รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ - ตอนที่ 124 ประมาท
บทที่ 124 ประมาท
มู่เทียนซิงหัวเราะ“แค่พูดคุยกันแค่นั้นเอง ปกติทั่วไป”
มือเล็กๆค่อยๆเลื่อนขยับจากหน้าอกขึ้นมาลูบคลำๆบริเวณคางของเขา
เธอสาบาน ว่าเธอไม่ได้คิดที่จะเอาเปรียบเขาแน่นอน
แต่แค่บรรยากาศมันพาไป เลยอดใจไม่ไหว!
ผู้ชายบนรถเข็นกลับไม่ขัดและปล่อยวางไปอย่างง่ายดาย“แล้วพวกเธอคุยกันเกี่ยวกับเรื่องอะไรล่ะ?”
“ทำไมหรอ?”เธอบ่นๆ“ทำไมถึงเอาแต่ถามจี้เรื่องนี้?”
เขามองเธอด้วยสายตาที่นิ่งลึก สีหน้ายังคงไร้ซึ่งอารมณ์เหมือนเดิม เขาพูดเน้นทีละคำ“ฉันก็ทำได้”
“ได้อะไร?”
“หัวข้อที่พวกเธอคุยกัน ฉันก็สามารถคุยกับเธอได้ ทำให้เธอยิ้มอย่างมีความสุขแบบนี้ ถ้าเกิดฉันเข้าใจแล้วล่ะก็ ฉันก็จะคุยให้มันสนุกได้ ถ้าเกิดฉันไม่เข้าใจ ก็สามารถเรียนรู้เอาได้ แค่นี้ก็คุยให้สนุกได้แล้ว!”
สรุปสั้นๆก็คือ ไม่ว่าพวกเขาจะคุยอะไรกันก่อนหน้านี้ ยังไงหลิงเล่ก็คุยสนุกกว่าหนีหย่าจูน แน่นอน!
มู่เทียนซิงอ้าปากค้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
ให้ตายสิ คุณอาของเธอกำลังหึงเธออยู่ใช่ไหม?
“คุณ คุณอา?”
เธอรู้สึกตื่นเต้นและกดดันมาก!
ตาจ้องมองเขา เธอยิ้มให้เขาอย่างเจ้าเล่ห์ สองมือค้ำอยู่ตรงคางของตัวเอง“คุณอา คุณชอบฉันมากเลยใช่ไหม ก็เลยกลัวว่าฉันจะถูกผู้ชายคนอื่นแย่งไป? เพราะว่าคุณหนูคนนี้ทั้งสวยอ่อนโยนแถมยังน่ารัก ในโลกนี้หาใครเปรียบไม่ได้อีกแล้วใช่ไหมล่ะ?”
ความเร่าร้อนของเธอดุจทะเลทราย ความเย็นชาของเขาดุจแสงจันทร์“ไม่ใช่!”
มู่เทียนซิงหุบยิ้มลง รู้สึกสับสนไม่น้อย
เขากลับอดขำไม่ได้ หยิกเบาๆที่จมูกของเธอ“ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอ มันไม่ใช่แค่ชอบ”
มันยังมี ความรู้สึกชอบที่ลึกซึ้งหนักแน่นแล้วก็เข้มข้นมากๆ!
มู่เทียนซิงรู้สึกเพียงแค่ว่าดวงดาวที่เต็มท้องฟ้าตอนนี้ได้มาอยู่ในดวงตาของเขา และสองตาของเขา ก็กำลังมาบดบังเงาเล็กๆของเธอพอดี!
“คุณอา ฉันก็รัก……”
“พวกคุณสวีทกันพอหรือยัง ผมรอพวกคุณจนแทบจะหิวตายอยู่แล้ว!รีบมาทานอาหารได้แล้ว!”
ขณะที่มู่เทียนซิงกำลังเตรียมที่จะสารภาพซึ่งยากมากกว่าที่จะได้เห็นเธอทำแบบนี้ จู่ๆหนีหย่าจูนก็เข้ามาขัดบทสนทนาของพวกเขาเอาไว้
เขามานั่งรออยู่ที่ห้องอาหารอยู่นานสองนานแล้ว ไม่เห็นพวกเขาทั้งสองมาสักที แถมอาหารของฉวีซือก็เสิร์ฟครบหมดแล้ว เขารีบร้อนมากจนไม่รู้ว่าจะออกมาเรียกพวกเขายังไง
อาหารบำรุงสุขภาพ อาหารบำรุงสุขภาพ!
คืนนี้ฉวีซือทำอาหารบำรุงสุขภาพ!
