รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ - ตอนที่ 36 หล่อนฉี่จริงๆ ตกใจจนฉี่
ตอนที่ 36 หล่อนฉี่จริงๆ ตกใจจนฉี่
คนที่ประกาศว่าให้เหล่าผู้บริหารของบริษัทมาประชุมอีกสิบห้านาทีคือหลิงเล่
คนที่ฟังสาวน้อยพูดเรื่องในใจอยู่ใต้หน้าต่างเป็นชั่วโมงก็คือเขา
ในขณะนี้เองจั๋วซีไม่กล้ารบกวนเขา โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นไม่หยุด เหล่าผู้บริหารในห้องประชุมต่างรอไม่ไหวและก็ไม่กล้าถามหลิงเล่ตรงๆ หรือสร้างความลำบากให้เขา
จนในที่สุดเขาก็ปรากฎในห้องประชุมของบ้านหลังใหญ่ ชายหญิงในห้องประชุมต่างลุกขึ้นมามองเขาอย่างมีมารยาท“คุณชายสี่”
ไฟสาดส่องไปที่ผมสั้นของเขาที่จัดแต่งมาอย่างดี พร้อมกับคางโค้งมนที่สวยงาม หลิงเล่พยักหน้าเล็กน้อย ตอนที่จั๋วซีเข็นเขาเข้าไปที่สัญลักษณ์ที่เป็นห้องประชุมตรงด้านบน ขายกมือขึ้นนิดๆ ทุกคนต่างนั่งลง
จั๋วซีเริ่มพูดแทน:“ตอนบ่ายมีคนบอกผมว่าการขายเครื่องดนตรีที่เจียงเป่ยถูกปิดกั้น ร้านกว่าสิบห้าร้านต่างถูกปิด เรื่องนี้ เกิดอะไรขึ้น?”
สายตานิ่งๆ ของผู้ชายตรงรถเข็นมองเข้ามา มีความใจร้อนซ่อนอยู่
สีหน้าของทุกคนเริ่มกังวล
ผู้ชายวัยกลางคนด้านขวามือคนที่สามลุกขึ้นพูดอย่างซีเรียส:“คุณชายสี่ คือแบบนี้ ช่วงนี้เจียงเป่ยมีสมาคมเครื่องดนตรีเจียงเป่ยขึ้นมาใหม่ โรงงานผลิตเครื่องดนตรีที่มีชื่อเสียงในประเทศต่างเข้าร่วม พวกเขาปรับราคาของสินค้าแต่ละชนิดทั้ง……ต้นทุน ประสิทธภาพ บอสของโรงงานเครื่องดนตรีต่างจับมือกันอยากผูกขาดยอดขายของสมาคมเครื่องดนตรีเจียงเป่ย อนาคตราคาเพิ่มขึ้นหรือต่ำลงเป็นต้น ต่างมีสมาชิกของสมาคมเครื่องดนตรีนี้ร่วมตัดสิน”
ผู้ชายข้างๆ เขาก็ลุกขึ้นตาม:“คุณชายสี่ พวกเขามีชื่อที่สวยงาม:เพื่อที่จะจัดสรรทรัพยากรทางเศรษฐกิจอย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อที่จะปรับปรุงตลาดเครื่องดนตรีให้ดียิ่งขึ้น พัฒนาคุณภาพของการผลิตเครื่องดนตรี เพื่อผลักดันการพัฒนาทางเศรษฐกิจอีกด้าน แม้แต่ทักษะการผลิตเครื่องดนตรี แต่ว่า ก็อย่างที่บอกว่าต้องการผูกขาดตลาดเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว”
หลิงเล่ฟังอย่างตั้งใจ นิ้วเรียวยาวอยู่ที่จอนของเขา เวลาที่เขาประชุมมักเคยชินที่จะแสดงความคิดอย่างรอบคอบในหัวแบบนี้
ราวกับว่าทุกสิ่งบนโลกแขวนอยู่ตรงหน้าเขา ซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนี้ ทั้งที่ไม่มีสารถสำคัญอะไรเลย
