ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 654 กวาดล้างสองสำนักต่อเนื่อง
บทที่ 654 กวาดล้างสองสำนักต่อเนื่อง
ถงเชียนหวาตายอย่างกะทันหัน ทิ้งเอาไว้ให้ผู้คนเกิดความสงสัยและงุนงงจนชะงักงัน
รวดเร็วเกินไป!
กะทันหันจนเกินไป!
ก่อนหน้าที่ใครหลายคนจะทันตอบสนอง หลายคนยังกังวลว่าอู๋ฝานจะตายด้วยกรงเล็บของถงเชียนหวาซะด้วยซ้ำ แต่แล้วกลับกลายเป็นถงเชียนหวาที่ตายอย่างกะทันหัน มันรวดเร็วจนทำให้ผู้คนหันไปมอง และตอบสนองทางความรู้สึกไม่ทันด้วยซ้ำ
‘มากันแล้ว พวกเขามากันอีกแล้ว!’ สวีอี้ซานที่คอยเฝ้าจับตามองกำลังตะโกนอยู่ในใจ
ช่วงที่อู๋ฝานถูกถงเชียนหวาบุกเข้าหาหมายเล่นงาน สวีอี้ซานคิดอยากจะกลับไปช่วยสนับสนุน แต่คู่ต่อสู้ที่กำลังรับมืออยู่เห็นจึงไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ถอยกลับไป นอกจากนี้เขายังอยู่ห่างค่อนข้างมาก และชายหนุ่มก็ออกปากเองว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้นสวีอี้ซานที่คอยเฝ้ามองจากระยะไกลจึงเชื่อฟังแต่โดยดี
และทันทีที่กลุ่มคนในชุดเกราะสีดำปรากฏตัวอย่างกะทันหันเคียงข้างอู๋ฝาน สวีอี้ซานที่เพียงได้เห็นก็ตระหนักทราบทันที คนกลุ่มนี้คือพวกที่เคยสำแดงอำนาจในวังเมฆาสีชาดครั้งก่อน ความสามารถของพวกเขาได้ฝากความประทับใจอันลึกล้ำไว้กับสวีอี้ซาน ดังนั้นตอนที่เห็นคนกลุ่มนี้เขาถึงหัวใจเต้นรัวโดยไม่รู้ตัว
จากนั้นเรื่องราวพลันดำเนินไปโดยไม่ผิดจากที่เขาคาด ถงเชียนหวาไม่อาจตอบโต้ภายใต้วงล้อมของกลุ่มคนในชุดดำได้ สุดท้ายก็ตายอย่างอนาถภายใต้คมดาบใหญ่ของคนกลุ่มนั้น ส่วนที่น่าเหลือเชื่อคือระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงความตาย
เมื่อเห็นถงเชียนหวาถูกฆ่า สวีอี้ซานจึงยิ่งตื่นเต้นยินดีจนร้องตะโกน “ถงเชียนหวาตายแล้ว! เหล่าศิษย์วังเมฆาสีชาดจงฟัง ฆ่าให้หมด!”
ขณะสวีอี้ซานตะโกนเสียงดัง ผู้คนจึงยิ่งได้ทราบว่าถงเชียนหวาถูกฆ่า ขวัญกำลังใจของวังเมฆาสีชาดพุ่งขึ้นสูง ขณะที่ฝั่งสำนักตะวันเพ็จกำลังแตกตื่น พวกเขาไม่คาดคิดว่าเจ้าสำนักจะตายอย่างง่ายดายและกะทันหันถึงขนาดนี้
เจ้าสำนักคือยอดฝีมือขอบเขตแปรสภาพขั้นกลาง มันคือขอบเขตที่ผู้ฝึกตนทั้งหลายแม้อาศัยเวลาทั้งชีวิตก็อาจไปไม่ถึง เป็นตัวตนที่ผู้คนมากมายต้องเงยหน้ามอง
แต่เวลานี้ยอดฝีมือขอบเขตแปรสภาพขั้นกลางกลับตายลงอย่างกะทันหัน มันรวดเร็วและเกินคาดคิดจนเกินไป!
