รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ - ตอนที่ 179 โย่วฉี
บทที่ 179 โย่วฉี
มู่เทียนซิงฝึกสีหน้าเสร็จ สูดลมหายใจลึกๆหนึ่งทีต่อกระจกรถ ปิดปากตนเองไว้อย่างแน่น ใบหน้าน้อยเนื่องเพราะเป่าลมเข้าทันทีนั้นกลายเป็นลูกบอลกลมๆลูกหนึ่ง จากนั้นเธอยกมือน้อยที่ขาวอ่อนนุ่มของเธอขึ้นมาอีก ตบซ้ายตบขวาเบาๆกับหน้าตนเองข้างละที ลมที่อยู่ในปากปล่อยออกทันที ดูเหมือนปากกำลังผายลมอยู่!
นี่คือตอนที่เธอยังเด็กๆ เป็นเกมที่พ่อแม่มักจะเล่นกับเธอ
นึกถึงไร้กลัดกลุ้มไร้กังวลกับความสุขที่พึ่งพิงอยู่ในอ้อมอกของพ่อแม่ในช่วงเวลานั้น ในใจของมู่เทียนซิงรู้สึกอบอุ่นขึ้นในทันที ใบหน้าน้อยทั้งใบก็เหมือนดั่งแสงอาทิตย์
“เหอะๆๆ~!”
ผู้ชายผ่านกระจกรถ จ้องมองสาวน้อยที่น่ารักใช้ปาก “ผายลม” กับตนเองอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เขาไม่เคยเห็นสายตาที่ใสสะอาดไร้เดียงสาขนาดนี้มาก่อน ก็ไม่เคยเห็นสีหน้าที่ปรับเปลี่ยนน่าสนใจมากมายขนาดนี้ บุคลิกดีที่สะอาดสดชื่นว่องไวปราดเปรียวที่อยู่บนกายของสาวน้อยคนนี้ งดงามจนไม่เหมือนคนที่มาจากโลกใบนี้ สามารถที่จะทำให้จิตใจของคนสั่นไหวอย่างง่ายดาย
กระจกรถที่สีเข้มอยู่ดีๆค่อยๆเปิดลง อยู่ในสายตาที่แปลกใจของมู่เทียนซิง ใบหน้าที่สวยงามมากใบหนึ่งค่อยๆปรากฏอยู่ต่อหน้า
เส้นผมสีม่วงเข้มประณีตและเส้นเล็กละเอียด ตาที่สีฟ้าเขียวดั่งดวงจันทร์ดั้งจมูกที่สูง ริมฝีปากสีแดงเชอร์รี่ ใบหน้าที่สวยกว่าผู้หญิง เกิดอยู่บนกายของผู้ชายเพิ่มกลิ่นอายปีศาจเล็กน้อย มู่เทียนซิงมีความตะลึงตาค้างเล็กน้อย นี่เป็นบุคคลที่เดินออกมาจากในหนังสือการ์ตูนหรือ?
สายตาค่อยๆเลื่อนลงถึงลูกกระเดือกที่ขาวสะอาดหมดจดของเขา เพียงมองทีเดียว หลังจากแน่ชัดว่าเขาเป็นผู้ชาย เธอสูดลมเย็นกลับเข้ามาหนึ่งที!
ผู้ชายอย่างนี้ สวยก็สวยอยู่ แต่กลับจงอย่ามาเป็นสามี ไม่งั้นออกไปด้วยกันล่ะก็ ผู้หญิงที่สวยขนาดไหนก็จะรู้สึกต้อยต่ำเช่นกัน
ยังเป็นคุณลุงของบ้านเธอดีกว่า แม้ว่าหล่อจนขึ้นบนฟ้าไปแล้ว ก็ยังราบเรียบดั่งหิมะเช่นกัน ไม่เปื้อนละอองฝุ่น
แต่คนนี้ที่อยู่ต่อหน้า กลับรินหลั่งด้วยกลิ่นอายปีศาจ
กับความหล่อแบบนั้นของคุณลุงบ้านเธอ พอดีเป็นความต่างกันโดยสิ้นเชิง
“เหมือนดั่งเทพกับปีศาจ” ประโยคที่เธอเอ่ยปากพูดอย่างเบาๆ ผู้ชายฟังไม่เข้าใจ กลับอมยิ้มหนึ่งที พูดกับเธอว่า “ผมดูดีมากหรือ?”
มู่เทียนซิง “…….”
ทันทีนั้นใบหน้าไร้สีหน้าหมุนตัวกลับมานั่งดีๆ ปิดกระจกรถขึ้น เธอแลบลิ้นน้อยต่อๆกัน พูดไม่ออกเต็มใบหน้าว่า “สมัยนี้ ผู้ชายที่หลงตนเองอวดดีช่างไม่น้อยจริงๆ”
จั๋วซีไม่ได้ใส่ใจ โม่หลินกลับตอบไปคำหนึ่งว่า “เป็นยังไงแล้วหรือ?”
