ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 652 บุกฆ่าถึงที่
……….
บทที่ 652 บุกฆ่าถึงที่
“ไม่ผิดครับ ผมเห็นศิษย์ของวังเมฆาสีชาดหลายคนเลย” ศิษย์ในสำนักตอบกลับมา
“วังเมฆาสีชาดคลุ้มคลั่งไปแล้วรึไง? ทำไมหันมาโจมตีพวกเรา?”
“จริงด้วย วังเมฆาสีชาดสูญเสียอย่างหนักไปไม่นาน ตอนนี้ยังไม่น่าจะฟื้นฟูด้วยซ้ำ ทำไมตอนนี้มาตั้งตัวเป็นศัตรูกับพวกเรา?”
“ต่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างสำนักของพวกเราไม่ได้ดีอะไร แต่ก็ไม่มีข้อพิพาทใหญ่โตอะไรเช่นกัน คนของวังเมฆาสีชาดบ้ากันไปหมดแล้วงั้นเหรอ? พวกมันมาโจมตีพวกเราในเวลานี้ทำไม?”
กลุ่มผู้อาวุโสสำนักตะวันเพ็จงุนงงกับเหตุการณ์วังเมฆาสีชาดบุกมาโจมตีพวกเขาถึงที่มั่น แม้สัมพันธ์ต่อกันจะไม่ได้ดีอะไร แต่ข้อพิพาทส่วนใหญ่ก็เป็นการกระทบกระทั่งเล็กน้อย ไม่ได้มีปัญหาลุกลามจนถึงขนาดต้องบุกมาถึงที่ตั้งสำนัก และยังไม่กล่าวว่าวังเมฆาสีชาดเพิ่งเจ็บหนักไปไม่นาน ความแข็งแกร่งโดยรวมของสำนักลดทอนลงไปมาก มันไม่มีเหตุผลอะไรที่อีกฝ่ายจะมาหาเรื่องสำนักตะวันเพ็จในขณะนี้
“ในกลุ่มนั้นมีอู๋ฝานด้วยรึเปล่า?” ถงเชียนหวาที่นั่งหัวโต๊ะมองศิษย์ในสำนักที่มารายงานพร้อมกับตั้งคำถาม
“อู๋ฝาน?” ศิษย์ในสำนักคนนั้นดูงงงัน
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่รู้จักชายหนุ่ม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะศิษย์ในสำนักไม่ค่อยออกไปโลกภายนอกอยู่แล้ว เว้นแต่จะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในโลกของผู้ฝึกตน ส่วนใหญ่พวกเขามักจะอยู่ที่สำนักเพื่อฝึกฝนกัน
ดังนั้นศิษย์คนนี้จึงไม่เคยเห็นอู๋ฝานมาก่อน การไม่รู้จักจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่พอถงเชียนหวาตั้งคำถาม คนอื่นก็ได้ตระหนักว่าพวกเขามองข้ามอะไรไปหรือไม่ น้อยคนในสำนักจะเคยได้เห็นอู๋ฝาน และไม่ใช่การเจอด้วยตาตัวเอง แต่เป็นการได้เห็นผ่านรูปถ่ายที่หร่วนเจี้ยนเฟิงนำกลับมา
เมื่อนึกถึงเรื่องรูปขึ้นมาได้ ถงเชียนหวาจึงรีบบอกให้ผู้อาวุโสคนหนึ่งแสดงภาพของชายหนุ่มให้ศิษย์คนนั้นได้เห็น
“มีครับ!” ทันทีที่ศิษย์ในสำนักเห็นรูปของอู๋ฝานจึงอุทานตอบรับ “ในกลุ่มคนวังเมฆาสีชาด ชายคนนี้บุกมาเป็นแนวหน้า การโจมตีของมันแม่นยำและโหดเหี้ยม ศิษย์สำนักเราหลายคนตายเพราะมันครับ!”
