ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 636 หลบหนี

……….

บทที่ 636 หลบหนี

“ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!”

ขณะอู๋ฝานเร่งความเร็วรถ เขาก็รู้สึกได้ว่ายางรถกระทบเข้ากับอะไรบางอย่าง น่าจะเป็นลูกธนูแบบเดิมจนเกิดเสียง แต่โชคดีที่ยางของรถคันนี้ก็เหมือนกับกระจกหน้าต่าง มันแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด แค่ลูกธนูปลายแหลมไม่อาจทะลุผิวยางเข้าไปได้

ดักซุ่มโจมตี!

และยังเป็นกลุ่มผู้ฝึกตน!

ชายหนุ่มรีบทำความเข้าใจกับสถานการณ์ เห็นได้ชัดว่าเกิดการดักซุ่มโจมตีเกิดขึ้น พิจารณาจากการที่อีกฝ่ายใช้ลูกธนูและไม่ใช่อาวุธปืน ก็มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นผู้ฝึกตน เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้คิดอยู่แล้วว่าอาวุธปืนมีประสิทธิภาพอะไร ทั้งยังค่อนข้างชอบและสนใจในอาวุธยุคเก่ามากกว่า

ดังนั้นเขาจึงเริ่มไล่เรียงถึงความเป็นไปได้ของบุคคลที่จะทำแบบนี้ หากเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลเจียงก็คงขับรถเข้ามาชน และไม่ใช่ใช้ลูกธนูเหล่านี้ แต่เป็นอาวุธปืน

แน่นอนว่าต่อให้ใช้ปืน มันก็ไม่อาจทะลุเข้ากระจกหรือยางรถของอู๋ฝานได้อยู่ดี

แต่ต่อให้ไม่ใช่บอดี้การ์ดของตระกูลเจียง คนเหล่านี้ก็ต้องได้รับคำสั่งมาจากตระกูลเจียง เพราะไม่นานมานี้เขาเพิ่งมีเรื่องราวบาดหมางกับอีกฝ่าย และตระกูลเจียงมีสำนักอยู่เบื้องหลัง

ดังนั้นชายหนุ่มจึงเดาได้ถึงตัวตนผู้ดักซุ่มโจมตี เป็นไปได้มากว่าจะเป็นสำนักตะวันเพ็จ!

หากเกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลเจียง การที่สำนักตะวันเพ็จจะออกหน้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

“ตึง!”

ขณะอู๋ฝานกำลังครุ่นคิดถึงตัวตนของคนที่มาดักเล่นงานกลางทาง รถของเขาก็พลันชนเข้ากับรถคันที่อยู่ด้านหน้า และเห็นชัดว่ารถคันดังกล่าวได้รับการปรับแต่งเสริมความแข็งแกร่งมา มันไม่ใช่รถธรรมดา แต่รถของอู๋ฝานไม่ธรรมดายิ่งกว่า หลังรถทั้งสองคันปะทะกัน รถคันหน้าก็พยายามหยุด ทว่ารถของเขาพยายามดัน หลังยื้อยุด ก็ยังคงเป็นรถของเขาที่ได้เปรียบจนสามารถผลักดันรถคันหน้าให้วิ่งไปต่อได้

“ตึง!”

ไม่นานหลังเขาดันรถคันข้างหน้าให้ไปต่อ รถคันหนึ่งพลันพุ่งมาจากด้านข้างพร้อมชนเข้ากับรถของตนอย่างรุนแรง

รถของอู๋ฝานโดนชนด้านข้าง เพราะแรงปะทะทำให้ต้องกลิ้งตลบสองครั้งก่อนถึงจะหยุด โชคดีที่ตอนมันหยุดรถไม่ได้พลิกกลับด้าน อู๋ฝานที่อยู่ในรถรีบไล่ความงุนงง ก่อนจะเริ่มเหยียบคันเร่งพุ่งไปอีกครั้ง

