รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ - ตอนที่ 140 กษัตริย์ทรงเสด็จ
ตอนที่ 140 กษัตริย์ทรงเสด็จ
ถึงแม้ว่าจะนั่งอยู่บนรถเข็นแต่มู่เทียนซิงก็รู้สึกว่า ผู้ชายที่เธอกำลังเข็นอยู่นี้ สูงส่งกว่าผู้ชายทุกคนในโลกนี้!
ก็ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่ตอนไหน ใจที่เริ่มมีความรักนั้น ก็โดนเขาชักจูงไว้ เคารพเขาไว้
ทางที่กลับบ้านนั้นจั๋วหรันขับรถพาฉวีซือ ขับรถอยู่ข้างหน้า
ส่วนจั๋วซีก็ขับรถพาหลิงเล่กับมู่เทียนซิงไป ตามหลังแบบไม่ใกล้ไม่ไกล
รถสองคันนั้นมีแสงดาวประดับ และเต็มไปด้วยความรัก ขับไปยังสถานที่ที่มีกลิ่นหอมของvilacher
อยู่ๆมู่เทียนซิงก็เอนตัวลงนอนในอ้อมกอดของหลิงเล่ไว้ หัวเล็กๆนั้นนอนอยู่บนตักของเขา ว่า:”คุณลุง คุณเริ่มรักฉันตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ?”
หลิงเล่มือหนึ่งวางลงบนเอวของเธอยังเป็นธรรมชาติ ส่วนอีกมือก็ช่วยเธอหวีเส้นผมที่อยู่บนหน้าผาก
ตาทั้งคู่จ้องมองเธอ ยังไงก็ดูไม่อิ่ม แต่ก็ไม่พูด
เธอยิ้มออก ว่า:”หรือว่าเป็นตอนที่ครึ่งปีก่อนนั้นข้างล่างของที่เก็บน้ำเมืองชิงเฉิง ที่ฉันผายปอดให้คุณ คุณคิดว่าฉันจูบคุณ จากนั้น ฉันก็หนี คุณตามหาฉัน ก็หาไปเช่นนี้ครึ่งปี คุณคิดถึงทุกวัน คิดถึงทุกวัน คิดไปคิดมา ก็คิดจนเป็นนิสัย เลิกไม่ได้แล้ว รักฉันแล้ว?”
เขาก็ยังคงปิดปากไม่ตอบ ความอ่อนโยนในตานั้น รุนแรงจนแทบจะปิดไม่ได้
ก้มหัวลง เขาดมกลิ่นหอมของผมเธอชอบมากๆ แล้วเอาจมูกถูกับใบหน้าของเขาเหมือนกับหมาน้อย เหมือนกับการชอบตามสัญชาตญาณของสัตว์
ตลอดทางนั้น ไม่ว่าเธอจะบ่นยังไง จินตนาการยังไง เขาก็ไม่รบกวน
เขาชอบฟังเธอพูด ชอบดูเธอบ่น
หลิงเล่ไม่เคยติดตามไอดอล เขาไม่มีอารมณ์นั้น และไม่มีเวลานั้นด้วย แต่ว่า เสียงของเด็กสาวนั้น ก็เป็นเสียงเพลงที่ไพเราะที่สุดเท่าที่เขาเคยฟังมา
ในตอนที่ทั้งสองคนนั้นจะถึงที่บ้าน มู่เทียนซิงเพิ่งจะคิดได้ว่า:”มือถือของฉัน……”
หลิงเล่ยิ้มแล้ว กัดติ่งหูของเธอเบาๆที่ข้างหูเธอ แล้วจึงพูดออกมาว่า:”รอหย่าจูนออกจากโรงพยาบาลแล้ว ให้จั๋วหรันไปซื้อพร้อมกับพวกคุณนะ ในเวลานี้คุณห้ามไปไหนเลยนะ อยู่ข้างตัวผมดีๆ ยังไงคุณก็บอกแล้วว่า คุณเอามือถือไปก็ไม่มีประโยชน์ คุณคิดถึงผมก็ดี รักผมก็ดี ผมก็อยู่ต่อหน้าคุณ คุณบอกกับผมเลยก็ได้ ถ้าอยากโทรหาคนที่บ้าน ก็ใช่มือถือผมโทร!”
