รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 46-2 คุณค่าของฉันไม่ได้อยู่ที่หน้าสวยๆ แต่เป็นความทะเยอทะยาน / บทที่ 47-1 ที่ปรึกษาด้านการเงิน หรืออีกชื่อคือคนรั
- Home
- รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ
- บทที่ 46-2 คุณค่าของฉันไม่ได้อยู่ที่หน้าสวยๆ แต่เป็นความทะเยอทะยาน / บทที่ 47-1 ที่ปรึกษาด้านการเงิน หรืออีกชื่อคือคนรั
บทที่ 46-2 คุณค่าของฉันไม่ได้อยู่ที่หน้าสวยๆ แต่เป็นความทะเยอทะยาน
ณ ร้านขายชุดชั้นในหรูในห้างสรรพสินค้า
ผู้ชายที่กำลังเลือดชุดชั้นในด้วยสีหน้าจริงจังก็คือจีฮวัน เขาพิจารณาด้วยสายตาอันแหลมคม และหยิบบราลูกไม้สีม่วงหรูหราคัพใหญ่ออกมา
จีฮวันที่ออกมาจากห้างสรรพสินค้าขับรถเข้าไปในย่านโมเต็ลแถบชานเมืองโซล
ทันทีที่กดออดหน้าห้องพักชั้นห้า ประตูก็เปิดแง้มออก หญิงสาวที่พันร่างเปลือยด้วยผ้าเช็ดตัวราวกับเพิ่งออกมาจากห้องน้ำเปิดประตูให้ทั้งที่ตัวยังเปียก
“มาแล้วเหรอคะ”
หญิงสาวยิ้มอย่างยั่วยวนให้จีฮวัน เขาเองก็ยิ้มบางๆ ตอบกลับไป
บทที่ 47-1 ที่ปรึกษาด้านการเงิน หรืออีกชื่อคือคนรับใช้พวกคนรวย?
“เข้ามา!”
เสียงผู้ชายดังออกมาจากห้อง
จีฮวันเข้าไปในห้องภายในโมเต็ล ชายวัยกลางคนในชุดคลุมอาบน้ำแหวกให้เห็นขานั่งจิบไวน์อยู่บนเก้าอี้ จีฮวันทักทายชายคนนั้นอย่างนอบน้อม
“สวัสดีครับท่านประธานจอง สบายดีนะครับ”
“อืม ฉันก็แบบนั้นตลอดอยู่แล้ว โทษทีนะ ยุ่งๆ แต่ก็ยังให้มาทำแบบนี้”
“ไม่เป็นไรครับ ซื้อยี่ห้อมาตามที่สั่ง ไม่รู้จะถูกใจไหมนะครับ”
หญิงสาวรีบมาคว้าถุงชอปปิ้งไปทันที
“ถ้าไม่ถูกใจจะเอาไปเปลี่ยนให้เหรอคะ”
หญิงสาวหยิบชุดชั้นในออกมาด้วยความดีใจ
“อุ๊ยตาย คุณพี่รู้จักเลือกบราด้วยเหรอ ท่าทางจะซื้อให้ผู้หญิงบ่อยสินะคะ”
ชายวัยกลางคนยิ้มพอใจพลางถาม
“ถูกใจมั้ยจ๊ะเบบี๋”
“อื้อ ถูกใจมากเลย ขอบคุณนะค้าพี่”
หญิงสาวนั่งลงบนเข่าของชายวัยกลางคนพร้อมกับจุ๊บอย่างไม่ลังเล จีฮวันเบือนหน้าหนี เสียงจุ๊บๆ ดังไปทั้งห้อง
“เอาล่ะ เอาล่ะ รู้แล้ว หลบไปก่อนนะ”
“ต้องลองใส่ดู”
หญิงสาวที่เตรียมจะดึงผ้าเช็ดตัวที่พันรอบตัวออกตรงนั้น นึกขึ้นมาได้ว่าจีฮวันยังอยู่จึงหันไปยิ้ม
“ไว้พี่ชายไปแล้วค่อยใส่ เอ หรือจะให้ดูแวบๆ เป็นการตอบแทนที่ช่วยซื้อมาให้ดี ฉันหุ่นพิฆาตนะ”
หญิงสาวขยิบตากระตุกปมเหมือนจะถอดผ้าขนหนูเดี๋ยวนั้น
“ไม่เป็นไรครับ”
จีฮวันไม่หวั่นไหว สายตาแน่วแน่ไม่วอกแวก พูดอย่างเฉียบขาด
