รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 6 สุดท้ายก็แค่เบ๊
“ท่านประธาน มีเรื่องอะไรหรือครับ”
จีฮวันถามอย่างสุภาพเพื่อรักษาภาพความสุขุมอย่างที่สุด
การถามก่อนว่า ‘เรื่องอะไร’ แทนที่จะถามว่า ‘ทำไม’ ถือเป็นพื้นฐานของที่ปรึกษาด้านการเงินเมื่อจะต้องจัดการกับสถานการณ์ของลูกค้าวีไอพี
ทว่าท่าทีเรียบเฉยสุดสุขุมของจีฮวันที่ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีผลอะไรนั้น กลับทำให้ประธานปาร์คเองรู้สึกเดือดดาลยิ่งขึ้น
“มีอะไรงั้นเหรอ ไม่รู้จริงๆ เหรอ ไอ้นี่”
เป็นอีกครั้งที่ตัวแทนคิมต้องเอาตัวเข้าขวางประธานปาร์คที่ลุกขึ้นพร้อมชูกำปั้น
“อย่าครับท่านประธาน ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ”
“ปล่อย! จะให้ฉันอยู่เฉยเหรอ ฉันจะสั่งสอนไอ้บ้านี่ อย่ามาห้ามฉัน”
ถึงการโดนต่อยจะเจ็บ แต่ที่เจ็บกว่าคือการโดนสบประมาทต่อหน้าเพื่อนร่วมงานและลูกค้าคนอื่นๆ เพราะเขาคือจีฮวันที่รักในเกียรติและเชื่อมั่นในการทำงานของตัวเองยิ่งกว่าใคร
ทันใดนั้นผู้จัดการสาขาที่อยู่บนชั้นสอง ก็รีบลงมาปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว
“ท่านประธานปาร์ค มีเรื่องอะไรกันครับ”
“ที่นี่สั่งสอนพนักงานกันยังไง ขึ้นชื่อว่าโกลด์คลับก็ช่วยจัดหาพนักงานที่มันอยู่ระดับเดียวกับชื่อหน่อยสิ พวกคุณมีนักธุรกิจจำนวนมากที่ต้องดูแล แต่พาไอ้คนแบบนี้มาทำงาน แบบนี้ได้มาตรฐานของศูนย์กลางวีไอพีแล้วเหรอ”
ประธานปาร์คพูดตำหนิถึงจีฮวันโดยตรง
“หัวหน้าทีมรยูจีฮวันเป็นพีบีที่มีความสามารถที่สุดในธนาคารของเราแล้วนะครับ ไม่ใช่เพียงแค่ที่อิลซาน ท่านประธานปาร์คเองก็ทราบดีไม่ใช่เหรอครับ”
เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ทุกครั้งที่ประธานปาร์คเจอจีฮวันก็มักจะพุ่งเข้าหาแบบนี้เสมอ
ทำงานดี มีความสามารถ การศึกษาสูง แถมยังสุภาพมีมารยาท ไม่ว่าใครก็ตามที่มีลูกสาวต่างก็อยากได้จีฮวันเป็นลูกเขยทั้งนั้น มีแต่คนแย่งตัวเขาแทบเป็นแทบตาย กระทั่งเจ้าตัวเองยังรู้สึกสะอิดสะเอียนกับคำชมเชยที่เกินจริงเหล่านั้น
แต่ทว่าอะไรกันที่อยู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของประธานปาร์คเย็นชาต่อเขาได้เช่นนี้
“เท่าที่เห็น ก็แค่เบ๊ของพวกเศรษฐีเท่านั้นแหละ”
คำพูดที่เหมือนกับถ่มน้ำลายของประธานปาร์คทำเอาผู้จัดการสาขารวมไปถึงพนักงานทั้งหมดหน้าตึง
