ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 657 รวมแวดวงผู้ฝึกตนในเจียงโจวเป็นหนึ่ง
บทที่ 657 รวมแวดวงผู้ฝึกตนในเจียงโจวเป็นหนึ่ง
“ถ้าจะพูดถึงเรื่องนี้ ก็คงเป็นความผิดของผมจริง ๆ นั่นแหละครับ” อู๋ฝานตอบกลับราวไม่ได้ใส่ใจ
การที่เรื่องราวแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วไม่ใช่เรื่องที่ชวนให้ประหลาดใจแต่อย่างใด เนื่องจากเขาไม่คิดปิดข่าวตั้งแต่แรกแล้ว แวดวงผู้ฝึกตนในเจียงโจวค่อนข้างกว้างใหญ่ พอมีคนรู้สักคนก็ไม่แปลกที่จะเปิดเผยออกไปถึงทุกคน
“นายน้อยอู๋หยอกล้อกันแล้วครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบกลับ
“แล้วที่ผู้อาวุโสเทียนเหอติดต่อผมมาหาเพราะมีเรื่องอะไรกันล่ะครับ?” อู๋ฝานยังคงถาม
“สำนักล้ำสวรรค์ของพวกเราต้องการร่วมมือกับนายน้อยอู๋ครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอบอกออกมา
“ร่วมมือ? หมายความถึงยังไงครับ?” เขาเอ่ยถาม
“สำนักล้ำสวรรค์ของพวกเราไม่ได้มีส่วนร่วมในการดักซุ่มโจมตีนายน้อยอู๋ และพวกเราไม่ได้มีข้อพิพาทหรือทะเลาะเบาะแว้งอะไรกับนายน้อยอู๋ด้วยครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบกลับมา
“ผมก็ไม่ได้มีความคิดจะไปตีบ้านใครที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่แล้วครับ” ชายหนุ่มตอบกลับ
ปฏิบัติการคืนก่อนนั้นไม่มีสำนักล้ำสวรรค์มาเกี่ยวข้องด้วยจริง ๆ เนื่องจากสำนักล้ำสวรรค์ถูกจัดเป็นสำนักชั้นสองในเจียงโจว ขณะที่กลุ่มคนซึ่งมาดักเล่นงานอู๋ฝาน แทบทั้งหมดคือสำนักชั้นหนึ่งในเจียงโจว แม้จะมีสำนักชั้นสองอยู่บ้าง แต่ไม่มีสำนักล้ำสวรรค์อย่างแน่นอน
“นายน้อยอู๋ สำนักล้ำสวรรค์ของพวกเราต้องการติดตามเพื่อช่วยล้างแค้นให้ครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอเอ่ยขึ้น
“ติดตามผม?” อู๋ฝานขมวดคิ้ว
“ใช่ครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบรับ “ผมเชื่อว่าด้วยความช่วยเหลือจากสำนักล้ำสวรรค์ของเรา การล้างแค้นของนายน้อยอู๋จะยิ่งราบรื่นขึ้นครับ”
“หลังจากนั้นพวกคุณจะได้มีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ และได้ดื่มด่ำช่วงเวลาแห่งผู้ชนะงั้นเหรอครับ?” เขาถาม
“ใช่ครับ ดังนั้นเลยต้องการสอบถามนายน้อยอู๋ว่ายินดีหรือไม่ครับ?“ ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบรับตามตรง
“ผมขอปฏิเสธครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
“ทะ… ทำไมกันล่ะครับ?” ผู้อาวุโสเทียนเหอเริ่มตกใจ “แม้สำนักล้ำสวรรค์ของพวกเราเป็นสำนักชั้นสองในเจียงโจว แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอนะครับ ด้วยพวกเราช่วยเหลือ นายน้อยอู๋จะยิ่งมีอำนาจต่อรองอันแข็งแกร่งขึ้น นี่ไม่ใช่เรื่องดีเหรอครับ?”