มู่เทียนซิงรีบหันหนีอย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจที่ว่าอีกนิดเดียวตัวเองก็จะพูดคำที่กระดากปากออกไปแล้ว
เธอปิดปากเอาไว้ สีหน้าซีดขาว มองหลิงเล่ด้วยท่าทางที่ทำอะไรไม่ถูก เหมือนกำลังมีอะไรติดขัดอยู่ในใจ
ลูกกระเดือกขยับเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะเข้าไปหอมแก้มเธอหนึ่งฟอด
แล้วเขาก็ถามขึ้นต่อ“เทียนซิง เมื่อตะกี้เธอจะพูดอะไรกับฉันเหรอ?”
เจ้าหมาป่าอยากจะฟังกระต่ายขาวบอกว่าเธอรักเขา แต่กระต่ายขาวดันตื่นตัวขึ้นมาก่อน บรรยากาศเมื่อตะกี้ก็หายไปแล้ว ส่วนนักล่านั่นที่สมควรจะตาย กำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหารก็เปิดปากเรียกขึ้นอีกครั้ง“เร็วหน่อย!มีอาหารที่ผมชอบกิน!พวกคุณรีบๆมาหน่อย!”
“แล้วทำไมแกถึงไม่กินแม่งก่อนล่ะวะ?”
หลิงเล่เริ่มรู้สึกโมโหแล้ว!
ไอ้หนีหย่าจูนนี่!สวรรค์ส่งให้มาคอยตามรังควานเขาใช่ไหม?
เขาอยากจะฟังสาวน้อยสารภาพกับเขาจากปากของเธอเองว่า“ฉันรักคุณ”
ทำไมไอ้เด็กนี่ถึงเข้ามายุ่งวุ่นวายไม่หยุดไม่หย่อน?
หลิงเล่สบถคำหยาบออกมาแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาคนในคฤหาสน์จื่อเวยต่างตกใจกันหมด!
มู่เทียนซิงตาโต จั๋วซีก็ไม่กล้าพูดขัด จะมีก็แต่แค่หนีหย่าจูนที่ไม่กลัวตายคนนั้น พูดตอบกลับมาอย่างสบายๆ“ผมก็แค่อยากจะรับประทานร่วมกับพวกคุณ ถึงยังไงพวกคุณก็เป็นเจ้าบ้าน ผมเป็นแขก แต่เจ้าบ้านดันทิ้งแขกไว้นั่งรอที่โต๊ะอาหาร ส่วนตัวเองก็วิ่งไปจู๋จี๋อย่างนั้นเหรอ?”
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าห้องอาหารกับห้องรับแขกมีระยะห่างกัน แล้วต้องใช้เสียงดังพอสมควรถึงจะได้ยินล่ะก็ หลิงเล่ก็จะสงสัยจริงๆแล้วว่า หนีหย่าจูนตั้งใจมาจุ้นจ้านเขา!
ถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก เขามองมู่เทียนซิงอย่างไร้เรี่ยวแรง“สาวน้อย ประโยคเมื่อตะกี้นี้ เธอช่วยพูดให้ฉันฟังอีกรอบได้ไหม?”
“แค่กๆ พี่หย่าจูนรอไม่ไหวแล้ว พวกเรารีบไปทานอาหารกันดีกว่าค่ะ!”
มู่เทียนซิงอาศัยโอกาสที่เขาเผลอ กระโดดออกมาจากอ้อมแขนของเขา กระต่ายน้อยกระโจนออกมาจากการคุมขังของเขาอย่างรวดเร็ว
หลิงเล่จ้องมองฉากที่แสนเศร้าของอ้อมกอดที่ว่างเปล่า ด้วยแววตาที่ค่อยๆเศร้าสลดลง
โต๊ะอาหาร——
หนีหย่าจูนคล้ายๆกับหลิงเล่ ตรงที่เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับอาหารการกิน
ฝีมือการทำอาหารเพื่อสุขภาพของฉวีซือ ได้เรียนรู้มาจากแม่บ้านสกุลเหอ คนหนึ่งของตระกูลหนี ดังนั้นรวมๆแล้วมันก็เป็นรสชาติที่หนีหย่าจูนกินมาตั้งแต่เด็กจนโต ก็เลยรู้สึกว่าคุ้นเคยเป็นพิเศษ
เขามองหลิงเล่และมู่เทียนซิงที่เข้ามานั่งพร้อมกัน แล้วเหลือบไปเห็นฉวีซือที่ทำข้าวราดน้ำซอสเป๋าฮื้อสำหรับเขาคนเดียว ในใจก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นมา
หยิบตะเกียบเข้ามาในมือ ขณะที่เตรียมตัวจะทานกระดูกตุ๋นมันฝรั่งที่อยู่ในหม้อตุ๋นอยู่นั้น ตะเกียบอีกคู่ก็มาปัดของเขาออกอย่างรวดเร็ว แล้วคีบเอาชิ้นที่นุ่มที่สุดไปไว้ในถ้วยของมู่เทียนซิง
หนีหย่าจูนก็ไม่รู้ว่าทำไม เขาจึงยื่นตะเกียบไปที่จานเท้าหมูนึ่ง คีบได้เท้าหมูชิ้นเรียวๆมา แต่กลับมีตะเกียบอีกคู่เข้ามาตีตะเกียบของเขาหนึ่งที ทำให้ตะเกียบแยกออก เท้าหมูชิ้นนั้นก็ตกลงมาในถ้วยของหลิงเล่
หนีหย่าจูนยื่นตะเกียบไปยังหม้อเป็ดตุ๋นถั่งเช่าด้วยความรู้สึกท้อแท้ ผลที่ได้ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
เขาเลยลองไปคีบจานของผักกาดกวางตุ้งที่อยู่ด้านซ้ายอย่างเงียบๆ แต่ว่าหลิงเล่ แม้แต่ผักกาดกวางตุ้งก็ไม่ยอมให้เขากิน!
