รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ - ตอนที่ 80 ฉันอยากกินคุณ
บทที่ 80 ฉันอยากกินคุณ
ดวงตาหลิงเล่มีประกายวาบผ่าน แต่กลับนั่งลงอย่างสงบเช่นเดิม และไม่ส่งเสียง
หนีหย่าจูนดูเหมือนจะเย็นชากับเขา แต่ในความเป็นจริง เขากำลังไล่ต้อนให้สาวน้อยเผยความรู้สึกในใจต่อหน้าคนมากมาย อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่คนที่ถามคำถาม ดังนั้นทำเพียงแค่นั่งและรอคำสารภาพก็พอ หากเขายังไม่รื่นเริงไปกับมัน แล้วใครจะรื่นเริงกัน?
ในเวลานี้ทุกคนกำลังกลั้นหายใจ ——
พอได้ยิน เสียงหวานของมู่เทียนซิงก็ค่อยๆดังขึ้น “ฉัน ฉันไม่ได้สนใจเขาสักหน่อย!”
หนีหย่าจูน “พรุด!”
สีหน้าของหลิงเล่จู่ๆก็ดำคล้ำราวกับก้นหม้อ!
มู่เทียนชิงมองหลิงเล่ด้วยความอับอายแล้วก็พูดว่า “เป็นเขาที่สนใจฉัน”
หนีหย่าจูน “แค่ก แค่ก”
หลิงเล่ตั้งหูรอฟังต่อ
มู่เทียนซิงเอ่ยขึ้น “เขาชอบฉันก่อน ดีต่อฉัน มักจะเหน็บฉันไว้ข้างๆกายเขาเสมอ ทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆก่อเป็นความรู้สึกขึ้นมา ดังนั้น พี่หย่าจูน หากพี่ประหลาดใจว่าทำไมเราถึงอยู่ด้วยกัน นั่นก็ต้องเริ่มถามเขาก่อน ทำไมถึงได้ชอบฉัน นั่นเป็นเพราะหากไม่ใช่เพราะเขาเริ่มก่อน ฉันไม่มีทางอยู่ด้วยแน่”
ได้ฟังคำพูด สีหน้าของทุกคนที่ก็ดีขึ้นเล็กน้อย
หนีหย่าจูนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ที่แท้เป็นซือซ่าวที่จีบเธอก่อน”
“อืม” ตาเล็กๆของมู่เทียนซิงมีประกายพาดผ่าน ยอมรับอย่างใจกว้าง!
แม้ว่ามู่เทียนซิงจะเป็นเด็กผู้หญิงที่นุ่มนวล แต่ IQ ของเธอก็ไม่ได้เป็นลบ
หนีหย่าจูนและหลิงเล่มองดูแล้วไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่ความจริงแล้วกับเดินบนทางสายเดียวกัน คิดจะรวมหัวกันให้เธอสารภาพกับหลิงเล่ก่อน ไม่มีทาง!
แม่เคยบอกไว้ว่า เด็กผู้หญิงเมื่อโตขึ้นแล้ว ควรจะรักนวลสงวนตัว
แน่นอนว่าประโยคบอกรัก ย่อมต้องเป็นผู้ชายที่เอ่ยกับผู้หญิงมากกว่า เช่นเดียวกับวันนั้นในรถ ที่หลิงเล่สารภาพกับเธอ
ดังนั้น ภารกิจบอกรักต่อหน้าผู้คนแบบนี้ ยกให้คุณอายังคงดีกว่า!
เธอมองไปที่หลิงเล่ด้วยรอยยิ้ม “คุณอา คุณก็ได้ยินแล้ว พี่หย่าจูนกำลังแปลงใจอยู่นะ คุณมาชอบฉันได้ยังไงกัน?”
คนทั้งหมดล้มลง!
หลิงเล่จ้องมองที่มู่เวียนซิงแน่นิ่ง ดวงตามีประกายล้ำลึกจนคนยากที่จะเข้าใจ
หัวใจเล็กๆของมู่เทียนซิงก็กระโดดเร็วขึ้นเช่นกัน เธอถูกหลิงเล่จ้องจนกระสับกระส่ายขึ้นมา ดวงตาเริ่มกะพริบปริบๆ ไม่สามารถต้านทานได้ แต่ก็ยังไม่เต็มใจที่จะถอนสายตาออกมาจากเขา
ทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้น และลูบไล้เบาๆที่ปลายจมูกเธอ เขาเอ่ยเสียงเบาแต่เต็มไปด้วยความรักใคร่ทะนุถนอม “ซุกซน!”
