รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ - ตอนที่ 110 กัดจนบาดเจ็บ
บทที่ 110 กัดจนบาดเจ็บ
ขณะที่ลิฟต์ลงมาในเวลาสั้นๆ ฝ่ามือของมู่เทียนซิงก็เต็มไปด้วยเหงื่อเนื่องจากความตึงเครียด
เจินเจินที่อยู่ที่เท้าของเธอก็ร้องเหมียว มันจ้องไปที่ประตูลิฟต์อย่างระมัดระวัง
หลังจากมีเสียง ติ๊งงงง !ดังขึ้นประตูลิฟต์ก็ค่อยๆเปิดออก มู่เทียนซิงมองไปด้วยความคาดหวัง ก็พบว่ามีสีเหลืองสดใสอยู่ข้างหน้าเธอ นอกจากกำแพงที่ห่างออกไปสองเมตร ก็ไม่มีอะไรเลย
ถ้าหากข้างล่างไม่มีทางเดิน มีแต่กำแพงสูงตั้งอยู่ แล้วทำไมต้องสร้างลิฟต์มาที่ชั้นล่างด้วย โดยเฉพาะพื้นที่เล็ก ๆ ตรงนี้ ยังมีพื้นอิฐสีเหลืองซึ่งสลักไปด้วยลวดลายที่สวยงาม และมีแสงระยิบระยับออกมาราวกับเพชรพลอย ด้านบนศีรษะยังมีไฟดวงเล็กๆที่ส่องสว่างอยู่ มันสวยงามมาก แต่มันน่ากลัวอย่างอธิบายไม่ถูก
เธอต้องการกดปุ่มลิฟต์ที่ชั้น 2 เพื่อกลับไปที่ห้อง ของเธอ แต่ในขณะที่เธอจะยื่นมือออกไป เจินเจินที่อยู่ที่เท้าของเธอก็สะดุ้งกระโดดหนีไป! เจินเจิน รีบวิ่งไปที่กำแพงอย่างดื้อดึง เลี้ยวไปทางซ้ายและหายไป
มู่เทียนซิงตกใจมาก รีบตะโกน: “เจินเจิน ! เจินเจิน กลับมา!”
เธอดันทุรัง กัดฟันแล้วเดินตามเจินเจิน ออกไปจากลิฟต์หลังจากนั้นก็เดินไปที่กำแพงสูง แล้วก็เลี้ยวไปทางซ้าย!
เป็นอย่างที่คิดไว้ มีทางเดินกว้างๆทอดยาวอยู่ตรงหน้าของเธอ มู่เทียนซิงรู้แล้วว่าที่นี่ต้องมีอะไร ไม่ธรรมดาแน่ๆ
ร่างสีขาวเล็กๆของ เจินเจิน ยังคงวิ่งไปข้างหน้า
มู่เทียนซิงก็ไล่ตามเขาไปพร้อมกับร้องตะโกนว่า เจินเจิน! มานี่ เจินเจิน!
รองเท้าแตะคริสตัลแบบใหม่ที่มู่เทียนซิงใส่อยู่ กระทบลงบนพื้นทำให้เกิดเสียงที่ไพเราะแม้ว่าทางเดินนี้จะได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม แต่ก็ยังสู้ห้องใต้ที่เปียกชื้นในนิยายสืบสวนไม่ได้เลย เธอวิ่งไล่แมวคนเดียว และก็ไม่รู้หนทางข้างหน้าด้วยว่าเป็นอย่างไร มู่เทียนซิงรู้สึกเริ่มกลัว
เธอเดินตามเจินเจิน ไปจนสุดทางเดิน แต่เจินเจินก็เลี้ยวไปอีกทาง!
คราวนี้เจินเจินหยุดกะทันหัน และมู่เทียนซิงก็หยุดตาม! เพราะข้างหน้ามีประตูสีขาวซ่อนอยู่ครึ่งหนึ่ง และดูเหมือนจะมีเงาที่ขยับไปมาอยู่ข้างนอก!