ศูนย์วีไอพีของธนาคาร ถ้าให้พูด ก็น่าจะเป็นศูนย์รวมของ ‘บรรดาเบ๊’ ไม่ว่าจะผู้จัดการสาขาหรือพีบีน้องใหม่ ต่างก็ก้มหน้ายอมทำตามความต้องการที่มากเกินไปเงียบๆ หวังจะให้พวกคนรวยมาให้ช่วยดูแลเงินให้ด้วยกันทั้งนั้น
“ไอ้คนอวดดี ถือว่าเก่งมีความสามารถในการตามเช็ดตูดให้พวกเศรษฐีได้ แล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ กล้าดียังไงมาหลอกหลานสาวฉัน แกคิดว่าแกฉลาดมีการศึกษา ไปไหนมาไหนก็ได้มีหน้ามีตาเลยมองไม่เห็นหัวเธอสินะ ห๊ะ”
หลานสาวงั้นเหรอ
“ท่าทางจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนะครับ ผมไม่ทราบว่าหลานสาวของท่านประธานเป็นใคร”
จีฮวันที่กำลังโดนดูถูกและนินทาแบบระยะเผาขนเปิดปากพูดขึ้น
“ว่าไงนะ ไม่รู้ว่าเป็นใคร แกนี่มันเป็นคนที่แย่สุดๆ ไปเลย มาหลอกเด็กสาวใสซื่อไร้เดียงสาว่าจะแต่งงานด้วย แต่พอเบื่อก็ทิ้งขว้างเหมือนคายหมากฝรั่งที่เคี้ยวซะหมดหวานแล้ว แล้วยังมาว่าหลานสาวฉันเป็นนังงูพิษอีก เด็กคนนั้นกลับมาร้องให้โวยวายเสียใจแทบตาย เธอกินยาจนต้องหามส่งโรงพยาบาล แกจะรับผิดชอบยังไง”
ในตอนนั้นเองทุกอย่างได้กระจ่างชัดในหัวของจีฮวัน เธอคนนั้นน่ะเอง ผู้หญิงที่ส่งข้อความนั่นมา
[ฉันไม่ยอมอยู่เฉยแน่ คอยดู สิ่งที่แกทำกับฉัน จะทำให้แกต้องร้องไห้เป็นสายเลือด ฉันจะไม่ปล่อยแกเอาไว้เป็นอันขาด!]
ไอ้ที่บอกว่าจะไม่หยุดนั่น ท่าทางจะไม่ใช่แค่คำขู่เฉยๆ สินะ
* * *
“หน้าเป็นไงบ้าง ไม่ไปโรงพยาบาลหน่อยเหรอ”
“ไม่เป็นไรครับ ขอโทษด้วยนะครับผู้จัดการ”
จีฮวันนั่งประจันหน้ากับผู้จัดการ
ตั้งแต่ตอนที่ผู้จัดการต้อนรับจีฮวันที่ย้ายมาอิลซานเป็นอย่างดีเมื่อสองปีก่อน หรือตอนฉลองที่จีฮวันได้รับเลือกเป็นพีบียอดเยี่ยมต่อเนื่องสองปีซ้อน หรือหลายต่อหลายครั้งที่มานั่งฉลองกันสองคนในห้องนี้ ทว่าวันนี้บรรยากาศแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
บรรยากาศของการไปห้องพักครูเพราะได้รางวัลนักเรียนดีเด่นกับตอนไปเพราะทำความผิดแตกต่างกันอย่างไร จีฮวันเพิ่งเข้าใจก็วันนี้เอง
“เอาไงกับงานดีล่ะ ยังจะไปพบกับลูกค้าตัวต่อตัวได้อีกเหรอ นายเองก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ไม่รู้มาก่อนเลยเหรอว่าจะพลาดด้วยเรื่องง่ายๆ แบบนี้”
“เรื่องที่เคยคบกับผู้หญิงคนนั้นเป็นความจริงครับ แต่ผมไม่ทราบเลยว่าเธอเป็นหลานของท่านประธาน ถ้ารู้ผมคงไม่แม้แต่จะเริ่มไปเจอ”
“งั้นอธิบายมาหน่อยว่าเรื่องมันเป็นยังไง ฉันจำเป็นต้องรู้ ไม่ได้จะลงโทษหรือปกป้องอะไร”
