รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ - ตอนที่ 105 หนี
บทที่ 105 หนี
พูดถึงตอนนี้ เธอก็อดขำไม่ได้
ตอนแรกที่ครอบครัวหนียังไม่ได้ช่วยลุงเรื่องขอแต่งงาน เรื่องหุ้นหรือเกาะใด ๆ ก็ไม่ได้ส่งผ่านมือเขา ลุงจึงสงสัยในสิ่งที่พวกเขาพูด
แต่ตอนนี้ ความจริงก็ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว ใครเชื่อคำพูดเหล่านั้นของพวกเขาก็บ้าแล้ว
หนีหย่าจูนหันหน้าไปทางหน้าต่าง มองดูวิวข้างนอกแต่หูยังฟังมู่เทียนซิงพูด เขาปิดตาลง แล้วขมวดคิ้ว ราวกับคนท้องผูก
เขาเคยได้ยินจั๋วซีพูดมาว่าเด็กหญิงคนนี้ถึงแม่ประสบการณ์ชีวิตจะน้อย แต่พอฉลาดก็ฉลาดจนน่ากลัว
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว
เธอไร้เดียงสาแต่ไม่ได้โง่เขลา อีกอย่างเธอยังสาวยังสวย หุ่นก็ดี ไม่แปลกที่หลิงเล่จะชอบเธอ
แต่ว่าตอนนี้หนีหย่าจูนคงไม่เวลาไปนั่งนึกถึงความฉลาดของเธอ เขาเปิดประตูรถแล้วรีบลงจากรถไปยืนที่หน่าประตูบ้านแล้วยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ฟ้ามืดแล้ว ผมไม่อยู่รบกวนพวกคุณจู๋จี๋กันแล้ว เวลามีค่าดั่งทองคำ พวกคุณต้องรักษาเวลาล่ะ ผมไปก่อนนะ! ลาก่อน! ”
ไม่ทันรอทั้งสองตอบ เขาก็เดินไปทางประตูคฤหาสน์จื่อเวยแล้วเดินออกไป
มู่เทียนซิงนั่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาแวววาวของเธอมองไปที่กระจกรถ แต่มองเห็นเพียงแค่หน้าของเธอที่สะท้อนมา เพราะข้างนอกมืดมาก แก้วเลยกลายเป็นกระจก
“ลุง.. เมื่อกี้คุณก็เห็นแล้วใช่ไหม”
“เห็นแล้ว”
ในรถพวกเขาไม่ได้มองดูอย่างอื่นเลย แต่มองไปยังหน้าของหนีหย่าจูน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ
เขาคิดว่ามองดูวิวนอกหน้าต่างแล้วจะหลบสายตาจากพวกเราได้ แต่เขาไม่รู้เลยว่า เมื่อรถได้ไกลออกมาจากเสียงสีที่ส่องสว่างในเมือง พวกเขาทั้งสองก็ได้เห็นสีหน้าของเขาอย่างชัดเจน
“ถ้าคุณเห็นแล้ว เราไปดึงผมของหนีหย่าจูนกันเถอะ”
“ได้!”
