รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 28-2 ความแตกต่างระหว่างความจริงกับภาพลักษณ์, การโกหก, ความจอมปลอม
- Home
- รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ
- บทที่ 28-2 ความแตกต่างระหว่างความจริงกับภาพลักษณ์, การโกหก, ความจอมปลอม
ผู้จัดการหยิบเข็มหมุดออกจากในกระเป๋า พนักงานถึงกับหน้าซีดกันเป็นแถว
“ไปเอาที่ปฐมพยาบาลมา…”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่พลาสเตอร์ยาสักอันก็พอ”
พนักงานที่รับคำรีบวิ่งไปเอายาฆ่าเชื้อกับพลาสเตอร์ยามา พนักงานรุมล้อมเธอด้วยความกระวนกระวาย แต่ราฮีกลับติดพลาสเตอร์อย่างสงบ ราฮีที่นั่งอยู่คนเดียวหน้าพนักงานที่ยืนอยู่ ดูเหมือนนางพญากับพวกผึ้งงาน
“ทางเราผิดมากๆ”
ผู้จัดการก้มศีรษะให้ราฮี บรรดาพนักงานก็ก้มตาม
“ขะ ขอประทานโทษด้วยนะครับ ผมเป็นคนตรวจสอบคนสุดท้าย แต่กลับเอาเข็มหมุดออกไม่หมด…ขอประทานโทษด้วยจริงๆ ครับ”
พนักงานวัยรุ่นชายโค้งจนศีรษะแทบแตะพื้น เหงื่อท่วมไปทั้งตัวด้วยความวิตกกังวล
“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไร มันเกิดขึ้นกันได้ โชคดีที่ฉันเป็นคนเจอก่อน ถ้าคุณพ่อไม่รู้เอาไปใส่เลย…”
ประธานพัคชีดึก ประธานแห่งเครือบูกยองกรุ๊ป พ่อสามีของราฮี อายุเจ็ดสิบ ขึ้นชื่อในวงการธุรกิจว่าเป็นคนที่มีนิสัยใจร้อนและนิสัยรุนแรงน่ากลัว
เสียงดังโดยกำเนิดกอปรกับรูปร่างใหญ่ เหมือนคนที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเรียนรู้วิธีพูดเบาๆ นิสัยหยาบกระด้าง ชอบโวยวายเสียงดังเป็นประจำ
ถ้ามีเรื่องไม่ถูกใจจะออกคำสั่งเด็ดขาดเดี๋ยวนั้น ไม่สนใจเวลาและสถานที่ การเชือดพวกกรรมการบริษัทหัวหงอกต่อหน้าลูกน้องหนุ่มสาวนี่ถือเป็นเรื่องธรรมดา
ใบหน้าของผู้จัดการที่รู้จักนิสัยของประธานปาร์คที่เป็นลูกค้าประจำมากว่ายี่สิบปีถึงกับซีดเผือด
“ทางเราจะจ่ายคืนให้นะครับ”
ราฮีตกใจโบกมือปฏิเสธ
“ไม่ค่ะ ไม่ต้อง ไม่ต้องทำแบบนั้นนะคะ ฉันจะไม่บอกคุณพ่อ ไม่ต้องห่วงนะคะ เรื่องแค่นี้ไม่ถึงขนาดต้องมาชดใช้อะไรเลยค่ะ”
“แต่ทางเราผิดมากเกินกว่าจะปล่อยผ่านไปเฉยๆ…”
“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไร แผลไม่ได้ใหญ่ไม่ได้มีอะไรหักหรือบาดลึกตรงไหน แค่เลือดออกหยดเดียว ฉันไม่อยากแสดงอำนาจบาตรใหญ่ เลือดฉันไม่ได้แพงอะไรขนาดนั้น และเดิมทีคุณพ่อท่านเป็นคนจริงจังเรื่องของส่วนตัวกับของฟรีอยู่แล้ว ขืนได้เงินคืนเพราะเรื่องนี้ ฉันต้องโดนเอ็ดแน่ๆ ค่ะ”
ที่พูดมานั้นเป็นเรื่องโกหก คนที่ชอบของฟรีมากกว่าใครในโลกก็คือประธานปาร์คนี่แหละ ‘อาหารที่อร่อยที่สุดในโลกคืออาหารที่ขอมา ของที่ดีที่สุดในโลกคือของที่เก็บหรือแย่งชิงมาได้’ สิ่งเหล่านี้แทบจะเป็นหลักการในชีวิต
“แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ”
เหล่าพนักงานมองราฮีขณะกระดิกนิ้วที่แปะพลาสเตอร์ยาพร้อมกับยิ้มหวาน เหมือนมีแสงที่เปล่งรัศมีมาจากด้านหลังเธอ
สำหรับร้านที่เกือบเสียหายหลายล้านวอนเพราะเข็มหมุดอันเดียว และพนักงานที่รับผิดชอบที่ราวกับฟื้นกลับมาจากนรก รอยยิ้มของราฮีเป็นแสงอาทิตย์ที่ทำให้ความมืดกลับมาสว่างอีกครั้ง
พนักงานทุกคนต่างซาบซึ้งในจิตใจที่เหมือนนางฟ้าของราฮี อย่างคำพูดที่เคยได้ยิน ‘ผู้มั่งมีควรช่วยเหลือผู้ด้อยกว่า’ ข่าวลือที่ว่า ‘ได้สะใภ้ที่มีพร้อมทั้งรูปร่าง หน้าตาและสติปัญญาเข้ามาในครอบครัวเศรษฐีใหม่ที่ไม่มีความรู้ ภูมิหลังเป็นกรรมกร’ นั้นเป็นความจริงโดยแท้
“เรียบร้อยดีแล้ว ฉันไปก่อนนะคะ”
“ขอบพระคุณจริงๆ นะครับคุณผู้หญิง!”
ราฮีไม่พลาด สายตาของสองแม่ลูกที่เคยกระซิบกระซาบนินทาเธอ เปลี่ยนจากความอิจฉาริษาเป็นความนับถือและชื่นชม
ผู้จัดการและพนักงานทั้งหมดตามออกมาโค้งส่งเก้าสิบองศา ราฮีขึ้นรถไปแล้วพลางส่งยิ้มเหมือนนางฟ้า
“ช่วยไปซัมซองดงทีนะคะ”
“รับทราบครับ”
คนขับออกรถ โดยมีสายตาแสดงความขอบคุณของพนักงานร้านตัดสูทเกาะติดท้ายรถตามไปด้วย
โดยปกติแล้วสายตาของผู้คนจะช่วยกระตุ้นความมีศักดิ์ศรีของราฮี แต่ตอนนี้คำสรรเสริญหรือความอิจฉาก็ไม่สำคัญแม้แต่น้อย ภายในหัวของเธอที่เหลือเพียงคนเดียวในรถ คิดถึงแต่จีฮวันและ ‘ผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วย’ ของเขา
“คุณผู้หญิง จะให้ไปเส้นไหนดีครับ”
“เส้นไหนก็ได้ค่ะ”
“สะพานบันโพ สะพานฮันนัมติดหนัก จะไปเส้นสะพานดงโฮนะครับ”
“ได้ค่ะ”
กว่าจะออกจากจงโนก็ใช้เวลาสักพัก ขณะที่ผ่านอึลจีโรและมยองดง บรรดาตึกบริษัทหลักทรัพย์และธนาคารที่เรียงกันหนาแน่นก็ปรากฎขึ้นในสายตา สายตาของราฮีจับจ้องหนึ่งในตึกนั้นอยู่นาน ตึกสำนักงานใหญ่ที่จีฮวันเคยบรรจุตำแหน่งเป็นครั้งแรกหลังจบมหาวิทยาลัย
ราฮีที่ได้งานก่อนจีฮวัน ในตอนนั้นได้ทำงานในห้องส่งเล็กๆ ในขณะที่สั่งสมประสบการณ์เรื่อยๆ ระหว่างคอยจีฮวันเลิกงาน ก็จะหาข่าวจากคอฟฟี่ช็อปแถวนั้น จัดการบทที่จะใช้ออกอากาศวันรุ่งขึ้น และไปเดตกัน ซึ่งเดินเสียเป็นส่วนมาก
อึลจีโร, ยออีโด, คังนัม จีฮวันย้ายบริษัทไปที่ไหน ก็เปลี่ยนสถานที่เดตไปแถวนั้น นึกถึงคาเฟ่และร้านอาหารที่ไปบ่อยๆ ตรอกซอกซอยที่เดินจับมือกัน ก็ยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ราฮีสะดุ้งกับความคิดเหลวไหลไร้สาระพลางสะบัดหัวแรงๆ
“คุณผู้หญิง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ ปวดหัวหรือครับ ให้หรี่แอร์ไหมครับ”
“เปล่าค่ะ ฉันไม่เป็นไร รถติดจังนะคะ”
“ขอประทานโทษครับ”
“คนขับคิมไม่ได้ทำผิดอะไรนี่คะ ถนนก็แบบนี้ ในโซลหาถนนที่รถไม่ติดยากนะคะ”
แม้แต่บนสะพานตอนกลางวันก็ยังติด แล้วมือถือของคนขับรถก็ดังขึ้น
“ครับ ครับ ใช่ครับ ครับ คอยสักครู่นะครับ”
คนขับรถส่งโทรศัพท์มือถือให้ราฮี
“โทรศัพท์ครับ จากฝ่ายประชาสัมพันธ์”
ราฮีตั้งสติอยู่ชั่วครู่
“ค่ะ ภรรยากรรมการพัคซองบอมค่ะ”
เวลาพบหน้าค่าตาคนในบริษัท ราฮีจะทิ้งชื่อตัวเอง ไม่ใช้ ‘ชเวราฮี’ มนุษย์ที่เป็นตัวของตัวเอง แต่เป็น ‘ภรรยาของพัคซองบอม’, ‘สะใภ้คนแรกของบูกยองกรุ๊ป’ และ ‘สะใภ้ใหญ่ของประธานพัคชีดึกกับคุณนายจางอกจา’ แทน
ไม่ใช่ชื่อตัวเองก่อนชื่อสามี เกียรติและความดีความชอบทั้งหมดต้องยกให้สามี แม้สามีจะทำผิดก็เป็นเพราะการดูแลของภรรยาไม่ดี ‘กฎระเบียบและธรรมเนียมของบ้าน’ ที่โดนกรอกใส่หูมาจากแม่สามี และเป็น ‘ภาระหน้าที่ของสะใภ้ของกลุ่มบูกยอง’
[สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง ผู้ช่วยโซอึนคยอง ทีมประชาสัมพันธ์บูกยองนะคะ]
“ค่ะ สวัสดีค่ะ”
[คุณผู้หญิงดีอะไรอย่างนี้ มีน้ำใจช่วยปกปิดความผิดของพนักงานร้านสูทที่อาจลามไปเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงได้ไว้ใช่ไหมคะ]
“ไม่มีอะไรค่ะ มันก็แค่ความความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ”
[แถมยังปฏิเสธไม่รับการชดใช้ของร้านด้วยใช่ไหม]
“ค่ะ มันไม่ใช่เรื่องอะไรที่ถึงขนาดต้องมาชดใช้”
[รับทราบค่ะ ดิฉันเช็คความจริงเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวดิฉันจะจัดทำข้อมูลสำหรับลงข่าวแล้วส่งฉบับร่างให้ภายในสามสิบนาทีนะคะ ขอขอบพระคุณในการกระทำที่เปี่ยมด้วยความห่วงใยของคุณผู้หญิงที่ช่วยเชิดชูเกียรติของบูกยองกรุ๊ปอีกครั้งนะคะ]
“พูดธรรมดาเถอะค่ะ ฉันก็แค่ทำเรื่องที่ต้องทำในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวบูกยองเท่านั้นเองค่ะ”