ภายในปากของจีฮวันแห้งผาก เมื่อภายในห้องแห่งนี้กลายเป็นดั่งศาลที่กำลังพิพากษาเขา
“ทุกครั้งที่เจอประธานปาร์ค เขามักถามว่าทำไมยังไม่แต่งงาน มีผู้หญิงที่กำลังคบหาอยู่ไหม ถามกระทั่งว่าตอนนี้รีบจัดการหน้าที่การงานให้มั่นคงได้หรือเปล่า บอกมีหลานสาวนิสัยเรียบร้อยน่ารักอยู่คนหนึ่ง แล้วก็ชักชวนให้ไปเจออยู่หลายครั้งครับ”
“อืม เรื่องนั้นฉันก็รู้ เขาเคยมาถามฉันด้วย ว่านายไม่มีผู้หญิงที่คบหาอยู่จริงๆ เหรอ”
“ทุกครั้งที่ถูกถาม ผมก็จะระวังและตอบว่ายังไม่คิดที่จะคบใครเพราะงานยุ่ง มีวันนึงท่านประธานปาร์คบอกว่าอยากไปดื่มสักที่ที่บรรยากาศดีๆ แล้วก็ถามว่ามีร้านเหล้าที่ชอบไปบ่อยๆ ไหมครับ ครั้งนั้นผมก็เลยพาไปบาร์ที่ผมไปบ้างเป็นบางครั้ง”
* * *
‘เป็นอย่างไรครับ ถ้าไม่ชอบให้พาไปที่อื่นไหมครับ’
‘ไม่ต้อง โอเคเลย คุณรยูเป็นลูกค้าประจำที่นี่สินะ’
‘ก็ไม่ถึงกับลูกค้าประจำหรอกครับ เป็นที่ที่มาตอนที่อยากทำให้สมองโล่งน่ะครับ’
‘บรรยากาศดีมากเลย ดนตรีก็ใช้ได้ ที่ดีๆ แบบนี้ก็ต้องดื่มเหล้าฝรั่งแพงๆ สิว่าไหม’
‘ฮ่าๆ ไม่หรอกครับ สั่งค็อกเทลแก้วเดียว นั่งยาวๆ สักชั่วโมงสองชั่วโมงก็ไม่มีใครว่าครับ’
‘ท่าทางจะมีสาวๆ มาเยอะเลยนะ’
‘น่าจะอย่างนั้นนะครับ แต่ได้นั่งดื่มเงียบๆ คนเดียวแบบไม่มีใครขัดก็ดีนะครับ’
‘ไหนๆ ก็พูดเรื่องผู้หญิงขึ้นมาแล้ว คุณรยูชอบผู้หญิงแบบไหนล่ะ ชอบแบบที่สวยหุ่นดี หรือแบบเด็กๆ หน่อย ลูกคุณหนู หรือแบบผู้หญิงๆ เลย’
‘ฮ่าๆ ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ผมไม่ค่อยได้คิดเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ก็คงจะเป็นคนที่คุยกันรู้เรื่องแหละครับ เพราะต่อให้สวยแค่ไหน ถ้าดูไม่มีสมอง นานๆ ไปความสนใจก็จะลดน้อยลงอยู่ดี’
‘อืม อย่างงั้นเองหรอกเหรอ สมแล้วที่เป็นคนประเภทที่ใช้ความคิด ชอบผู้หญิงฉลาดอย่างนั้นสินะ เข้าใจละ ผมคงเหมารวมไปเองสินะ แล้วช่วงนี้คุณอ่านหนังสืออะไรอยู่ ดูทีวีไหม มีหนังที่ชอบหรือเปล่า สนใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษล่ะ’
* * *
“เป็นเรื่องที่ผมเคยคุยกับท่านประธานตอนเดือนสิงหาครับ หลังจากนั้นครึ่งเดือนผมไปที่บาร์นั้นอีก และก็ได้เจอกับผู้หญิงคนนั้นเป็นครั้งแรก ตอนนั้นผมไปคนเดียว ผู้หญิงคนนั้นก็อยู่คนเดียว เธอเดินเข้ามาถามว่าค็อกเทลที่ผมดื่มคืออะไร ตั้งแต่ครั้งแรกและอีกกว่าห้าครั้งที่เจอกัน เธอไม่เคยเผยตัวเลยว่าเป็นหลานสาวของท่านประธาน”