ถงเชียนหวาไม่ได้เป็นเพียงผู้นำของสำนักตะวันเพ็จ แต่ยังเป็นขวัญกำลังใจที่คอยเกื้อหนุนแก่เหล่าศิษย์สำนักด้วย ในเมื่อตัวตนดังกล่าวถูกฆ่าตายอย่างกะทันหัน ทั้งสำนักจะเกิดความโกลาหลจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
เหล่าศิษย์วังเมฆาสีชาดที่เข้าร่วมการบุกโจมตี และเหล่านักรบโลกอสูรกับทหารราชสำนักที่อู๋ฝานอัญเชิญมา ทำให้กลุ่มคนจากสำนักตะวันเพ็จที่แตกตื่นสูญเสียรูปขบวนและขวัญกำลังใจ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่อาจต้านรับจนสุดท้ายแตกพ่ายในเวลาสั้น ๆ
เรื่องหลังจากนั้นแสนง่ายดาย เนื่องจากไม่มีคนบัญชาการ สำนักตะวันเพ็จที่ไร้ผู้นำ ทางเลือกของพวกเขาจึงเหลือเพียงยอมจำนนหรือว่าตาย
“ง่ายกว่าที่คิดซะอีก” อู๋ฝานยืนดูศึกที่กำลังดำเนินใกล้ถึงจุดจบ ในใจกำลังลอบถอนหายใจ
ไม่ว่าจะทหารราชสำนักหรือนักรบโลกอสูร หากเทียบกับตอนที่บุกโจมตีวังเมฆาสีชาด พวกมันแข็งแกร่งขึ้น เป็นการแสดงให้เห็นว่าป้ายอัญเชิญที่ได้อาหารเข้าไปเมื่อครั้งก่อนยังมีประโยชน์อยู่บ้าง แม้สิ่งมีชีวิตอัญเชิญเหล่านี้จะไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่มันก็ยังมีความก้าวหน้าให้ได้เห็น
นอกจากนี้ ความช่วยเหลือจากวังเมฆาสีชาดก็ยังเป็นกุญแจสำคัญ ไม่เช่นนั้นแล้วศึกครั้งนี้จะไม่มีทางง่ายดายหรือจบลงอย่างรวดเร็วขนาดนี้แน่นอน
แน่นอนว่าการจะสังหารยอดฝีมือขอบเขตแปรสภาพขั้นกลางอย่างถงเชียนหวาในพริบตาได้นั้น การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของนักรบโลกอสูรคือใจความสำคัญ อู๋ฝานรอคอยจังหวะที่อีกฝ่ายบุกเข้ามา จึงค่อยเรียกนักรบโลกอสูรพร้อมออกคำสั่งอย่างทันท่วงที ไม่งั้นนักรบโลกอสูรที่เป็นเพียงขอบเขตแปรสภาพขั้นต้น แม้จะได้เปรียบในด้านจำนวน ก็คงต้องพยายามพอสมควรกว่าจะสังหารยอดฝีมือขอบเขตแปรสภาพขั้นกลางอย่างถงเชียนหวาได้
“นายน้อย ทั้งสำนักตะวันเพ็จ นอกจากคนที่เพิ่งถูกฆ่า ส่วนที่เหลือคือเชลย รบกวนนายน้อยออกคำสั่งว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปครับ” หลังเก็บกวาดสมรภูมิสู้รบ สวีอี้ซานจึงเดินมารายงานอู๋ฝานด้วยความนอบน้อม ท่าทีของเขามีความนับถือให้ยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ซะด้วยซ้ำ
“เหมือนที่ผมเคยพูดไว้ว่านับจากนี้ไม่มีสำนักตะวันเพ็จในเจียงโจวอีกต่อไป ฐานที่มั่นแห่งนี้จะถูกทำลาย” อู๋ฝานตอบกลับอย่างเฉยชา “ส่วนเหล่าศิษย์ของสำนักตะวันเพ็จ หากพวกมันไม่ตกลงเข้าร่วมวังเมฆาสีชาด ก็ขับไล่ออกไปจากเจียงโจวให้หมด”
“ครับนายน้อย” สวีอี้ซานตอบรับด้วยความกระตือรือร้น
ด้วยกำลังเสริมจากเหล่าศิษย์สำนักตะวันเพ็จ วังเมฆาสีชาดของพวกเขาจะเติบโตขึ้นครั้งใหญ่ อย่างไรความแข็งแกร่งของสำนักตะวันเพ็จในอดีตก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเขา แม้วันนี้อาจจะตายไปบ้าง และอาจมีหลายคนที่ไม่ยินดีเข้าร่วมวังเมฆาสีชาด ต่อให้เป็นแบบนั้น ผลลัพธ์ครั้งนี้ก็ยังถือเป็นการขยับขยายวังเมฆาสีชาดให้ยิ่งใหญ่ขึ้น!