“มั่นใจว่าไม่ผิดตัวใช่ไหม?” ถงเชียนหวาย้ำถาม
“ไม่ผิดครับ!” ศิษย์ในสำนักตอบกลับด้วยความมั่นใจ
“ทำไมอู๋ฝานถึงไปเกี่ยวข้องกับคนจากวังเมฆาสีชาดได้? ไม่ใช่ว่าพวกมันเกลียดกันจนแทบจะฆ่าให้ตายเหรอ?” ผู้อาวุโสคนหนึ่งตั้งคำถามขึ้นมา
หากอู๋ฝานมาเยือนที่ตั้งสำนักของพวกเขาเพื่อล้างแค้น มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ แต่พอได้ยินว่าวังเมฆาสีชาดบุกมาจึงต้องประหลาดใจ เพราะมันไม่ใช่สถานการณ์ที่พวกเขาคาดเอาไว้ อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่เคยคาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมาพร้อมกับคนของวังเมฆาสีชาด
ดังที่ทราบกันถ้วนหน้าว่าระหว่างชายหนุ่มและวังเมฆาสีชาดมีข้อพิพาทหนักหนาที่ไม่น่าจะลงรอยกันได้อีก
“หยุดสนใจว่าทำไมอู๋ฝานถึงมากับคนของวังเมฆาสีชาด ศัตรูบุกมาถึงหน้าบ้านแล้ว เคลื่อนพลเหล่าศิษย์เตรียมตอบโต้เดี๋ยวนี้!” ถงเชียนหวาลุกขึ้นพร้อมสั่งการเสียงดัง
“ครับ!” คณะผู้อาวุโสเร่งร้อนตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน
ทั่วทั้งสำนักตะวันเพ็จเดือดพล่าน เหล่าศิษย์ในสำนักต่างถูกเรียกออกมาทั้งหมด พวกเขาเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบขณะมองทางเข้าของสำนักด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ไม่นานร่างของอู๋ฝานและกลุ่มคนก็ปรากฏให้ฝูงชนได้เห็น เมื่อพวกเขาเห็นชายหนุ่มเดินนำหน้าคนของวังเมฆาสีชาดมา ถงเชียนหวาและคณะก็อดไม่ได้ที่จะต้องเลิกคิ้วขึ้นสูง
“คนที่ยืนตรงกลางของกลุ่มคนและสวมชุดดำ เป็นเจ้าสำนักตะวันเพ็จนามถงเชียนหวาครับ” เมื่ออู๋ฝานหยุดยืน สวีอี้ซานจึงกระซิบบอกให้ทราบ
เขาพยักหน้าตอบ อันที่จริงต่อให้สวีอี้ซานไม่แนะนำให้ เขาก็สามารถใช้วิชาตรวจสอบเพื่อทราบตัวตนของถงเชียนหวาได้เช่นกัน
“เจ้าวังสวี ทำไมถึงนำคนมาบุกโจมตีสำนักตะวันเพ็จ? แม้สำนักของพวกเรามีข้อพิพาทเล็กน้อยกันอยู่บ้าง แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้บุกเข้ามาโจมตีฐานของสำนักตะวันเพ็จแบบนี้” ถงเชียนหวาเป็นคนเอ่ยถามขึ้นมา แต่เป้าหมายของเขาไม่ใช่อู๋ฝาน แต่เป็นสวีอี้ซาน
“เจ้าสำนักถง วันนี้ผมติดตามมารับใช้นายน้อย คนที่หมายจะสังหารนายน้อยถือเป็นศัตรูของพวกเราวังเมฆาสีชาด ต่อให้ต้องทิ้งชีวิตตรงนี้ผมก็จะล้างแค้นให้นายน้อยให้ได้!” สวีอี้ซานโต้คำกลับโดยไร้ซึ่งความกลัวเกรง
“นายน้อย? เจ้าวังสวีหมายความว่ายังไง?” ถงเชียนหวาเอ่ยถาม เขาไม่ได้แสร้งทำเป็นงุนงง แต่ถามเพราะไม่เข้าใจจริง ๆ
“แก!… พวกแก!…” ถงเชียนหวามองอู๋ฝานและสวีอี้ซานราวกับไม่คิดเชื่อ เห็นได้ชัดว่าเขายากจะทำใจยอมรับสิ่งที่ได้ยินและเห็น