เมื่อทั้งสองคนตกลงกันเรียบร้อย จั๋วซีก็ได้เดินมาเปิดประตูรถพอดี จั๋วหรันก็มาช่วยพยุงหลิงเล่ มู่เทียนซินก็ไปเข็นรถเข็น ตลอดทางพวกเขาก็ได้ดมกลิ่นหอมของดอกไม้ อาบสายลมยามค่ำ เรื่องเเต่งงานก็เรียบร้อยเเล้ว ทำให้พวกเขาอารมณ์ก็ดีขึ้นมา อีกอย่างวิวตอนค่ำก็ช่างสวยงามน่าหลงใหลเหลือเกิน
เมื่อเดินเข้าไปในบ้านหลังสีฟ้า มู่เทียนซิงง่วงจนทนไม่ไหว เธอหาวและหรี่ตาลง
ลิงเล่ได้ยินแล้วก็ยักคิ้ว “พรุ่งนี้ค่อยไปดึงผมเขาเถอะ คุณง่วงเเล้ว พวกเราไปนอนกันเถอะ”
เธอมองมาที่เขา แล้วพยักหน้าเพราะเธอรู้ดีว่าหนีหย่าจูนจะต้องอาศัยอยู่ที่นี่อีกสองสามปี ในระยะเวลานี้คงหนีไปไหนไม่ได้
เธอเข็นรถเข็นของหลิงเล่ออกมาจากลิฟต์ชั้นสอง แล้วเข็นไปยังห้องใหญ่ของพวกเขา พอเดินผ่านห้องสมุดมาครึ่งหนึ่ง ในที่สุดก็มาถึงห้องนอน ตรงหน้าก็เป็นเตียงวงกลมอันใหญ่ เธอมองไปที่เตียงแล้วก็หาว
หลิงเล่ถอนหายใจเบาๆและมองไปที่หน้าของเธอ “คุณไปอาบน้ำเถอะ แล้วรีบนอน”
มู่เทียนซิงหน้าแดง “แล้วคุณ……”
ตอนนี้ในหัวของเธอก็ได้ปรากฏภาพความทรงจำที่น่าอายขึ้นมา แต่เธอก็ตอบอย่างหนักแน่นว่า “คุณอาบก่อน แล้วก็นอน ฉันจะอาบทีหลัง”
เธอคิดว่าถ้าเธออาบน้ำออกมาแล้วเขานอนหลับแล้วอย่างนี้จะได้ไม่อึดอัด ถึงแม้ว่าจะอ่านนิยายแนวโรแมนติกมาเยอะ แต่ถ้าจะให้เธอกับเขามีเรื่องอย่างว่าตอนนี้ ขาของเขาก็ขยับไม่ได้ งั้นเธอก็คงต้องเป็นคนเคลื่อนไหวเอง พระเจ้า!ภาพนั้นมันติดอยู่ในหัวของเธอ เธออายจนคิดต่อไม่ไหวแล้ว
หลิงเล่จ้องมองไปที่เธอ เขาเห็นด้วยกับคำพูดของเธอ “อือ ลิ้นชักที่หัวเตียงทั้งสองด้านมีกริ่งอยู่ แค่คุณกดกริ่ง โทรศัพท์ด้านล่างก็จะดัง แล้วบอกให้จั๋วซีขึ้นมา”
ฟังแล้ว เธอก็กดกริ่งที่หัวนอน ไม่นานก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา “ ซือซ่าว มีอะไรให้รับใช้คะ”
“พี่อาซือ ซือซ่าวจะอาบน้ำ ให้จั๋วซีมาช่วยหน่อยค่ะ!”
“ได้ค่ะ”ฉวีซือก็ถามอีกว่า“อยากทานหรือดื่มอะไรไหมคะ”
มู่เทียนซิงมองไปยังหลิงเล่ หลิงเล่ส่ายหัว เธอก็เลยพูดว่า “ไม่เอาแล้วค่ะ”
“ค่ะ จั๋วซีไปแล้วค่ะ คุณหนูมู่ต้องการอะไรสั่งได้ตลอดเลยนะคะ”
“อืม”
บทสนทนาจบลง มู่เทียนซิงก็ยืนขึ้นแล้วมองไปที่หลิงเล่ หัวใจของเธอเต้นแรงมาก
เมื่อก่อนคิดถึงแต่เขา คิดถึงจนเจ็บปวด แต่ตอนนี้เขาได้อยู่หน้าเธอแล้ว แถมยังนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับตัวอีกด้วย แค่เอื้อมมือไปก็ถึง แต่เธอกลับอายขึ้นมา
หลิงเล่เริ่มรู้สึกปวดหัว ไม่รู้จะต้องทำยังไง ถึงจะทำให้เด็กคนนี้เริ่มเข้าหาเขาเอง เขาหมุนวงล้อรถเข็นไปใกล้ๆเธอ เมื่อไปถึงห่างกับเธอ1 เมตร เธอก็รู้สึกกระวนกระวาย เลยตีตัวออกหาก เธอวิ่งราวเร็วราวกับกวาง วิ่งไปที่หน้าตู้เสื้อผ้าสีฟ้าดำ แล้วเปิดตู้เลือกหาเสื้อ
“เอิ่ม ลุง ชุดนอนของคุณอยู่ไหน ฉันจะช่วยคุณหยิบ!”