“อินซอก อย่าไปแกล้งเขาสิ หัวหน้าทีมรยูเขาเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เหมือนคาโนสาว่าอย่างฉัน”
คาสโนว่าต่างหากไม่ใช่คาโนสาว่า
“ชิ ฉันไม่ได้ต้องการสุภาพบุรุษซะหน่อยนี่คะ ฉันชอบผู้ชายร้อนแรงอย่างพี่ต่างหาก”
ชายวัยกลางคนหยิบเช็คออกมาจากกระเป๋าสตางค์อย่างอารมณ์ดีพลางถามจีฮวัน
“เท่าไหร่”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่เท่าไหร่หรอก”
“โอ้ว แบบนี้ฉันก็รู้สึกผิดสิ แต่ถ้าหัวหน้าทีมรยูว่าอย่างนั้น ไว้วันหลังฉันจะเลี้ยงเหล้าแล้วกันนะ”
ชายวัยกลางคนทำยอมแพ้เก็บเช็คใส่กระเป๋าสตางค์
“นี่มันตั้งสามแสนวอนเลยไม่ใช่เหรอ พี่นี่กระเป๋าหนักเหมือนกันเหรอเนี่ย จะใส่อย่างดีเลยนะคะ ถ้างั้น พี่คะ ไหนๆ แล้วฉันขอค่าชุดชั้นในนี่นะ น้า”
หญิงสาวออดอ้อน ชายวัยกลางคนหยิบเช็คส่งให้เธอ
“นี่มันปล้นกันชัดๆ เลยนะเนี่ย”
“เคยเห็นโจรที่ไหนสวยเหมือนฉันหรือไงกัน”
“ถ้างั้น ผมขอตัวก่อนนะครับ ขอให้มีความสุขนะครับ”
จีฮวันออกจากห้องไป ได้ยินเสียงแสบแก้วหูของหญิงสาวดังลอดออกมาจากประตูที่เพิ่งถูกปิดลง
“อะไรกัน นึกว่าคนใช้ จบจากมหาลัยโซลด้วยใช่มะ แล้วยังไปเรียนต่อต่างประเทศอีก ที่ปรึกษาด้านทางเงิน จริงๆ ก็คนรับใช้พวกคนรวยเหรอเนี่ย”
ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของหญิงสาว
“แหม อินซอกจ๋า เงินที่พี่ฝากไว้กับหมอนั่นตั้งเท่าไหร่ มันก็ต้องประมาณนี้แหละ ไม่งั้นพี่อาจจะย้ายไปธนาคารกอแรก็ได้!”
“อ้า ฉันก็อยากมีเงินเร็วๆ จะได้มีคนรับใช้ดูแลแบบนั้นบ้าง พี่ค้า ทำให้ฉันเป็นเศรษฐีทีสิคะ”
“จ้า จ้า ถ้าเบบี๋ของพี่ว่าง่าย มองแต่พี่ พี่จะซื้อบ้าน ซื้อรถ แล้วก็ให้เงินใช้ด้วย”
“กรี๊ดดด!”
แล้วเสียงหัวเราะของหญิงสาวก็ดังตามมากระแทกท้ายทอยของจีฮวัน
ขณะที่จีฮวันกำหมัดแน่นกับคำดูถูกเหยียดหยาม พนักงานทำความสะอาดก็เข็นรถมาจากทางเดินฝั่งตรงข้าม จีฮวันผงกศีรษะให้ด้วยสีหน้าสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรแล้วตรงไปยังลิฟต์
* * *
“เฮ้ย………”
อึนคังทำหน้าย่นชักสีหน้า
“เขาบอกว่าเป็นคนใช้จริงเหรอคะ”
จีฮวันยักไหล่
“มีคนทุเรศๆ แบบนี้ด้วย! ใครคะ ไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร”
“ในความเป็นจริง ลูกค้าหลายคนก็คิดอย่างนั้น ไม่คนรับใช้ ก็คนดูแลทรัพย์สินล่ะมั้ง”
“ใครเป็นคนรับใช้ ได้เงินเดือนจากพวกตัวเองหรือไงกัน!”
