ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 87 อีกหนึ่งชุด
บทที่ 87 อีกหนึ่งชุด
บทที่ 87 อีกหนึ่งชุด
“ได้ครับ รอสักครู่”
แม้ว่าคนเหล่านี้ดูไปแล้วไม่ใช่คนดี อู๋ฝานก็ไม่สามารถตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกและขับไล่กลับไป เพราะการค้ายังต้องดำเนินต่อไป
เพียงแต่ กลุ่มคนเหล่านี้หยุดยืนตรงหน้าร้านแผงลอยของอู๋ฝาน กับกลุ่มนักศึกษาที่ยืนตรงหน้าร้านของแผงลอยของอู๋ฝาน พวกเขาต้องถอยเท้าโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เพื่อเว้นระยะห่างจากกลุ่มคนเหล่านี้
พบเห็นสถานการณ์ วัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่เพียงไม่เกิดความรู้สึกละอาย แต่ยังรู้สึกภาคภูมิเสียด้วยซ้ำ
“เถ้าแก่ ไม่ทำเข้าล่ะ? มัวทำอะไรอยู่กัน” ในไม่ช้า กลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ก็เริ่มที่จะมีความอดทนน้อยลง
“ผมก็อยากทำให้มันสุกเร็วกว่านี้ แต่จะให้ส่งอาหารที่ยังไม่สุกก็ไม่ได้” อู๋ฝานตอบกลับ
“พูดจาอะไรไร้สาระ” ชายหนุ่มที่ดูจะเป็นหัวหน้าพูดตอบกลับมา และไม่ทราบว่าเขาตั้งใจหรือไม่ แต่ก็ม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเผยรอยสักให้ได้เห็น “ได้ยินมาว่าบาร์บีคิวของที่นี่อร่อย ถ้าวันนี้ทำพวกเราพึงพอใจไม่ได้ ก็อย่าหวังจะได้ทำการค้าที่นี่อีกเลย”
อู๋ฝานผู้ซึ่งไม่มีความประทับใจอันดีแต่อย่างใดกับคนกลุ่มนี้ ยามที่ได้ยินคำของพวกเขาจึงต้องขมวดคิ้ว “ไม่ว่าใครก็ชอบรสชาติที่ไม่เหมือนกัน การที่คนอื่นคิดว่าอร่อย ก็ไม่ใช่ว่ามันจะอร่อยกับทุกคน ความอร่อยคืออะไรแบบนั้น ผมไม่อาจรับประกันได้ว่าทุกคนจะชอบบาร์บีคิวที่ผมทำ”
ตอนแรกเขาก็เพียงแค่รู้สึกไม่ชอบพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ แต่ปัจจุบัน อู๋ฝานเกิดมั่นใจว่าคนกลุ่มนี้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา หากไม่แล้ว คนหนุ่มที่เป็นหัวหน้ากลุ่มคงไม่พูดคำเหล่านั้นออกมา แม้ไม่พูดออกมาก็พอทราบได้ ว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่คนในเมืองแห่งนี้ จุดประสงค์ของพวกเขานั้นเด่นชัด และเป็นคนระดับล่างกันทั้งสิ้น
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว” ชายหนุ่มสบถคำออกมา “รีบทำให้เร็ว! ไม่เห็นหรือยังไงว่าพวกเรารอกินอยู่? ฉันไม่สนหรอกนะว่านายจะทำอะไร แต่หน้าที่นายคือทำให้พี่น้องของฉันต้องพึงพอใจ!”
พึงพอใจหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคำพูดของพวกเขางั้นหรือ? ถึงตอนนั้น ไม่ว่าแท้จริงมันจะดีหรือไม่ก็ตาม ขอเพียงมีปาก ก็พูดคำว่าไม่พึงพอใจออกมากันได้!
