รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ - ตอนที่ 50 ทำให้น้ำโค้กบิน บิน
ตอนที่ 50 ทำให้น้ำโค้กบิน บิน
เมื่อพวกเขาออกจากที่จอดรถของโรงแรม มู่เทียนซิงพบว่า การออกไปเที่ยวครั้งนี้ แท้จริงแล้วหลิงเล่ ส่งรถตามมาทั้งหมดสี่คัน คันแรกนำทางอยู่หน้าสุด คันที่สองตามหลังมาติดๆ และพวกเราอยู่ระหว่างกลาง
ทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกคุ้มครอง และทำให้รู้สึกดีอย่างยากที่จะอธิบายได้
เธอขมวดคิ้ว และถามออกไปว่า “กระจกพวกนี้สามารถกันกระสุนได้ใช่ไหม?”
ทันใดนั้นก็คิดขึ้นได้ว่า สิ่งที่ตัวเองต้องการนี้คือการทำตัวขรึมๆ เย็นชา
ขรึมๆ เย็นชา ก็คือไม่พูด! ไม่แสดงความรู้สึก! แสดงออกน้อย! และแม้แต่ความรู้สึกที่แสดงออกมาผ่านแววตาก็ไม่มีให้เขา!
เธอมองแสงตะเกียงที่ใกล้จะมอดดับนอกหน้าต่าง จึงพบว่าวิวที่นี่ไม่ได้ต่างกับวันก่อนที่ตนเองได้แอบหนีออกมามากนัก เหมือนกับอยู่ในประเทศเดียวกัน บนอาณาจักรของชนเผ่าเดียวกัน และการก่อสร้างการวางผังเมืองออกมาก็คล้ายๆกันมาก
และมือเล็กๆที่แนบอยู่ข้างตัว ก็ถูกดึงไปในทันที
เธอหันหลังกลับ ก็เห็นหลิงเล่มองเธออย่างน่าสงสาร “คุณไม่ต้องการผมแล้วเหรอ?”
มู่เทียนซิง“.”
โอ้ พระเจ้า ใครเป็นคนมาบอกเธอ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
รู้ว่าเขาไม่ได้นอกใจ แล้วมองเขาอีกครั้ง เขาแสดงอาการอ่อนข้อลง และเธอก็รู้สึกเย็นลงด้วยเช่นกัน
ยังไงก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้!
ใช้แรงเพื่อจะดึงมือกลับมา แล้วเธอก็ไม่พูดอะไร และมองออกไปนอกหน้าต่างต่อ
ผ่านไปไม่นาน มือเล็กๆนั้นก็ถูกดึงออกไปอีก และครั้งนี้มือถูกจับไว้อย่างแน่นมากๆ โดยไม่สามารถขยับหรือดึงมือกลับมาได้เลย!
เธออยากจะดิ้นและดึงมือให้หลุดแต่ทำยังไงก็ดิ้นไม่หลุดและดึงไม่ออก
เขาหันมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ จริงใจว่า“ครั้งแรกที่เห็นคุณใส่ชุดเดรสกระโปรงสีดำนี้ สวยจริงๆ!”
มู่เทียนซิงเกือบจะยิ้มออกมาแล้ว
เธออยากจะบอกว่า นั่นคือความสามารถล้ำเลิศของผู้หญิงอย่างเธอ เพราะปกติแล้วไม่ว่าจะใส่ชุดไหนก็สวยทั้งนั้น!
จึงต้องพยายามอดทนอย่างมาก และพยายามต่อสู้ดิ้นรนหลายต่อหลายครั้งเพื่อดึงออกแต่ไม่เป็นผล เพราะมือเล็กๆนี้ถูกเขาจับไว้แน่นมากๆ
ในเวลานี้ เขาก็ขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ และเอาคางมาวางไว้บนไหล่ของเธอช้าๆ แล้วพูดออกไปอย่างไม่อายว่า“หอมจังเลย~เหมือนกับกลิ่นของเมื่อคืนที่ได้กอดเลย”
มู่เทียนซิงกัดฟัน พยายามอดทน แล้วยกแขนขึ้นและดันไปที่หน้าอกของเขา หลังจากไม่เป็นผลก็อยากจะหันไปมองเขาโดยใช้สายตาที่เย็นชาเพื่อจะทำให้เข้าเจ็บปวดอย่างมาก แต่เมื่อหันกลับไปก็ดันถูกเขาที่ได้คิดวางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว
เงาของร่างกายที่สูงใหญ่ขึ้นมารังแก แล้วรีบปิดปากเล็กๆนี้อย่างกระหาย และลิ้มรสทุกสิ่งทุกอย่าง
มู่เทียนซิงปวดหัวมาก จากเดิมก็เป็นหวัด มีน้ำมูก และยังถูกจูบแบบนื้ จึงทำให้หายใจลำบากขึ้นไปอีก!