“คนส่วนใหญ่คิดว่าเพราะตัวเองทำให้พนักงานธนาคารอยู่ได้ แล้วการใช้ให้ทำอะไรพวกนั้นก็เป็นงานง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ เมื่อหลายปีก่อน มีเคสลาไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัว ไปเที่ยวอยู่ริมทะเล พอกลับมาที่โรงแรม ก็พบว่าลูกค้าโทรมาหลายสาย ก็นึกว่ามีเรื่องด่วนอะไรโทรข้ามประเทศกลับไป กลับโดนถามว่าทำไมลาไปโดยไม่ขออนุญาตตัวเองก่อน คือพีบีคนนั้นโดนใช้ให้ซื้อวัตถุดิบปรุงอาหารอย่างดีจากร้านในห้างมาให้อาทิตย์ละครั้ง ลูกค้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะเขาลาไปโดยไม่บอกอะไร ทำให้ครอบครัวตัวเองเลยอดข้าวกันหมด เป็นเรื่องที่เล่าต่อกันมาเหมือนตำนาน”
“เฮ้ย ไร้สาะมาก ในโลกมีคนแบบนี้จริงๆ เหรอเนี่ย”
“ถ้าพูดออกไปว่า ‘เฮ้ย’ นี่ไม่ได้เลยนะ มีแต่จะโดนเตือน”
“แล้วเคยโดนแรงกว่านี้ไหมคะ หมู่นี้ก็มีข่าวออกเรื่องการวางอำนาจบาตรใหญ่เต็มไปหมด แต่ถึงจะโดนดูถูกความเป็นมนุษย์ แต่ในความเป็นจริง ก็ไม่ได้มีคนที่ลงไม้ลงมือทำร้ายพีบีใช่ไหมคะ ถ้าทำร้ายร่างจะต้องโดนจับนะ”
อึนคังถามด้วยสีหน้าคงไม่มั้ง จีฮวันยิ้มขมขื่น จิบชาหนึ่งอึก
มีอยู่ตรงหน้านี่แหละ พีบีที่โดนลูกค้าตบแถมต้องออกจากงาน
“หรือมีคะ มีคนที่โดนลงไม้ลงมือด้วยเหรอ”
“ยังมีอีกเยอะครับ ลูกค้าที่เป็นหมอบางคน ก็ร้องให้ช่วยหาลูกสาวเศรษฐีให้ อย่างอื่นไม่ต้องการ ขอแค่มีสองอย่างนี้ อย่างแรก รูปร่างหน้าตาที่พาออกไปนอกบ้านแล้วไม่อายใคร อย่างที่สอง มีกำลังทรัพย์พอจ่ายหนี้เล็กๆ น้อยๆ เวลาตัวเองเปิดโรงพยาบาล”
“พวกพีบีนี่โดนขอให้เป็นพ่อสื่อเยอะเลยเหรอคะ”
“เยอะครับ ทั้งนัดบอร์ด นัดดูตัว สุดท้ายก็สู้กันด้วยคอนเนคชัน สำหรับคนปกติ การแต่งงานก็เป็นการคบกันของครอบครัวต่อครอบครัว, อำนาจทางเศรษฐกิจต่ออำนวจทางเศรษฐกิจ แล้วคนรวยล่ะเป็นยังไง การแต่งงานของพวกเศรษฐียิ่งเหนือชั้นกว่าจินตนาการของคนปกติมากเลยนะครับ”
แล้วจีฮวันก็หยุดพูดไปครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็นึกถึงราฮีขึ้นมา
“ดังนั้นพีบีที่รับหน้าที่ดูแลก็เลยจัดการนัดดูตัวกับลูกสาวของลูกค้าที่เป็นเศรษฐีให้ สองสามีภรรยาทำธุรกิจค้าปลา ขยันหมั่นเพียรและมัธยัสถ์ก่อร่างสร้างตัวจนเป็นเศรษฐี มีตึกย่านการค้าหลายตึก ถ้าได้ลูกเขยหมอ ก็ตั้งใจจะยกตึกหนึ่งตึกให้ แล้วลูกสาวก็สวยขนาดมีคนชวนให้ไปประกวดนางงาม คุณสมบัติยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว”
“โอ้โฮ น่าทึ่ง! แล้วไงต่อคะ”
อึนคังตาเป็นประกาย
“หลังจากที่แนะนำให้พบกัน พีบีก็ไปพบลูกค้าหมอ ทันทีที่เจอกันที่คอฟฟี่ช็อปสถานที่นัด ลูกค้าหมอก็…”
จีฮวันจิบชาหนึ่งอึก
“อ้า จริงๆ เลย! มาดื่มชาอะไรตอนนี้! เล่าต่อเร็วเข้า! พูดให้ค้างคา!”
“คิดว่ายังไงล่ะครับ แสดงจิตนาการของนักเขียนให้ดูหน่อย”
“อืม ดึงมากอดหรือเปล่า ขอบคุณที่ทำให้ได้เจอคู่”
“ผิด!”
