ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 658 ทางเลือกทั้งสอง
บทที่ 658 ทางเลือกทั้งสอง
“ผมจะถ่ายทอดทุกคำพูดของนายน้อยอู๋ให้เจ้าสำนักได้ทราบครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบรับ
“ครับ”
หลังวางสาย อู๋ฝานก็ขับรถต่อจนกระทั่งถึงบ้าน
เรื่องที่เขาต้องการรับสำนักล้ำสวรรค์เข้ามาเป็นพรรคพวกไม่ใช่เพียงเพิ่งคิด แต่เคยคิดเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว แต่เวลานั้นตนยังไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัด กระทั่งผู้อาวุโสเทียนเหอเป็นฝ่ายโทรมาหาด้วยตัวเอง เขาจึงมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะยื่นข้อเสนอแตกกิ่งก้านสาขาออกไป
แม้เขาจะมีวังเมฆาสีชาดและมีแผนงานพัฒนามันอย่างยั่งยืนแล้วก็ตาม แต่ในระยะสั้น ๆ เพียงแค่วังเมฆาสีชาดนั้นยังไม่มากพอจะรองรับคน และทรัพยากรทั้งหมดในแวดวงผู้ฝึกตนของเจียงโจวได้
และหากวังเมฆาสีชาดเติบโตมากขึ้นไปกว่านี้ อู๋ฝานก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่าสวีอี้ซานและเหล่าผู้อาวุโสจะยังภักดีเหมือนตอนนี้อีกหรือไม่ ดังนั้นตนจึงต้องสนับสนุนสำนักอื่นและวังเมฆาสีชาดไปพร้อมกัน เพื่อที่จะได้กระจายทรัพยากรในเจียงโจวอย่างเหมาะสม และขณะเดียวกันยังเป็นการคานอำนาจ พร้อมเป็นคู่แข่งให้แก่กันและกันไปด้วย
‘ก็หวังว่าเจ้าสำนักล้ำสวรรค์จะตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด’ อู๋ฝานครุ่นคิดอยู่ภายในใจ
อีกด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสเทียนเหอที่เพิ่งวางสายจากอู๋ฝาน ตอนนี้เดินทางไปยังโถงประชุมของสำนัก แม้ปัจจุบันจะค่อนข้างดึกแล้ว แต่ที่นี่ยังคงสว่างไสว มันเป็นดังที่ผู้อาวุโสเทียนเหอกล่าวเอาไว้ก่อนหน้า ว่าเพราะการกระทำของชายหนุ่มในวันนี้ทำให้ผู้ฝึกตนทุกคนในเจียงโจวต่างไม่อาจข่มตานอนหลับกันได้
“อู๋ฝานว่ายังไง?” เมื่อเห็นผู้อาวุโสเทียนเหอกลับมาแล้ว ซือหลินผู้เป็นเจ้าสำนักล้ำสวรรค์และนั่งบนหัวโต๊ะประชุมก็ได้เอ่ยถามออกมาราวไม่อาจอดทนรอได้
“อู๋ฝานปฏิเสธข้อเสนอความช่วยเหลือของพวกเราครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบกลับ
“เขามีความมั่นใจว่าจะสามารถจัดการพันธมิตรสำนักชั้นหนึ่งได้ด้วยตนเองงั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา “แม้เขาจะมีวังเมฆาสีชาดช่วยเหลือ แต่ก็เป็นแค่วังเมฆาสีชาด ขณะนี้สำนักชั้นหนึ่งเหล่านั้นจับมือกันแน่นแล้ว ต่อให้รวมวังเมฆาสีชาดเข้าไปจะเอาชนะได้เหรอ?”
“ถ้าถามผม พวกเราไม่ควรเสนอตัวช่วยเหลือเขา แม้เขาจะไม่ได้อ่อนแอและมีวังเมฆาสีชาดช่วยเหลือ แต่เขาก็ไม่น่าจะเอาชนะพันธมิตรสำนักชั้นหนึ่งได้ เมื่อไหร่ที่พวกเราเลือกข้าง และล้มเหลว สำนักล้ำสวรรค์ยากที่จะยืนหยัดในเจียงโจวได้”
“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก อู๋ฝานทำลายสำนักตะวันเพ็จและสำนักทะยานสวรรค์ไปแล้ว ทั้งยังลงมือต่อเนื่องในหนึ่งวัน เขาแข็งแกร่งยังไงยังต้องสงสัยอีกงั้นเหรอ ผมยังคงมองว่ามีความเป็นไปได้มากที่เขาจะเล่นงานพันธมิตรสำนักชั้นหนึ่งจนไม่เหลือ”
เหล่าผู้อาวุโสสำนักล้ำสวรรค์กำลังโต้เถียงกันเพราะเรื่องของอู๋ฝาน พวกเขามีความเห็นส่วนตัวแตกต่างกันออกไป
เจ้าสำนักเช่นซือหลินที่นั่งหัวโต๊ะประชุมยังคงมีท่าทีลังเล ในขณะเดียวกันนั้นก็รู้สึกผิดหวังและนึกโกรธเคืองอู๋ฝานที่ปฏิเสธความช่วยเหลือ
บุคคลที่มีแนวคิดหยิบยื่นความช่วยเหลือให้อู๋ฝานก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นซือหลิน เนื่องจากเขามองว่าขณะนี้คือโอกาส ชายหนุ่มเริ่มลงมือเต็มกำลังแล้ว ทั้งยังเปิดเผยแล้วว่าแข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาทุกฝ่ายจินตนาการถึง ดังนั้นหากพวกเขาเลือกที่จะขึ้นเรือลำเดียวกันและติดตามไปจัดการสำนักชั้นหนึ่งที่เหลือในเจียงโจว หลังจากนั้นสำนักล้ำสวรรค์จะได้มีโอกาสครอบครองสำนักอื่น ได้รับเอาทรัพยากรการฝึกฝนและศิษย์จากสำนักเหล่านั้นเข้ามา จากนั้นสำนักล้ำสวรรค์ก็จะเริ่มก้าวหน้าจนยิ่งใหญ่ ไม่ช้าย่อมต้องได้เป็นสำนักชั้นหนึ่งในเจียงโจว
โชคร้ายที่แนวคิดดังกล่าวถูกปัดตกไปโดยอู๋ฝาน ดังนั้นการที่ซือหลินจะไม่พอใจและโกรธเคืองก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ อย่างไรแล้วมันก็คือโอกาสได้ก้าวทะยานครั้งใหญ่ เขาไม่คิดอยากพลาดเรือลำนี้
“นอกจากปฏิเสธความช่วยเหลือของพวกเราแล้ว อู๋ฝานยังขอให้ผมถ่ายทอดข้อความถึงเจ้าสำนักด้วยครับ” ขณะผู้คนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ผู้อาวุโสเทียนเหอก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“ว่ายังไง?” ซือหลินและคณะผู้อาวุโสคนอื่นต่างมองไปยังผู้อาวุโสเทียนเหอ พวกเขาอยากทราบว่าอู๋ฝานฝากข้อความใดไว้กับอีกฝ่าย
“อู๋ฝานบอกว่าจะมอบสองทางเลือกให้เจ้าสำนักครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบกลับ “หนึ่งคืออยู่ใต้อาณัติของเขาเหมือนวังเมฆาสีชาด และเขาจะช่วยให้พวกเราเป็นสำนักชั้นหนึ่งในเจียงโจว หรือแม้กระทั่งระดับประเทศ ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งคือยืนหยัดต่อต้านเขา พร้อมรอคอยผลที่จะตามมาครับ”
“อวดดี!”
“โอหัง!”
“ข้อเสนอนี้อุกอาจเกินไปแล้ว!”
ทันทีที่ผู้อาวุโสเทียนเหอเอ่ยจบ โทสะของเหล่าผู้อาวุโสจึงระเบิดออกมาในโถงประชุม เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังโกรธกับข้อเสนอที่ได้รับ
ซือหลินเองก็มีโทสะ เขาไม่คิดอยู่ใต้อาณัติของอู๋ฝานเหมือนวังเมฆาสีชาด ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่ออกตัวเสนอความช่วยเหลือ แต่จะปล่อยผ่านเรื่องราวไปและเมินเฉยก็ทำได้
แต่หากให้เลือกยืนฝั่งตรงข้าม ซือหลินก็ยังไม่กล้าถึงขนาดนั้น อย่างไรความแข็งแกร่งที่ชายหนุ่มแสดงออกมาให้เห็นนั้นก็ค่อนข้างมหาศาล กระทั่งสำนักตะวันเพ็จและสำนักทะยานสวรรค์ยังประสบเคราะห์กันไปแล้ว ด้วยระดับความแข็งแกร่งดังกล่าว หากอีกฝ่ายสั่งการลงมือจริง สำนักล้ำสวรรค์ของพวกเขาคงไม่อาจอยู่รอดได้เกินนาที
ทว่าซือหลินกลับตระหนักได้ถึงความหมายอื่นในถ้อยคำที่ผู้อาวุโสเทียนเหอถ่ายทอด “ถ้าพวกเราไม่อยู่ใต้อาณัติของเขา แล้วเพราะอะไรถึงต้องยืนขั้วตรงข้ามด้วย? พวกเราไม่ได้มีความแค้นเคืองอะไรกับเขามาก่อน คงสถานะความเป็นกลางเอาไว้ไม่ดีกว่าเหรอ?”