แต่สองคำ กลับแก้ไขวิกฤตการณ์สารภาพได้ลง!
หน้าเนื้อใจเสือ!
หลังจากพูดคุยกันซักพัก มู่เทียนซิงก็คิดว่าถึงเวลาต้องกลับไปแล้ว
ถึงแม้ว่าท่าทีของมู่อี้เจ๋อจะเปิดกว้างขึ้น แต่ก็ไม่ควรวางใจจนเกินไปจะดีกว่า
เธอมองหลิงเล่ ดวงตามีแววร้อนตัว เหมือนในใจ
ซ้ำดวงตาของเขานั้นล้ำลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง แต่กลับเปล่งประกายกระจ่างใส แค่เพียงแวบเดียว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มและเอ่ยกับเธอ “ต้องการให้ส่งเธอกลับไปไหม?”
เธอพยักหน้า จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับหนีหย่าจูนว่า “พี่หย่าจูน คุณพักผ่อนให้ดีๆ ฉันกลับไปก่อน วันหลังค่อยมาเยี่ยมพี่”
หนีหย่าจูนหัวเราะ “ในเมื่อพรุ่งนี้ซือซ่าวจะไปตระกูลมู่เพื่อทำการสู่ขอ ฉันที่ว่างๆ ก็ตามไปด้วยเลยแล้วกัน พบกันใหม่พรุ่งนี้!”
เธอตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงมองหลิงเล่ เมื่อเห็นเขาไม่ได้คัดค้าน จึงค่อยพยักหน้า “ดี เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ!”
“ไปเถอะ ฉันไปส่งเธอด้วย!”
หนีหย่าจูนยืนขึ้น และออกไปด้านนอกพร้อมกัน
“แค่กแค่ก”
ชายบนรถเข็น ไอออกมาอีกครั้ง!
หนีหย่าจูนหยุดฝีเท้าลง จากนั้นจึงเห็นว่าหลิงเล่กำลังจ้องมองเขาอย่างมีความหมาย “นายเหนื่อยแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”
“ฉันไม่เหนื่อย” หนีหย่าจูนเพิ่งเปิดปาก แต่กลับเห็นสายตาคมปลาบราวกับเข็มซ่อนอยู่ในดวงตาของหลิงเล่ เขาเปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็วและเอ่ยขึ้น “แค่กแค่กถึงแม้จะไม่เหนื่อย แต่ก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องไปจัดการ ฉันไปห้องหนังสือของนายก่อน ด้านหนึ่งจัดการธุระอีกด้านหนึ่งรอนายไปพลาง”
หลิงเล่สิ่งค่อยมีสีหน้าที่ดีขึ้นด้วยความพึงพอใจ “อืม”
นอกสนามหญ้า ——
กลิ่นของดอกยี่เข่งทำให้คนมึนเมา ดอกไม้ชู่ช่อจนโน้มกิ่งหนักลงมา เต็มไปด้วยพรที่แสนหวานและงดงาม
มู่เทียนซิงเข็นหลิงเล่ไปด้านหน้าอย่างช้าๆ ภายใต้ดวงอาทิตย์ที่แผดเผา เงาของพวกเขายาวขึ้น บนทางถูกพรมไปด้วยกลีบดอกไม้ เกิดเป็นความโรแมนติก
เมื่อเงยหน้าขึ้น จั๋วหรันก็ไปถึงรถของตระกูลมู่แล้วเรียบร้อย จากนั้นจึงเคาะประตูด้านคนขับ และสอบถามสองคำถาม ก่อนจะเดินมาที่รถเข็นนั่งพิเศษของหลิงเล่ และสตาร์ทเครื่องยนต์
“เดี๋ยวก่อน” มู่เทียนซิงมองไปที่ด้านบนศีรษะของหลิงเล่ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสนิทสนม “ถูกแสงแดดเป็นเวลานาน ในรถคงเหมือนเตาอบไฟฟ้าแน่ เข้าไปคงโดนย่างสุก ให้จั๋วหรันเปิดเครื่องปรับอากาศเอาไว้สักครู่ แล้วค่อยเข้าไป”
หลิงเล่เหยียดมือออกไปหาเธอ และจับเธอเอาไว้
คนทั้งคู่ไร้ซึ่งบทสนทนาใด
มีเพียงสายลม จักจั่น ดอกไม้ และคนรัก
จู่ๆมู่เทียนซิงก็รู้สึกว่าหัวใจของเธอถูกเติมเต็ม ในที่สุดเธอก็เข้าใจ ว่าทำไมตนถึงอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลมู่ได้อย่างไม่สนิทใจ สาเหตุเป็นเพราะอะไร
เป็นเพราะที่นั่นไม่มีเขาอยู่
แต่เดิมเธอคิดว่าความชอบที่มีต่อเขา เป็นเพียงความชอบแรกเริ่มเท่านั้น เบาบาง ราวกับสายลมและกลิ่นหอมของดอกไม้
แต่ตอนนี้เธอพบว่า ต่อให้เป็นเพียงความชอบแรกเริ่ม แต่มันก็สามารถใช้เวลาเพียงสั้นๆในการพัฒนามาเป็นความรักจุดเริ่มต้นของความรักน้อยๆ ไม่อาจสลัดทิ้งไปได้ เหมือนคนที่ไม่อาจปราศจากอากาศ
มือเล็กๆค่อยๆจับมือใหญ่เอาไว้แน่น
เธอทำลายความเงียบและพูดกับเขาว่า “คุณอา คุณ…พรุ่งนี้ต้องมานะ”
ฉันจะรอคุณ!
