รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - ตอนพิเศษ 4
อึนคังทอดสายตามองทนายรยูพลางเปิดปากตอบอย่างสงบ สิ้นสุดสงครามทางสายตาสั้นๆ ที่รู้สึกว่ายาวนาน
“ถ้าไม่ทำแบบนั้นน่าจะดีกว่าค่ะ”
“ถ้าไม่ทำแบบนั้นน่าจะดีกว่างั้นเหรอครับ”
“ตอนนี้พวกเราไปกันได้ดี เสียดายที่เพิ่งมาเจอกัน อยู่ด้วยกันตั้งแต่ลืมตาตื่นจนเข้านอน ก็ยังเสียดายจะแย่ว่าทำไมไม่เจอกันเร็วกว่านี้ คุณจีฮวันได้รับข้อเสนอจากบริษัทต่างๆ และธนาคารชั้นหนึ่งของประเทศ แต่สาเหตุที่เขาเลือกเป็นฟรีแลนซ์ ก็เพื่อให้ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นอีกนิด พวกเรามองเห็นและฟังเสียงของกันและกัน คงมีแค่พวกคนทรงเจ้าล่ะมั้งคะที่จะทำให้เราแยกกัน คุณทนายพูดไปก็เมื่อยปากและเหนื่อยเปล่า”
“ต่อให้ตายก็ไม่แยกจากกัน อย่ามาพูดอะไรไร้สาระแบบนั้นหน่อยเลย”
ทนายรยูยิ้มหยันพลางดื่มกาแฟหนึ่งอึก
“ผมเป็นคนที่เชื่อว่า ไม่ว่าจะคนหรือสิ่งของก็มีที่ที่เหมาะสมของตัวเอง รู้ว่าค่านิยมแบบนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าล้าหลัง แต่การที่บอกว่าคนเราเสมอภาคกันนั้นมันแค่คำพูดไร้สาระเพ้อฝันของพวกนักอุดมคตินิยม คนเราจะเหมือนกันได้ยังไง ถ้าต้อนรับอัจฉริยะที่ประสบความสำเร็จจากความพยายามอย่างเต็มที่เท่ากับพวกทึ่มไม่เอาไหนที่ใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างปล่อยปละละเลย ใครมันจะตั้งใจพยายามอีก ผมอยากได้ผู้หญิงที่เหมาะกับลูกชาย ได้รับการศึกษาที่ดีภายใต้การดูแลของพ่อแม่ที่ดีเยี่ยม มีความสง่างาม และประสบความสำเร็จในวงสังคมมาเป็นคู่กับลูกชาย ในฐานะพ่อแม่ก็คิดว่าเหตุอันสมควร ไม่ใช่ปล่อยให้ผ่านเลยไปแบบนี้”
อัจฉริยะกับพวกทึ่มไม่เอาไหน รยูจีฮวันนี่ไม่ต้องบอกก็ต้องเป็นอัจฉริยะ ส่วนเธออาจจะทึ่มแต่ไม่ถึงขนาดไม่เอาไหน และไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างปล่อยปละละเลย อึนคังบ่นพึมพำในใจด้วยรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
“รู้จักรยูจีฮวันดีแค่ไหน คบกันแค่ห้าเดือน คงไม่คิดว่ารู้จักเขาทั้งหมดหรอกนะ เด็กคนนั้นเหมือนฉัน ทั้งเย็นชา มีความทะเยอทะยาน และมาตรฐานสูงมาก ใจจืดใจดำทั้งกับตัวเองและคนอื่น รยูจีฮวันที่มีนิสัยเจ้าระเบียบและอนามัยจัด เห็นอะไรของคุณโกอึนคังถึงได้มาหลงรักล่ะครับ เพราะความแปลกใหม่งั้นหรือ มันออกจะประหลาด หรืออาจจะรู้สึกถึงเสน่ห์ที่ได้ทำตามใจตัวเอง ออกนอกมาตรฐานที่ต่างกับตัวเองมากๆ แต่ความแปลกใหม่นั่นจะอยู่นานเท่าไหร่ หนึ่งปี? สองปี? พอหายหน้ามืดตามัว คนคนนี้ก็กลับมาเป็นคนที่ผมเคยรู้จักที่เย็นชาจนน่ากลัว ถ้าหมดใจก็จะทิ้งคุณโกอึนคังอย่างไม่หันกลับมามอง รยูจีฮวันเป็นคนอย่างนั้น”