มู่เทียนซิงส่ายหัวต่อๆกัน เห็นได้ชัดว่ารู้สึกเรื่องนี้เล็กน้อยจนไม่จำเป็นต้องพูด
แต่ว่า……
“ใช่แล้ว คนที่มีเส้นผมที่ท่ามกลางสีดำแฝงไว้ด้วยสีม่วง ยังมีดวงตาสีฟ้าเขียวแบบนั้น เป็นคนประเทศอะไรหรือ?”
มู่เทียนซิงบิดคิ้วน้อยอยู่ ตั้งแต่เล็กจนโต ตามพ่อแม่ไปท่องเที่ยวทั่วโลก ประเทศที่เธอเคยไปก็ไม่น้อยเช่นกัน เคยเจอคนไม่น้อย แต่เส้นผมสีแบบนี้ น่าจะย้อมมา แต่ว่าดวงตาที่เป็นสีอย่างนั้น กลับเป็นโดยกำเนิดอย่างแน่นอน
จั๋วซีดูเหมือนคิดแล้วคิดอีก พูดว่า “ไม่เคยได้ยินเส้นผมสีม่วงมาก่อน แต่ว่าคนที่ดวงตาสีฟ้าเขียวมีมากมาย ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเชื้อสายตะวันตก หลายประเทศมากมายล้วนมี”
เสียงพูดเพิ่งจบลง ถนนที่อยู่ข้างหน้าเคลียร์ไปไม่น้อยแล้ว จั๋วหรันค่อยๆขับรถ ติดตามอย่างคล้อยตามคนอื่นไปทุกอย่าง
มาเซราติสีขาวคันนั้นที่อยู่ข้างๆ ก็ค่อยๆขยับขึ้นมาเช่นกัน
เพียงแต่ คนรับใช้อดไม่ได้บอกกับผู้ชายคนนั้นว่า “องค์ชายสาม การกระทำที่เปิดกระจกออกของท่านเมื่อกี้ไม่เหมาะสมจริงๆนะ”
ผู้ชายอึ้งชะงักหนึ่งที จากนั้นยิ้มแล้ว “ผมรู้ แต่ว่ามองเห็นใบหน้าน้อยที่น่าสนุกใบนั้น ทันทีนั้นอดทนไม่ไหวน่ะ”
หลังจากคนรับใช้ได้ยินคำพูด ครุ่นคิดขึ้นมาอย่างจริงจังมาก “ถ้าหากว่าองค์ชายสามชอบ ตอนที่พวกเราออกจากประเทศหนิง พาเธอไปด้วยกันก็แล้วกัน แต่ว่า ผู้หญิงต่างชาติแต่งเข้าราชวงศ์มากที่สุดได้เป็นเพียงแค่สนมท่าน”
“นี่จะมีอะไรล่ะ? เสด็จแม่ของผมก็ยังเป็นเชลยที่เสด็จพ่อแย่งกลับมา!”
ผู้ชายเอ่ยปากโดยไม่ผ่านการครุ่นคิด “บนกายผมมีครึ่งหนึ่งก็เป็นเชื้อสายของต่างชาติ”
ผู้ชายค่อยๆแบมือออก เห็นแม่กุญแจทองน้อยที่อยู่ในฝ่ามือ “โย่วฉี”สองตัวอักษรที่อยู่ข้างบนเห็นได้ชัดเจน
นี่เป็นตัวอักษรของประเทศหนิง!
เก็บแม่กุญแจทองน้อยให้ดีๆ เขาพูดอีกว่า “หากว่าผมรักเธอจริงๆ ผมยินดีเลียนแบบเสด็จพ่อของผม เพื่อเสด็จแม่ยกเลิกตำหนักหลัง รักใคร่โปรดปรานเฉพาะเธอคนเดียว”
แต่น่าเสียดายได้เพียงแค่วาสนาเจอหน้ากันครั้งเดียว เขายังไม่ถึงขั้นที่ดีเลิศเกินจริงที่เพราะพบกันโดยบังเอิญความรู้สึกที่ลึกซึ้งอย่างนี้
และไม่ได้ใช้เวลามาก ถนนไหล่ลื่นโดยสิ้นเชิง
โรลส์รอยซ์สีดำกับมาเซราติสีขาวค่อยๆตามกระแสรถขับเข้าไปในทางต่างกัน ขับต่างทางไปเลย
จั๋วซีพาผู้หญิงทั้งสองเดินเล่นอยู่ในเมืองอันคึกคัก ซื้อมือถือใหม่ให้แก่มู่เทียนซิงก่อน และลงทะเบียนซิมการ์ดให้กับโม่หลินอีก มู่เทียนซิงเสียบซิมการ์ดของตนเองเข้าไปในมือถือใหม่ ส่วนโม่หลินก็ใส่ซิมการ์ดใหม่เข้าไปในมือถือเก่าของมู่เทียนซิง
หลังจากจัดการเรื่องเล็กๆน้อยๆเสร็จแล้ว มู่เทียนซิงเริ่มโทรหาเจี่ยงซิน
ทันทีที่ฝั่งโน้นรับสาย เจี่ยงซินก็ตื่นเต้นเหลือเกิน “ที่รัก! ในที่สุดแกก็โทรหามาแล้ว!” ได้ยินเสียงของแม่ มู่เทียนซิงก็น้ำตาคลอ
“แม่ คนของตระกูลเมิ่งไปหรือยัง?” มู่เทียนซิงกลั้นน้ำตาไม่ให้ตกลงมา เธอกลัวว่าแม่ได้ยินจะเจ็บปวดใจ “ตอนนี้ฉันกำลังเดินเล่นอยู่ล่ะ ฉันคิดถึงคุณกับพ่อแล้ว พวกคุณสามารถออกมาไหมพวกเราไปกินข้าวด้วยกัน?”