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกกังวลและตกใจ มู่เทียนซิงนั่งยองลง และเรียกเจินเจินอย่างระมัดระวัง “เจินเจิน เชื่อฟังหน่อย มานี่ มานี่ !”
“เหมียว !”
เจินเจินร้องเหมียวๆ ราวกับว่าไม่สามารถทนต่อสิ่งยั่วยุจากโลกภายนอกได้ แล้วเจินเจินก็รีบวิ่งออกไป!
มู่เทียนซิน ตกใจตาค้าง
เธอคิดจะกลับไป แต่เจินเจินยังเล็กอยู่ ถ้าเธอกลับไป แล้วเจินเจินจะเป็นยังไงล่ะ
เหมียว
เอ๊!
“มีแมวอยู่ในนี้ได้ยังไง”
“คุณเหยียบมันแล้ว!”
“เหมียว!”
เสียงอุทานของชายหญิงและเสียงร้องของเจินเจินดังขึ้น มู่เทียนซิงยืนขึ้นด้วยความกลัว แล้วเปิดประตูมองออกไปข้างนอก บริษัทใหญ่ราวกับในละครทีวีปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอ!
พนักงานล้วนแต่งตัวเรียบร้อยและนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง มีฉากกั้นที่สวยงามแบ่งระหว่างโต๊ะคอมพิวเตอร์อย่างเรียบร้อยราวกับตัดแบ่งเค้ก ที่ริมกำแพงยังมีต้นไหม้ใหญ่ที่สวยงาม ไม่ไกลออกไปยังมีตู้ปลาเป็นแนวยาวตามผนังและในตู้ปลายังมีลูกฉลามอีกด้วย
หลังจากที่มู่เทียนซิงออกมา ก็ไม่ได้มีใครสนใจเธอมากนัก เพราะสายตาของทุกคนต่างก็โดนเจินเจินดึงดูดไปหมดแล้ว
เจินเจินวิ่งตรงไปที่ตู้ปลา และเหยียดอุ้งเท้าที่มี่ขนยาวนุ่มของมันลงไปที่ส่วนล่างของตู้ปลา
ในนั้นมีปลาปลาหางเงินหลายตัวแหวกว่ายอย่างมีความสุข
“ ลูกแมวตัวนั้นน่ารักมาก!”
ชินชิลล่า เท่าที่ได้ยินมาแมวชินชิลล่าราคาแพงมาก!”
“ แค่มองแวบแรกก็รู้ว่าเป็นแมวพันธุ์แท้ ดูสิขนของมันสิ ขาวเชียว!”
“แมวตัวนี้มาจากไหนกัน ตัวเล็กจัง”
พนักงานต่างก็เมาท์ไปเรื่อย บางคนยืนดู บางคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป
สองนาทีที่แล้ว
จู่ๆคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานของท่านประธานก็ส่งเสียงสัญญาณเตือน และสัญญาณได้ก็ถูกส่งแบบไร้สายเชื่อมต่อโดยตรงกับโทรศัพท์มือถือของจั๋วซี
เขาคลิกเปิดดู ก็ได้เห็นว่ามีคนขึ้นลิฟต์ของคฤหาสน์ไปที่ชั้นลบหนึ่งและเดินไปที่บริษัท
ในทางเดินที่สวยงามนั้นมีเครื่องตรวจจับอินฟราเรดที่ติดตั้งโดยจั๋วซีอยู่หากใครเดินผ่านไป สัญญาณก็จะดังขึ้น
จั๋วซีรีบกดไปยัง หน้าจอกล้องวงจรปิด เขาก็พบว่าคุณหนูมู่ ได้วิ่งตามเจินเจินไป และได้เข้าไปในบริษัท
และในเวลาเดียวกันนั้น
มู่เทียนซิงคอยดูเจินเจินอย่างระมัดระวังตัว เขาจะถือโอกาสตอนที่เจินเจินกำลังหมกมุ่นอยู่กับการดูปลาจับเจินเจิน
ขณะที่เธอกำลังเดินไปไปหาเจินเจินอย่างช้าๆ พนักงานในห้องก็ค่อยๆสังเกตเห็นเธอ
พนักงานผู้หญิงต่างอิจฉาและพนักงานผู้ชายต่างก็ประหลาดใจ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆคนนี้ราวกับเป็นเทพธิดาที่ตกลงมาสู่พื้นโลก ในตาของเธอเต็มไปด้วยความตึงเครียดและไร้เดียงสา ชุดสีขาวของเธอที่อยู่ภายใต้แสงไฟ ก็สะท้อนแสงสีฟ้าอ่อนออกมา ช่างบริสุทธิ์ราวกับหิมะ
“เธอคือใครกัน”
“ ดูเหมือนว่าจะเป็นเจ้าของลูกแมว”
“พระเจ้า กระโปรงของเธอคือ dior รุ่นที่จัดทำขึ้นพิเศษ มีไม่เกินสิบตัวในโลก!”