ผู้จัดการพยักหน้ารัวๆ ด้วยสีหน้าที่เข้าใจในสถานการณ์อย่างแจ่มแจ้ง ประธานปาร์คที่ต้องการได้จีฮวันเป็นหลานเขยให้คำมั่นกับหลานสาวเอาไว้ ต้องการทราบเรื่องราวต่างๆ ความสนใจ หนังสือที่อ่าน หรือแม้แต่หนังที่ชอบของรยูจีฮวัน ที่ปรึกษาทางด้านการเงินคนนี้
การทราบถึงข้อมูลพื้นฐานของฝ่ายตรงข้ามก่อนก็เหมือนกับประสบความสำเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง เพราะการดึงความสนใจของอีกฝ่ายได้ จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
“ถ้างั้น เรื่องที่ว่าพวกนายจะแต่งงานกันนั่นล่ะ”
“ผู้จัดการทราบใช่ไหมครับ ว่าผมคิดยังไงเกี่ยวกับการแต่งงาน ผมน่ะออกตัวแต่แรกเลยว่าเป็นคนที่นิยมการอยู่เป็นโสด เพราะงั้นไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหน ผมก็ไม่มีทางทำเรื่องที่ตรงกันข้ามกับความเชื่อตัวเองหรอกครับ”
ผู้จัดการพยักหน้าด้วยท่าทางหนักใจ
“เฮ้อ จริงๆ เลย ทำไงกับเรื่องนี้ดี”
สีหน้าของผู้จัดการที่นั่งพิงโซฟาค่อยๆ เคร่งเครียดขึ้น
“เป็นความผิดของผมเองครับ ไม่ว่าท่านประธานต้องการอะไร เขาก็คงจะทำทุกอย่างให้ได้มา…”
“นายน่ะไม่รู้ว่าใครเป็นคนแบบไหนเพราะดีกับเขาไปหมด คนอื่นก็ใช้ความเป็นมิตรความซื่อตรงของนายจนตัวนายเองต้องมามีปัญหา”
ผู้จัดการพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอัดอั้น จีฮวันเข้าใจในสิ่งที่ผู้จัดการพูดในทันที
“ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้แล้ว กับผู้หญิงคนนั้นไม่สนใจเลยเหรอ ถึงจะพลาดตรงที่เข้ามาโดยไม่บอกว่าเป็นหลานท่านประธานปาร์ค แต่ก็น่าจะพอมีความรู้สึกดีๆ ต่อกันไหม ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปมาหาสู่กันต่อ อยากให้ลองนึกถึงข้อดีของฝ่ายนั้นดู แน่นอนในเรื่องความสัมพันธ์ชายหญิงนายอาจไม่สนใจ ฉันก็ไม่ได้ให้เปิดอกคุยกันหรอกนะ แต่ถึงกับเสียใจกินยาขนาดนั้นก็หมายความว่าเธอชอบนายมากไม่ใช่เหรอ”
จีฮวันรู้สึกเหมือนมีหนามชิ้นใหญ่อยู่ในคอ และมันก็ใกล้จะแทงออกมาทุกเมื่อ และถ้าคอยมันออกมาใครกันที่จะเจ็บปวดที่สุด ก็คนที่เอาหนามทิ่มคอเขานั่นแหละ
“ขอโทษครับ ในส่วนนี้ผมไม่มีอะไรจะพูด”
ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าท้องนี่
“ไม่ใช่แค่กับหลานของท่านประธานปาร์คหรอกนะครับ กับผู้หญิงคนไหนผมก็ไม่มีความคิดที่จะแต่งงานด้วย”
รู้ทั้งรู้เรื่องนั้นแล้วจะให้หลับหูหลับตาโดนหลอกงั้นเหรอ งานของที่ปรึกษาทางการเงินต้องทำถึงขนาดนั้นเลย?