รอให้คุณมาสู่ขอ!
หลิงเล่เงยหน้าขึ้น จากนั้นมองดูใบหน้าสีแดงเล็กๆของเธอ ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะแดดหรือเพราะความเขินอาย แต่ทั้งหมดนี้ ล้วนทำให้คนเมามายหลงใหล
ในใจของเขาในเวลานี้กำลังมัวเมา
จิตวิญญาณของเขาไม่สามารถรองรับใครได้อีก หลิงเล่พยักหน้าอย่างว่าง่าย “อืม”
จู่ๆเธอก็หัวเราะสดใสราวกับดอกยี่เข่งชูช่องดงาม ทำให้จิตใจของเขาพร่ามัว
จั๋วซีเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “ซือซ่าว คุณหนูมู่ ขึ้นรถเถอะ”
จั๋วหรันก็เข้ามาด้วยเช่นกัน และช่วยจั๋วซีประคองหลิงเล่ขึ้นรถ ยังวิ่งมาและช่วยหลิงเล่รถ มู่เทียนซิงกำลังจะกลับไปยังรถของตระกูลมู่ แต่กลับได้ยินจั๋วหรันพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูมู่ เมื่อครู่ผมบอกคนขับรถตระกูลมู่ไปแล้ว ว่าคุณจะนั่งรถของพวกเรากลับตระกูลมู่ ให้พวกเขาตามมาด้านหลัง”
มู่เทียนซิงขึ้นรถ ยังไม่ทันจะนั่งดี ก็ค้นพบว่าผ้าม่านหน้าหลังถูกปลดลงมาหมดแล้ว ในรถถูกกั้นออกเป็นสองส่วน
ทันทีที่ประตูถูกปิดลง วินาทีต่อมา โลกของเธอก็หมุนกลับ
“เอ่อ…”
ทันใดนั้นริมฝีปากของเธอก็ถูกบางสิ่งประกบเข้าให้ ศีรษะด้านหลังถูกมือใหญ่โอบล้อมเอาไว้ ร่างเล็กๆของเธอถูกฝังอยู่ในร่างกายที่แข็งแรงและทรงพลังของเขา เธอคิดที่จะเอ่ยปาก แต่ลมหายใจกลับถูกปล้นโดยคนที่ครอบคลุมร่างของเธอ!
ไม่สามารถบอกได้ชัดว่าเป็นเพราะขาดอากาศหรือไม่ แต่เธอกลายเป็นแอ่งน้ำในอ้อมแขนของเขา!
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งรถยนต์จอดลง จั๋วหรันที่อยู่ด้านหน้าจึงเอ่ยกระซิบเสียงเบา “ซือซ่าวคุณหนูมู่ ถึงบ้านตระกูลมู่แล้วครับ”
หลิงเล่ถึงค่อยยอมถอยออกจากปากของเธอ
เมื่อมองไปที่เธอที่กำลังอ้าปากค้างและดูสับสนนิดๆ เขาก้มลง และกัดเบาๆบนไหล่เล็กๆที่มีกลิ่นหอมของเธอ
“อ๊ะ! คุณกำลังทำอะไร?”
เธอเอ่ยอย่างอ่อนระทวย นุ่มนวลและไร้พลัง
เขากลับอดไม่ได้ที่จะลูบไล้ไปมาที่คอของเธอ “ไม่ได้ทำอะไร แค่อยากกินเธอ”