“งั้นก็คงหอมแก้ม!”
“ลองคิดถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ดูสิครับ คีย์เวิร์ดคือการแสดงอำนาจ, ความรุนแรง ไม่ได้จบด้วยความอบอุ่นอย่างดึงมากอดจูบ”
“เฮ้ย โดนทำร้ายร่างกายเหรอคะ ไม่ถูกใจที่เป็นพ่อสื่อให้หรือไง”
“ขอเป็นรูปธรรมอีกนิด”
“อืม ตบหน้าก็ดูจะพื้นๆ หรือจะโดนตีด้วยกระบอง?”
“ไม่ใช้มือเด็ดขาดครับ หมอจะทะนุถนอมมือมาก เพราะเป็นสิ่งที่ใช้ทำมาหากิน”
“ถ้างั้น”
“กระโดดถีบแล้วใช้เท้าเหยียบที่ลิ้นปี่”
อึนคังอ้าปากค้าง
“โมโหที่แนะนำลูกสาวร้ายขายปลาชั้นต่ำเหม็นกลิ่นคาวปลาให้ตัวเอง ถึงจะมีเงินเยอะก็เถอะ เป็นสาเหตุของการโดดถีบด้วยความโกรธ”
อึนคังอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่ ก่อนโพล่งเสียงดัง
“ไอ้บ้า ไอ้ชาติชั่ว!”
คำด่ารุนแรงระเบิดออกมาจากใจจริง คนที่อยู่ในคาเฟ่พากันหันมามอง การออกเสียงและเน้นเสียงคำว่า ‘ไอ้ชาติชั่ว’ รู้สึกได้ถึงอารมณ์จริงจัง
“เฮ้ๆ ใจเย็นครับ”
“จะให้ใจเย็นเนี่ยนะ”
อึนคังถลึงตาใส่ราวกับจีฮวันเป็นหมอคนนั้น
“แล้วไอ้ เอ่อ หมอนั่นเป็นไงต่อคะ โดนจับไหมโทษฐานทำร้ายร่างกายน่ะ”
“เปล่าครับ พีบีขอโทษแล้วก็จบ”
ความงุนงงเต็มใบหน้าของอึนคัง
“พวกพีบีนี่เขาไม่มีสมองไม่มีความรู้สึกกันเหรอ”
“มีทั้งสองอย่างแหละครับ ยังไงก็ขอโทษแล้ว แล้วก็เป็นลูกค้า”
“นึกว่าจะมีแต่พวกคนให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์, พนักงานขายที่โดนใช้แรงงานหนักเกินไป อะไรกันเนี่ย นึกว่าอาชีพพีบีจะเป็นงานที่ดูดีมีเกียรติ…”
“โลกนี้ไม่มีงานที่ดูดีมีเกียรติหรอกครับ ตราบใดที่เป็นงานที่หากินจากเงินคนอื่น”
“คือเหมือนว่าเงินกับชนชั้นบางครั้งก็ทำให้ต้องไปพัวพันกับเรื่องยุ่งๆ แบบนี้ ฉันสรุปถูกไหมคะ”
“ก็ไม่ใช่เสียทั้งหมดหรอกครับ ความจริงด้วยเหตุผลที่ที่ปรึกษาด้านการเงินเป็นอาชีพที่ทำเกี่ยวกับเงิน หลายคนเลยกล้าเปิดเผยนิสัยดำมืดที่เก็บไว้ของตัวเอง ไม่ลังเลที่จะทำผิดศีลธรรม หรือการถูกขอให้ทำผิดกฎหมาย”
“เรื่องแบบไหนคะ”
“ตอนนี้ก็น้อยลงแล้ว แต่เมื่อก่อนเยอะเลยที่ถูกขอให้แนะนำคนกลางที่จะช่วยให้ลูกชายละเว้นจาการเป็นทหาร ขอให้ช่วยให้ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญปลอมๆ ต้องการปริญญาเอกมหาลัยต่างประเทศที่มีชื่อเสียงแบบปัจจุบันทันด่วนก็เคยมี”
“เหนือจินตนาการสุดๆ พวกคนรวยนี่น่าเกลียดจัง ว่าแต่มาเล่าให้ฉันฟังแบบนี้ได้เหรอคะ ฉันอาจจะคึกเอาไปเขียนก็ได้นะ”
“ไม่น่าจะพลาด วางเรื่องไว้ตั้งสิบสองตอน แถมน่าจะยังมีอีก”