“เหมือนคุณทนายสินะคะ”
ทนายรยูอึ้งไปชั่วขณะ อึนคังจ้องเขาด้วยดวงตาดำขลับเป็นประกายเฉียบคม
สายตาที่ทำให้อึดอัดแปลกๆ เหมือนโดนบีบคอ ทนายรยูคลายเนกไทโดยไม่รู้ตัว
“ก็อาจะเป็นได้ค่ะ ทั้งใจของคุณจีฮวันและฉัน ฉันคิดว่าสักวันมันก็อาจจะลดน้อยลง แต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ เพราะฉะนั้นคิดว่าวันนี้จะรักให้เต็มที่เพื่อจะได้ชะลอเวลาวันที่ความรักลดน้อยลงจะมาถึงค่ะ พวกเราจะทำทุกอย่างจนถึงที่สุด ถ้าวันไหนความรักของคุณจีฮวันน้อยลง ฉันก็จะลองพยายามทำให้มากขึ้น กลับกันนะคะ ถ้าเกิดใจฉันเลิกสนใจ คุณจีฮวันเองก็จะพยายามเหมือนกัน ต่างคนต่างพยายามแบบนั้น ฉันเชื่อค่ะว่าสุดท้ายเชื้อไฟในใจเราจะยังคงอยู่ แต่ถ้าสุดท้ายทำอะไรไม่ได้ ก็จะได้จบและแยกจากกันไปด้วยดี ถ้าคุณทนายจะช่วยคอยอยู่เงียบๆ จนกว่าจะถึงตอนนั้นก็จะดีนะคะ”
“ฮ่าๆ ฮ่าๆๆ”
ทนายรยูหัวเราะลั่น ไม่ใช่หัวเราะเพราะตลกหรือสนุก แต่เป็นการหัวเราะเยาะเย้ย ตั้งใจจะทำลายกำลังใจฝ่ายตรงข้าม แต่อึนคังไม่หวั่นไหว
“ให้คอยอยู่เงียบๆ จนกว่าความรักจะหมดอายุ? อย่ามาพูดจาไร้สาระ”
ทนายรยูหยุดหัวเราะแล้วจ้องอึนคัง
“แล้วยังไงครับ ผมเป็นคนไม่อดทนเสียด้วย ให้คอยสามเดือน สี่เดือน ไม่ไหวหรอก ถ้ามีเป้าหมายแล้วต้องทำให้สำเร็จ”
“ยังไงพวกเราก็ไม่เลิกกันค่ะ ถ้าจะเลิกกันเพราะใครบอกให้เลิก คงจะไม่เริ่มตั้งแต่แรกแล้ว ฉันเป็นคนแบบนั้นค่ะ”
“เป็นผู้หญิงที่น่าสนุกจริงๆ ก็ลองดูครับ ถ้าเป็นเรื่องความอดทน ความดื้อดึง ความตั้งใจเด็ดเดี่ยวแล้ว ผมเองก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน ลองดูครับ”
ลูกชายแสนเพียบพร้อมของตัวเองมาตกหลุมรักนักเขียนแบบนี้ ได้แต่มองอย่างเสียดายเวลาในช่วงสามสิบกว่าที่ถือได้ว่าเป็นช่วงสำคัญที่สุดในชีวิตของผู้ชาย
“ผมพูดสิ่งที่จะพูดไปหมดแล้ว ต่างคนก็ต่างยุ่ง งั้นขอตัว”
ทนายรยูลุกขึ้นจากที่นั่ง อึนคังก็ลุกตาม
อึนคังรีบเรียกทนายรยูที่เพิ่งเดินออกจากคอฟฟี่ช็อปเอาไว้
“เอ่อ คุณทนายคะ!”
