รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 55-2 ขณะที่ใจกำลังมุ่งไปสารภาพ
จีฮวันจ้องมองรูปแม่ที่ยิ้มอยู่ในช่องบรรจุอัฐิเงียบๆ
แม่เขามีนิสัยเงียบๆ และสงบเยือกเย็น ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกมากนัก แต่แม่ชอบคนสดใสร่าเริง ถ้าแม่ได้เจออึนคัง…
คงจะถูกใจ เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดี เปิดเผย สดใส ยิ้มง่าย และชอบทำให้คนอื่นยิ้ม เวลาอยู่ด้วยกันก็ทำให้อารมณ์สดใสขึ้นทีละนิด ดังนั้น…
“คุณแม่ดูดีจังเลยนะคะ เป็นคนติดตาตรึงใจ รู้สึกถึงความอบอุ่นออกมาจากในรูปเลย”
“ใช่ครับ แม่เป็นแบบนั้น นุ่มนวล อ่อนโยน ไม่มีความร้ายกาจและหยาบคายแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าเป็นคนที่เหมือนอยู่ท่ามกลางพระพุทธเจ้า ที่คนเขาว่ากันอย่างนั้น ผม…”
จีฮวันเผลอกำหมัดโดยไม่รู้ตัว
เกลียด
จีฮวันหยุดพูด อึนคังเหลือบมองจีฮวันแล้วเอ่ยถามออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร
“ว่าแต่มีรูปแค่ใบเดียวเองเหรอคะ”
จีฮวันตกใจ
“ไม่มีดอกไม้หรือของที่ระลึกอย่างอื่นเลย มันดูว่างไปหน่อย”
“ผะ ผมแทบจะไม่มีของของแม่ เอาไว้จะหาดอกไม้ ละ แล้วก็ของที่แม่ชอบมา…”
จีฮวันดูกระดากอาย อึนคังรีบเสริม
“ฉันรู้จักเว็บที่ขายดอกไม้ประดับช่องบรรจุอัฐิสวยๆ ฉันสั่งมาทุกเทศกาลเลย ไว้เดี๋ยวบอกให้นะคะ”
“ขอบคุณครับ”
ภายในห้องเก็บอัฐิอากาศเย็น แต่ที่หน้าผากของจีฮวันกลับมีเหงื่อออก เขาคลำกระเป๋าเสื้อโค้ต แต่ล้วงพลาดหาทางเข้ากระเป๋าไม่เจอ สุดท้ายอึนคังทนดูไม่ไหว หยิบผ้าเช็ดหน้าจากในกระเป๋าเสื้อโค้ตส่งให้
“นี่ค่ะ! หาผ้าเช็ดหน้าอยู่ใช่ไหมคะ”
“ครับ”
มือของจีฮวันที่ยื่นมารับผ้าเช็ดหน้าสั่นเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”
อึนคังจับมือเขาเบาๆ อย่างเป็นห่วง แต่เธอก็ต้องตกใจเพราะมือของจีฮวันเย็นมาก
จีฮวันพยักหน้า แต่มือยังคงสั่นเหมือนเดิม อึนคังเอาผ้าเช็ดหน้าค่อยๆ ซับหน้าผากให้เขา
“ไม่เป็นไรนะคะ ไม่เป็นไรแล้ว”
จีฮวันอึ้งมองอึนคัง รู้สึกถึงสัมผัสอบอุ่นที่แตะลงบนหน้าผาก ผู้หญิงคนนี้บอกว่าอะไรไม่เป็นไรนะ
ข้าวของของแม่ไม่ใช่แทบไม่มี แต่ไม่มีเลยสักอย่าง ไม่มีแม้แต่อย่างเดียว ก่อน ‘วันนั้น’ แม่ลบทุกอย่างของตัวเองด้วยตัวเอง
ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า จัดการข้าวของทั้งหมดที่อยู่ในความทรงจำ ฝังทุกสิ่งที่มีรอยสัมผัส เผาทั้งหมดทั้งรูปถ่ายงานแต่งงาน และรูปถ่ายที่มีหน้าตัวเอง
แม้แต่อัลบั้มของจีฮวันก็ไม่รอดพ้น อัลบั้มของเขาที่ทิ้งไว้ที่บ้านตอนเข้ามหาวิทยาลัย กลายเป็นเศษซากทั้งหมด
ทั้งรูปถ่ายที่เคยถ่ายสองคนกับแม่ รู้ครอบครัวที่ถ่ายกันสามคนกับพ่อก็เช่นกัน เพราะแม่ตัดรูปตัวเองกับสามีออกไป อัลบั้มของเขาเลยเหลือแต่รูปแปลกๆ และว่างเปล่า เหลือแค่เขาเพียงลำพัง