“เรื่องดี? ใช่เรื่องดีกับสำนักล้ำสวรรค์รึเปล่าครับ?” อู๋ฝานถามกลับ “ต่อให้สำนักล้ำสวรรค์ไม่ช่วยเหลือ วันนี้ผมก็จัดการสำนักตะวันเพ็จกับสำนักทะยานสวรรค์ไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ผมเชื่อว่าพวกที่เหลือก็คงเผชิญชะตาเดียวกันอย่างไม่มีผิดพลาด เพราะแบบนั้นผมถึงไม่ต้องการความช่วยเหลือครับ”
“นายน้อยอู๋อาจยังไม่ทราบ แต่การลงมือวันนี้ทำให้ทั้งแวดวงผู้ฝึกตนในเจียงโจวตื่นตัวครับ เป้าหมายที่ยังเหลือในเวลานี้กำลังผนึกกำลังรวมกัน หากนายน้อยอู๋ต้องการจะบุกเข้าไปจะไม่ง่ายเหมือนวันนี้อย่างแน่นอนครับ“ ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบกลับ “เพราะแบบนั้นทางผมเลยมองว่าการตัดสินใจร่วมมือในครั้งนี้ น่าจะเป็นเรื่องดีกับพวกเราทั้งสองฝ่ายนะครับ”
“ก็แค่เปลี่ยนจากตัวตลกหนึ่งคนเป็นตัวตลกกลุ่มหนึ่ง ต่อให้รวมตัวกัน ผมก็ยังกำจัดพวกมันได้อยู่ดี!” ชายหนุ่มตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ แม้น้ำเสียงจะค่อนข้างเรียบ แต่ถ้อยคำกลับเปี่ยมชัดด้วยความมั่นใจขนาดที่ผู้อาวุโสเทียนเหอสามารถรับรู้ได้ “เพราะอย่างนั้น คงไม่มีเรื่องจำเป็นต้องร่วมมือกับสำนักล้ำสวรรค์ครับ”
“เรื่องนี้… นายน้อยอู๋ไม่คิดไตร่ตรองอีกสักหน่อยเหรอครับ?” ผู้อาวุโสเทียนเหอเอ่ยถามอีกครั้ง
ตอนแรกที่ผู้อาวุโสเทียนเหอได้รับภารกิจจากเจ้าสำนัก เขาก็มองว่าคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แม้อู๋ฝานจะแข็งแกร่ง แต่หากต้องเผชิญหน้ากับพันธมิตรสำนักชั้นหนึ่งที่รวมตัวย่อมต้องกดดัน ขณะที่สำนักล้ำสวรรค์ของพวกเขาเสนอตัวยินดีให้ความช่วยเหลือในช่วงเวลาอันเหมาะสม
ผู้อาวุโสเทียนเหอเลยไม่ได้คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ อีกทั้งยังเป็นการปฏิเสธอย่างไม่คิด เรียกได้ว่าผิดแผนของเขาไปหมด
“ไม่มีความจำเป็นต้องทบทวนอะไรอีกครับ ผมเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเอง” อู๋ฝานตอบกลับ “ผมทราบว่าสำนักล้ำสวรรค์คิดอะไร เพราะผลประโยชน์ของการผูกมิตร หลังจบเรื่องผมจะยังจดจำความช่วยเหลือของพวกคุณได้ ขณะที่สำนักชั้นหนึ่งทั้งหลายในเจียงโจวจะถูกกวาดล้างจนเหลือเพียงแค่วังเมฆาสีชาด สำนักอื่นที่ลำดับรองลงมาจะกลายเป็นว่าต้องอยู่ภายใต้สำนักล้ำสวรรค์อีกที”
“นายน้อยอู๋ไม่กล่าวเกินไปเหรอครับ?” ผู้อาวุโสเทียนเหอเอ่ยถาม
“อะไรที่ว่าเกินไปครับ? อย่าคิดว่าผมไม่รู้” อู๋ฝานตอบกลับ “แวดวงผู้ฝึกตนในเจียงโจวอยู่ในสภาพแวดล้อมที่กระจัดกระจายกันมาโดยตลอด แม้ตอนนี้สำนักชั้นหนึ่งเหล่านั้นจะร่วมมือกันจนดูน่าเกรงขาม แต่แท้จริงแล้วภายในโกลาหลและแสนจะเปราะบาง เรื่องผลประโยชน์เป็นสิ่งที่ไม่เคยลงตัว ตอนนี้ผมจะเป็นคนจัดการให้เรื่องราวมันลงตัวเอง”
หากทำสำเร็จ มันจะไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งของแวดวงผู้ฝึกตนทั้งเจียงโจว แต่ยังจะเสริมอำนาจให้แก่เขาด้วย เมื่อมองภาพรวมแล้วก็เป็นสถานการณ์ที่มีแต่ได้กับได้ หรือว่าไม่ใช่?