“ใครคิดถึงคุณแล้ว ใครรักคุณแล้ว”
มู่เทียนซิงลุกขึ้นจากขาของเขา มองดูรอบๆแบบเขินอายว่า:”ใครนะใครนะ คือใครนะ คนที่จะแย่งที่รักจากฉันหรอ?”
หลิวเล่ยิ้มออกมา มองดูหน้าตาขี้เล่นของเธอนั้น แล้วอุ้มร่างของเธอขึ้น จุ้บลงไปบนแก้มของเธอ จุ้บก่อนแล้วค่อยพูด!
คืนนั้น มู่เทียนซิงอาบน้ำก่อน หลังจากที่กลับถึงบนเตียงใหญ่ เธอก็จับถาดผลไม้ที่ฉวีซือให้มาไว้ กินไปด้วย ดูซีรี่ย์ไปด้วย
จั๋วซีดันหลิงเล่ออกมาจากห้องน้ำ แล้วเธอก็ลงจากเตียงช่วยจั๋วซีปูที่นอนให้กับหลิงเล่
หลิงเล่บอกเขานอนไม่หลับ เพราะงั้น พวกเขาสองคนก็นอนพิงหัวเตียงแล้วกินผลไม้ไป ดูทีวีไปด้วยกัน
เวลาผ่านไปไวมาก สองคนนั้นดูไปก็คุยกันไป บรรยากาศดีมากเลย
มู่เทียนซิงพบว่า หลิงเล่เพิ่งจะเคยดูเรื่องรักๆแบบนี้ครั้งแรก ตอนที่ผู้ชายในหนังนั้นมีกิ๊ก แล้วเรื่องแรกที่กลับถึงบ้านก็คืออาบน้ำ แล้วก็เอาเสื้อผ้าทั้งหมดลงในเครื่องซักผ้าเสร็จ แล้วถึงจะกล้าออกมาอยู่ต่อหน้าภรรยา
มู่เทียนซิงเอารีโมทขึ้น บอกว่าดูต่อไปไม่ไหว ผู้ชายคนนี้เลวเกินไป
เพราะงั้น คืนนี้หลิงเล่ก็เรียนรู้คำใหม่ :”ผู้ชายเลว”
เที่ยงคืน ปิดทีวี ปิดไฟ
เขากอดเธอไว้ในอ้อมกอด ทั้งสองคนไม่มีเรื่องอะไร เขาก็ไม่ได้ไปกวนเธอ
รอจนเธอคิดว่าเขากลับไปแล้ว เขาก็บอกกับเธอแบบตั้งใจว่า:”ที่รัก ผมไม่เป็นผู้ชายเลวแน่นอน คุณไว้ใจได้เลย!”
มุมปากของมู่เทียนซิงกระตุก ยิ้มแล้ว
คืนนี้ ฝันดี ต่อกัน
–โรงพยาบาล
สภาพของหนีหย่าจูนนั้นเสียหายมากกว่า
อาจเป็นเพราะปีนี้เขาดวงซวยมั้ง ไม่ก็เขาไม่ถูกกับเมืองเอ็มอยู่แล้ว
นอนสลบมาตั้งนาน จนที่หลิงเล่เขากำลังจะเข้าไปในฝัน เขาเพิ่งตื่นมา
สองตาลืมขึ้น ตัวแรกที่เขาเรียกออกมา คือ:”พี่ชาย~!”
แต่เขาในตอนนี้ คนที่เห็นได้นั้น มีแค่:คุณหมอ!
คุณหญิงเยว่หยาเป็นคุณน้าของคุณชายหนี ภายนอกมีข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าจะส่งที่ให้กับคุณชายหนี เพราะงั้น ถึงแม้ว่าคุณหมอจะช่วยชีวิตหนีหย่าจูนไว้ได้ คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะเดินไปไหน กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก
โซฟาที่ห่างจากนี้ไม่ไกล หนีซีโย่วถือมือถือไว้ส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มครอบครัว
หนีจื่อหยางกับหนีซีมู่ก็เป็นห่วงหนีหย่าจูนเหมือนกัน คนข้างนอกมาบอกว่า หลิงเล่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว หนีซีโย่วอึ้งไปสักพัก แล้วส่งเรื่องนี้เข้าไปในกลุ่มครอบครัว กลัวว่าคนอื่นจะเป็นห่วงหลิงเล่ด้วยเช่น
ตอนที่หนีหย่าจูนเริ่มมีเสียงออกมาโม่หลินก็รีบพูดว่า:”คุณหญิง คุณชายหนีตื่นแล้ว!”
หนีซีโย่ววางมือถือลงแล้วรีบพุ่งเข้าไป จับมือของหนีหย่าจูนไว้ ว่า:”หย่าจูน~คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
หนีหน่าจูมองดูหนีซีโย่ว:”พี่ชาย!”
ทุกคนในนั้น:”……”
คุณหมอถือไฟฉายเล็กๆไว้ แล้วส่องเข้าไปในตาของหนีหย่าจูน
แล้วทำการตรวจร่างกายให้กับเขาเหมือนกับผู้ป่วยทั่วไป
ปรับความเร็วของเครื่องหยอดน้ำเกลือให้ช้าลง เขามองดูตาของหนีหย่าจูน ว่า:”คุณชายหนี ในนี้มีคนที่คุณรู้จักมั้ยครับ?”
สมองของหนีหย่าจูน ในตอนนี้ยังมึนๆอยู่เลย
หนังศีรษะของเขาเป็นแผลแล้ว ตอนนั้นสลบอยู่บนรถ รอส่งมาถึงโรงพยาบาลแล้ว เขาก็จะตื่นแล้ว แต่แค่บอกว่าเจ็บอย่างเดียว
จั๋วซีแบกเขาเข้าไป เรียกชื่อของเขาเสร็จ คุณหมอกลัวเขาเจ็บ เห็นว่าแผลบนหัวของเขาต้องเย็บเอา กลัวเขาจะไม่ยอมร่วมมือ และก็กลัวว่าตอนลงมือจะทำผิดกับคนชั้นสูง จึงทำให้เขาชาทั้งตัว ให้เขาหลับไปเลย
เพราะงั้น พอหนีหย่าจูนตื่นขึ้นมา ก็เป็นห่วงสภาพของหลิงเล่ นี้จึงเรียกพี่ชายออกมา
แต่หลังจากนั้นเขารู้สึกหนังศีรษะเย็นๆไว้ หนาวมาก เขาอยากยกมือไปจับ แต่ความเจ็บปวดทั้งตัวนั้นยังไม่หาย หลังมือก็มีเข็มอยู่
เขาลืมตากว้างขึ้นอีก แล้วตั้งสติไว้ เพิ่งจะสังเกตว่า หนีซีโย่วยืนอยู่ข้างหน้าของเขาแล้ว มองดูเขาอย่างเร่งรีบ
เขายิ้ม:”คุณน้า!ผมยังไม่ตายหรอ?”
หนีซีโย่วไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ว่า:”พูดอะไรมั่วๆนะ!อะไรตายไม่ตาย คุณยังมีชีวิตอยู่นะ”
จากนั้นสายตาของเธอ ก็กวาดไปทางที่หนีหย่าจูนโดนเย็บบนหนังศีรษะ ว่า:”คุณมีชีวิตดีมาก!ล้มโดนท้ายทอยแล้ว หนังศีรษะก็เป็นแผล เย็บไปหลายเข็ม อย่างอื่น ไม่มีอะไรมากแล้ว คุณวางใจได้ รักษาตัวดีๆ อีกไม่กี่วันก็คงได้ออกไปแล้วละ”
หนีหย่าจูนพยักหน้า มองเห็นคุณหมออยู่ จึงไม่ได้ถามถึงหลิงเล่
และขณะเดียวกัน ประตูของห้องผู้ป่วยก็โดนดึงออกจากภายนอกอย่างแรง!
ร่างเงาที่สูงใหญ่หนึ่งร่าง ย่างเท้าเข้ามาด้วยบรรยากาศที่น่ากลัว!
คุณหมอมองดูชายที่อยู่ข้างหน้า ก็ตกใจจนเท้าอ่อนทั้งคู่ โดนความน่าเกรงขามของเขากดจนคุกเข่าลงไป:”พระ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว