รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ - ตอนที่ 74 กล้าแตะต้องก็ลองดู!
บทที่ 74 กล้าแตะต้องก็ลองดู!
ทุกๆคำในคำเชิญ แม้กระทั่งเครื่องหมายวรรคก็ล้วนทำหลิงหยวนรู้สึกโมโหขึ้นมา!
เขาฉีกบัตรเชิญทิ้งในทันที!
จากนั้นจึงเขวี้ยงมันใส่หลิงเล่ “แกมันวายร้าย! ฉันเลี้ยงแกมาตั้งหลายปีแล้ว แต่แกกลับมาเล่นไม้นี้กับฉัน! ฉันเตือนแกเอาไว้ มู่เทียนซิงเป็นของเมิ่งเสี่ยวหลง! ถ้าแกกล้าแตะต้องก็ลองดู!”
ทันใดนั้นหลิงเล่ก็เงยหน้าขึ้น และจ้องเขาด้วยสายตาคมปลาบราวกับเข็มแหลม!
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย พลังของมันทำลายล้างอุปสรรคขัดขวางใดๆเบื้องหน้า และทิ่มแทงให้หลิงหยวนรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอยู่บ้าง!
ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะเย็น แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่เขาก็ยังสามารถคว้าปกเสื้อของหลิงหยวนในครั้งเดียวได้อย่างแม่นยำ หลังจากนั้นจึงจับผมไม่กี่เส้นของเขาดึงออกมาอย่างรวดเร็ว และในขณะที่หลิงหยวนกำลังจะตอบโต้กลับก็ผลักเขาออกไปอีกครั้ง!
หลิงหยวนยื่นมือออกมาด้วยใบหน้าซีดขาว เขาชี้นิ้วตัวสั่นระริกไปยังหลิงเล่ “แก! แกแกแก แกถึงกับกล้า!”
ที่นี่คือบริษัทหลิงหวินกรุ๊ป และเป็นดินแดนของเขา!
แต่เขากลับปล่อยให้เจ้าขยะนี่มารังแกตัวเองจนไม่ได้แม้แต่จะสู้กลับ!
นี่มันใช่หรือไง?
เขารีบวิ่งไปที่โต๊ะเพื่อหยิบโทรศัพท์เรียกคนเข้ามา เขาจะต้องสั่งสอนลูกไม่รักดีคนนี้สักตั้ง!
แต่ในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากนั้น จั๋วซีกลับเอ่ยพูดขึ้นมา “ซือซ่าวก็แค่ทำในสิ่งที่เขาอยากทำมาโดยตลอดก็เท่านั้น เหตุใดท่านหลิงจะต้องถือสาขนาดนี้ด้วย”
หลังจากได้ยิน หลิงหยวนก็เหลือบตาขึ้นมอง และเห็นว่าหลิงเล่กำลังหยิบเส้นผมไม่กี่เส้นนั้นใส่ลงไปในถุงตัวอย่างแบบใสอย่างระมัดระวัง
หลิงหยวนกลืนน้ำลาย และมองเขาอย่างไม่มั่นใจอยู่บ้าง “แก แกจะเอาผมของฉันไปทำไม?”
หลิงเล่ดีดนิ้ว จั๋วซีก็ขี้เกียจจะอธิบายเช่นกัน
พวกเขาไม่แม้แต่จะมองหลิงหยวนอีก จากนั้นจึงหันหลังและออกไปจากห้องสำนักงานในพริบตา
แต่หลิงหยวนไหนเลยจะยอมแพ้ ดวงตาของเขากำลังเกรี้ยวกราดดุจเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ เขาใช้สายตามองไปที่ถุงเก็บตัวอย่างของหลิงเล่อย่างไม่วางตา ราวกับอยากจะใช้สายตาเพื่อเผาไหม้มันให้สลายกลายเป็นจุณ!
“หยุด!”
เขาพุ่งเข้ามา และกำลังจะตะคอก
การแสดงออกของหลิงเล่ยังคงนิ่งสงบ และไม่มีท่าทีเกรงกลัวใดๆ เขาเขียนคำบนกระดาษอย่างรวดเร็วจากนั้นจึงฉีกและปามันใส่หน้าของหลิงหยวน!
หลิงหยวนยืนกำกระดาษแน่นโดยไม่รู้ตัว หลังจากมองไปที่มัน ทั้งร่างของเขาก็ก้าวถอยหลังไปด้วยความกลัว!