“เกรงว่าจะไม่ได้ครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอเผยยิ้มแห้ง ๆ ออกมา “เพราะอู๋ฝานต้องการรวมแวดวงผู้ฝึกตนในเจียงโจวให้เป็นหนึ่งเดียว มันคือการสยบและยึดครอง สำนักชั้นหนึ่งเหล่านั้นจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น สำนักอื่นจะตกเป็นเป้าของเขาเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาครับ”
“นี่!… เขาคลุ้มคลั่งไปแล้วเหรอ? เขาคิดจะต่อกรกับทั้งแวดวงผู้ฝึกตนในเจียงโจวเลยเนี่ยนะ!?” ซือหลินเอ่ยถามด้วยความตื่นตกใจ เหล่าผู้อาวุโสต่างก็แสดงอาการตื่นตระหนกกันออกมา
กับคนที่แม้เพียงลำพังก็สามารถยืนหยัดได้ จะมีใครยอมอยู่ภายใต้อาณัติของผู้อื่น? เคยมีหลายคนคิดที่จะรวบรวมแวดวงผู้ฝึกตนของเจียงโจวเป็นหนึ่ง แต่พวกเขากลับได้พบแรงต่อต้านอันยิ่งใหญ่ ไม่มีใครยอมถูกสยบถือถูกปกครองโดยใคร ดังนั้นบรรดาผู้ที่ต้องการจะรวมแวดวงผู้ฝึกตนของเจียงโจวให้กลายเป็นหนึ่ง ไม่ว่าเป็นใครต่างก็ไม่ได้รับการยกเว้น พวกเขาไม่อาจทำสำเร็จและเจอกับจุดจบอันแสนโหดร้าย หลายสำนักในเจียงโจวจะพร้อมรวมตัวกันเพื่อบุกทำลายใครก็ตามที่คิดเช่นนั้น
“พิจารณาจากสิ่งที่เขาพูด เขายังสติครบถ้วนดีครับ ทั้งยังมีความมั่นใจมากเลยด้วย” ผู้อาวุโสเทียนเหอตอบกลับ
“นี่มัน…” ซือหลินถึงกับต้องเอนกายพิงพนักพิง สีหน้าเวลานี้ค่อนข้างซับซ้อนและยากจะคาดเดา
“อู๋ฝานอวดดีเกินไปแล้ว เขาจะนำความพินาศย้อนกลับไปสู่ตัวเอง!”
“ใช่ โชคดีที่มันไม่ตอบรับข้อเสนอของพวกเรา ไม่งั้นสำนักล้ำสวรรค์ของพวกเราคงจบสิ้นแน่!”
“ก่อนหน้านี้พวกเรามองผิดไปเอง ถ้าเขาคิดจะไล่เรียงไปทีละขั้นตอน ก็คงสามารถรวมทั้งแวดวงผู้ฝึกตนของเจียงโจวเป็นหนึ่งในอนาคตอันไกลออกไปได้ ตอนนี้รากฐานของเขายังไม่มั่นคงมากพอ แต่กลับกล้าทะเยอทะยานยิ่งใหญ่ มันคือการรนหาที่ตาย!”
“หากคนของสำนักอื่นทราบ พวกมันคงร่วมมือกันตอบโต้แน่ เมื่อไหร่ถึงเวลานั้น ต่อให้มีสองวังเมฆาสีชาดคอยช่วยเหลือมันก็ยังต้องเผชิญกับความตาย”
เหล่าผู้อาวุโสสำนักล้ำสวรรค์ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของอู๋ฝาน พวกเขาต่างก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายมั่นใจและอวดดีจนเกินไป บางทีอาจเป็นเพราะชัยชนะทั้งสองครั้งในวันนี้จึงทำให้อีกฝ่ายได้ใจจนเหิมเกริมขึ้นมา
“แล้วเขาได้บอกอะไรอีกรึเปล่า?” ซือหลินที่เงียบอยู่นานตัดสินใจถามผู้อาวุโสเทียนเหออีกครั้ง