ขณะนี้รถอีกหลายคนพยายามโผล่มาจากทางด้านข้างเพื่อพุ่งชนรถของเขา รถที่พยายามเข้าตีกรอบปิดล้อมมีจำนวนมากขึ้น พวกมันพยายามรักษาระยะเพื่อล้อมเอาไว้ไม่ให้ชายหนุ่มไปไหนได้

กลุ่มรถที่ปิดล้อมเอาไว้จากทั่วทิศพยายามเบียดเข้าหา แต่รถเหล่านั้นประสิทธิภาพต่ำกว่า และฝีมือการขับขี่ของอู๋ฝานดีกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงพยายามประกบและตามไป เพราะคิดเบียดจนหยุดไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย ๆ

ศึกปะทะเบียดรถที่เกิดขึ้น คนที่ใช้ถนนคันอื่นก็เห็นเช่นกัน พวกเขาพยายามหลบและเร่งความเร็วหนี รอบ ๆ เริ่มเกิดความแตกตื่นวุ่นวาย ขณะที่รถของอู๋ฝานกำลังเปรียบดังมัจฉาในห้วงน้ำ ที่พร้อมจะแหวกว่ายไปด้วยความเร็วอันปราดเปรียว

“ไล่ตามไป!”

เมื่อเห็นอู๋ฝานหลุดจากวงล้อมรถยนต์ได้ กลุ่มคนที่ดักซุ่มชนและเบียดจึงได้ตระหนัก หากพวกเขาลงมือแล้วก็จะทำจนกว่าจะสำเร็จโดยไม่ถอย ไม่เช่นนั้นแล้ว ก็มีความเป็นไปได้มากที่ภายหลังพวกเขาจะถูกชายหนุ่มตอบโต้เล่นงานจนสาหัส

ผลลัพธ์ที่ได้คือ รถหลายสิบคันพยายามไล่ตามรถของอู๋ฝาน ทว่าฝีมือการขับรถของพวกเขาเหล่านั้นไม่อาจเทียบชายหนุ่ม ศักยภาพของรถก็ไม่ได้ดีเท่า ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ตามได้ทัน

“โชคดีที่พวกเราเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว” ภายในรถที่กำลังไล่ล่า หร่วนเจี้ยนเฟิงมองรถของอู๋ฝานทิ้งระยะห่างออกไปไกลขณะกระซิบกับตัวเอง

กลุ่มคนที่ซุ่มโจมตีอู๋ฝานไม่ใช่ใครอื่น เป็นพวกหร่วนเจี้ยนเฟิง และข้อสันนิษฐานของเขาก็ถูกต้อง สำนักตะวันเพ็จลงมือเล่นงานเขาเพราะตระกูลเจียง แน่นอนว่าสิ่งที่คาดเดาได้ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะเหตุผลที่สำนักตะวันเพ็จลงมือไม่ใช่แค่เพราะตระกูลเจียง และนอกจากคนของสำนักตะวันเพ็จแล้ว ก็ยังมีคนจากสำนักอื่น ๆ มาเข้าร่วมแผนการดักซุ่มโจมตีในคืนนี้ด้วยเช่นกัน

ก่อนหน้านี้เจียงฟั่นโจวแจ้งไว้ว่าคนของเขาที่สะกดรอยตามอู๋ฝานคลาดสายตาแถวถนนจั่งหนิง พวกเขาจึงเดากันว่าอีกฝ่ายอาจจะไปทำธุระอะไรบางอย่าง ดังนั้นหร่วนเจี้ยนเฟิงจึงบอกให้คนของเจียงฟั่นโจวหยุดการสะกดรอย เพื่อคลายความระวังของชายหนุ่ม จากนั้นจึงให้คนของเขาและสำนักอื่นมารอดักซุ่มที่ถนนจั่งหนิง เพราะการดักซุ่มกลางทางมันง่ายกว่าไปดักซุ่มโจมตีแถวบ้าน

หร่วนเจี้ยนเฟิงและคณะรอจังหวะที่เป้าหมายประมาท แต่พวกเขาปรามาสศักยภาพรถของอู๋ฝานต่ำเกินไป เดิมพวกเขาคิดว่าธนูระลอกแรกควรสังหารหรือทำอีกฝ่ายบาดเจ็บได้ ทว่าสุดท้ายมันกลับไม่อาจทะลุกระจกรถเข้าไปด้วยซ้ำ อีกทั้งชายหนุ่มยังมีฝีมือขับรถที่ไม่ใช่ธรรมดา มันถึงขนาดหลุดจากวงล้อมของพวกเขาได้