จั๋วซีเอ่ยขึ้นตามมา “เรื่องที่ซือซ่าวต้องการทำ ไม่มีใครที่สามารถหยุดยั้งได้ ก่อนหน้านี้ซือซ่าวอดทนอยู่เงียบๆ เรื่องที่ผ่านมาก็ผ่านไป ทุกคนอยู่โดยไร้เรื่องไร้ราวก็แล้วกันไป แต่ว่าในตอนนี้ มู่เทียนซิงคือหัวใจของซือซ่าว หากใครกล้ามารบกวนใจเธอ หรือว่าเข้ามาขัดขวาง จุดจบ ก็เป็นคำที่อยู่บนมือของท่านคำนั้น!”
หลิงหยวนขบริมฝีปากของเขาเอาไว้แน่นราวกับไม่เต็มใจ!
จั๋วซีกล่าวอีกครั้ง “ของบนตัวของท่าน ซือซ่าวต้องการมันมาโดยตลอด วันนี้มาที่นี่ถือเป็นโอกาสไม่เลว ได้เส้นผมของท่านกลับไป ถ้าหากท่านไม่ทำตามอารมณ์ของซือซ่าวและยังดึงดันจะแย่งเส้นผมนี้กลับไป ก็ย่อมได้เช่นกัน แต่ว่า หลังจากนี้ไป หากซือซ่าวต้องการมันอีกครั้ง ครั้งนั้นมันอาจจะไม่หยุดอยู่ที่ในสำนักงานของท่านแน่ และมันก็อาจจะไม่ใช่แค่ต้องการเพียงเส้นผมของท่านอย่างเดียวแล้วเช่นกัน นอกเสียจากว่า—ท่านมั่นใจว่าท่านจะสามารถกำจัดซือซ่าวลงได้ในตอนนี้ รวมถึงผม”
เห็นชัดๆว่านี่คือคำขู่!
แต่หลิงหยวนกลับทำอะไรไม่ได้!
อย่างที่จั๋วซีพูด ตอนนี้เขาไม่สามารถกำจัดหลิงเล่ได้!
เขากำจัดไม่ได้ และก็ไม่กล้ากำจัด!
มุมปากของเขากระตุก เห็นชัดว่ากำลังโกรธแต่ยังพยายามอดกลั้น “ไปซะ แต่อย่าโทษว่าฉันไม่เตือน เรื่องบางเรื่อง ไม่รู้ความจริงบางทีอาจจะดีเสียกว่า!”
หลิงหยวนหันหลังกลับ และปล่อยให้จั๋วซีพาหลิงเล่ออกจากอาคารของบริษัทหลิงหวินกรุ๊ปไป!
หลังจากหลิงเล่จากไป หลิงหยวนก็โกรธเสียจนทุบทุกอย่างในออฟฟิศทิ้ง!
หลังจากเหนื่อยอย่างยิ่ง เขาก็เอนกายลงบนโซฟา ดวงตาสบเข้ากับคำที่หลิงเล่เพิ่งจะโยนใส่ตนเมื่อครู่- ระวัง!
หลิงเล่กำลังเตือนเขา ให้เขาคิดให้รอบคอบ หลีกเลี่ยงผลตามมาที่เขาอาจจะรับไม่ไหว!
เมื่อคิดถึงคำเชิญงานหมั้นของหลิงเล่ อีกทั้งเรื่องตระกูลเมิ่งที่กำลังจะมาถึงเมือง M ในคืนวันพรุ่งนี้ หลิงหยวนก็รู้สึกปวดหัว “เจ้าเด็กวายร้าย! ฉันควรจะบีบคอกให้ตายไปตั้งแต่แรกหลังจากที่เธอตายในตอนนั้น”
เขากลับมาที่โต๊ะทำงาน จากนั้นจึงใช้ความคิด ก่อนท้ายที่สุดจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วก็โทรออก
อีกฝ่ายรับสาย และเอ่ยเพียงหนึ่งคำ “สวัสดี”
“พี่!” หลิงหยวนร้องออกมาเสียงดังในทันที เขาเอ่ย “เด็กคนนั้นดึงผมของผมไป หรือว่าเขาจะเอามันไปตรวจ DNA?”
คนที่อยู่ปลายสายเงียบไป
หลิงหยวนเอ่ยอีกครั้ง “พี่! พูดสิ!หากท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้ปิดเอาไว้ไม่อยู่ อย่าได้มาตำหนิผม!”