หลิงเล่กุมขมับ พูดอย่างไม่ช้าไม่เร็วว่า“ด้านซ้ายลิ้นชักที่สอง”
มู่เทียนซินรีบเปิดตู้ แล้วก็หยิบชุดนอนผ้าไหมแขนสั้นสีกาแฟออกมาแล้วแกว่งไปมาที่หน้าของเขา “ชุดนี้ได้รึเปล่า”
เขาพยักหน้า
เธอก็หยิบเสื้อมา วางไว้ในอ้อมแขนของเขา แล้วพูด “ ใส่ชุดนี่แหละ”
หลิงเล่มองไปที่ชุดนอน แล้วพูดว่า “อันนี้เหรอ”
สาวน้อย เธอลืมอะไรไปรึเปล่า แม้ว่าผู้ชายจะไม่ใส่ชุดชั้นในเหมือนผู้หญิง แต่ก็ยังต้องใส่กางเกงในนะ
“ซือซ่าว คุณหนูมู่!”จั๋วซีเดินตรงเข้ามายังหลังรถเข็นของหลิงเล่แล้วยื่นมือไปพยุงเขา “จะอาบน้ำตอนนี้ไหมครับ”
หลิงเล่ยังคงมองไปยังที่หน้าของเธอ
สำหรับมู่เทียนซิงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอหยิบชุดนอนให้ผู้ชาย ในใจของเธอมัวแต่คิดเรื่องร่วมเรียงเคียงหมอน เธอกำลังเขินอาย เลยไม่ได้นีกถึงปัญหากางเกงในของผู้ชาย
หลิงเล่พูดช้าๆ ถามเธออย่างจริงจัง “เทียนซิง คุณแน่ใจเหรอ ที่จะให้ผมใส่เสื้อผ้าแค่หนึ่งชิ้น “ เขาคิดว่าเขาพูดชัดเจนแล้วเพราะถ้าพูดตรงๆเรื่องกางเกงในต่อหน้าเด็กคนนี้ เธอคงเขินจนทำอะไรไม่ถูก สุดที่รักของเขา เป็นคนขี้อาย เขารู้ตั้งนานแล้ว
มู่เทียนซิงมองมาที่เขา เธอแค่ต้องการให้เขารีบเข้าไปอาบน้ำ เธอพยักหน้า แล้วพูดอย่างจริงใจว่า “อากาศร้อนแบบนี้ ใส่แค่ชิ้นเดียวก็พอแล้ว คุณรีบไปอาบน้ำเถอะ แล้วก็รีบๆนอน!” หลิงเล่ไม่เข้าใจ เขาคิดว่าหรือตอนนี้กำลังฮิตกับการส่งซิกแบบนี้
เขาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมานาน แต่การตัดจากโลกภายนอกกระทบเฉพาะการสื่อสารกับคนทั่วไป ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการจัดการธุรกิจของเขา
เธอไม่ได้ส่งกางเกงในให้เขา แถมยังเร่งให้เขาไปอาบน้ำและนอนเร็วๆอีก แถมตัวเธอก็ยังหอมขนาดนี้ นี่เธอกำลังส่งซิกให้เขาอยู่รึเปล่า
เขาพยักหน้าด้วยสีหน้าที่สับสน หลิงเล่พูดกับจั๋วซีว่า “เข้าไปเถอะครับ” คุณหนูมู่ก็บอกแล้วว่ารีบอาบรีบนอน
เธอมองดูประตูห้องน้ำปิดลง แล้วก็สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ หลังจากนั้นก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง