รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 25-1 ต้องหนีก่อนที่จะมีอาการแปลกๆ ไปกว่านี้!
จีฮวันค่อยๆ หลับตา อึนคังจึงปิดประตูออกมาด้วยความระมัดระวัง ขณะที่เธอหันกลับมานั่นเอง
“เฮือก!”
ตกใจแทบทรุด จีองนั่งอดทนรออยู่หน้าห้อง จ้องอึนคังด้วยสีหน้าดูไม่ค่อยพอใจนัก
อึนคังหันหลังจับลูกบิดหมายจะวิ่งกลับเข้าไปในห้อง แล้วก็เปลี่ยนใจ สูดหายใจเข้าช้าๆ หันมาเผชิญหน้ากับจีอง
“จีอง ฉัน ไม่ใช่คนไม่ดี ฉันเป็นเพื่อนบ้านอยู่กันคนละชั้น และทำงานด้วยกันกับพ่อ ไม่สิ กับทาสของเธอ และฉันทำผิดต่อทาสของนิดหน่อย ไม่สิ หลายครั้ง แต่ฉันไม่ใช่คนไม่ดี เพราะฉะนั้นอย่ามองฉันด้วยสายตาน่ากลัวอย่างนั้นได้ไหม”
อึนคังยกยิ้มมุมปากอย่างเกร็งๆ แต่สีหน้าของจีองยังคงนิ่งเฉยไม่เปลี่ยนแปลง
อึนคังเกลียดสภาพจะอารมณ์ดีไม่ดีแบบนี้มาก แค่มองหน้า ไม่อาจคาดเดาอะไรได้เลย
สำหรับหมา แค่คำพูดคำเดียวของอึนคัง จากูจากดีใจแฮ่กๆ ก็สลดแล้วหลบตา และกลับมาคึกใหม่อีกครั้ง งอนอีกรอบ ภายในสิบนาทีนี่เปลี่ยนสีหน้าไปสักสิบรอบได้ แต่สีหน้าของแมวต่างกันจริงๆ
“รู้งี้ศึกษานิสัยกับสีหน้าแมวไว้หน่อยดีกว่า เนอะ? ฉันกำลังจะไป จะกลับแล้ว เพราะฉะนั้นช่วยอยู่ตรงนั้นเฉยๆ นะ หืม?”
อึนคังเดินชิดติดผนังให้มีระยะห่างจากจีองกว้างอีกหน่อย ค่อยๆ กระดึ๊บสไลด์ข้างไปยังประตูหน้าบ้านช้าๆ ไม่ละสายตาเตรียมพร้อมเผื่อจีองวิ่งมา ตื่นเต้นจนกล้ามเนื้อตึงเปรี๊ยะไปทั้งตัว
แล้วเธอก็ไปถึงประตูโดยสวัสดิภาพ ขณะที่กำลังจะใส่รองเท้า เมี้ยววว เสียงร้องของจีองก็ดังขึ้น
อึนคังหันไปดูก็เห็นจีองตามมาถึงหน้าประตู นั่งเท้าชิดติดกันเรียบร้อย เงยหน้ามองอึนคังด้วยดวงตาแวววาวเหมือนอัญมณี
“อ้าว? ตามมาส่งฉันเหรอ บอกให้กลับดีๆ ด้วยใช่ไหม ว้าว ขอบใจนะ!”
“เมี้ยววว!”
“หืม? ว่าอะไรนะ”
จีองจ้องอึนคังอีกครั้ง ก่อนกลับไปยังห้องรับแขก
“ว้าว สวยอะไรขนาดนี้”
มองก้อนน่าเอ็นดูกับขนหางขาวฟูของจีองแล้วอดชื่นชมออกมาไม่ได้ แถมท่าเดินยังดูดีมีสง่า
“แมวนี่ เป็นสัตว์ที่สวยจริงๆ เลยน้า”
อึนคังพึมพำกำลังจะเปิดกระตู ก็ได้ยินเสียง ‘เคร้ง’
“เสียงอะไรน่ะ”
เสียงดังมาจากในครัว มองไปก็เห็นจีองที่นั่งหน้าตาผ่าเผยกับชามใส่อาหารสแตนเลสว่างเปล่าที่กระเด็นไปอยู่ข้างหน้า อึนคังทำหน้าฉงน จีองใช้เท้าเตะชามอาหารอีกครั้ง
“เหวอ!”
อึนคังเอามือกุมหัวย่อตัวลง แมวไม่ใช่นักกีฬาเบสบอล ไม่มีทางทำแบบนั้นได้เด็ดขาด แต่จีองทำราวกับว่ามันกำลังจะขว้างชามอาหารนั้น
จีองมองอึนคังที่กำลังกลัวเหมือนสงสารพร้อมกับส่งเสียงร้องอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง
“เมี้ยววว!”
“อ๋อ! ข้าว!”
‘ใช่แล้ว มนุษย์! ข้าว! ทาสกำลังนอนอยู่ เธอรีบเทข้าวเร็วๆ เลย’
“อ้า ข้าว ข้าว ใช่แล้ว ต้องกินข้าว ว่าแต่ฉันไม่รู้ว่าอาหารเธออยู่ที่ไหน”
เจอแล้ว ที่แรกก็เจอเลย ด้านล่างซิงค์ฝั่งซ้ายเป็นตู้กับข้าว มีอาหารสารพัดชนิดของจีองกองอยู่ในนั้น อาหารถูกแยกแต่ละอย่างเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบ อึนคังเห็นแล้วยังอยากกินหมดเลย
“แล้วต้องให้ขนาดไหน จีอง กินเยอะขนาดไหน เธอกินไม่เยอะใช่ไหม ดูยังไงก็น่าจะกินน้อย น่าจะเหมือนกับทาสของเธอ เขาว่ากันว่า จะคนหรือสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วยกัน ก็มักมีนิสัยการกินคล้ายๆ กัน”
อึนคังตักอาหารออกจากถังให้ตีอง จีองที่ดมกลิ่นคอยระวังตัวแป๊บนึง ก่อนลงมือกินอาหารทีละนิด
“จากูของฉันนี่แทบคลั่งเพราะความอยากกิน คราวก่อนไปตรวจ หมอตกใจกับน้ำหนักจากูมาก บอกว่าอ้วนขึ้นอีกแล้ว จากูของฉันเป็นพันธุ์คอร์กี้ที่เอวและขาสั้น พวกเขากลมง่ายเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าเลี้ยงให้อ้วน ข้อต่อก็จะทำงานหนักเกินไป หมอให้ลดน้ำหนักลงหน่อยน่ะ เฮ้อ ก็ลดอาหารแล้วนะ แต่เวลากินก็คอยมาวนเวียนร้องหิว จะบ้าตายมาก”
อึนคังย่อตัวลงข้างจีอง ได้ยินเสียงเคี้ยวอาหารพร้อมเสียงงึมงำ
“ใจพ่อแม่น่ะเนอะ รู้ทั้งรู้ว่าถ้าอ้วนขึ้น ลูกจะสุขภาพไม่ดี แต่ก็ทนไม่ได้พอลูกมาอ้อนหิว เราจะอดไม่อดไม่เป็นไร แต่ถ้าลูกหิวใจมันปวดมาก”
ใจจะปวดไม่ปวดไม่รู้ จีองเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินอาหาร
“จากูน่ะ เจ้านั่นกินไม่เหลือเลยสักเม็ด กินเหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย ว่ากันว่าคนเราก็มักจะเป็นไปตามชื่อ อาจผิดที่การตั้งชื่อ ฉันตั้งชื่อว่าจากู รู้ใช่ไหมว่าว่าต้องหมายถึงคนที่กินเยอะเกิน ว่าแต่จีอง เธอว่าชื่อจากูตลกไหม”
“เมี้ยววว”
“หา ตลกเหรอ นี่แมวยังขำเลยเหรอ สงสัยต้องไปเปลี่ยนชื่อที่เขตให้ใหม่แล้ว จากจากูเป็นยูกีกยอน[1]เจอกันตอนแรกจากูไม่กินข้าวเลย เอาแต่ซุกมุมร้องไห้ นึกว่าจะตายซะแล้ว ฉันก็เลยตั้งชื่อให้ว่าจากู จะได้กินเยอะๆ แล้วก็มีแรง แข็งแรงขึ้นเร็วๆ ซึ่งตอนนี้ก็แข็งแรงมาก แรงเยอะจนต้านไม่ไหวเลยแหละ”
จีองหยุดกินแล้วเริ่มแต่งขน
“ว้าว อาหารยังเหลืออยู่ แต่คงกินแค่นี้ใช่ไหม เธอนี่สุดยอดจริงๆ”
‘เชอะ ก็ประมาณนี้แหละย่ะ ฉันไม่ใช่แมวที่อยากกินมากเกินไปอย่างจากูนะ’
อึนคังเหม่อมองจีองที่ง่วนใช้น้ำลายเช็ดแต่งหน้า ด้วยสายตาตกใจระคนประหลาดใจ
“ฉันอยู่ใกล้แมวขนาดนี้ได้ด้วย มหัศจรรย์มาก เพราะเธอขอให้ฉันเอาข้าวให้เลยน้า ขอบใจนะ จีอง”
จีองที่กำลังแต่งขนหยุดเลียหันมามองอึนคังด้วยสายตาสีฟ้าเหมือนท้องฟ้าฤดูใบไม้ร่วง และเป็นประกายราวลูกแก้ว
* * *
จีฮวันลืมตาขึ้น รอบตัวมืดไปหมด กระดกตัวขึ้นไปหยิบนาฬิกาปลุกที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
ตีสี่แล้ว
เมื่อวาน อึนคังพาเขามานอน ห่มผ้าให้แล้วก็หลับไปในสภาพนั้น และหลับยาวมาจนเกือบสิบชั่วโมง จีฮวันที่ได้นอนหลับเต็มที่ รู้สึกตัวเบาขึ้นเหมือนจะหายแล้ว ตัวเบาขึ้นก็จริง แต่ในหัวตีกันให้วุ่นวาย
ให้ตายเถอะ จินตนาการไปว่าจูบกับผู้หญิงคนนั้นตอนที่นั่งเผชิญหน้ากัน ทำแบบนั้นขณะมองหน้าและคุยกับเธอได้ นี่เขาทำอะไรน่าเกลียดขนาดนี้
“อะไรเนี่ย ไม่ใช่วัยรุ่นสิบกว่าที่ควบคุมความหื่นไม่ได้สักหน่อย คิดอะไรอยู่เนี่ย จะสี่สิบอยู่พรุ่งนี้มะรืนนี้อยู่แล้วแท้ๆ โอ๊ยยย!