เจี่ยงซินได้ยินคำพูด เสียดายมากจริงๆ “นี่จะทำยังไงดีล่ะ นี่จริงๆนะ…….คุณลุงเมิ่งของแกเพิ่งซื้อที่ผืนหนึ่งในเขตที่พัฒนา เรื่องการสร้างโรงงานตกลงกันเรียบร้อยแล้ว วันนี้เช้าตรู่รถทั้งสองคันของพวกเราล้วนขึ้นทางด่วนจากเมืองชิงเฉิงแล้ว หนึ่งคือช่วยคุณลุงเมิ่งของแกวางแผนแผนการที่จะย้ายโรงงานสักหน่อย สองก็จะพอดีเอาการ์ดเรียนเชิญของงานหมั้นแกกับซือซ่าวส่งไปให้ญาติเพื่อนๆสักชุด ทักทายสักหน่อย”
มู่เทียนซิงมือหนึ่งถือมือถือไว้ อีกมือหนึ่งปิดปากน้อยไว้ ก็ร้องไห้ขึ้นมาเช่นนี้
เธอไม่กล้าร้องไห้ออกเสียง เพียงตามใจน้ำตาไหลลงจากแก้มอย่างอิสระ
โม่หลินกับจั๋วซีที่เฝ้าคุ้มครองไว้อยู่ไม่ไกลเห็นแล้ว ล้วนเจ็บปวดใจเช่นกัน ในใจรู้ว่าคุณหนูมู่คิดถึงบ้านแล้ว ก็คิดถึงพ่อกับแม่เช่นกัน
“โอ๊ะ งั้นก็แล้วไป พวกคุณจะกลับมาเมื่อไหร่ โทรหาฉัน ตอนนี้ความรักระหว่างฉันกับคุณลุงดีมากเลย เขาไม่จำกัดฉันเข้าออกคฤหาสน์จื่อเวยอีกแล้ว ดังนั้น พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีก ตอนนี้ฉันใช้ชีวิตอย่างดีจริงๆ”
“อืม” ฉันรู้แล้ว เจี่ยงซินพูดไปพูดมาก็ร้องไห้เลย ไม่กล้าพูดคุยมากดั่งปกติ บอกว่า “ครั้งก่อนเมยเมยกับเสี่ยวหวีไปหาแกที่คฤหาสน์จื่อเวย วิดีโอเหล่านั้นจั๋วหรันส่งมาให้พวกเราแล้ว พวกเธอแม่ลูกทำเกินไปแล้ว ตอนนั้นคุณลุงเมิ่งของแกโมโหจนตบหน้าเสี่ยวหวีสองที และดุด่าน้าเมยของแกอย่างรุนแรงหนึ่งยก ตอนนี้เสี่ยวหวีกับเสี่ยวหลงล้วนกลับไปโรงเรียนไม่ได้แล้ว คุณลุงเมิ่งของแกคิดว่าจากนี้ไปจะให้พวกเขาอยู่ที่เมืองM ให้เสี่ยวหวีเรียนรู้การทำบัญชี ให้เสี่ยวหลงออกไปหาลูกค้าด้วยกัน”
“โอ๊ะ”
“อืม ก็ไม่มีเรื่องอื่นอีกแล้ว ตัวแกเองดูแลตนเองให้ดีๆ รอพวกเรากลับมาจากเมืองชิงเฉิง ก็จะโทรหาแก พวกเราทั้งสามคนถึงเวลานั้นค่อยนัดรวมตัวกันอีก”
“ได้”
หลังจากพูดคุยสายเสร็จ ใบหน้าน้อยของมู่เทียนซิงเงาวาวใสแป๊วไปหมดแล้ว
โม่หลินขึ้นส่งทิชชูไปให้ “คุณหนูมู่”
มู่เทียนซิงรับมา รีบเช็ดใบหน้าน้อยให้สะอาด
จั๋วซีอมยิ้มหนึ่งที อยากกล่อมเธอให้ดีใจ “คุณหนูมู่ พวกเราจากนี้จะไปเที่ยวไหนต่อดีล่ะ?”