ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 688 เหตุใดถึงกลับมา
บทที่ 688 เหตุใดถึงกลับมา
“เช่นนั้นฝ่าบาทจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรล่ะพ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อคนของอาณาจักรสุ่ยเยวี่ยสังหารราชวงศ์จนหมด แต่กลับเหลือเพียงฝ่าบาทเอาไว้ และหลังจากฝ่าบาทขึ้นครองบัลลังก์ยังเลือกที่จะเข้าหาและแสดงท่าทีใกล้ชิดกับอาณาจักรสุ่ยเยวี่ยด้วยไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?” ต่อหน้าโทสะของอูเฉียน จ้าวซิ่งเหนียนไม่คิดถอยกลับ อีกทั้งยังคงถามคำถามนี้ต่อไป กลุ่มคนที่พบเห็นความหาญกล้านี้ถึงกับหัวใจหดเกร็งแทนอีกฝ่าย
“คนของอาณาจักรสุ่ยเยวี่ยละเว้นข้า ก็เพราะพวกมันยังต้องการตัวแทนที่จะยอมรับเงื่อนไขการจ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม หรือเจ้าปรารถนาให้ข้าตายด้วยฝีมือของพวกมันกันแน่?” อูเฉียนเอ่ยถาม “อีกทั้งน้องหญิงสามของข้ายังออกไปลอบสังหารจักรพรรดิแห่งเหยียนเฟิง หากพวกเราไม่ทำตามเงื่อนไขเหล่านี้ของอาณาจักรสุ่ยเยวี่ย คิดหรือว่ามันจะละเว้นพวกเรา?”
“เหตุการณ์ลอบสังหารจักรพรรดิแห่งเหยียนเฟิงนั้นถูกจัดฉากโดยคนของอาณาจักรสุ่ยเยวี่ย ฝ่ายเราได้อธิบายให้จักรพรรดิแห่งเหยียนเฟิงทราบตามตรงแล้ว แม้จะอธิบายไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงไม่อาจอภัยให้” จ้าวซิ่งเหนียนตอบกลับ “ส่วนอาณาจักรสุ่ยเยวี่ยฆ่าล้างราชวงศ์ของอาณาจักรเรา รวมถึงอดีตจักรพรรดิ! แต่ฝ่าบาทก็ยังเลือกที่จะเข้าหาและพักพิงอาณาจักรสุ่ยเยวี่ย ก่อนพระศพเหล่านั้นจะเย็นชืดด้วยซ้ำไป การกระทำเช่นนี้ของฝ่าบาทใช่ไม่เหมาะสมหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?“
ทุกคนภายในโถงต่างมองอูเฉียน เรื่องนี้คือประเด็นที่พวกเขาต้องการคำตอบเช่นกัน
อาณาจักรสุ่ยเยวี่ยเพิ่งสังหารราชวงศ์ของอาณาจักรหนานปิงไปทั้งหมด ไม่ว่าจะความเกลียดชังหรือความอับอายล้วนอยู่กับอาณาจักรหนานปิงอย่างมากล้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้หลังอูเฉียนขึ้นครองบัลลังก์ แทนที่จะคิดหาทางล้างแค้นให้กับครอบครัว แต่เขากลับอดกลั้นและแสดงความภักดีต่ออาณาจักรสุ่ยเยวี่ย อีกทั้งยังสัญญาว่าจะจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามอันไม่เป็นธรรม ไม่ว่าเรื่องใดก็ล้วนทำให้ประชาชนไม่พอใจทั้งสิ้น มันจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนมากมายไม่เห็นด้วยกับการที่อูเฉียนขึ้นเป็นจักรพรรดิ
แท้จริงแล้วสำหรับเขาเองมันก็เป็นเรื่องที่ยากจะอธิบาย เพราะระหว่างเขากับคนของอาณาจักรสุ่ยเยวี่ยมีอะไรต่อกันจริง ๆ ทว่าเรื่องราวเหล่านั้นไม่สามารถให้คนอื่นล่วงรู้ได้
อูเฉียนไม่คาดว่าจ้าวซิ่งเหนียนจะโพล่งคำถามนี้ออกมาต่อหน้าที่ประชุม ในความเห็นของเขามันคือการดูหมิ่นและรนหาที่ตาย ชายหนุ่มนึกเสียใจที่ลงโทษจ้าวซิ่งเหนียนไปเรียบร้อยแล้ว แต่กลับปล่อยอีกฝ่ายมาพล่ามวาจาอันไร้สาระที่นี่
“ฝ่าบาทตัดสินใจด้วยพระองค์เองก็จริง แต่การตัดสินใจนั้นเป็นการทำร้ายเหล่าข้าราชบริพาร ทำร้ายประชาชนของอาณาจักร กระทั่งสร้างความเสื่อมเสียแก่ราชวงศ์ ฝ่าบาทไม่ควรอธิบายการตัดสินใจครั้งนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” จ้าวซิ่งเหนียนยังคงกัดไม่ปล่อย
“อธิบาย? ข้ามีหน้าที่ต้องอธิบายให้เจ้าฟังหรือ? เจ้ามีเหตุผลอะไรถึงกล้ามาตั้งคำถามกับข้า!” อูเฉียนโต้กลับเสียงดัง
“ใต้เท้าจ้าวอาจไม่มี แต่หากเป็นข้าเล่า? ข้ามีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่?”
