รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 3 ใครมาอึในบ้านฉัน
มองไม่เห็นใบหน้าของหญิงสาว เพราะเธอก้มหน้าอยู่ ผมเปียกเหงื่อยุ่งเหยิงปกคลุมหน้าผาก ใบหน้าที่มองเห็นแวบๆ ระหว่างเส้นผมขณะผงกศีรษะขมวดมุ่น
หญิงสาวกุมท้องไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างขับแขนจีฮวันไว้ แรงและนิ้วที่จับแทบจะแทงทะลุเข้าไปในแขนเขา
เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้โดนโจรหรือขโมยจู่โจมจากด้านหลัง ความตกใจก็ลดลงอย่างรวดเร็ว และความงงงวยก็เข้ามาแทนที่
“ปะ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“ได้โปรด ชะ ช่วยฉันด้วย อึก!”
หญิงสาวกัดริมฝีปากพลางส่ายหน้า ใบหน้าซีดขาวดูเจ็บปวดกับเสียงร้องทรมานทำเอาจีฮวันสติแตก หรือจะไส้ติ่งอักเสบ!
“ผมจะโทร 119 ให้นะครับ”
ขณะที่จีฮวันหยิบมือถือออกมา หญิงสาวก็ผลักเขาวิ่งพรวดพราดเข้าไปในห้อง เรื่องเกิดขึ้นในชั่วเสี้ยวพริบตา จีฮวันยังไม่ทันได้ยื่นมือออกไปห้ามเลยด้วยซ้ำ
“ฮะ เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน! นั่นห้องผม!”
จีฮวันที่อึ้งไปแป๊บได้สติรีบวิ่งตามเข้าไป แต่ก็ไม่เห็นหญิงสาวแล้ว มีเพียงรองเท้าของเธอข้างหนึ่งตกอยู่ที่พื้นหน้าประตู อีกข้างตรงทางเข้าห้องรับแขก
“นี่มันอะไรกัน เฮ้! คุณ! อยู่ไหนน่ะ! เข้ามาทำอะไรในห้องคนอื่น!”
จีฮวันร้องตะโกนขณะเดินเข้าไปในบ้าน แวบหนึ่งที่ผ่านทางเดินที่เชื่อมจากประตูไปยังห้องรับแขก ก็ได้ยินเสียง ‘โครก ตูมมม!’ ราวกับคำตอบดังมากระทบแก้วหู
จีฮวันชะงัก หันขวับไปมองสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ที่มาของเสียงที่ได้ยินกะหูนั่น มาจากห้องน้ำที่อยู่ด้านขวาของทางเดิน
เสียงราวฟ้าฟาดนั่น คิดแล้วก็คล้ายเสียงนั้น จีฮวันส่ายหน้าอย่างหวาดผวา
“คงไม่มั้ง”
ไม่น่าจะใช่ ไม่หรอก เขาทุบประตุห้องน้ำปังๆ
“นี่คุณ! อยู่ในนั้นใช่ไหม”
“ค่ะ…”
หญิงสาวตอบเสียงอ่อย
“เข้ามาทำอะไรในห้องคนอื่น! รีบออกมาเดี๋ยวนี้เลยครับ!”
“ขะ ขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ แต่ฉันปวดท้อง ปวดมาก!”
และเสียงป้าดที่ได้ยินต่อมาก็แทนคำอธิบายได้เกินพอ
เฮือก! ปากของจีฮวันอ้าค้าง
“ขอโทษมากๆ เลยนะคะ ขอโทษด้วยจริงๆ ฮือ จริงๆ ฉันไม่ใช่คนแบบนี้ อ้า อื้อ!”
แล้วเสียงระเบิดก็ดังกลบเสียงร้องของหญิงสาวสนั่นบ้าน ปู้ด! ป้าด แพร่ด!
จีฮวันยืนตัวแข็งหน้าห้องน้ำ คิดอะไรไม่ออก ราวกับวงจรทุกอย่างหยุดชะงัก เบื้องหน้ามืดมิด ในหัวมีแต่ความว่างเปล่า
“เมี้ยว”
สิ่งที่ดึงสติของจีฮวันกลับมาคือเสียงร้องของจีอง จีฮวันถึงได้กะพริบตา เบื้องหน้าที่ดำมืดค่อยๆ กลับมาสว่างอีกครั้ง เห็นเจ้าก้อนต๊อกกระจุ๋มกระจิ๋มกับใบหน้าน่ารักที่เอียงคอมอง
และเสียงป้าด ตู้ม ก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จีฮวันเกิดอาการคลื่นไส้ขึ้นมาทันที
อ้า นี่ไม่ใช่ความฝันหรือภาพหลอน แต่มันคือเรื่องจริง ตอนนี้มีผู้หญิงที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเข้ามานั่ง… อยู่ในห้องน้ำบ้านเขา พฤติกรรมที่แค่จินตนาการก็น่ากลัวเกินกว่าจะเติมคำนั้นใส่ลงไป
“แฟ่! เมี้ยว!”