ทั้งสองพูดจบจั๋วซีก็ก้มลงพูดที่ข้างๆ หูหลิงเล่:“คุณชายสี่เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้ดูแลสมาคมเครื่องดนตรีนี้ได้ส่งจดหมายเชิญให้พวกเราด้วย เชิญให้เครื่องดนตรีห้วนเทียนเข้าร่วมกับสมาคมของพวกเขา แต่ท่านปฏิเสธไป”
หลิงเล่เข้าใจแล้ว
สมาคมเครื่องดนตรีพวนนี้มีทัศนคติที่ชัดเจนคือ:อยู่ก็อยู่ด้วยกัน ตายก็ตายด้วยกัน
แค่กลัวว่าช่วงนี้เครื่องดนตรีที่ถูกปิดไม่ได้มีแค่ของยี่ห้อห้วนเทียน ยังมีอีกหลายยี่ห้อ
ห้วนเทียนก่อสร้างด้วยไม้ฮอกกานีของเกาะ Tekong ในสิงคโปร์มานานแล้ว ถึงตอนนี้ทำมานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว อายุของยี่ห้อยังมากกว่าหลิงเล่ ยอดขายสูงไปทั่วโลก
ปิดไป15ร้านคงไม่อะไร แต่ว่าถ้าตอนนี้ไม่ทำอะไร ต่อไปจะต้องไม่หยุดแค่15ร้านแน่
จั๋วซีไตร่ตรองความคิดของหลิงเล่ ในใจก็เต้นตึบตับ
พอคิดดูก็เหนื่อยจริงๆ คุณชายสี่มีธุรกิจอยู่ในมือมากมาย เกี่ยวกับเรื่องของห้วนเทียนก็ต้องระมัดระวังให้ดี แม้ว่ายี่ห้อของห้วนเทียนจะปนเปื้อนมลทินไปนิดหน่อย คุณชายสี่ก็ไม่อาจล้างมือด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องพูดถึงสมาคมนั่นที่คว่ำบาตรร้านในเจียงเป่ย15ร้านของห้วนเทียน
จั๋วซีพูดไปที่ข้างหูหลิงเล่อีกรอบ:“พรุ่งนี้ให้พี่ใช้บัตรทองเล็ก”
ยังไม่ทันพูดจบ หลิงเล่ก็หันมามองด้วยสายตาน่ากลัว
ท่าทางนั้นเหมือนกำลังบอกว่า:เรื่องนี้ก็ต้องใช้บัตรทองเล็ก เอาไปใช้ไม่ถูกทาง!
ส่วนข้างในใจของจั๋วซีเกือบจะแตกสลาย
ครั้งที่แล้วเพียงเพื่อจะรู้ว่าคุณหนูมู่อยู่ที่โรงแรมกว่าสิบห้านาทีทำอะไรก็ใช้บัตรทองเล็กนั่นไป ตอนนี้มีเรื่องของห้วนเทียนก็จะเอาบัตรทองเล็กไปใช้ไม่ถูกทางอีก?
นิ้วของหลิงเล่เคาะอยู่ที่โต๊ะเหมือนกำลังดีดเปียโน
แป๊บหนึ่ง เขาก็สะกิดนิ้วมือเรียกจั๋วซี จั๋วซีเริ่มประชุมหัวข้อถัดไป
ซึมทั้งวัน บวกกับเมื่อคืนพักผ่อนไม่ค่อยดี มู่เทียนซิงก็ง่วง
เผชิญกับบ้านที่ไม่คุ้นเคยนี้ แม้ว่าทุกที่ต่างเต็มไปด้วยสีฟ้าที่หล่อนชอบ แต่ว่ายังไงก็ยังแปลกหน้า หล่อนไม่แข็งแกร่งพอที่จะเผชิญกับอนาคตที่คาดเดาไม่ได้ และยังต้องให้ตัวเองคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมแปลกๆ นี่ด้วย
อุ้มเจินเจิ้นตรงที่บ้านหมาคุยกันจนเหนื่อย หล่อนมองดาวบนท้องฟ้า คิดถึงบ้าน
ติ๊งต่อง
หล่อนหันไปมอง เห็นฉวีซือเหวินยืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตูห้องโถงมองหล่อนอยู่:“คุณหนูมู่ ดึกแล้วนะ คุณชายสี่ยังไม่กลับมาเลย กลัวว่าจะต้องรออีกสักพักทีเดียว ท่านจะไปพักผ่อนที่ห้องก่อนไหมคะ?”
มู่เทียนซิงอ้าปากค้าง วางเจินเจินในมือลงแล้วลุกขึ้น
หล่อนไม่ได้ต้องการนอนที่เตียงของหลิงเล่
ได้ยินฉวีซือเหวินพูด หลิงเล่ยังไม่กลับมาอีกสักพักหนึ่ง หล่อนเลยวางใจ
หล่อนรู้แม้ว่าหลิงเล่จะใช้ดวงตาคมดำนั่นหลอกหล่อน แต่ฉวีซือเหวินไม่มีทางหลอกหล่อน
มาตรงตู้สีฟ้าหยิบชุดนอนแล้วมู่เทียนซิงก็เข้าไปอาบน้ำ
แป๊บหนึ่งหล่อนก็เป่าผม ออกมาจากข้างใน ตอนนี้ก็เหนื่อยสุดๆ แล้ว แต่หล่อนยังไม่นอนทันทีกลับไปห้องทำงานด้านนอก หยิบผ้าห่มเล็กๆ นั่งฟุบอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ ห่มผ้าแล้วหลับไป
นอนแบบนี้ไม่ลำบากเท่าไหร่สำหรับหล่อน ตอนที่เรียนชั้นมัธยมต้น ตอนเที่ยงก็มักจะนอนกับเพื่อนๆ แบบนี้
แสงสว่างนิดๆ สงบๆ เงียบๆ
มู่เทียนซิงเริ่มรู้สึกหลับลึก ในความฝันมีมือใหญ่ๆ มาอุ้มหล่อนขึ้นไปเบาๆ เหมือนตอนที่หล่อนอุ้มเจินเจิน
หล่อนยังฝันดีสุดๆ ในฝันเห็นตัวเองสวมบิกีนี่ที่ทะเล ตีกรรเชียงท่าฟรีสไตล์ หล่อนอยากว่ายยังไงก็ว่าย เล่นอย่างสนุก
ในฝันเหมือนมีบางคนถอนหายใจเป็นครั้งคราว เอาทรายอุ่นๆ ประกบที่ร่างของหล่อน
ตอนที่หล่อนสะลึมสะลือลืมตานิดๆ ความมืดมิดก็แผ่กว้างตรงหน้า ที่ข้างหูมีเสียงของเทวดาเข้ามาปลอบโยนความรู้สึกไม่สบายใจของหล่อน:“เด็กดี หลับเถอะ~!”
ท้องฟ้าที่ค่อยๆ สว่างสลัว มู่เทียนซิงก็ตื่นขึ้น
ไม่มีใครรู้ว่าหล่อนฉี่จนตื่นออกมา
เพราะว่าคืนก่อนตอนที่อุ้มเจินเจินอยู่ที่ห้องโถง หล่อนดื่มน้ำพุทราไปเยอะหลายขวด
แต่แล้วใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติของหลิงเล่ก็เข้ามาในสายตาของหล่อน ภาพใหญ่ตรงหน้า ดูผ่อนคลาย ความงดงามอย่างธรรมชาตินั้นวางอยู่บนไหล่หอมๆ ของหล่อน!
ใต้เตียงนั้น มือใหญ่ของเขาอุ้มหล่อน
ส่วนหลังของหล่อนก็อยู่ใกล้ชิดเขา!
นี่มันสถานการณ์อะไร?
ในหัวของมู่เทียนซิงนิ่งไป ถูกภาพตรงหย้าทำให้ตกใจ แล้วก็ทนไม่ไหว รู้สึกถึงระหว่างขาทั้งสองมีน้ำอุ่นๆ ไหลมา!