ราฮีวางสายแล้วส่งโทรศัพท์มือถือให้คนขับรถ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดี ฉบับร่างสำหรับลงข่าวก็ถูกส่งมา
[พวกคนรวยบ้าอำนาจหลบไป ยุคนี้ต้องรวยแล้วช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส]
ท่ามกลาง ‘ความใช้อำนาจบาตรใหญ่’ ของเหล่ามหาเศรษฐีรุ่น 2, 3 ที่ไร้ความคิดก่อปัญหามากมายทางสังคม
ก็มีข่าวของครอบครัวเศรษฐีที่ดำเนินไปในทิศทางตรงกันข้ามซึ่งกำลังเป็นหัวข้อที่ถูกส่งต่อกันระหว่างพลเมืองเครือข่าย
เจ้าของเรื่องที่น่าชื่นชมนี้คือคุณชเวราฮี ภรรยาของกรรมการพัคซองบอมแห่งบูกยองกรุ๊ป ล่าสุดคุณชเวได้รับบาดเจ็บที่มือจากความผิดพลาดของพนักงานร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่งที่ลืมเอาเข็มหมุดออกจากเสื้อผ้า แต่กลับปฏิเสธการชดใช้จากทางร้าน แถมยังช่วยปลอบใจพนักงานที่ตกใจ
เรื่องนี้ถูกอัปเดตผ่าน SNS ของลูกค้าท่านอื่นที่บังเอิญได้พบเห็นเข้า บรรดาพลเมืองเครือข่ายต่างเข้าไปคอมเมนต์ชื่นชมคุณชเว เช่น ‘เป็นข่าวที่อุ่นใจในโลกที่พวกบ้าอำนาจเป็นใหญ่’, ‘เป็นคนรวยแล้วก็ต้องใจกว้างแบบนี้ด้วย’
คุณชเวราฮีอดีตเคยเป็นผู้ประกาศข่าวหลัก 9 โมงเช้า หลังจากแต่งงานกับกรรมการพัคซองบอม ก็ลาออกจากสถานี ปัจจุบันคอยช่วยเหลือสามีและทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์…
ราฮีเก็บข่าวอีกครั้งหลังจากแก้ไขคำผิดและประโยคที่ดูขัดๆ ข่าวเกี่ยวกับราฮีจะส่งมาถึงมือเธอก่อนถูกส่งออกไปเสมอ
“ติดต่อผู้ช่วยโซทีมประชาสัมพันธ์ที บอกว่าแก้ไขข้อมูลที่จะลงข่าวและส่งกลับไปให้แล้วนะคะ”
“ครับ”
ราฮีมองแม่น้ำฮันนอกหน้าต่างพลางถอนหายใจเบาๆ ถ้าจีฮวันมาเห็นสิ่งที่เธอทำอยู่ตอนนี้จะว่าอย่างไร
คนขับรถคิมส่งเรื่องที่น่าชื่นชมและการทำความดีของราฮีให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์อัปขึ้นเครือข่ายสังคมออนไลน์ ให้เป็นเรื่องราวที่ถูกพบเห็น ซึ่งก็จะเอาบทความในเครือข่ายสังคมออนไลน์นั้นมาใช้อ้างอิง ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์เขียนข่าวแล้วโปรยออกไป หลายๆ สื่อที่เป็นพันธมิตรกับบูกยองก็จะช่วยลงข่าวให้อย่างเป็นระบบแบบนี้
‘เป็นตัวเอกในเรื่องที่น่าชื่นชมและยกภาพลักษณ์ของบูกยองกรุ๊ป’ นี่คือหน้าที่ของราฮี
ให้เป็นนางแบบประชาสัมพันธ์และป้ายโฆษณาเดินได้ของบูกยองกรุ๊ป คือเหตุผลตั้งแต่แรกที่ประธานพัครับราฮีมาเป็นลูกสะใภ้
ราฮีเองก็ยอมรับหน้าที่ของตัวเองด้วยความเต็มใจ คิดว่าการเข้ามาอยู่ในครอบครัวคนรวยเป็นเรื่องง่ายๆ