สมกับเป็นแมวที่เฉลียวฉลาดและประสาทไว จีองกระวนกระวายส่งเสียงร้องพร้อมกับตะกุยประตูห้องน้ำ จีฮวันคว้าเอาจีองพุ่งตัวไปยังห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว และเปิดเสียงเครื่องเล่นเพลง
เสียงเครื่องเล่นเพลงถูกเปิดให้ดังกลบเสียง ‘ปู้ด’ ‘ป้าด’ ‘ปึ๊ด’ ‘แพร่ด’ ที่ชวนให้นึกไปถึงการกระทำ ‘นั้น’ จีองตกใจตาโต
“เมี้ยว!”
“ไม่เป็นไรนะจีอง ไม่เป็นไร ไม่มีอะไร ไม่เป็นไรนะ”
จีฮวันนั่งกอดจีองไว้บนเก้าอี้โยก ความจริงการโอบกอดและลูบขนเพื่อปลอบจีองที่ตื่นตระหนกก็เหมือนเป็นการปลอบตัวเองด้วย
“จีอง ตั้งแต่พ่อเกิดมา พ่อก็เพิ่งเข้าใจคำว่า เหมือนฟ้าผ่าในวันท้องฟ้าปลอดโปร่งเป็นครั้งแรกนี่แหละ พ่อเพิ่งรู้เลยนะเนี่ยว่าจิตใจของผู้เสียหายที่โดนกระชากกระเป๋าไปมันเป็นยังไง สถานการณ์แบบนี้มันอะไรกันแน่ หืม ถึงจะเจอกับตัวเอง แต่ก็ยังสับสนจนไม่รู้สึกว่านี่เป็นความจริง เป็นอย่างนี้เลยใช่ไหม”
จีองเลียแก้มของจีฮวันราวกับว่าเข้าใจจิตใจของเขา เมื่อได้สัมผัสขนอุ่นๆ และนุ่มนิ่มของจีอง หัวใจที่เคยเต้นรัวแทบบ้าของจีฮวันก็ค่อยๆ สงบลงทีละน้อย
แต่แล้วใจที่เคยสงบลงก็วกกลับมาคิดอีกครั้ง แล้วเขาจะต้องรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไรดี จีฮวันเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่ามีสติและเหตุผล เขาเชื่อว่าการกระทำทุกอย่างของมนุษย์สามารถอธิบายเหตุและผลได้
แต่คนที่วิ่งเข้ามาอึในบ้านคนอื่น ทำเอาความเข้าใจของจีฮวันหายวับไปชั่วขณะ อธิบายได้แค่คำเดียวว่ามันบ้ามาก
“ถ้าผู้หญิงคนนั้นอึ เอ๊ย ทำธุระเสร็จออกมาจะพูดว่ายังไงดี อืม? คุณมาทำให้คนอื่นตกใจแบบนี้ได้ยังไง ไม่สิ คุณมาอึในบ้านคนอื่นได้ไง มาทำธุระส่วนตัวแบบนี้ได้ด้วยเหรอ อืม? ไม่ประหลาดไปหน่อยเหรอ ขนาดจีอง แมวผมยังไม่ไปทำธุระส่วนตัวที่ไม่ใช่ห้องน้ำของตัวเองเลย!”
จีองที่ตาปรือกำลังเคลิ้ม อยู่ๆ ก็ลืมตาโพลง วิ่งออกจากห้องหนังสือไป แล้วก็ได้ยินเสียงเปิดประตูบ้าน จีฮวันวิ่งตามไป แต่ประตูก็ปิดลงไปในชั่วพริบตา
ทั้งตอนที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามา ตอนที่ได้ยินเสียงระเบิดเหมือนฟ้าผ่า ทั้งตอนนี้ มันช่างน่าขำสิ้นดี
“เฮ้! หยุดนะ! ยัยคนไร้มารยาท! มาทำเรื่องแบบนี้ในบ้านคนอื่น ไม่มีขอโทษเลยหรือไง!”
จีฮวันไล่ตามออกมาด้วยความโมโห แต่ผู้หญิงคนนั้นก็หายตัวไปแล้ว
ใช้เวลาประมาณสามสิบนาที ลิฟต์ก็ซ่อมเสร็จ มันกำลังทำงาน จีฮวันที่แน่ใจว่าลิฟต์ลงไปแล้ววิ่งลงบันไดลงไปแทบตาย ไม่ทันได้คิดว่าวิ่งลงมาทำไม
ในหัวของจีฮวันคิดเพียงแต่ว่า ‘ต้องจับยัยอึนั่นให้ได้’
จีฮวันที่วิ่งรวดเดียวลงมาจากชั้นสิบสี่ เขาหันซ้ายหันขวากวาดตามองทั่วล็อบบี้ด้วยสายตากระหายเลือด แต่นึกไม่ออกว่าผู้หญิงที่มาอึแล้วหนีหน้าตาเป็นอย่างไร
นึกออกแต่หน้าผากที่มีเหงื่อเกาะกับผมเปียกเหงื่อ ตา จมูก ปากเป็นอย่างไร ผมสั้นหรือยาว ใส่เสื้อผ้าแบบไหน จำไม่ได้เลย
จีฮวันหันไปรอบๆ คอนโดจนถึงถนน เจอผู้หญิงเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งผู้หญิงที่เดินเข้ามา ผู้หญิงที่ลงจากแท็กซี่ ผู้หญิงที่จูงหมาผ่านไป ดูไม่รู้เลยว่าใครที่เข้ามาอึในบ้านคนอื่น
“โอ๊ย อะไรกันเนี่ย คนไหนกัน นึกไม่ออกเลยรึไง”
จีฮวันยืนอยู่ริมถนน พยายามนึกให้ออกด้วยสีหน้าจนปัญญา อาชีพของเขาเป็นอาชีพที่ต้องพบปะผู้คน ความสามารถในการจดจำของเขาดีเลิศ เวลาพบใครก็จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ
แม้แต่คนที่เคยเจอกันครั้งเดียว หลังจากสังเกตลักษณะหน้าตา (ใส่แว่นไหม. มีไฝหรือเปล่า, ผิมขาวหรือดำ), ทรงผม(ความยาว, สี, ดัดหรือย้อมสีไหม, ความหนา), ส่วนสูง, น้ำหนัก, เสื้อผ้า เป็นต้น อย่างละเอียด แล้วก็จะจัดเก็บลักษณะเฉพาะของแต่ละคนลงในสมุดบันทึกบุคคลเพื่อจะได้ไม่ลืม
‘ท่านประธานคิมตัดผมใหม่หรือครับ ดูเด็กลงไปสิบปีเลยนะครับ’
‘ผู้อำนวยการชเว ทำไมวันนี้ไม่ทาลิปสีชมพูที่ทามาคราวก่อนมาอีกล่ะครับ เหมาะกับผู้อำนวยการมากเลยนะครับ’
‘อาจารย์ปาร์ค เปลี่ยนแว่นใหม่ใช่ไหมครับ ยิ่งดูหล่อไปเลยนะครับ’
ถ้าจำได้ละเอียดแบบนี้ ต่อให้อีกฝ่ายมีกำแพงเหล็กหนาแค่ไหนก็พังทลาย การชื่นชมและให้ความสนใจคนอื่น ไม่ว่าจะผู้หญิง ผู้ชาย คนหนุ่มสาว คนแก่ด้วยความจริงใจ มักเป็นวิธีที่อ่อนหวานน่ารักเสมอ
แต่กับผู้หญิงคนนั้น แม้แต่เสื้อผ้ารูปลักษณ์กลับจำไม่ได้สักอย่าง เหมือนโดนลบออกไปด้วยแสงเลเซอร์ เขาว่ากันว่า คนเราจะสูญเสียความทรงจำเมื่อได้รับความสะเทือนใจอย่างมาก จีฮวันก็คงจะเป็นเช่นนั้น
จะเที่ยวจับผู้หญิงตามถนนมาถามว่า ‘เมื่อกี้ไปอึที่บ้านผมมาหรือเปล่า’ ก็ไม่ได้ สุดท้ายจีฮวันก็จำต้องเดินกลับห้องอย่างอ่อนระโหยโรยแรง ขณะกำลังจะเปิดประตู ก็เจอโพสต์อิทแปะเอาไว้
[ขอโทษจริงๆ นะคะ แล้วก็ขอบคุณด้วย ฉันกินอะไรผิดสำแดงมาจากข้างนอกเลยท้องเสีย แล้วลิฟต์ก็ดันมาเสีย T T ฉันกุมท้องขึ้นบันไดมา ทนจนทนไม่ไหว ฉันรอดมาได้เพราะคุณเลย T T จะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้เลยค่ะ ขอบคุณจริงๆ ขอให้มีความสุขนะคะ]
ในกระดาษสี่เหลี่ยมแผ่นเล็ก ไม่ใช่แม้แต่กระดาษเขียนจดหมาย มีลายมือตัวเท่าเมล็ดงาเขียนเอาไว้ อ่านข้อความที่มีอีโมติคอนร้องไห้สลับเป็นช่วงๆ แล้ว จีฮวันก็ค่อยๆ สงบลง
จากที่เคยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ว่าจะจับผู้ร้ายมาลงโทษให้เข็ดหลาบให้ได้กลายเป็นความเข้าใจจนรู้สึกละอาย
ลองคิดกลับกัน มันก็สมควร ถ้าเราท้องเสียท้องไส้ปั่นป่วนบ้าง โอ๊ย! แล้วลิฟต์ก็ดันมาเจ๊ง บ้านก็อยู่ตั้งชั้นสิบสี่
ถ้าอั้นมาถึงชั้นสิบสาม ขนกล้ามเนื้อหูรูดทนอั้นอีกไม่ไหวแล้วงั้นเหรอ แล้วมาเจอคนชั้นนี้กำลังกดรหัสเข้าห้องอยู่พอดีแบบนี้น่ะเหรอ แม้จีฮวันจะให้ความสนใจกับหน้าตาและเกลียดการรบกวนคนอื่นแค่ไหน แต่เป็นเขาก็อาจวิ่งเข้าห้องที่อยู่ชั้นสิบสามเหมือนอย่างผู้หญิงคนเมื่อกี้ก็ได้ อย่างไรมันก็คงดีกว่าอึกระจายที่บันไดส่วนกลาง
ตัวเองเอาแต่โกรธ แต่คู่กรณีคงกลุ้มและอับอายแทบอยากตาย ความซวยที่ลิฟต์เสียกับกล้ามเนื้อหูรูดอั้นไว้ไม่ไหวกลายมาเป็นหายนะที่คาดไม่ถึงอย่างเหลือเชื่อ รู้สึกผิดนิดหน่อยที่มองผู้หญิงคนนั้นเป็นคนบ้า โดยไม่รู้ที่มาที่ไป
“ใช่แล้ว ชีวิตมันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้แบบโน้นกันบ้างล่ะนะ”
จีฮวันเปิดประตูบ้านเข้าไปด้วยความภูมิใจในความใจกว้างของตัวเองที่รู้จักเอื้อเฟื้อแก่เพื่อนบ้านและคนอื่นๆ
“เมี้ยว?”
จีองนั่งรออยู่หน้าประตู สองเท้าเหมือนก้อนต๊อกสีขาวดูน่ารัก ตากลมโตมีชีวิตชีวาจ้องเขม็งมาเหมือนถามว่าไปไหนมาไม่บอก
“โทษทีนะ โทษที จีองตกใจมากเลยใช่ไหม อยู่ๆ พ่อก็วิ่งออกไปไม่บอกไม่กล่าวน่ะ”
จีฮวันอุ้มจีองขึ้นมากอด
“เมื่อกี้มีพี่สาวแปลกๆ เข้ามาในบ้านเราใช่ไหมล่ะ พอดีลิฟต์เสีย แล้วพี่คนนั้นเขามีเหตุจำเป็นเร่งด่วน เขาปวดท้องแล้วก็ปวดอึมาก เลยมาขอเข้าที่บ้านเรา”
เล่าไปแล้วก็หัวเราะพลางยิ้มขำ
“เรื่องก็เป็นแบบนี้ พ่อไปล้างมือก่อน แล้วจะเอาขนมให้จีองนะ โอเค๊”
“เมี้ยว”
ตาของจีองเป็นประกายเมื่อได้ยินคำว่าขนม จีฮวันปล่อยจีองลง เปิดประตูห้องน้ำ โชคดีที่พัดลมระบายอากาศกำลังทำงาน ทำให้กลิ่นไม่รุนแรงนัก
“รู้จักเปิดพัดลมระบายอากาศไว้ให้ อย่างน้อยก็ยังถือว่าได้รับการอบรมมา”
ขณะที่จีฮวันก้าวเท้าเข้าไปเพื่อใส่สลิปเปอร์อย่างเคย ถุงเท้าด้านหน้าก็เปียกพร้อมกับเสียงดังแจะ
ข้างในมีตู้อาบน้ำแยกต่างหาก เพราะจีองชอบพื้นกระเบื้องเรียบลื่นเลยเข้าออกบ่อย จีฮวันเลยต้องคอยทำให้พื้นห้องน้ำแห้งสะอาดอยู่เสมอ เขาทำความสะอาดวันพุธและวันอาทิตย์สองครั้งต่ออาทิตย์ แทบไม่มีการที่พื้นห้องน้ำเปียกแบบนี้
แล้วความเปียกที่ไม่รู้ที่มานี้คืออะไร สภาพของน้ำสีเหลืองที่เหมือนโคลนหน้าฝนนี่ หรือว่า…
“ว้าก!”
จีฮวันที่รับรู้สภาพที่แท้จริงของน้ำสีขุ่นที่เปียกเท้าอยู่ก็ร้องออกมาดังลั่น ‘อึ’ สีเหลืองกำลังล้นทะลักออกมาจากชักโครกที่ปิดฝาเอาไว้อยู่เหมือนแม่น้ำแยงซีที่ไหลบ่า