ทันใดนี้เองที่เสียงใสของสตรีปรากฏจากนอกโถง เมื่อทุกคนได้ยินน้ำเสียงนั้น หลายคนเผยท่าทีราวกับคิดว่าหูฝาดไป บางคนเผยอาการแตกตื่น ทว่าอีกหลายคนก็เผยความยินดีออกมา
เมื่ออูเฉียนได้ยินเสียงดังกล่าว ความรู้สึกนั้นประหนึ่งพบเจอภูตผี เขามองประตูโถงด้วยสายตาเบิกกว้าง
‘เป็นไปไม่ได้ นางไม่ควรมาอยู่ที่นี่สิ!’ อูเฉียนร้องตะโกนอยู่ในใจ
ท่ามกลางสีหน้าตื่นตะลึงของผู้คน อูหย่าเดินอย่างเชื่องช้าเข้ามาในโถงประชุมพร้อมอู๋ฝาน แต่ละก้าวนั้นมุ่งตรงเข้าหาอูเฉียนทั้งสิ้น
“สวรรค์ทรงโปรดอาณาจักรหนานปิง ฝ่าบาทพระองค์ก่อน ท่านเห็นหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? องค์หญิงสามผู้เป็นที่รักได้หวนคืนมาอย่างปลอดภัยแล้ว!”
เหล่าเสนาบดีภายในโถงต่างยินดีที่ได้พบอูหย่า บางคนยินดีมากจนหลั่งน้ำตาออกมาเลยด้วยซ้ำ
เสนาบดีเหล่านี้ต่างรู้จักอูหย่าเป็นอย่างดี พวกเขาต่างก็เคยมีความคิดเหมือนอูเฉียนว่าอูหย่าคงไม่มีทางรอดชีวิตกลับมาได้ ทว่าตอนนี้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นแล้ว นางได้มายืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาโดยยังมีชีวิต ราชวงศ์ที่เคยเหลือรอดเพียงหนึ่งกลับไม่ใช่อีกต่อไป อีกทั้งองค์หญิงสามอูหย่ายังเป็นที่รักและโปรดปรานของอดีตจักรพรรดิ เหล่าเสนาบดี และประชาชนอย่างล้นเหลือ การที่พวกเขาจะแสดงอาการยินดีกันออกมาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
หากจะมีใครไม่ยินดีที่เห็นอูหย่ากลับมาอย่างมีชีวิต ก็คงมีเพียงอูเฉียน
อูเฉียนไม่อาจทราบได้ เพราะนับตั้งแต่ได้รับจดหมายลับจากจ้าวชิวซาน เขาก็ส่งคนออกไปจัดการอีกครั้งหนึ่งแล้ว เพียงแต่มันไม่ได้ผลใด ๆ ทั้งสิ้น เขายังไม่อาจหยุดยั้งการกลับมาของอูหย่าได้ อีกทั้งนางยังกลับมาก่อนเวลาที่คาดการณ์ไว้มากเสียด้วยซ้ำ เพราะเวลาผ่านไปเพียงหนึ่งวัน แต่นางกลับมาเยือนถึงวังหลวงแล้ว
อูเฉียนไม่ทราบว่าอูหย่าทราบเส้นทางลัด ดังนั้นจึงเริ่มคิดว่าจ้าวชิวซานโกหกเพื่อปิดบังข้อมูล ทำให้เขาคิดอ่านหาทางจัดการหญิงสาวผิดพลาดไป
“เจ้า… เหตุใดเจ้าจึงกลับมาที่นี่?” อูเฉียนยังคงตื่นตะลึง สายตาของเขาจับจ้องอูหย่า
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย ข้าย่อมยินดี” อูเฉียนทราบดีว่าตนเองสูญเสียการควบคุมไปชั่วครู่ ขณะนี้จึงพยายามฝืนยิ้มออกมา “เจ้าเดินทางมาไกลคงจะเหนื่อยล้ามากแล้ว เช่นนั้นไปพักผ่อนก่อนเถอะ หลังจากนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาให้”
“ขออย่าได้จัดงานเลี้ยงอะไรนั่นเลยเพคะ” อูหย่าตอบกลับ “ตอนนี้ข้ายังสงสัยในประเด็นที่ใต้เท้าจ้าวเพิ่งเอ่ยถามไป”
“เรื่องนี้พวกเราค่อยพูดคุยกันทีหลังได้” อูเฉียนตอบกลับ