อู๋ฝานเงยหน้ามองฟ้าก่อนจะบอกกับสวีอี้ซาน “ตอนนี้ยังพอมีเวลา ให้แบ่งศิษย์บางส่วนกลับไปวังเมฆาสีชาดพร้อมเชลย ขณะที่อีกส่วนให้ตามมา พวกเราจะไปจัดการอีกหนึ่งสำนักครับ”
คนที่ดักเล่นงานอู๋ฝานเมื่อคืนไม่ได้มีเพียงสำนักตะวันเพ็จ ในเมื่อเริ่มเปิดฉากล้างแค้นแล้ว เขาก็จะไม่จัดการเพียงสำนักนี้ ในเมื่ออีกฝ่ายมีเจตนาเล่นงานเขาก่อน พวกมันก็ต้องพิจารณาถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาภายหลังลงมือ
“ครับนายน้อย” สวีอี้ซานพยักหน้าตอบรับ
หลังจากนั้น คนจากวังเมฆาสีชาดจึงแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ส่วนหนึ่งคุ้มกันอดีตเหล่าศิษย์สำนักตะวันเพ็จเดินทางกลับ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเดินทางพร้อมชายหนุ่มไปยังสำนักถัดไป
เป้าหมายถัดไปของการโจมตี อู๋ฝานเลือกสำนักทะยานสวรรค์ มันไม่ใช่ว่าเขามีความเกลียดชังอะไรกับอีกฝ่ายมาก่อน เพียงแค่สุ่มเลือกก็เท่านั้น
เพราะระยะทางและระยะเวลาคูลดาวน์ของป้ายอัญเชิญ ทำให้อู๋ฝานไม่อาจจัดการกับทุกสำนักภายในหนึ่งวันได้ นอกจากสำนักตะวันเพ็จที่ต้องโจมตีเป็นที่แรก เป้าหมายอื่นเขาก็เพียงสุ่มเลือกขึ้นมาจากรายชื่อเท่านั้น
คงต้องบอกว่าสำนักทะยานสวรรค์โชคร้ายที่ถูกอู๋ฝานเลือกลงมือในวันแรก
ทางด้านสำนักทะยานสวรรค์ได้เตรียมรับมือกับการแก้แค้นของอู๋ฝานเช่นกัน แต่ไม่ได้ระวังตัวเท่าสำนักตะวันเพ็จ จนกระทั่งชายหนุ่มบุกไปเยือนถึงหน้าประตูสำนัก พวกเขาก็ยังตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอยู่ เพราะเรื่องดังกล่าวทำให้พวกเขาทั้งโกรธแค้นและหวาดกลัว หลายคนยังโหวตให้บุกเข้าเมืองเจียงโจวไปฆ่าอู๋ฝานเพื่อล้างแค้นให้เหล่าผู้อาวุโสและศิษย์สำนักที่ตายเมื่อคืนด้วยซ้ำ
เมื่ออู๋ฝานมายืนตรงหน้า พวกเขายังคงมึนงงอยู่ เห็นได้ชัดว่าไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะบุกมารวดเร็วถึงขนาดนี้
เขาคร้านจะพูดคุยกับกลุ่มคน ขณะนั้นเองจึงใช้ป้ายอัญเชิญ นักรบโลกอสูรและทหารราชสำนักที่ผ่านระยะเวลาคูลดาวน์ไปแล้วปรากฏตัวอีกครั้ง และครั้งนี้เขายังเรียกทหารกบฏออกมาด้วย ยอดฝีมือจำนวนหกสิบคน รวมกับวังเมฆาสีชาดอีกครึ่งสำนักที่สวีอี้ซานนำมา พุ่งตรงเข้าสังหารคนของสำนักทะยานสวรรค์
ชายหนุ่มยังคงไม่ลงมือเหมือนเช่นเคย และครั้งนี้กระทั่งเหมยอวี่และเหมยเสวี่ยก็ไม่เข้าร่วมด้วยเช่นกัน คนทั้งสองเพียงยืนข้างกายชายหนุ่มพลางดูผู้คนในสมรภูมิสู้รบลงมือ
ผลลัพธ์ของศึกในครั้งนี้ไม่ได้เกินคาดแต่อย่างใด สำนักตะวันเพ็จที่เตรียมรับมือเป็นอย่างดียังถูกอู๋ฝานกวาดล้าง สำนักทะยานสวรรค์ที่ไม่ได้เตรียมตัวดีเท่าจึงไม่อาจรอดพ้น เจ้าสำนักและเหล่าผู้อาวุโสในสำนักถูกสังหาร และในบรรดาศิษย์ของสำนักทะยานสวรรค์ก็มีส่วนหนึ่งถูกฆ่า คนที่ยังรอดส่วนใหญ่ยอมจำนน การยอมจำนนของเหล่าศิษย์สำนักทะยานสวรรค์ครั้งนี้ เขาเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้เข้าร่วมวังเมฆาสีชาดอีกครั้ง
“เก็บกวาดสถานที่แล้วเดินทางกลับกันได้” อู๋ฝานมองสมรภูมิสู้รบก่อนจะเงยหน้ามองขึ้นฟ้า
สำนักที่เหลือจะถูกบุกโจมตีในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากการเทเลพอร์ตในคืนนี้ไม่อาจช้าออกไปได้