ทนายรยูหันมา
“นี่…”
อึนคังยื่นถุงกระดาษด้วยสองมือให้อย่างระมัดระวัง
“อะไร”
“อาจจะแค่เล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นของขวัญที่มีค่ามาก ช่วยรับไว้ด้วยนะคะ”
ทนายรยูรับถุงกระดาษมาเปิดดูสิ่งที่บอกว่าเป็นของขวัญ เขามองอึนคังด้วยสีหน้าไม่พอใจทันที
ในถุงกระดาษอัดแน่นได้ด้วยผักหลายชนิดทั้งผักกาดหอม, ชิโครี่, พริกอ่อน และอื่นๆ สีหน้าของทนายรยูยิ่งเย็นชาขึ้นไปอีก
“จะล้อเล่นรึไง เอาของพวกนี้มาทำไม! นี่มันขยะชัดๆ!”
ทนายรยูเขวี้ยงถุงกระดาษทิ้งราวกับทนดูไม่ได้ ถุงขาดผักต่างๆ จึงกระจายเกลื่อนเต็มพื้น
คนที่ผ่านไปมาต่างหันมามอง ทนายรยูหน้าแดง อึนคังย่อตัวลงเก็บผักที่เกลื่อนกลาดอยู่โดยไม่พูดอะไร
ทนายรยูยืนมองอึนคังเก็บผักอย่างทำอะไรไม่ถูก จะไปก็ไม่ได้ จะช่วยก็ไม่ได้ เป็นความผิดของเธอ เอาของไม่ได้เรื่องแบบนี้มาบอกว่าเป็นของขวัญ ผลงานชิ้นเอกอะไรนักหนา นึกว่าฉันจะซาบซึ้งหรือไง
หลังจากเก็บผักต้นสุดท้ายใส่ในถุงกระดาษที่ขาด อึนคังก็จับถุงส่วนที่ขาดลุกขึ้นด้วยความระมัดระวัง ทนายรยูหลบตาอึนคัง
“มุมนึงในสวนเราทำแปลงผักสวนครัวเล็กๆ เลือกเตรียมดินตั้งแต่ก่อนใบไม้ผลิ หว่านเมล็ด รดน้ำเฝ้าดูทุกวัน… คุณจีฮวันปลูกอย่างทะนุถนอม”
ทนายรยูตกใจหันขวับ
“ทุกครั้งที่ผักกาดหอมงอกออกมา ชิโครี่โต และพริกออก คุณจีฮวันจะมีความสุขมาก ฉันเลยอยากเอาผักที่ปลูกด้วยความสุขและความเอาใจใส่ของลูกชายท่านมาให้ทานอย่างอร่อย…”
อึนคังกอดถุงกระดาษที่ขาดไว้แนบอกพลางโค้งลาแล้วหันหลังเดินไป
ทนายรยูหน้าแดงจ้องด้านหลังของอึนคังที่เดินจากไป รู้สึกโดนสบประมาทและตกหลุมพราง คงไม่ได้ตั้งใจแสดงฉากเอาผักมาให้เขาขว้างทิ้งหรอกนะ ทนายรยูไม่อาจสลัดความรู้สึกไม่สบายใจที่ถูกมองเป็นคนร้ายออกไปได้
* * *
ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง อึนคังก็เดินกลับมาถึงบ้าน น้ำตายังไหลออกมาเรื่อยๆ แสงแดดบ่ายสี่โมงในต้นฤดูร้อนยังร้อนมาก
เดินอย่างอ่อนระโหยโรยแรง มือข้างนึงกอดถุงกระดาษที่ฉีกขาด อีกข้างเช็ดน้ำตา สงสารผักที่ถูกทิ้งขว้างลงกับพื้น สงสารจีฮวันที่เฝ้าทะนุถนอมหวงแหนกระทั่งใบนอกที่โดนแมลงกิน สงสารพ่อของจีฮวันด้วยที่หวงลูกแต่ก็ปฏิบัติต่อจิตใจของลูกเหมือนขยะ
หมู่นี้ทำไมอ่อนไหวน้ำตาไหลง่ายอย่างนี้ ท่าจะแก่แล้ว อึนคังเดินบ่นไปพลางจนกลับมาถึงบ้าน หยุดอยู่หน้าประตู มองเข้าไปในสวน
จีฮวันใส่หมวกฟางนั่งยองๆ ถือจอบถางหญ้าอยู่ในสวนครัว จากูกำลังนอนแผ่บนพื้นไม้ระแนงตรงทางเดินไปประตูหน้าบ้าน มีจีองนั่งเคลิ้มอาบแดดเป็นขนมปังปิ้งอยู่ที่มุมส่วนตัวตรงราวระเบียงหน้าบ้านด้วยสีหน้าพอใจ
ตอนตระเวนหาบ้านกับจีฮวัน บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ทั้งสองตกหลุมรักตั้งแต่เห็นครั้งแรก ถึงจะทะเลาะกันบ่อยๆ แต่หมากับแมวก็สนิทกันขึ้น และคนน่ารักที่ใส่หมวกฟางถอนหญ้าในสวนครัวก็คือผู้ชายของเธอ
อึนคังรักที่นี่และทุกสิ่งที่มาช่วยเติมเต็มความสุขให้จิตใจและร่างกายของเธอเท่าชีวิต มันครบสมบูรณ์แล้ว
“ไอ้หญ้าพวกนี้นี่ ถอนแล้วถอนอีก เฮ้อ พ่นยาก็ไม่ได้ จากู เลิกนอนแล้วมาช่วยกันถอนหญ้าหน่อย จีอง! ลูกก็ด้วย มาช่วยพ่อถอนหญ้าที! ชีวิตดีๆ ในสวน ถอนหญ้าก็หมดวันแล้ว เฮ้ย! ตกใจหมดเลย!”
จีฮวันเงยหน้ามาเจออึนคัง ตกใจเกือบหงายหลัง ตั้งหลักได้ก็ลุกขึ้น ใบหน้าภายใต้แสงแดดรำไรของจีฮวันช่างสว่างไสวแสบตา
“โกอึนคัง กลับมาเมื่อไหร่ มายืนเหม่ออะไรตรงนี้”
“ฉันกำลังอึ้ง ไม่รู้ว่านี่ใช่บ้านเราหรือเปล่า เกือบเดินผ่านไปแล้ว แต่ก็มีออร่าบางอย่างแพร่กระจายออกมา ทำให้ต้องถอยหลังกลับมา ผู้ชายคนนึงถือจอบถางหญ้านั่งอยู่ในสวน เป็นผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุดที่เพิ่งเคยเห็นตั้งแต่เกิดมา! เอ๊ะ พอดูดีๆ นั่นผู้ชายที่ฉันรู้จักใช่ไหมนะ ใช่ผู้ชายที่อยู่กับฉันหรือเปล่า จะใส่สูทใช้ของแบรนด์เนมก็ดูเท่ ขนามใส่เสื้อยืดกับหมวกฟางถือจอบนั่งยองๆ ในสวนยังดูเท่ขนาดนี้ได้ยังไง ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายที่เท่อย่างร้ายกาจขนาดนี้จะเป็นแฟนฉัน ฉันเลยยืนอึ้งอยู่ แหะๆ”
จีฮวันจ้องมองอึนคังฟังเธอแร็พรัวๆ จึงวางจอบลง ถอดถุงมือ และเปิดประตูรั้วออกมา
จีฮวันกุมแก้มทั้งสองข้างของอึนคังพลางสำรวจใบหน้าเธอไปทั่วราวกับค้นหาระเบิด แล้วถามหน้าเครียด
“ไปเจอใครมา ใครทำโกอึนคังของผมถึงได้ร้องไห้”