รู้สึกทั้งอายทั้งโกรธ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงทำแบบนี้ล่ะ?
ใช้เรี่ยวแรงพละกำลังที่มีอยู่ผลัดเขาออกทันที แต่พละกำลังที่เธอมีก็เหมือนกับผ้าฝ้ายที่เบาไม่มีแรงเลย ทำให้ใบหน้าเล็กๆนั้นทั้งแดงทั้งอึดอัด เพราะเหมือนจะขาดออกซิเจนมากขึ้น และเธอจึงเอียงหัวออกโดยสัญชาตญาณ แล้วสูดหายใจเข้าออกทางปาก ซึ่งทำให้เขาใช้คำพูดที่ร้อนแรงพูดออกมาข้างหูเธอ “หวาน!”
“พอแล้ว! หลิงเล่ คุณมันโง่! คุณมันบ้า!”
ในที่สุดมู่เทียนซิงก็โมโห และเธอใช้สายตาที่โมโหจัดเดือดจัดมองเขา แล้วยกมือขึ้นไปบนหน้าของเขาเพื่อจะตัดสินใจทำเรื่องร้ายๆ!
เมื่อหลิงเล่เห็นอย่างนั้น จึงรีบจับข้อมือของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสายตาของเธอยังไม่หยุดที่จะมองไปโดยที่มีอารมณ์แปรปรวนอย่างมาก เธอขยับออกมาทั้งที่หูแดงเล็กน้อย และใช้แรงของแขนทั้งสองข้างพลิกฝ่ามือจนทำให้เธอโดยจับไว้ที่หน้าอกของตัวเอง จูบหน้าผาก แล้วพูดอย่างอบอุ่นว่า“ดังนั้น ไม่ใช่วัสดุก้อนนั้น ก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นเย็นชา ของปลอมก็คือของปลอม ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวแล้ว ในไม่เร็วไม่ช้านี้ความลับก็ต้องเผยออกมา!”
“คุณมันบ้า!”
“ฉันเดา~”เขาพูดอย่างเบาๆอีกครั้ง แต่แค่น้ำเสียงไม่อ่อนโยนเหมือนเมื่อกี้นี้ “คือหนีหย่าจูนตัดสินใจให้คุณใช่ไหม? เขาให้คุณใช้วิธีที่อีกฝ่ายแสดงออกมายังไงคุณก็แสดงออกไปอย่างนั้นใช่ไหม?”
“คุณ!” มู่เทียนซิงไม่เหลืออะไรแล้ว แม้แต่หน้าก็ไม่เหลือ
เธอเงยหน้ามองแค่แวบเดียว แล้วรู้สึกประหลาดใจที่ม่านกั้นระหว่างเก้าอี้เบาะด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งไม่รู้ว่าถูกเปิดออกไปตอนไหน ด้านหน้ามีคู่สามีภรรยาของจั๋วหรันอยู่ พวกเขาได้ยินแต่มองไม่เห็นแน่นอน
อับอายคับแค้นใจจนเกิดโทสะขึ้น มู่เทียนซิงจะต้องทำให้ดีที่สุดไม่ว่าจะแย่แค่ไหน จึงเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ผิด!คุณเดาผิดทั้งหมด! อย่าคิดว่าคุณจะเก่งนะ!”
น้ำเสียงของเขาเย็นชาเล็กน้อย “ใช่เหรอ? แต่จะทำยังไงล่ะ เพราะไม่ว่าคุณจะยอมรับหรือไม่ เท่าที่ผมดู คุณจะไม่ยอมรับความจริงทั้งๆที่ความจริงคือผมคิดถูก!”
ปลายจมูกกับริมฝีปากของเขากำลังคลอเคลียอยู่บนคอของเธออย่างช้าๆอีกครั้ง ซึ่งแปลกใจเพราะทั้งๆที่แทบจะนั่งไม่ติด แต่ก็เรียกจิตใต้สำนึกกลับมา “ปล่อยฉัน! ฉันปวดฉี่!”
หลิงเล่หยุดชะงักทันที
เมื่อได้ยินเธอบอกว่า“ปวดฉี่”และดูเหมือนว่าจะมีความทรงจำที่ไม่ดีขึ้นมา เธอจึงรีบเปิดผ้าม่านออกและพูดทันทีว่า“หาห้องน้ำ!”