เนื่องจากหร่วนเจี้ยนเฟิงได้แจ้งไว้ตั้งแต่ครั้งประชุมสำนักแล้วว่าหากโจมตีอู๋ฝาน มันก็ต้องเป็นแผนการที่จะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสหนีรอด ดังนั้นหร่วนเจี้ยนเฟิงและคณะจึงเตรียมการมาตลอดช่วงสองวัน และคืนนี้คือจังหวะลงมือ แม้จะมั่นใจว่าสามารถสังหารชายหนุ่มได้ ทว่าพวกเขาก็มีแผนการเผื่อเอาไว้กรณีอีกฝ่ายหลุดออกจากวงล้อม เพราะหลายสำนักให้ความร่วมมือ กระบวนการดักซุ่มโจมตีครั้งนี้จึงค่อนข้างมีกำลังคนพร้อมในทุกด้าน

ขณะอู๋ฝานขับรถไปต่อ เขาก็คอยตรวจสอบสถานการณ์ด้านหลังผ่านกระจกมองหลังไปด้วย แม้จะเว้นระยะห่างมาได้แล้ว แต่กลุ่มคนที่ดักซุ่มยังคงไม่ยอมแพ้ จนถึงตอนนี้ก็ยังตามมาไม่หยุด

‘ยังกลับไม่ได้ ต้องล่อพวกมันไปที่อื่น’ อู๋ฝานครุ่นคิดในใจ

พวกหร่วนเจี้ยนเฟิงไตร่ตรองแล้วว่าหากอู๋ฝานหนีออกจากวงล้อมดักซุ่มโจมตีได้ อีกฝ่ายจะต้องหาทางหนีจากการไล่ล่า มีความเป็นไปได้ว่าจะติดต่อหาอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเพื่อตอบโต้ แต่ในความเป็นจริงชายหนุ่มไม่มีอำนาจเบื้องหลังอะไรทั้งสิ้น สิ่งที่เขาคิดตอนนี้ไม่ใช่แค่การหลบหนีให้พ้น แต่ยังหาโอกาสสังหารกลุ่มคนที่ไล่ล่า!

ดังนั้นทิศทางที่อู๋ฝานขับรถไปจึงไม่ใช่บ้านของตนเอง แต่มุ่งไปยังแถบนอกเมืองที่ไร้กล้องวงจรปิด

“ฉลาดดีนี่ มันคงรู้ว่าระหว่างทางกลับบ้านน่าจะมีกลุ่มอื่นดักซุ่มโจมตีอยู่ แต่คิดว่าที่นอกเมืองจะไม่มีงั้นหรือ? อู๋ฝานเอ๋ย วันนี้แกต้องตาย!” หร่วนเจี้ยนเฟิงแค่นเสียงเย้ยหยันขณะมองทิศทางที่รถของชายหนุ่มมุ่งหน้าไป

กองกำลังดักซุ่มโจมตีถูกวางเอาไว้หลายตำแหน่งและหลายทิศทางเพื่อขัดขวางเส้นทางหนี และเส้นทางที่อู๋ฝานใช้กลับบ้านก็มีการวางกำลังคนเอาไว้มากที่สุด การที่อีกฝ่ายเลือกออกไปนอกเมือง ค่อนข้างเกินกว่าที่พวกเขาคาดคิดเอาไว้มาก แต่แม้แบบนั้นพวกเขาก็เตรียมการเผื่อเอาไว้แล้วเช่นเดียวกัน

คืนนี้อู๋ฝานต้องตาย!

กลุ่มรถนับสิบคันเร่งเครื่องดังสนั่นก่อนจะเดินทางออกไปนอกเมือง และคนตามหลังกลุ่มไล่ล่าอีกทีหนึ่งคือรถของเจียงฟั่นโจว