พ่อของเจ้าหย้าหนานตอบกลับ
“แน่นอนค่ะ” เจ้าหย้าหนานตอบรับ
“จะว่าไปแล้ว ลุงเจ้าครับ ผมมาที่นี่ครั้งแรกแต่กลับไม่ได้เตรียมอะไรติดไม้ติดมือมาเลย ได้ยินจากหย้าหนานว่าคุณลุงสุขภาพไม่ค่อยดี ผมมียาช่วยบำรุงร่างกายอยู่สองอย่าง ลุงเจ้ารับเอาไว้แล้วค่อยทานทีหลังได้นะครับ” อู๋ฝานเอาขวดยาบำรุงสองขวดออกมาส่งให้พ่อของเจ้าหย้าหนาน
“เสี่ยวอู๋เกรงใจกันเกินไปแล้ว ก็แค่มา ไม่เห็นต้องเตรียมอะไรมาด้วยเลย” พ่อของเจ้าหย้าหนานตอบรับ
“ไม่ใช่ของมีค่าอะไรหรอกครับ” ชายหนุ่มตอบกลับ “แต่ถ้าได้ทานเข้าไปก็จะเป็นประโยชน์กับร่างกายแน่นอนครับ”
“จริงเหรอ? ขอบคุณเสี่ยวอู๋ล่วงหน้าก่อนแล้ว” พ่อของเจ้าหย้าหนานรับยาทั้งสองขวดมาโดยไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก มันไม่ใช่ว่าเขาดูแคลนอะไร แต่เพราะในตลาดมียาประเภทนี้ออกมาวางขายมากมาย ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ผลอะไร ที่เขารู้ก็เพราะเคยทานด้วยตัวเองมาก่อนแล้ว พวกมันแทบไม่ส่งผลอะไร เลยมองว่าสองขวดที่ชายหนุ่มเพิ่งส่งมาให้ก็เหมือนอย่างที่เคยซื้อหามาทาน
แต่หน้าตาขวดบรรจุก็ค่อนข้างพิเศษอยู่บ้างจริง ๆ
“น่าอายจริง ๆ ที่ต้องบอกว่าป่วยก็เพราะโกรธมากจนเกินไปนี่แหละนะ” พ่อของเจ้าหย้าหนานถอนหายใจ “หย้าหนานก็น่าจะบอกเรื่องเหล่าหลิวให้รู้แล้วใช่ไหม?”
“ใช่ครับ” อู๋ฝานพยักหน้าตอบ
“ฉันรู้จักเขามานาน ตลอดมามีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เลยไม่คิดว่าเขาจะมีความคิดในใจแบบนั้น หลังรู้ความจริงฉันถึงกับรับไม่ได้อยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็ทั้งโกรธและเครียดจนล้มป่วย จะว่าไปแล้วหย้าหนานก็ลำบากเพราะเรื่องนี้ด้วย ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์แต่ก็ต้องเข้ามาดูแลกิจการแล้ว เรื่องดี ๆ คือได้พบกับเสี่ยวอู๋ ไม่งั้นคงไม่ใช่แค่ฉัน ทว่าหย้าหนานก็คงตกหลุมพรางของเหล่าหลิวไปแล้ว” พ่อของเจ้าหย้าหนานรำพึงรำพันออกมา
“พ่อคะ เรื่องราวมันจบไปแล้ว อย่าคิดมากอีกเลยนะคะ” เจ้าหย้าหนานพยายามปลอบผู้เป็นพ่อ
“ใช่ เรื่องมันจบลงไปแล้ว มีเสี่ยวอู๋อยู่ด้วยฉันก็เลยเชื่อว่าทั้งโรงงานและโรงไม้กำลังพัฒนาไปได้ด้วยดีกว่าแต่ก่อน ลูกคอยติดตามเสี่ยวอู๋ทำงานและเรียนรู้งานด้วย เข้าใจใช่ไหม?” พ่อของเจ้าหย้าหนานตอบกลับ
“รู้ค่ะ” เจ้าหย้าหนานพยักหน้าตอบ
“อาหารพร้อมแล้ว มาทานด้วยกันเถอะ” ขณะนี้เองที่แม่ของเจ้าหย้าหนานและพี่เลี้ยงเดินออกมาจากในครัวพร้อมบอกคนทั้งสอง
เจ้าหย้าหนานรับหน้าที่แนะนำตัวอู๋ฝานอีกครั้ง จากนั้นมื้อเย็นจึงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เพราะเป็นงานเลี้ยงภายในครอบครัว บรรยากาศถึงค่อนข้างอบอุ่นและผ่อนคลาย กลุ่มคนพูดคุยกันไปพลางหัวเราะขณะกินดื่ม มันเป็นช่วงเวลาสุขสบายกว่าการได้ทานที่ร้านอาหาร ทั้งยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น พ่อของเจ้าหย้าหนานชวนอู๋ฝานดื่มหลายแก้ว จนสุดท้ายแม่ของเธอก็ต้องพาเขากลับห้องไปก่อนเพราะเมา เพราะแบบนั้นชายหนุ่มเลยไม่ได้อยู่บอกลา
“อู๋ฝาน ขอบคุณนะ” หลังมื้ออาหาร เจ้าหย้าหนานออกมาส่งอู๋ฝานพร้อมกับบอก
“ขอบคุณอะไรกันครับ?” อู๋ฝานตอบรับ “ผมต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายขอบคุณที่เลี้ยง”
“ขอบคุณที่ทำให้พ่อของฉันดีใจได้ขนาดนี้” เจ้าหย้าหนานตอบกลับ “ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับโรงไม้และโรงงานเฟอร์นิเจอร์ พ่อของฉันก็ทุกข์มาโดยตลอด ต่อให้ยังดูแลบ้านได้แต่ก็แทบไม่สนใจโลกภายนอกอีก ฉันรู้นะว่าท่านมีแผลฝังใจกับเรื่องที่เคยเกิดขึ้น เพราะคุณปรากฏตัวขึ้นมาเลยทำให้ทั้งโรงไม้และโรงงานได้รับการช่วยเหลือ และวันนี้ก็ยังมาเป็นแขกร่วมทานอาหารด้วยกันอีก มันเป็นการช่วยคลายปมในใจของท่าน เพราะสีหน้าท่าทีของท่านในวันนี้ดูดีขึ้นมากเลยทีเดียว บอกตรง ๆ ว่าไม่เห็นพ่อดื่มเยอะขนาดนี้มานานแล้ว”
“ผมกลัวว่าพรุ่งนี้แม่ของคุณจะต่อว่าซะมากกว่า” อู๋ฝานหัวเราะตอบ
“ฮ่า ๆ ได้มีโอกาสต่อว่าแบบนั้นแม่ฉันคงดีใจแหละนะ” เจ้าหย้าหนานหัวเราะตอบ
“ผมคงต้องขอตัวกลับก่อน ไว้พบกันครับ” เขาบอกลา
“เดินทางระวังด้วยค่ะ” เจ้าหย้าหนานตอบรับ
“ครับ”
หลังบอกลาเจ้าหย้าหนาน อู๋ฝานก็ขับรถออกมา แม้จะร่วมดื่มกับพ่อของหญิงสาวไปไม่น้อย แต่เขาค่อนข้างมีภูมิต้านทานแอลกอฮอล์ ปริมาณดังกล่าวสำหรับตนถือว่ารับได้สบายมาก
ขณะกำลังขับกลับ แม้จะดึกแล้วแต่ก็ยังคงมีคนใช้ถนนอยู่มาก ดังนั้นเขาจึงขับไปเรื่อย ๆ อย่างสบายอารมณ์
“กึก กึก กึก!”
ขณะขับรถใกล้ถึงถนนจั่งหนิง ลูกธนูจำนวนหนึ่งพลันถูกยิงมากระทบกระจกหน้าต่างรถจนเกิดเสียงดัง
ลูกธนูปลายแหลมเหล่านี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง หากเป็นรถธรรมดา เกรงว่าคงทะลุกระจกรถเข้ามาแล้ว แน่นอนว่าคนที่นั่งอยู่ข้างกระจกย่อมไม่รอด
แต่รถของอู๋ฝานมีความพิเศษ เนื่องจากมันเกิดขึ้นจากป้ายอัญเชิญ กระจกจึงมีคุณสมบัติกันกระสุนอย่างเลิศล้ำ แค่ลูกธนูไม่อาจทะลุผ่านมาได้ ทำได้เพียงฝากร่องรอยสีขาวเล็กน้อยไว้
แม้จะไม่ทะลุกระจกหน้าต่างรถเข้ามา ทว่าอู๋ฝานก็ยังต้องตกใจเพราะการโจมตีอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นเองที่เขาเห็นกลุ่มรถด้านหลัง ด้านหน้า รวมถึงซ้ายและขวา เห็นได้ชัดว่าพวกมันคิดสกัดและปิดล้อม
คนที่สัญจรและขับรถบนถนนข้าง ๆ ราวกับตระหนักเห็นอะไรผิดปกติ จึงพากันส่งเสียงร้องออกมาก่อนจะหนีหายกันไป
ชายหนุ่มไม่เลือกอยู่กับที่ แต่เหยียบคันเร่งเพื่อเร่งความเร็วเข้าหารถคันที่อยู่ด้านหน้า
……….