“เธอสวยมาก! ทำไมถึงสวยขนาดนี้”
“ไม่น่าแปลกใจตราบใดที่ผู้หญิงสวยมากพอ ผู้ชายก็ยอมที่จ่ายเงินซื้อให้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือแมวแบบไหนก็หาซื้อมาให้ได้” คำพูดซุบซิบเหล่านี้เธอได้ฟังผ่านๆหู แต่ไม่มีคำพูดที่น่าฟังเลยสักคำ
เธอเดาว่าคนเหล่านี้น่าจะเป็นพนักงานของบริษัทของลุง ตอนนี้เธอคิดเพียงแต่ว่าต้องจับเจินเจิน ให้เร็วที่สุด และรีบออกไปจากที่
“เจินเจิน มานี่ เด็กดี เจินเจิน!”
มู่เทียนซิงเดินมาข้างหลังของเจินเจินแล้วค่อยๆย่อตัวลง เอื้อมแขนขาวๆราวกับหิมะของเธอไปที่ตัวเจินเจิน แต่ในเวลานี้ดันมีคนตะโกนว่า “เธอกำลังจับแมว!” เจินเจินตกใจ ไม่ทันได้หันกลับมามองว่าใคร ก็กัดเข้าไปจังๆ
“โอ๊ย!”
มู่เทียนซิงกรีดร้อง และรีบหดมือกลับมาด้วยความเจ็บปวด หลังมือขาวๆของเธอมีรอยฟันสองซี่ และมีเลือดออก พนักงานหญิงที่พูดเมื่อกี้รีบหุบปากทันทีเมื่อรู้ว่าเธอกำลังก่อปัญหา และไม่กล้าพูดออกมาอีก!
“กัดเป็นแผลแล้วรึเปล่า คุณต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้านะ ”
“ใช่แล้ว โดนแมวกัดแล้วใช่ไหม คุณต้องฉีดยานะ! รีบไปฉีดยาเถอะ!”
พนักงานชายสองคนพูดด้วยความสงสาร และพนักงานในห้องก็มารุมดูมากขึ้น!
หลังที่จากเจินเจินกัด มันก็ได้ยินเสียงของมู่เทียนซิงเลยปล่อย พอเห็นว่าตัวเองกัดมู่เทียนซิง มันก็เลยนอนหมอบอยู่ที่เท้าของเธอไม่ไปไหน เหมือนกับเด็กที่ทำผิดและรอให้ผู้ใหญ่ให้อภัย
มู่เทียนซิงรู้ดีว่าเจินเจินเป็นลูกแมว แถมยังขี้เล่นและขี้กลัวอีกด้วย ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นมาทำให้มันตกใจ มันก็คงจะไม่กัด เธอเอื้อมมือไปจับเจินเจินมาไว้ในอ้อมแขน ยังไม่ทันยืนขึ้น ก็มีเงาร่างสูงใหญ่ก็มาอยู่ตรงหน้าของเธออย่างรวดเร็ว ชายคนนั้นเอาเสื้อสูทสีดำคลุมไปที่ไหล่ของเธอแล้วก็โอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา!
ทันใดนั้นเสียงอุทานของพนักงานหญิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ว้าว ท่านประธานหล่อจัง!”
s