“ข้าต้องการทราบเดี๋ยวนี้” อูหย่าตอบรับ “ข้าคิดว่าเหล่าเสนาบดีเองก็คงสงสัยและอยากทราบเช่นเดียวกับข้า”
อูเฉียนมองเหล่าเสนาบดี พวกเขาที่เห็นอูหย่ากลับมาต่างก็เผยสีหน้ายิ้มแย้ม ทั้งยังไม่มีใครทักท้วงคำถามของหญิงสาว มันจึงทำให้ไฟริษยาในใจเขาลุกโชนอีกครั้ง
“เรื่องที่เสนาบดีจ้าวเอ่ยถึงเมื่อครู่ล้วนเป็นข่าวลือทั้งสิ้น” เมื่อเผชิญหน้ากับการซักไซ้ของอูหย่า อูเฉียนทำได้เพียงต้องออกปากเอ่ยพูด “ข้าเองก็ไม่ได้อยากเข้าพักพิงกับอาณาจักรสุ่ยเยวี่ย ทั้งยังต้องการล้างแค้นให้กับเสด็จพ่อและพี่น้องทั้งหลาย แต่เรื่องนี้ไม่อาจเร่งรีบจนเกินไป มันจำเป็นต้องใช้เวลา อาณาจักรสุ่ยเยวี่ยแข็งแกร่งยิ่งกว่าอาณาจักรหนานปิงของพวกเรา ฝั่งอาณาจักรเหยียนเฟิงเองก็คงไม่มีทางช่วยพวกเราแน่แล้ว ดังนั้นต่อให้ข้าเกลียดชังพวกมันขนาดไหน ก็ยังทำได้แค่ต้องอดกลั้นและเอาอกเอาใจไปก่อน เพื่อรักษาไว้ซึ่งอาณาจักรหนานปิง จากนั้นก็รอจนเวลาสุกงอมค่อยลงมือ อย่างน้อยก็เพื่อทำให้ประชาชนของพวกเราไม่ต้องตกทุกข์ได้ยากจากสงครามซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
คำพูดของอูเฉียนดูจริงใจ และทำให้อูหย่าไม่อาจทราบได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือลวงกันแน่
“เช่นนั้นเรื่องที่ข้าถูกไล่ล่าสังหารมาตลอดทางนี้คืออะไรกัน?” อูหย่าเอ่ยถาม
“ไล่ล่าสังหาร? ไล่ล่าอะไร? คนจากอาณาจักรเหยียนเฟิงไล่ล่าเจ้ามางั้นหรือ?” อูเฉียนเสแสร้งทำเป็นไม่ทราบ
“ไม่ใช่คนของอาณาจักรเหยียนเฟิง แต่เป็นคนของจวนเจ้าเมืองซิงผิง!” หญิงสาวตอบกลับ “พวกมันรับคำสั่งมาจากจ้าวชิวซาน!”
คำพูดของอูหย่าทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในหมู่เสนาบดี ไม่นานพวกเขาก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน
เท่าที่พวกเขาทราบ จ้าวชิวซานเป็นคนของอูเฉียน และยังเป็นถึงผู้รับใช้ที่ภักดีเสียด้วยซ้ำ เมื่ออูเฉียนขึ้นครองบัลลังก์ จ้าวชิวซานก็ได้รับตำแหน่งสำคัญเช่นเจ้าเมืองซิงผิง
และหากจ้าวชิวซานไล่ตามฆ่าอูหย่าจริง มันก็ยากจะพูดว่าเบื้องหลังไม่เกี่ยวกับอูเฉียน เนื่องจากจ้าวชิวซานไม่เคยมีเรื่องใดกับอูหย่ามาก่อน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าเมืองคนหนึ่งจะอยากลอบฆ่า และไล่ตามฆ่าองค์หญิงคนหนึ่งมาตลอดการเดินทาง
“น้องหญิง เจ้าอาจจะเข้าใจผิดไป เพราะอะไรจ้าวชิวซานถึงต้องส่งคนไปไล่ตามฆ่าเจ้าด้วยเล่า? มันจะต้องมีเหตุชวนให้เข้าใจผิดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน” อูเฉียนพยายามอธิบาย ขณะสบถด่าจ้าวชิวซานอยู่ในใจที่อีกฝ่ายใช้งานไม่ได้ แค่งานฆ่าคนคนเดียวยังไม่อาจทำให้สำเร็จ!
………………..