“อาจารย์ มีเรื่องอะไรไหม?” หลิวอี้เตาได้เห็นเช่นกันว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้มาดี ดังนั้นจึงเอ่ยถามอู๋ฝานเสียงเบา
“ไม่เป็นไรครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “ก็แค่พวกอันธพาล ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต”
เมื่อพบว่าอู๋ฝานยังคงสงบดี หลิวอี้เตาจึงไม่พูดอะไรอีก ใจเขาไม่ค่อยมีความกลัวกับเรื่องราวเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะภายหลังทำงานที่คัลเลอร์แมนมาชั่วระยะหนึ่ง จึงเป็นคนที่ได้พบเห็นโลกในมุมมองหลากหลาย ไม่แปลกหากไม่คิดเก็บอันธพาลเหล่านี้มาใส่ใจ
เพียงไม่ช้า บาร์บีคิวทั้งหมดที่อู๋ฝานลงมือปิ้งอยู่ก็สุกครบ กลุ่มวัยรุ่นคิดว่าอู๋ฝานจะส่งบาร์บีคิวที่เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ จึงยื่นมือคิดไปรับ แต่แล้วอู๋ฝานไม่ได้ส่งให้พวกเขา แต่เป็นคนอื่นที่กำลังรอคอยอยู่ก่อนแล้ว
“ทำบ้าอะไรวะ?! ดูถูกพวกเรางั้นเหรอ?” ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าพูดขึ้นด้วยโทสะ
“มาก่อนได้ก่อนครับ พวกเขามาก่อนพวกคุณ” อู๋ฝานตอบกลับเรียบเฉย “หากอยากทาน ก็ต้องรอคิว”
ชายหนุ่มคนนั้นหันมองยังกลุ่มคนหน้าร้านแผงลอยของอู๋ฝาน มันมีการต่อแถวอยู่จริง
“ฉันยอมลดตัวมากินอาหารร้านแกก็เห็นแก่หน้ามากแล้ว ยังคิดจะให้พวกเราไปต่อแถวอีกงั้นเหรอ?” ชายหนุ่มตั้งคำถาม
“ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องต่อแถวครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
“ใช่ ไปต่อแถวสิ”
“พวกเรารอคิวอยู่ตั้งนาน รอก็เพราะอยากกิน แต่พวกเราก็ยังต้องต่อแถว”
“อย่าไร้มารยาทแทรกคิว!”
เดิมนั้นชายหนุ่มต้องการคิดใช้ความโกรธของตัวเอง เพื่อสุมไฟให้กับร้านของอู๋ฝาน แต่ก่อนเขาจะทันพูดอะไรออกมา กลุ่มคนที่ต่อแถวกลับเริ่มตะโกนต่อว่า
ดังทราบว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่ต่อแถวรอซื้อบาร์บีคิวคือนักเรียนนักศึกษา พวกเขาคือผู้มีจิตใจยึดมั่น ไม่ยินดีได้เห็นตนเองที่รอมาครึ่งค่อนคืน กลับต้องมาถูกคนอื่นแทรกคิวอย่างกะทันหันโดยไร้ซึ่งมารยาท
หากว่าเป็นนักเรียนนักศึกษาเพียงหนึ่งหรือว่าสองคน กลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ย่อมไม่คิดสนใจ พวกเขาอาจกระทั่งคิดท้าต่อยตีเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะที่ตรงนี้มีนักเรียนนักศึกษาอยู่มาก พวกเขาทำอะไรบุ่มบ่ามจึงไม่ใช่เรื่องดี อย่างไรแล้วรอบด้านที่นี่ก็เป็นทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงมีนักเรียนนักศึกษาจำนวนมากพร้อมจะรวมตัวกันตั้งกลุ่ม ต่อให้พวกเขาตั้งใจมาสร้างปัญหา แต่วัยรุ่นกลุ่มนี้คิดลงมือกับนักเรียนนักศึกษาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
ดังนั้นแล้ว แม้ว่าไม่ยินดี แต่ท้ายที่สุดแล้ววัยรุ่นกลุ่มนี้ก็ต้องกล้ำกลืนและไปเข้าแถวต่อที่ด้านหลัง มันต้องรอคอยราวครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงคิวของพวกเขา
“เร็วเข้าสิ” เพราะไม่อาจระบายความโกรธใส่นักเรียนนักศึกษา พวกเขาจึงหันไประบายความโกรธใส่อู๋ฝาน ทั้งยังใช้น้ำเสียงที่แย่
