ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 92 หัวหน้าหน่วยชั่วคราว
บทที่ 92 หัวหน้าหน่วยชั่วคราว
บทที่ 92 หัวหน้าหน่วยชั่วคราว
“ชื่อ?”
“อู๋ฝาน”
“อายุ?”
“25”
“มาจากที่ไหน?”
“หมู่บ้านเร้นลับ”
เสมียนน้อยที่รับผิดชอบหน้าที่ลงทะเบียนของอู๋ฝาน กำลังจดข้อมูลพื้นฐานลงใส่สมุดบันทึก จนสุดท้ายจึงให้ป้ายไม้อันหนึ่งแก่อู๋ฝาน
ด้านหนึ่งของป้ายไม้อ่านได้ว่า กองพันที่สาม กองร้อยที่สอง และหน่วยที่สี่
อีกด้านหนึ่งมีการเขียนชื่อของอู๋ฝานเอาไว้
เมื่อห้อยป้ายไม้และกระบี่ยาวศิลาดำเอาไว้กับเอวเรียบร้อย อู๋ฝานจึงเร่งรีบไปพบหน่วยของตนเอง
“มาใหม่หรือ? ไปทางนั้นและยืนรอ” ชายวัยกลางคนในชุดเกราะยืนตรงหน้ากองพันที่สาม ตอนที่พบเห็นอู๋ฝานเข้ามาใกล้พร้อมกับป้ายไม้ เขาจึงบอกทาง ขณะที่สายตายังคงจับจ้องกวาดมองอุปกรณ์สวมใส่ทั้งตัวของอู๋ฝาน
อู๋ฝานพยักหน้ารับ พบว่าหน่วยที่เขาสังกัดก็ยืนอยู่ที่ตรงนั้น และผู้คนรอบด้านต่างก็อิจฉาต่ออุปกรณ์ที่เขาสวมใส่
จนกระทั่งช่วงบ่าย เหล่าผู้มีพรสวรรค์ของกองพันที่สามจึงมารวมตัว
หนึ่งกองพัน ประกอบด้วยห้ากองร้อย แต่ละกองร้อยจะประกอบด้วยห้าหน่วย และแต่ละหน่วยประกอบด้วยสิบคน
กองพันของอู๋ฝานจึงประกอบด้วยคนจำนวนสองร้อยห้าสิบคน
“ข้าชื่อว่าโจวซาน เป็นหัวหน้าของพวกเจ้า นับจากนี้พวกเจ้าคือสมาชิกของค่ายวิหคกองพันที่สามแห่งราชสำนัก ไปจนกว่าพวกเจ้าจะหมดช่วงเวลาการรับใช้กองทัพ” ชายวัยกลางคนที่พูดกับอู๋ฝานเมื่อครู่นี้ กำลังยืนอยู่ตรงหน้าฝูงชนพูดกล่าวด้วยน้ำเสียงอันดัง และภายหลังจบประโยคแรก เขาจึงหยุดไปครู่ ก่อนที่น้ำเสียงจะลุ่มลึกอย่างกะทันหัน “หรือไม่ก็จนกว่าจะตายจากบนสมรภูมิ!”
ทันใดนี้เองจึงเกิดเสียงฮือฮาที่ด้านล่าง หลายคนกำลังกระซิบกระซาบ บางส่วนแตกตื่น ราวกับความร้อนรนกำลังอัดแน่นในหัวใจของผู้คน
“แน่นอนว่า! พวกเจ้าไม่ต้องกังวลจนเกินไปถึงเพียงนั้น” โจวซานเริ่มพูดต่อ “หน้าใหม่เช่นพวกเจ้าจะไม่ถูกส่งไปยังสมรภูมิ การส่งหน้าใหม่เช่นพวกเจ้าไปยังสมรภูมิ ก็มีแต่จะทำราชสำนักอับอายต่อศัตรู กลายเป็นการทำให้ประเทศอื่นได้เห็นเรื่องราวอันชวนขบขัน ดังนั้นพวกหน้าใหม่ทั้งหลายจงยินดี ยินดีเสียให้เต็มที่ที่พวกเจ้าไม่ต้องถูกส่งไปยังสถานที่ซึ่งอันตรายที่สุด”
คำของโจวซาน ทำให้กลุ่มคนที่ด้านล่างต่างถอนหายใจโล่งอกกันออกมา พวกเขาเคยกินดีอยู่ดี ใครจะอยากไปยังสมรภูมิสู้รบ? กระทั่งอู๋ฝานก็ไม่คิดอยากไป แม้ว่าสำหรับเขาที่นี่คือโลกแห่งเกม แต่การบาดเจ็บคือความเจ็บปวดของจริง แน่นอนว่า แม้จะยังไม่เคยได้รับประสบการณ์ผ่านความตาย แต่มันจะไม่ใช่ความทรงจำอันน่าอภิรมย์อย่างแน่นอน
“เริ่มจากวันนี้ พวกเจ้าจะต้องฝึกฝนกันหนึ่งสัปดาห์ ภายหลังหนึ่งสัปดาห์จะได้รับภารกิจ ภารกิจที่ได้รับมอบหมายคือการขนย้ายเสบียงและคนเจ็บ” โจวซานกล่าวบอก
แม้ว่าพวกอู๋ฝานไม่ต้องไปยังสนามรบ แต่ก็จำเป็นต้องได้รับการฝึก หากไม่แล้วจะไม่อาจเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้กระทั่งการขนส่งเสบียงอาหารและหญ้าก็อาจไม่สามารถทำได้อย่างราบรื่น