“เฮ้อ นั่นสิ เรื่องความเชื่อมั่นของนายไม่ใช่แค่ปีสองปีนี้ ปัญหามันหนักอยู่นะ ถ้านายไม่ยอม อาจจะโดนถอนเงินลงทุนทั้งหมด”
ประธานปาร์คเป็นมหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของที่ดินตั้งแต่อึนพยองไปถึงพาจู ขนาดที่มีข่าวลือว่าไม่สามารถก้าวผ่านทางใต้ของโซลได้เพราะติดที่ดินของประธานปาร์ค เพื่อดูดเงินของประธานปาร์ค เริ่มต้นจากผู้จัดการพยายามทำให้เขาเข้ามาอยู่ในศูนย์วีไอพีโดยเฉพาะ มิหนำซ้ำยังให้จีฮวันไปเป็นมือเป็นเท้าให้ประธานปาร์คไว้ใช้ทำงานนานกว่าหกเดือนด้วย
ทุกเช้าประธานปาร์คจะไปสนามกอล์ฟ จากผู้เล่นในระดับเริ่มต้นจนกลายเป็นผู้เล่นระดับเซมิโปร ทุกฤดูต้องหายาบำรุงชั้นดีให้ ช่วงไหนมีอาหารหรูตามฤดูกาลก็จัดการรับรองให้หมด ไม่เพียงแค่นั้น ต่อให้ดึกดื่นแค่ไหนหากประธานปาร์คโทรมาก็ต้องทิ้งทุกอย่างและตามไปทำตามคำสั่งเล็กๆ น้อยๆ แล้วแต่ที่จะสั่งให้ทำ
ด้วยความเอาใจใส่นี้ทำให้ประธานปาร์คฝากสมบัติของตัวเองไว้กับจีฮวัน ซึ่งประวัติผลงานการเงินที่จีฮวันสร้างให้มีทั้งหุ้น สัญญาซื้อขายในอนาคต กองทุน รวมมูลค่ากว่าหมื่นล้านวอน
หมื่นล้านถือว่าเป็นความเสียหายที่หนักหนาแล้วสำหรับสิ่งที่สร้างมา แต่สิ่งที่หนักกว่าเรื่องเงินลงทุนนั้นก็คือ ความน่าเชื่อถือของพีบี หากเรื่องที่ทำให้แขกวีไอพีขุ่นเคืองของพีบีแพร่กระจายออกไป ก็จะส่งผลไปถึงความน่าเชื่อถือของสำนักงานใหญ่ที่อิลซานด้วย
สุดท้าย ต่อให้ไปดิ้นรนอธิบายต่อหน้าแยกวีไอพีที่กำลังโกรธว่าจีฮวันบริสุทธิ์ อย่างไรก็ไร้ประโยชน์
“ผมจะลาออกเองครับ”
“ไม่ใช่เรื่องที่จะด่วนตัดสินใจแบบนี้นะ”
“บางทีท่านประธานอาจจะทำตามที่ประกาศไว้ก็เป็นได้ครับ เขาเป็นคนดื้อมาก ถ้าได้หมายตาอะไรไว้แล้วก็จะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้”
“นั่นสินะ ดื้อมาก ดื้อแบบนั้น ถึงได้มีสมบัติมากมาย…”
“คงจะต้องรีบส่งต่องานให้เร็วที่สุด”
“ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ เหรอ”
ผู้จัดการทราบคำตอบของจีฮวันอยู่แล้ว เขาเป็นคนเลือกคนๆ นี้จากโซลจนถึงอิลซานด้วยตัวเอง และเชื่อในตัวจีฮวันยิ่งกว่าใคร จีฮวันเองก็ทราบดีถึงความอึดอัดใจของผู้จัดการ ถึงได้ตัดสินใจลงไป
“ที่ผ่านมาขอบคุณมากนะครับ ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก”
จีฮวันก้มโค้งคำนับอย่างนอบน้อม หากภายในใจมีแต่อะไรพลุ่งพล่านเต็มไปหมด