จีฮวันเอามือปิดหน้าล้มลงบนเตียงอีกครั้ง ช็อกที่ทำอะไรน่าเกลียดต่อหน้าอีกฝ่ายลงไป ซึ่งสำหรับจีฮวันเป็นการกระทำที่เหนือจินตนาการมาก
แต่ยิ่งกลุ่มยิ่งคิด ความรู้สึกในตอนนั้นมันก็วกกลับมา ติ่งหูนุ่มนิ่มที่คลึงเล่นด้วยนิ้ว ลิ้นของอึนคังที่พัวพันยังแจ่มชัด ดีพคิสที่เข้มข้นสมจริง…
จีฮวันลุกพรวดขึ้นอีกครั้ง
“ทั้งหมดนี่เป็นเพราะโกคึมกัง! เพราะนิยายสิบเก้าบวกของโกคึมกังแน่ๆ!”
จีฮวันทึ้งหัวตัวเองอยู่หลายชม.บนเตียงยันเช้า กลุ้มแล้วก็กลุ้มอีก และบทสรุปของความกลัดกลุ้มมีเพียงอย่างเดียว คือต้องไม่ทำงานด้วยกัน จะที่ปรึกษาหรืออะไรก็เถอะ เขาต้องหยุดความสัมพันธ์กับโกอึนคังก่อนที่ตัวเองจะมีอาการแปลกๆ มากไปกว่านี้
“ใช่แล้ว น่าจะเข้าใจ แล้วถ้าไม่เข้าใจจะทำไง ไหนจะสัญญาอีก ทำไมถึงได้ด่วนทำสัญญาแบบนี้นะ! แล้วถ้าโกอึนคังเรียกค่าปรับ ไม่ได้ เป็นผู้เชี่ยวชาญทำสัญญามาขนาดนี้ ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าให้ชดใช้เงิน…โอ๊ย ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ทำ ทำไม่ได้!”
แปดโมงเช้า จีฮวันหยิบมือถือขึ้นมา สูดลมหายใจ เตรียมจะกดโทรออก เสียงโทรศัพท์ก็ดังตัดหน้าขึ้นมาเสียก่อน สายจากบุคคลเจ้าปัญหาโทรมา
จีฮวันสะดุ้งตกใจ ทำมือถือตกลงบนเตียง อะไรกัน ผีก็ไม่ใช่ เขาลังเลแล้วถึงได้รับสาย
“สวัสดีครับ…”
[เอ๋? คุณพีบีตื่นแล้วเหรอคะ]
“ครับ”
[ฉันกะจะลองโทรมาดู แต่ตื่นแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย เป็นยังไงบ้างคะ นอนเต็มอิ่มไหม]
“ครับ ผมโอเคแล้ว”
[โชคดีจัง! งั้นอีกสักครู่เจอกันหน่อยได้ไหมคะ]
“โอเคครับ ผมก็มีเรื่องจะคุยด้วยอยู่พอดี”
[ดีเลย! งั้นเก้าโมงครึ่ง เจอกันที่ล็อบบี้นะคะ]
“ล็อบบี้? ทำไมไปเจอที่ล็อบบี้”
[อ้อ ตอนมาไม่ต้องใส่พวกสเว็ตเตอร์หนาๆ แล้วก็ข้างในใส่เสื้อยืดบางๆ พอนะคะ ไอ้พวกเสื้อกันหนาวมีฮู้ดหนาๆ ไม่ต้องใส่มาเลย ยิ่งเป็นเสื้อยืดแขนสั้นยิ่งดี กางเกงก็ใส่ที่คล้ายๆ พวกกางเกงผ้าฝ้าย! กางเกงยีนส์ห้ามนะคะ! เข้าใจนะคะ แล้วเจอกันค่ะ!]