“ถัดจากนี้ ข้าจะกำหนดหัวหน้าหน่วยชั่วคราวให้แต่ละหน่วย ส่วนการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จะมีการประกาศภายหลังการฝึกซ้อมเสร็จสิ้น ถึงเวลานั้น จะเป็นการแต่งตั้งโดยอ้างอิงจากประสิทธิภาพของแต่ละคน” โจวซานอธิบายออกมา
คำของโจวซาน เป็นเหตุให้กลุ่มคนที่อยู่ด้านล่างต่างฮือฮากันขึ้นมา
เพราะหัวหน้ากองร้องทั้งห้าคน ทั้งหมดเป็นทหารผ่านศึกที่โจวซานคัดเลือกและนำพามา พวกเขาได้รับการแต่งตั้งนับตั้งแต่แรก ขณะนี้จึงเหลือเพียงหัวหน้าหน่วยยี่สิบห้าคนที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นการชั่วคราว
แม้ว่าเป็นเพียงชั่วคราว แต่ใครบ้างไม่อยากได้ตำแหน่ง? ยิ่งในช่วงเวลาที่ต้องอยู่แนวหน้า มันจะยิ่งมีอันตรายมากขึ้น ตำแหน่งอย่างเป็นทางการย่อมหมายถึงความปลอดภัยมากกว่าพลทหาร อีกทั้งยังมีอำนาจในมืออยู่เล็กน้อย และย่อมมากพอที่จะอำนวยความสะดวกให้ได้
อู๋ฝานไม่คิดใส่ใจในประเด็นนี้ อย่างไรมันก็แค่ตำแหน่งชั่วคราว และยังเป็นเพียงหัวหน้าหน่วย เขาไม่คิดสนใจแม้แต่น้อย ที่เขาคิดตอนนี้ คือการที่จะผ่านพ้นสามเดือนแห่งการรับใช้กองทัพเมื่อใด เมื่อนั้นจะกลับไปยังหมู่บ้าน และเริ่มกิจการเป็นชาวสวน ช่างไม้ และอาชีพอื่นอีกหลากหลาย
หัวหน้าหน่วยเริ่มถูกกำหนดแต่งตั้งทีละคน อู๋ฝานได้พบว่าหัวหน้าหน่วยที่โจวซานแต่งตั้ง ทั้งหมดเป็นคนที่ความสามารถทางกายภาพแข็งแกร่งกว่าสมาชิกในหน่วย ในตอนที่ยังไม่รู้จักดีเท่าใดนัก การแต่งตั้งโดยอ้างอิงความแข็งแกร่งทางกายภาพ อย่างน้อยก็เป็นวิธีการที่ดี คนแข็งแกร่งย่อมดีกว่าคนผอมบาง เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
ในหน่วยของอู๋ฝาน อู๋ฝานไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แม้ตัวเขามีรูปลักษณ์ทางกายภาพดี แต่คนในหน่วยยังมีผู้ที่ดูแข็งแกร่งยิ่งกว่า อู๋ฝานย่อมได้เห็นกล้ามแขนอันแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ที่ดูไปแล้วคล้ายช่างตีเหล็กซุนอยู่ประมาณหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นผู้มีกำลังแขน หากให้คาดเดา อีกฝ่ายอาจเป็นช่างตีเหล็กมาก่อน อย่างน้อยก็ต้องเคยตีเหล็กมาบ้าง
“หน่วยที่สี่” เพียงไม่ช้าโจวซานจึงมาถึงตรงหน้าหน่วยของอู๋ฝาน สายตานั้นมองสำรวจอู๋ฝานและพรรคพวก สุดท้ายจึงชี้มือมายังอู๋ฝานอย่างเหนือความคาดหมาย
“เจ้าเป็นหัวหน้าก็แล้วกัน”
“ฉัน?” อู๋ฝานถึงกับประหลาดใจ
“ข้าไม่เห็นด้วย!” ชายผู้แข็งแกร่งยกมือขึ้นทักท้วง
‘ถ้าเป็นเรา ก็คงไม่ยอมรับเหมือนกัน หน่วยอื่นเลือกหัวหน้าที่ดูแข็งแกร่งที่สุดในหน่วย ทำไมหน่วยนี้เลือกต่างออกไปกันล่ะ?’ อู๋ฝานพึมพำกับตัวเองในใจ
อู๋ฝานพอเข้าใจได้ ว่าชายหนุ่มร่างใหญ่กำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ในใจ
“ไม่พอใจหรือ?” โจวซานหรี่ดวงตา กระทั่งปลดปล่อยกลิ่นอายที่ดูอันตรายออกจากทั้งกาย “เจ้าคิดว่าที่นี่คือที่ไหน? ที่นี่คือค่ายทหาร! เจ้าตอนนี้เป็นทหาร! แม้เป็นทหารจำเป็นของกองทัพก็ยังถือเป็นทหาร! ทหารมีหน้าที่ต้องเชื่อฟังคำสั่ง ไม่ใช่โต้แย้ง! ข้ากำลังพูดถึงการตัดสินใจของตนเอง ไม่ใช่ถามความเห็นเจ้า! เข้าใจหรือไม่?!”
