รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ - ตอนที่ 92 ทำไมเธอถึงไม่ยอมแต่งงานกับพี่ชายฉัน!
บทที่92 ทำไมเธอถึงไม่ยอมแต่งงานกับพี่ชายฉัน!
คนตระกูลมู่เรื่องยุ่งวุ่นวายกันหมด ไม่มีทำอาหารกลางวันในครัวเลย ไม่ว่าจะเมิ่งอี้หลั่งหรือว่ามู่อี้เจ๋อสองผัวเมีย หรือแม้แต่พ่อบ้านฟางฉีก็ยังไม่กลับมาเลย
เวลาใกล้จะบ่ายโมงแล้ว มู่เทียนซิงหยิบมือถือขึ้นมา เตรียมสั่งอาหารในแอป ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงเธอยังไม่ได้ทานอะไรเลย คงหิวน่าดู
เธอจำได้ว่าเมิ่งเสี่ยวหวีชอบกินพิซซ่าฮาวายเอี้ยน ก็เลยสั่งให้เธอชุดนึง สั่งคู่กับชามะนาว
ส่วนตัวเธอเองก็สั่งเป็น ข้าวผัดซีฟู้ด และก็ซุปเห็ดไก่
คนขับรถส่งอาหารมาถึงหน้าบ้าน เธอลงไปจ่ายค่าอาหารด้วยตนเอง เอาอาหารในส่วนของเธอ แล้วเรียกคนใช้ให้นำอาหารในส่วนของเมิ่งเสี่ยวหวีไปให้เธอบนห้อง
ถึงมู่เทียนซิงจะเป็นผู้หญิงอ่อนโยน แต่เธอก็เป็นคนใจกว้างไม่อาฆาตแค้นต่อใครด้วย
ไม่ว่าคนอื่นจะเข้าใจเธอผิดยังไง หรือทะเลาะกันหรือเปล่า เมื่อมาเป็นแขกในบ้านตนเอง เธอก็ต้องทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี คงไม่เสียมารยาทจนแม้แต่ข้าวเที่ยงก็ไม่ให้ทาน
เธอถือข้าวผัดนั่งข้างหน้าต่าง และมองหน้าหลิงเล่ไปด้วย ทานอาหารไปด้วย
พอนึกถึงเสียงกระซิบข้างหูเธอตอนเขามาส่งครั้งก่อนว่า:”ไม่ทำไร ก็แค่อยากกลืนกินเธอไงล่ะ”
เธอเขินจนหน้าแดงและส่งข้อความให้เขาว่า:”คุณอา บ้านเราวุ่นวายกันใหญ่เลย เป็นเพราะอยากต้อนรับนายกับพี่หย่าจูนโดยเฉพาะเลยนะ คืนนี้ต้องมาให้ได้นะ!”
แค่ไม่กี่วินาที ฝั่งนั้นตอบกลับมาว่า:”ครับ ไปแน่นอน อีกสี่ชั่วโมงเจอกัน!”
มู่เทียนซิงลืมตากลมโตเลย เธอดูเวลา อีกสี่ชั่วโมง ก็เย็นตอนห้าโมงครึ่งนะสิ?
อ๊าวๆ~!
เธอเป็นจากความคิดถึงมาเป็นแรงกระตุ้น กินข้าวเที่ยงคำโตๆเลย รีบวิ่งไปเอาน้ำมันหอมระเหยและกลีบดอกไม้จำนวนมากมายที่ห้องอาบน้ำของคุณแม่ กลับมาแช่ตัวอาบน้ำอย่างสบายๆ!
เธอต้องการอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดๆ ตัวหอมๆ ก่อนที่คุณอาจจะกลับมาๆ
แฮร่ๆ~(พูดแบบเขินๆ:-D)
ตอนบ่ายสามครึ่ง เมิ่งอี้หลั่งกับมู่อี้เจิ๋อสองผัวเมีย ทยอยกลับมา และนั่งที่ห้องรับแขก
อุปกรณ์ดื่มชามีแก้วกระดาษ ในแก้วกระถูกรินด้วยไวน์ข้าว ไวน์ข้าวพวกนี้แต่ละแบรนด์ก็ไม่เหมือนกัน ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ก็ไม่เหมือนกันด้วย ในครัวมีขนมบัวลอยกำลังต้มอยู่ ชิ้นเล็กชิ้นใหญ่แตกต่างกันไป
มู่อี้เจ๋อดื่มเลือกดื่มแก้วนึงและกล่าวว่า:”รสชาติแก้วนี้ไม่เลวนิ ส่วนแก้วข้างๆนี้เหมือนน้ำเปล่ามากกว่า รสชาติจืดชืด”
“ฉันคิดว่าแก้วนี้ก็โอเคนะ แต่แอบหวานไปนิดๆ”เจี่ยงซินลองชิมแก้วนึง ผัวเมียทั้งคู่ก็แลกเปลี่ยนกันชิม
เมิ่งอี้หลั่งก็กำลังชิมเหมือนกัน แต่เขาไม่ค่อยสนใจในเรื่องไวน์ข้าวสักเท่าไหร่ ดื่มไปหลายแก้ว รู้เพียงว่าหวาน รสชาติอย่างอื่นชิมนี่ไม่ออกเลยจริงๆ
เขาถอนหายใจและเอ่ยขึ้นว่า:”รีบตัดสินใจสิ นี่ก็จะค่ำแล้ว ไม่รู้ว่าซือซ่าวพวกเขาเมื่อไหร่จะมาซะทีเนี่ย รีบตัดสินใจ ให้ทางครัวทำอาหารเสร็จจะได้จัดโต๊ะอาหารซะที”
ขณะนี้ เมิ่งเสี่ยวหวีกำลังเดินลงมาจากบันได
ตาของเธอยังแดงเพราะร้องไห้มา เห็นหลังผู้ใหญ่สามท่าน:”คุณพ่อ! คุณลุงมู่! น้าซิน!)