ชั่วครู่หนึ่ง——
มีร้านอาหารจานด่วนข้างทาง หลิงเล่ให้รถพวกเขาทุกคันชิดขอบถนนเพื่อจอดรถ ฉวีซือเหวินกับ บอดี้การ์ดสี่คนติดตามมู่เทียนซิงไปห้องน้ำ
เมื่อมองไปที่ประตูทางเข้าร้านมีคนเข้าๆออกๆ หลิงเล่รู้สึกอิจฉาอย่างบอกไม่ถูก แล้วพูดออกมาช้าๆว่า“ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ได้มานั่งกินข้าวอยู่ในร้านจะเป็นยังไง”
จั๋วหรันยิ้ม“KFC ร้านประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่ชอบกิน ฉันกับอาซือก็หาเวลาพาเต้าเต้ามากิน แต่ของประเภทนี้ไม่ค่อยดีเท่าไร ของกินก็ค่อนข้างจะน้อยด้วย”
หลิงเล่เหมือนจะยิ้มออกมา ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะชอบลูกชายของจั๋วหรันมาก แล้วน้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นเสียงที่ดูเป็นห่วงอย่างคาดไม่ถึง “แล้วเมื่อไรเต้าเต้าจะกลับมา?”
จั๋วหรันยิ้ม“ค่ายฤดูร้อนของโรงเรียนพวกเขาเพิ่งเริ่มได้ไม่นาน เห็นบอกว่าต้องท่องเที่ยวบนเรือสำราญสี่ประเทศ น่าจะอีกหนึ่งเดือนได้”
ในขณะกำลังพูดอยู่ ก็พบว่าหน้าประตูของร้านอาหารจานด่วนมีเงาของบอดี้การ์ดอยู่
ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขายังเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังโอบกอดชุดถังครอบครัวไว้ที่มือข้างซ้าย และมือข้างขวาก็ถือน้ำโค้กแก้วใหญ่ไว้ แล้วเดินออกจากร้านอย่างสวยงาม
จั๋วหรันหัวเราะเบาๆ “อาซือพูดถูก คุณหนูมู่ยังเป็นเด็กอยู่จริงๆ”
แววตาของหลิงเล่แสดงออกถึงความกังวล และดูเหมือนว่าจะค่อยๆเย็นชาแล้วไม่พูดอะไร
รอมู่เทียนซิงขึ้นรถ และยังไม่ทันได้หย่อนก้นลงนั่งเลย ซึ่งได้ทำตามคำสั่งของหลิงเล่สำเร็จ“ทิ้งแล้ว!”
มู่เทียนซิงมองเขาอย่างงงงวย แล้วเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที “ฉันไม่ทำให้รถสกปกรหรอกนะ!”
“ทิ้งแล้ว!”
“ทำไมคุณเป็นคนแบบนี้! ฉันเพิ่งจะให้พี่อาซือช่วยฉันซื้อมา ยังไม่ได้กินเลยสักคำ ก็เอาไปทิ้งแล้ว น่าเสียดายมากๆ!”
เขาไม่ได้จะพูดอะไรที่ไร้สาระกับเธอ แค่แย่งน้ำโค้กในมือของเธอมา แค่สัมผัสก็รู้สึกเย็นแล้ว และสีหน้าของเขาก็ครึ้มขึ้น
เมื่อเปิดหน้าต่างรถ แล้วยกมือขึ้น น้ำโค้กก็บินออกไปเลย!
มู่เทียนซิงจ้องมองเขา“อา คุณทำแบบนี้เท่ากับทำลายสิ่งแวดล้อม เสียดายของ แล้วยังทำลายความรู้สึกงดงามในใจฉัน คุณทำแบบนี้มันดีแล้วจริงๆเหรอ?”
“เป็นหวัดแค่นี้ยังไม่หนักพอเหรอ?”เขาพูดออกมาหนึ่งประโยคทั้งเงียบๆ แล้วมองชุดถังครอบครัวในอ้อนกอดของเธอ
เมื่อเห็นว่าเธอเป็นห่วงตัวเองจริงๆ ในที่สุดไฟในใจของมู่เทียนซิงค่อยๆลดลง
มองของในอ้อมกอดแวบหนึ่ง ของทอด เธอเจ็บคอ และแน่นอนว่าไม่เหมาะที่จะกินเยอะ แต่จะทิ้ง เธอก็ทำใจไม่ได้
มองหลิงเล่แล้วทำตาปริบๆ เธอยิ้มออกไปอย่างประจบประแจง แล้วหยิบขาไก่ทอดหนึ่งขาส่งไปให้เขากิน“อันนี้ จริงๆแล้วฉันซื้อมาให้คุณ เชิญกิน!”
ผู้ชายข้างๆไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
แต่ว่า ทุกคนเห็นรอยผิวหนังแตกบนหน้าของเขา และยังมีสายตาที่รังเกียจอีก