หนีหย่าจูนก็เริ่มรู้สึกโมโหขึ้นม้าบางแล้ว!
เขาโกรธแล้ว!
วางตะเกียบลง มองหลิงเล่ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์“ซือซ่าว นี่มันหมายความว่ายังไง?”
หลังจากมาเมืองm เพราะว่าเรื่องงานแต่งของหลิงเล่ ทำให้หนีหย่าจูนยุ่งวุ่นวายไปหมด เหนื่อยจนจะเป็นจะตาย อยากจะนอนสักหน่อยก็โดนเขากวนจนตื่น โดนดึงผมอีก ไหนจะโดนทำร้ายทุบตีอีก!
แล้วตอนนี้ พอมาถึงห้องอาหาร นอกจากข้าวราดซอสเป๋าฮื้อแล้ว กับข้าวอย่างอื่นก็ไม่ให้กินเลยสักคำ มันหมายความว่ายังไง?
มันเกินไปแล้ว!
หลิงเล่สีหน้าท่าทางนิ่งมาก ไม่ได้สนใจอะไร แถมยังตักซุปเนื้อต้มเทียนหมาให้มู่เทียนซิงอย่างหน้าตาเฉย จากนั้นก็หันกลับมากินของตัวเอง
หนีหย่าจูนชักจะรับไม่ไหวแล้วจริงๆ
ตอนเด็กถูกคนประคบประหงมมาตลอด แต่พอมาที่นี่กลับโดนทารุณกรรม ความแตกต่างกันนี้……
มู่เทียนซิงเริ่มทนไม่ได้ เธอก็พอจะมองออกว่าหลิงเล่ก็กำลังโกรธเช่นกัน
เธอหันไปพูดกับหลิงเล่“คุณอา พี่หย่าจูนเป็นแขก แถมยังช่วยเหลือพวกเราอีก คุณหยุดทำแบบนี้ได้แล้ว”
หลิงเล่“……”
เธอพูดขึ้นต่อ“เรื่องที่ฉันคุยกับพี่หย่าจูนในห้องรับแขก มันก็แค่เกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยว อาหารที่เป็นเอกลักษณ์ วิวทิวทัศน์แล้วก็สิ่งปลูกสร้างที่มีชื่อเสียงของแต่ละประเทศแค่นั้นเอง”
หลิงเล่“……”
มู่เทียนซิงถอนหายใจเบาๆ มองหนีหย่าจูนด้วยความรู้สึกเกรงใจ เอนหัวลงไป แล้วพูดกระซิบด้วยน้ำเสียงเบาๆ“ให้พี่หย่าจูนกินดีๆเถอะค่ะ แล้วคำสารภาพที่ฉันยังพูดไม่จบ แค่กๆ กลับไปที่ห้องแล้ว จะไปพูดกับคุณแค่คนเดียว!”
หลิงเล่“ได้!”
หนีหย่าจูน“……”
เขาไม่รู้สึกโกรธอีกแล้ว หลังจากที่หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารกินได้สำเร็จ ก็เหลือบตาไปมองหลิงเล่หนึ่งที
หนีหย่าจูนคิดขึ้นมาได้ทันที ที่แท้ เมื่อตะกี้ในห้องรับแขก สาวน้อยกำลังจะสารภาพกับหลิงเล่นี่เอง มิน่าล่ะ พอเขาขัดเข้าหน่อย หลิงเล่โมโหจนถึงกับสบถคำหยาบออกมา!