แล้วโทรศัพท์ก็ตัดไป
“วะ ว่าไงนะครับ คุณนักเขียน! คุณโกอึนคัง! เอาแต่พูดๆ แล้วก็วางสายไป! ขอผมพูดบ้างสิ!”
เก้าโมงครึ่งเป๊ะ จีฮวันและอึนคังมาเจอกันที่ล็อบบี้ของคอนโด
“ทำไมนัดมาเจอเวลานี้ล่ะครับ”
ไม่มีคำตอบ จู่ๆ อึนคังก็เปิดเสื้อแจ็คเก็ตของจีฮวัน
“จะ จะทำอะไรน่ะ!”
จีฮวันตกใจยื้อยุดแจ็คเก็ตสุดชีวิต
“เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่ให้ใส่เสื้อหนาๆ มา ทำไมถึงใส่สเว็ตเตอร์มาล่ะคะ ใส่แค่เสื้อยืดบางๆ กับแจ็คเก็ตก็พอแล้ว”
อึนคังที่เช็คเสื้อตัวในของจีฮวันทำหน้าผิดหวังอย่างไม่ปิดบัง จีฮวันฉุนอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผู้หญิงคนนี้นี่
“ตอนนี้หนาวมากไม่ใช่หรือไงครับ แล้วจะเสื้อหนาหรือบาง ทำไมผมจะใส่ตามใจตัวเองไม่…”
“อ๊ะ? แท็กซี่มาแล้ว ไปค่ะ!”
จู่ๆ อึนคังที่คอยมองทางเข้าคอนโดก็จับมือจีฮวันวิ่งไป
เฮ้อ เมื่อวานก็จับ ตอนนี้ก็จับมือคนอื่นอีก ไม่ถงถามสักคำ! จีฮวันถูกอึนคังลากขึ้นแท็กซี่ที่จองไว้ไป เธอบังคับดันให้เขาเข้าไปนั่งเบาะหลัง
“แล้วจะไป…”
“สวัสดีค่ะคุณคนขับ”
อึนคังทักทายอย่างสดใส ชายคนขับรถตอบรับอย่างใจดี
“ครับ เช้านี้อากาศดีนะครับ คุณลูกค้าที่จะไปแถวโซกงดงที่โซลใช่ไหมครับ”
“ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ”
“เอ่อ จะไปโซลเหรอครับ ไปทำไม ไม่บอกอะไรผม…”
“ถ้ารู้ก่อนก็ไม่สนุกสิคะ รออีกนิดก็จะรู้แน่ๆ ว่าจะไปทำอะไร คุณพีบีนี่ใจร้อนจริงๆ นะคะ”
“คิดว่าผมสนุกหรือครับตอนนี้ นัดคนอื่นมาปุบปับ แถมไม่บอกว่าจะไปไหน จู่ๆ ก็ลากขึ้นแท็กซี่มาเลย…”
“ถึงแล้วปลุกด้วยนะคะ เพราะคุณพีบี ทำฉันไม่ได้นอนจนถึงเช้ามืด หาววว”
“ว่าไงนะครับ ทำไมเพราะผม…”
แล้วอึนคังที่หาวด้วยความเพลียก็เอนหลังพิงเบาะ ไม่ได้โกหก แต่ไม่ถึงสิบวิก็หลับสนิทไปเลย
“เฮ้อ”
แล้วเสียงหัวเราะขำของคนขับแท็กซี่ก็ลอยเข้ามาในหูของจีฮวันที่ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
“ฮ่าๆ แฟนคงเหนื่อยมาก จับให้เธอพิงดีๆ สิครับ คอจะได้ไม่พับไปมา”
ว่าไงนะ เฮ้อ เพราะคำพูดของอึนคังที่บอกว่า ‘เพราะคุณพีบี ทำฉันไม่ได้นอนจนถึงเช้ามืด’ แท้ๆ คนขับแท็กซี่ถึงได้ตีความไปในทิศทางนั้น
รู้สึกไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย จะแย้งก็สายไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะบอกว่าไม่ใช่อย่างไร จีฮวันเลยปิดปากเงียบ
จีฮวันค่อยๆ พิงไหล่กับหัวของอึนคังที่หลับสนิท พลางตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะบอกไม่รับเป็นที่ปรึกษาทันทีที่ลงจากรถแท็กซี่
* * *
[1] ยูกีกยอน ภาษาเกาหลีแปลว่าสัตว์จรจัด