ทั้งสามท่านหันไปมอง ถึงนึกได้ว่า เมิ่งเสี่ยวหวีน่าจะกลับมาตั้งแต่เช้าแล้ว
แต่ทุกคนมัวแต่ยุ่งเรื่องของตน จึงลืมเรื่องที่จะไปรับเธอไป!
เจี่ยงซินลุกขึ้นยืน มองเธอ:”มาลูก ไม่ร้องแล้ว เทียนซิงเป็นคนไปรับเธอที่สนามบินมาใช่มั้ย”
เมิ่งเสี่ยวหวีพยักหน้าตอบ พอลงมาถึงก็พุ่งเข้าไปอ้อมกอด มองตาเธอพร้อมพูดว่า:”น้าซิน น้าชอบพี่ชายหนูที่สุดเลยไม่ใช่เหรอคะ เทียนซิงไม่เข้าใจ แต่น้าจะไม่เข้าใจด้วยไม่ได้นะคะ บนโลกนี้นอกจากพี่ชายหนูแล้ว คงไม่มีใครรักเดียวใจเดียวดีกับเธอแบบนี้อีกแล้ว”
เจี่ยงซินทำตัวไม่ถูกเลยจึงยิ้ม ช่วยเธอซับน้ำตา และกล่าวว่า:”เรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันนี้มันวุ่นวายสับสนเต็มไปหมด เทียนซิงก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เธอมีความคิดของตนเอง เราจะห้ามความคิดเธอมันก็ไม่ถูก ใช่มั้ยล่ะ?”
ที่จริงเจี่ยงซินชอบเมิงเสี่ยวหลงอยู่นะ ตั้งแต่ทราบข่าวว่าเมิ่งเสี่ยวหลงไปมีเรื่องกับคุณชายหนีที่ร้านหมูกระทะ ความรู้สึกที่ชอบเอ็นดูเมิ่งเสี่ยวหลงก็เปลี่ยนไป!
คุณชายหนีเป็นใคร?
เมิ่งเสี่ยวหลงกล้าไปมีเรื่องกับเขาได้ยังไงกัน? ไม่เจียมตัวซะเลย
เด็กคนนี้ ปกติก็ทำตัวดีนะ แต่เวลาไปก่อเรื่องขึ้นมา มันน่ารำคาญมากกว่าคนที่ดูน่ารำคาญทั่วไปซะอีก!
“น้าซิน!น้าก็ไม่ควรปล่อยให้เทียนซิงแต่งงานกันคนพิการนี่นา”
“ไม่มีเรื่องแบบนี้ซะหน่อย เทียนซิงกับซือซ่าวไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งนั้น เรื่องแต่งงานได้ยกเลิกไปแล้วนิ”
ทั้งสองกำลังคุยกัน มู่อี้เจ๋อทำหน้าเข้ม จ้องหน้าเมิ่งเสี่ยวหวี เพื่อห้ามเธอพูดต่อ จึงกล่าวว่า:”เสี่ยวหวีนะเสี่ยงหวี นี่ไม่ใช่เวลามาคุยเรื่องในอดีตนะ เธอจะไปพักผ่อนบนห้อง หรือว่าไปเล่นกับเทียนซิงก่อนก็ได้ เราต้องรีบทำเวลา เพื่อช่วยพี่ชายเธอน่ะ”
“เมิ่งอี้หลั่งไม่ได้เห็นหน้าลูกสาวมาหลายเดือน จูงตัวลูกสาวไปมุมห้อง จ้องหน้าปาดสายตาจากล่างขึ้นบน กล่าว:”เธออย่าเพิ่งกวนทุกคนกำลังเตรียมอาหารเย็นก่อนสิ คนที่สามารถช่วยพี่ชายเธอได้จะมาทานข้าวเย็นนี้แล้ว ฐานะเขาสูงส่งมากนะ ทุกคนกำลังยุ่งอยู่ ลูกไปเล่นกับเทียนซิงก่อนเถอะ นะลูกนะ!”