ในที่สุด อีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้น “ปล่อยเขาไป! ยังไงเสียเยว่หยาก็เคยเอ่ยสาบานต่อหน้าฉันเอาไว้ ว่าจะไม่เจอเด็กคนนี้อีกตลอดชีวิต!”
หลิงหยวนรออย่างสงบเป็นเวลาชั่วครู่ หลังจากแน่ใจว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้เขาเจ็บตัว ก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “พี่ ผมพูดเรื่องที่ต้องจัดการของบริษัทให้พี่ฟังอีกครั้งแล้วกัน!”
“อืม”
—— ฉันคือซือซ่าวที่มีชีวิตอันซับซ้อน ——
หลิงเล่นำตัวอย่างผมไปที่โรงพยาบาลในทันที
นอกจากนี้เขายังดึงผมของตัวเอง และวางลงในถุงตัวอย่างอีกชิ้น ก่อนจะมอบมันให้จั๋วซีนำเข้าไป
เขานั่งอยู่ในรถอย่างเงียบๆ กำปั้นของเขากำแน่น อารมณ์อันซับซ้อนภายในใจทำให้ไม่สามารถสงบลงมันลงได้ จนกระทั่งเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูโดยไม่ได้ตั้งใจ และเห็นว่ามีข้อความสั้นๆจากมู่เทียนซิงถูกส่งมา แต่เขาไม่ทันได้ดู
มีเพียงสองคำ: คุณอา
ทันใดนั้น ในใจของเขาก็สงบลง
ปลายนิ้วของเขาแตะลงบนสร้อยคอไพลินอย่างเบามือ ราวกับว่ากำลังสัมผัสใบหน้าของคนรัก
ในไม่ช้า จั๋วซีก็กลับมาและมองที่หลิงเล่ “เสร็จเรียบร้อย หลังจากนี้อีกสามวันจะโทรหาผมโดยตรง และแจ้งผมการตรวจสอบ”
หลิงเล่พยักหน้า “กลับกันเถอะ!”
ยังไม่ทันขาดคำ มือถือของเขาก็สั่นขึ้นอีกครั้ง เขาหยิบมันขึ้นมา ยังไม่ทันได้มองก็เอ่ยปาก “เทียนซิง~!”
อีกฝ่ายก็ตกตะลึงแล้วหัวเราะ “ซือซ่าว เป็นฉันหย่าจูน!”
หลิงเล่ “..”
หนีหย่าจูนเอ่ย “ฉันเพิ่งมาถึง ตอนนี้ไม่มีที่อยู่”
หลิงเล่ทำหน้ารังเกียจ “โรงแรมมีตั้งมากมาย คงไม่เต็มหมดหรอก”
“แต่ปู่บอกว่าให้ฉันไปหานาย!” หนีหย่าจูนพูดจบ ก็หัวเราะอย่างมีความสุข “นายกำลังตั้งหน้าตั้งตารอพี่สะใภ้โทรหานายอยู่หรือ? ฉันจะบอกให้นายนี่จริงๆเลย ไม่แม้แต่จะดูสักหน่อยก็เอ่ยปากพูด ดูเหมือนว่าไอคิวนายจะลดลงตั้งแต่มีความรัก!”
หลิงเล่หลับตา คำพูดของหนีหย่าจูนนั้นมีเหตุผลอย่างยิ่ง เมื่อครู่เขาละเลยมากจริงๆ
หนีหย่าจูนยังเอ่ยเพิ่ม “ฉันเพิ่งโทรหาพี่สะใภ้เมื่อ 10 นาทีก่อน เธอบอกว่าเธอจะเลี้ยงหม้อไฟขอบคุณฉันที่ช่วยเหลือเธอเมื่อสองครั้งก่อน ตอนเที่ยววันนี้!”
ครั้งหนึ่งคือพาเธอหนีออกจากบาร์
อีกครั้งหนึ่งคือเชิญหมอมารักษาเธอ
“โรงแรมจะไปดีเท่ากับที่บ้านได้ยังไง ฉันจะให้อาซือทำความสะอาดห้องชุดให้คุณ” หลิงเล่กลับคำในทันที เขาเอ่ยกับหนีหย่าจูนอย่างเป็นมิตรขึ้นมา “พูดไป ฉันก็ไม่ได้กินหม้อไฟมานานแล้ว”