“ขอรับ!” ชายร่างใหญ่ตอบรับเสียงดัง “เพียงแต่ ข้าก็ยังปฏิเสธการยอมรับ! ต่อให้ต้องถูกลงโทษก็ต้องพูด ว่าข้าไม่ยอมรับ!”
“ไม่ยอมรับ? งั้นก็จงทน!” โจวซานตอบกลับ “หากเจ้ามีความสามารถ ระหว่างการฝึกจงแสดงศักยภาพให้ข้าได้เห็น หากเจ้าแสดงฝีมือได้ดีกว่าเขาจนสิ้นสุดช่วงเวลาการฝึกซ้อม หัวหน้าหน่วยอย่างเป็นทางการก็คือเจ้า! แต่ว่า…”
“แต่ก่อนหน้านั้น เขาคือหัวหน้าหน่วยของพวกเจ้า เข้าใจชัดหรือไม่?!” โจวซานเอ่ยถามด้วยเสียงอันดัง
“ขอรับ!” ชายร่างใหญ่ตอบรับ สุดท้ายจึงมองอู๋ฝานด้วยท่าทียั่วยุ “ตำแหน่งหัวหน้าต้องเป็นของข้าคนนี้!”
“มีความทะเยอทะยานเป็นเรื่องดี เพียงแต่ต้องระมัดระวังเรื่องวินัยด้วย!” โจวซานพูดขึ้นมา “จะถือว่าเป็นการละเมิดครั้งแรก ดังนั้นจะมองข้ามให้ก็แล้วกัน แต่หากยังมีครั้งถัดไป เมื่อนั้นก็ต้องใช้กฎกองทัพในการแก้ไข!”
“ขอรับ!” ชายร่างใหญ่ตอบรับ
โจวซานพยักหน้ารับ สุดท้ายจึงเดินต่อไปยังหน่วยอื่น
“หัวหน้าหน่วยจะต้องเป็นข้า” ภายหลังโจวซานเดินไปแล้ว ชายร่างใหญ่จึงบอกกับอู๋ฝานอีกครั้งหนึ่ง ทว่าน้ำเสียงค่อนข้างเบา ราวกับกลัวว่าโจวซานจะได้ยินเข้า
“หากมีความสามารถก็จงคว้าเอาไป” อู๋ฝานตอบกลับเสียงเบาเช่นกัน เพียงแต่น้ำเสียงนั้นเต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจ
เดิมนั้นอู๋ฝานไม่คิดใส่ใจเรื่องตำแหน่งหัวหน้าแต่อย่างใด ไม่ว่าจะอะไรก็ได้ เพียงแต่พอเป็นเช่นนี้ก็ดี เรื่องความเหมาะสมหรือไม่เป็นเรื่องรองลงไป แต่คำยั่วยุของชายร่างใหญ่ มันเป็นการกระตุ้นจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันของอู๋ฝาน
อยากเป็นหัวหน้าหน่วยงั้นหรือ? ก็ได้ หากมีความสามารถจงคว้าเอาไป แล้วมาดูกันว่าใครกันแน่ที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าหน่วย!
“อย่าคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งเพียงเพราะอุปกรณ์ที่สวมใส่ ในสายตาข้า เจ้าก็แค่กระสอบทรายเดินได้! เพียงหนึ่งหมัดของข้าก็มากพอล้มเจ้าได้!” ชายร่างใหญ่เอ่ยคำดูหมิ่นออกมา
“จริงเหรอ?” อู๋ฝานไม่คิดใส่ใจ “เอาไว้พูดคุยกันตอนที่นายได้เป็นหัวหน้าหน่วย ตอนนี้หัวหน้าหน่วยคือฉัน หากยังเอาแต่ทำตัวแบบนี้ต่อไป สุดท้ายจะกลายเป็นละเมิดกฎกองทัพ นายก็น่าจะรู้ถึงผลที่ตามมา”
“เหอะ!” ชายร่างใหญ่แค่นเสียงเย็นชาตอบรับ ทว่าก็ไม่ได้กล้าพูดขัดแย้งอะไรขึ้นมาอีก