เมิ่งเสี่ยวหวีเหล่ตาใส่เมิ่งอี้หลั่ง:”ฉันไม่ไป! เธอทรยศพี่ชายฉัน ! ยังไงฉันก็ไม่ไป!”
“เธอ!เธอนี่มัน พูดอะไรแบบนี้ได้ไง คนที่ทำผิดก็คือพี่ชายเธอ เธอทำไมไม่แยกแยะอะไรถูกอะไรผิดแบบนี้ไปฝึกใครมาอ่ะ?”
เมิ่งอี้หลั่งขมวดคิ้ว เห็นขนมบัวลอยก็ทยอยยกมาวางโต๊ะละ เขาเร่งบอกกับเมิ่งเสี่ยวหวี:”เธอไม่ไปหาเทียนซิงก็ตามใจ งั้นก็นั่งอยู่ตรงนี้ดีๆล่ะ อย่าไปมีเรื่องกับใครก็แล้วกัน!”
ผู้ใหญ่ทั้งท่านกลับมานั่งพร้อมหน้ากันอีกครั้ง มือถือช้อนเล็กๆคนละอัน กำลังลองชิมบัวลอยกัน และปรึกษาคุยกันไปตามประสาผู้ใหญ่
เมิ่งเสี่ยวหวีเห็นแบบนี้ รู้สึกไม่มีใครสนใจเธอเลย
เธอเดินไปข้างหน้าเห็นแก้วกระดาษหลายใบ ถ้วยหลายๆถ้วย เธอจึงลองดื่มแก้วนึง
เมื่อรู้ว่าเป็นไวน์ข้าว เธอยกคิ้วขมวดส่ายหัว:”นี่มันอะไร ไม่อร่อยเลย”
มู่อี้เจ๋อที่เพิ่งชิมยฺเหวียนเซียวไปคำนึง เขาทำตาโตเอ่ยขึ้นอย่างพอใจว่า :”ไวน์ข้าวหมายเลข4ทานคู่กับถ้วยบัวลอยหมายเลข2 รสชาติมันเข้ากันได้ดีจริงๆ!”
เมิ่งอี้หลั่งรีบบอกเจี่ยงซิน:”ไปเรียกเทียนซิงลงมาซิ เธอเคยชิมฝีมือของคุณหญิงหนี ต้องจำรสชาตินี้ได้ขึ้นใจแน่ๆ”
“ใช่ๆๆ ดิฉันไปเรียกเดี๋ยวนี้นะคะ!”
เจี่ยงซินพูดจบเตรียมจะขึ้นไปชั้นบน แต่ถูกเมิ่งเสี่ยวหวีห้ามไว้ก่อน:”
น้าซิน ไปทำธุระก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูไปเรียกให้เองนะคะ”
เมิ่งเสี่ยวหวีเคาะประตูห้องคู่เทียนซิง แต่ไม่มีเสียงอะไรเลย ด้วยความแปลกใจเธอจึงผลักประตูแล้วเดินเข้าไปในห้อง ก็ไม่เห็นมีใครอยู่ข้างใน
อากาศภายในห้องมีแต่กลิ่นดอกไม้หอมฟุ้ง เหมือนมีคนกำลังอาบน้ำอยู่ เธอจึงเดินไปฝั่งห้องอาบน้ำ จึงพบว่าเวลานี้มู่เทียนซิงกำลังนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเต็มไปหมด ดูกำลังแช่ตัวอย่างมีความสุข
เมิ่งเสี่ยวหวีรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที:“เทียนซิง นี่เธอ! เธอทำให้ฉันผิดหวังจริงๆเลย พี่ชายฉันยังขังอยู่ทั้งคน เธอยังมีอารมณ์มาแช่อ่างโรยกลีบดอกน้ำแบบนี้อีกเหรอ?”
มู่เทียนซิงไม่คิดเลยว่าเมิ่งเสี่ยวหวีจะเข้ามาห้องเธอ
เธอรีบเอาขนหนูมาพันตัว และเธอก็เห็นเมิ่งเสี่ยวหวีกำลังมองเธอด้วยความตกตะลึง
“มีอะไรหรือเปล่า?”มู่เทียนซิงรู้สึกประหลาดใจ
เมิ่งเสี่ยวหวีพูดด้วยความโกรธ:”พี่ชายฉันกัดหน้าอกเธอจนเป็นรอยจ้ำแบบนี้ เธอยังไม่ยอมแต่งงานกับเขาอีกเหรอ?”