อู๋ฝานเมินเฉยพวกเขา มือยังคงปิ้งบาร์บีคิวต่อไป ในสายตาของกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ อู๋ฝานกำลังหวาดกลัว เห็นดังนั้นจึงเกิดทำพวกเขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ภายหลังนักศึกษากลุ่มก่อนหน้านี้ทานเสร็จ ในที่สุดก็ถึงคิวของพวกเขาแล้ว
“ของที่สั่งได้แล้วครับ” เพียงไม่นาน อู๋ฝานจึงนำรายการที่อีกฝ่ายสั่งมาส่ง
“เร็วขนาดนี้? ยังไม่ทันสุกด้วยซ้ำมั้ง ถ้าพวกเรากินเข้าไปแล้วท้องเสีย นายตายแน่!” ชายหนุ่มยังคงข่มขู่อู๋ฝาน เพราะพบเห็นว่าอู๋ฝานทำเสร็จได้ในเวลาอันสั้น แต่อีกทางหนึ่งก็มีความสงสัย
“ถ้าหากว่ากลัว ไม่ทานก็ได้นะครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “ผมไม่คิดค่าอาหารที่ยังไม่ได้ทาน”
“แล้วทำไมถึงจะไม่กินล่ะ?” ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้ากลุ่มเข้าคว้าบาร์บีคิวมาจากมือของอู๋ฝาน “แต่ว่านะ ถ้านายทำให้ท้องพวกเราเสียขึ้นมา ถ้าไม่มีค่ารักษาสักหนึ่งล้านแปดแสนหยวน อย่าคิดว่าจะไล่พวกเราไปได้”
เพียงสิ้นคำพูด ชายหนุ่มจึงแจกจ่ายบาร์บีคิวในมือให้แก่พี่น้องข้างเคียงทั้งหลาย โดยพวกเขายังไม่จากไปไหน แต่ยืนอยู่ตรงหน้าร้านของอู๋ฝานพร้อมกับเริ่มส่งอาหารเข้าปาก
ภายหลังกัดไปหนึ่งคำ กลุ่มคนที่คิดอยากหาข้อตำหนิติเตียนกลับเผยท่าทีเกินคาดโดยพร้อมกัน ดวงตาของพวกเขาเป็นประกาย ลำคอขยับกลืนอาหารลงไปแทบจะพร้อมกัน สุดท้ายจึงกัดต่ออีกคำ ปากเต็มไม่เว้นว่าง ถัดจากนั้นจึงเคี้ยวและกลืนลงไปต่อเนื่อง
“พี่หนิว พวกเราทำยังไงดี? อาหารนี่อร่อยเกินไปแล้ว” ชายหนุ่มที่อยู่ข้างเคียงกระซิบกระซาบกับคนเป็นหัวหน้า แต่เพราะในปากยังคงเคี้ยวไม่หยุด คำพูดคำจาจึงค่อนข้างไม่ค่อยชัดเจนไปบ้าง
“รู้จักมารยาทด้วย! กินให้หมดแล้วค่อยพูดไม่ได้หรือยังไง? ไม่คิดรักษาภาพลักษณ์เลยหรือยังไง?” ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าสบถกลับมา
ชายหนุ่มที่พูดคนเมื่อครู่พลันหดคอกลับ ก่อนจะเร่งรีบเคี้ยวให้เร็วมากขึ้น ทว่าในใจก็บ่นอุบต่อชายหนุ่มที่ทำหน้าที่หัวหน้า ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เพียงไม่ถึงอึดใจก็กินปีกไก่ปีกหนึ่งเข้าไปหมดแล้ว เป็นผีหิวโหยมาเกิดใหม่หรือยังไงกัน ทำแบบนี้แล้วจะพูดเรื่องรักษาภาพลักษณ์ให้มันได้อะไรขึ้นมา?
ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้า ในใจเวลานี้กำลังเกิดความสับสน ทางหนึ่งตัวเขาไม่เคยได้ทานบาร์บีคิวที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน อีกทั้งตัวเขาก็หิวได้ที่แล้ว ดังนั้นจึงทานเข้าไปมากมายในคราวเดียว จะหยุดก็ไม่ยินดี เพียงแต่อีกทางหนึ่ง ก็รับปากคนอื่นมาแล้วว่าจะสร้างปัญหาให้ร้าน ดังนั้นจึงไม่ควรกินดื่มอย่างไร้ยางอาย ในเวลาเช่นตอนนี้ เขาควรต้องหาข้ออ้างขึ้นมาเพื่อใช้สร้างปัญหา
คิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มจึงกลืนอาหารเต็มปากลงท้องไป สายตาจ้องมองอู๋ฝาน ถัดจากนั้นจึงพูดขึ้น
“ที่สั่งไปเมื่อกี้ ขอเพิ่มอีกหนึ่งชุด!”