แน่นอนว่าการที่แวดวงผู้ฝึกตนของเจียงโจวแข็งแกร่งขึ้นคือเรื่องดีสำหรับอู๋ฝาน แต่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับสำนักใหญ่ทั้งหลายในเจียงโจว อย่างน้อยสำนักชั้นหนึ่งที่ยังคงอยู่ในเจียงโจวจะไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น กระทั่งสำนักชั้นสอง หรือว่าสำนักชั้นสามก็คงต่อต้านเช่นเดียวกัน
โชคดีที่อู๋ฝานทราบแต่แรกแล้วว่าเรื่องราวไม่มีทางง่ายดาย ดังนั้นหากใครปฏิเสธ เขาก็จะลงโทษให้สิ้นซาก!
“นายน้อยอู๋อยากจะรวบรวมแวดวงผู้ฝึกตนทั้งเจียงโจวให้เป็นหนึ่งเหรอครับ?” ผู้อาวุโสเทียนเหอถึงกับอุทาน เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวที่เพิ่งทราบทำให้เขาประหลาดใจอย่างรุนแรง
“ใช่ครับ” ชายหนุ่มไม่คิดปฏิเสธ
“นายน้อยอู๋ รู้ไหมครับว่าการทำแบบนี้จะทำให้สำนักทั้งหลายต่อต้าน? ถึงตอนนั้นพวกที่ดักซุ่มเล่นงานนายน้อย จะไม่ได้มีเพียงไม่กี่สำนักเหมือนครั้งก่อนแล้วนะครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบกลับมา
“รวมถึงสำนักล้ำสวรรค์ด้วยรึเปล่าล่ะครับ?” อู๋ฝานเผยยิ้ม
“ผมไม่สามารถตอบได้ครับ ผมเป็นแค่ผู้อาวุโสนอกสำนัก เรื่องใหญ่แบบนั้นไม่ใช่อำนาจตัดสินใจของผมเลยแม้แต่น้อย” ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบกลับ
“ผมทราบดีว่าเรื่องนี้มีความยากลำบากยังไง และก็ทราบดีเช่นกันว่ามีหลายคนเคยทะเยอทะยานอยากทำแบบนี้มาก่อน แต่สุดท้ายพวกเขาเหล่านั้นก็ทำไม่สำเร็จ ขณะที่ผมมีความมั่นใจว่าสามารถทำให้มันเป็นจริงได้” เขาตอบกลับ “ผู้อาวุโสเทียนเหอ ในเมื่อเป็นคนรู้จักกันมาก่อน ผมจะยื่นทางเลือกให้ ถือว่าฝากไปให้เจ้าสำนักของผู้อาวุโสพิจารณาก็แล้วกันนะครับ”
“ทางเลือกอะไรครับ?” ผู้อาวุโสเทียนเหอเอ่ยถาม
“ยอมศิโรราบต่อผมด้วยความจริงใจเหมือนอย่างวังเมฆาสีชาด แล้วเมื่อนั้นผมจะช่วยให้สำนักล้ำสวรรค์ได้กลายเป็นหัวแถวของสำนักชั้นหนึ่งในเจียงโจว และอาจกระทั่งได้เข้าทำเนียบสำนักชั้นหนึ่งในระดับประเทศด้วย” ชายหนุ่มตอบกลับ “แน่นอนว่าจะเลือกต่อต้านสิ่งที่ผมกำลังจะทำเหมือนอย่างสำนักอื่นก็ได้ แต่ถ้าล้มลงเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็ขอให้เตรียมรับผลตามมาที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ด้วย”
“เรื่องนี้… ผมจะถ่ายทอดทุกคำพูดให้เจ้าสำนักได้ทราบอีกทีครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบรับ
ตามคำกล่าวของอู๋ฝานที่จะทำให้สำนักล้ำสวรรค์ได้กลายเป็นสำนักชั้นหนึ่งในเจียงโจวหรืออาจไปถึงระดับประเทศ มันทำให้เทียนเหอหวั่นไหว เพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายคือการอยู่ภายใต้อาณัติของชายหนุ่มเหมือนวังเมฆาสีชาด เพื่อเป็นทั้งดาบและโล่ให้กับอีกฝ่าย เรื่องสำคัญและหนักหนาถึงขนาดนี้เทียนเหอไม่สามารถตัดสินใจได้
“ครับ” เขาตอบกลับ “ก็หวังว่าเจ้าสำนักของคุณจะใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน เพราะผมไม่มีเวลารอคอยคำตอบมากสักเท่าไหร่”