ข้อมูลอย่างละเอียดถึงความเปลี่ยนแปลงภายในวังเมฆาสีชาด สำนักอื่นแทบไม่ทราบ เพราะสวีอี้ซานยังไม่ได้ควบคุมวังเมฆาสีชาดโดยสมบูรณ์ และชายหนุ่มก็ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกปิดบังรายละเอียดเอาไว้ไม่ให้คนอื่นรู้ ทั้งเจียงโจวจึงทราบแค่ว่าเพราะอู๋ฝานทำให้วังเมฆาสีชาดเกิดความเปลี่ยนแปลง อดีตเจ้าวังเมฆาสีชาดตาย สวีอี้ซานขึ้นมาครองอำนาจ ส่วนรายละเอียดเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเพราะอู๋ฝาน สวีอี้ซานและวังเมฆาสีชาดไม่เปิดเผยให้คนนอกได้รับรู้
“เรื่องของทางนี้ไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้นหรอก เพราะพวกเรามาที่นี่ก็เพื่อสะสางบัญชีหนี้แค้นเมื่อวานต่างหาก” อู๋ฝานตอบกลับ
ถงเชียนหวาจ้องชายหนุ่ม ไม่ใช่สวีอี้ซานเช่นเมื่อครู่อีกต่อไป แม้เขาไม่ทราบว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่สิ่งที่ทราบตอนนี้คือสวีอี้ซานและทั้งวังเมฆาสีชาดตกเป็นของอู๋ฝาน ขอเพียงออกคำสั่งพวกเขาก็จะพร้อมทำตาม ขณะนี้ศัตรูที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าจึงไม่ได้มีเพียงแค่อีกฝ่าย แต่เป็นทั้งวังเมฆาสีชาด ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นอดีตสำนักชั้นหนึ่งในเจียงโจวและเกือบจะเทียบเท่ากับสำนักตะวันเพ็จ
“แล้วจะคิดบัญชียังไงล่ะ?” ถงเชียนหวาเอ่ยถาม
“ง่ายมาก ถ้าสำนักตะวันเพ็จยอมจำนนเหมือนวังเมฆาสีชาด เรื่องก็จะผ่านแล้วผ่านไป แต่หากไม่ ฉันก็จะทำให้พวกแกเป็นเหมือนไอ้พวกหน้าโง่เมื่อคืน!” อู๋ฝานมองถงเชียนหวาขณะตอบคำด้วยสีหน้าไม่ไหวติง
“รับคำสั่งจากคนอย่างแกเหรอ? ไม่มีวัน!” ถงเชียนหวาที่ได้ฟังเงื่อนไขจึงตอบกลับอย่างไม่ลังเล
ถงเชียนหวาเป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน มีหรือคนเช่นนี้จะยอมอยู่ภายใต้ผู้อื่น? ดังนั้นเขาจึงไม่อาจยอมจำนนให้แก่ชายหนุ่มได้
“ในเมื่อเป็นแบบนั้นก็ไม่มีอะไรให้ต้องพูดคุยกันอีก” อู๋ฝานตอบกลับ และไม่ประหลาดใจที่อีกฝ่ายจะให้คำตอบเช่นนี้ เพราะระหว่างทางมาที่นี่ สวีอี้ซานก็ได้เล่าถึงนิสัยตัวตนของอีกฝ่ายให้ทราบแล้ว อีกฝ่ายคือคนยอมหักไม่ยอมงอ และไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติผู้ใด
“อู๋ฝาน อย่าคิดว่าแค่ความช่วยเหลือจากวังเมฆาสีชาดแล้วแกจะทำอะไรกับสำนักตะวันเพ็จก็ได้ ที่นี่ไม่ใช่ที่ให้แกมาวิ่งเล่น!” ถงเชียนหวาตะโกนบอก
“เจ้าสำนักตะวันเพ็จมีความมั่นใจถือเป็นเรื่องดี” อู๋ฝานยิ้มบาง ๆ ตอบรับ “แต่ไม่ว่าวันนี้จะฝ่ายนี้หรือฝ่ายนั้น ก็ต้องมีสักฝ่ายถูกกำจัดหายไปจากเจียงโจว ส่วนผลลัพธ์จะเป็นยังไงไว้เดี๋ยวก็ได้รู้!”
สิ้นคำกล่าว เขาก็โบกมือให้สวีอี้ซาน
สวีอี้ซานย่อมเข้าใจ ขณะนี้จึงตะโกนเสียงดังออกมา “ทุกคนจากวังเมฆาสีชาดจงฟัง! ฆ่าทุกคนของสำนักตะวันเพ็จให้สิ้นซาก!”
……….