แต่โชคดีเหลือเกิน ที่ยังเหลือรูปถ่ายดีๆ ของแม่เหลืออยู่หนึ่งใบ เป็นรูปของแม่ที่จีฮวันเอาใส่กระเป๋าสตางค์มาด้วยตอนมามหาวิทยาลัยโซล นี่เป็นรูปของแม่ที่เหลืออยู่เพียงใบเดียวในโลกสำหรับจีฮวัน
จีฮวันเอารูปถ่ายที่เหลืออยู่ใบเดียวไปขยายแล้วเอามาไว้ที่ช่องบรรจุอัฐิ แม่ยังคงต้อนรับเขาในรูปอย่างอบอุ่นไม่เปลี่ยนแปลง
หลังจาก ‘วันนั้น’ จีฮวันก็พยายามฝังความจริงนั้นไว้ ความจริงที่ว่าแม่กำจัดข้าวของของตัวเอง และเผารูปถ่ายทั้งหมดจนหมดสิ้น
และคำถามของอึนคังได้สะกิดความจริงที่ถูกฝังเอาไว้นี้
“ไม่มีหรอกครับ ไม่มีสักอย่าง…”
จีฮวันพยายามพูดด้วยเสียงอันสั่นเครือ ผมไม่สามารถปกป้องเอาไว้ได้ ทั้งแม่ และความทรงจำของแม่ ได้มาแค่รูปถ่ายแม่เพียงใบเดียวเท่านั้น ดังนั้น…
“แล้วยังไงคะ จำนวนของมันสำคัญหรือไง ในเมื่อลูกชายมีความรักและความทรงจำของแม่เก็บเอาไว้ตลอดไปอยู่แล้ว”
อึนคังใช้สองมือกุมหน้าของจีฮวัน ขณะที่สบตาสีดำของอึนคังที่มั่นคงไม่มีความสงสัยและกังขา อาการสั่นก็ทุเลาลงจนน่าแปลกใจ
คำพูดของอึนคังราวกับเสกคาถา ความรู้สึกผิดของจีฮวันที่ถูกผนึกเอาไว้เริ่มสั่นคลอน แต่อึนคังไม่มีทางรู้ สิ่งที่จีฮวันรักษาเอาไว้ไม่ได้ ไม่ได้มีแค่สิ่งของ
“อ๊ะ หน้าอุ่นขึ้นหน่อยแล้ว”
อึนคังยิ้มสดใส ใบหน้าของจีฮวันกลับมาอุ่นขึ้นทีละน้อย เหมือนน้ำแข็งที่ถูกแสงอาทิตย์จนละลาย
เป็นคู่นอนกันเป็นทางการแล้ว คิดอยากจะรักกับอึนคัง มีแพลนจะรุกเต็มที่ทำให้เธอชอบตัวเอง แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้ความ
พอมาอยู่ต่อหน้า กลยุทธ์ที่คิดมาล่วงหน้าสารพัดก็ไร้ประโยชน์ ถ้าไม่พูดออกไปตอนนี้ล่ะก็…
จีฮวันจับมือทั้งสองข้างของอึนคังที่กำลังกุมแก้มตัวเองมาวางที่หน้าอก มือของทั้งคู่เหมือนกำลังทำท่าอธิษฐานอยู่
“คุณนักเขียน”
“คะ?”
“คุณโกอึนคัง”
“ค่ะ!”
อึนคังตอบอย่างสดใส เพราะอยากพูดคำนี้ ถึงได้พาเธอมาที่นี่ไม่ใช่หรือไง
“ผมมีอะไรจะบอก”
“ค่ะ บอกมาสิคะ”
ดวงตาสีดำของอึนคังเป็นประกาย ดวงตานั้นเหมือนกำลังเร่งเร้า อาจเป็นเขาที่คิดไปเอง พูดไปสิ พูดไปเลย!
“ผมชอบ…”
“อะแฮ่ม!”
เสียงกระแอมไอของผู้ชายดังขึ้นเหมือนสายฟ้าฟาด ทั้งคู่สะดุ้งตกใจปล่อยมือที่จับอยู่ออกจากกัน
“ปะ ไปกันหรือยังครับ”
“ไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอคะ”
“พอแล้วล่ะครับ”
“งั้นไปกันเถอะค่ะ”
ไม่ได้ทำอะไรไม่ดี แต่ทำไมต้องรู้สึกประหม่าขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ อึนคังเดินนำหน้า ผู้ชายวัยกลางคนที่คาดว่าเป็นคนกระแอมไอ ยืนอยู่ทางเข้าห้องเก็บอัฐิ จ้องมาที่อึนคังด้วยสายตาไม่พอใจอย่างชัดเจน
อะไรกัน สายตานั่น ปกติอึนคังไม่สนใจสายตาคนอื่น แต่สายตานั่นช่างไม่มีมารยาท
อึนคังไม่ยอมแพ้กับสายตาของพวกตาแก่ที่คอยจ้องสาวๆ ตามทางหรือในรถไฟใต้ดินอย่างเสียมารยาทเด็ดขาด
อะไร มีอะไรงั้นเหรอ จ้องทำไม นี่เราเต้นรำในห้องเก็บอัฐิ หรือจัดงานเฟสติวัลเปิดเพลงอีดีเอ็มหรือไง ทำไมต้องจ้องอะไรขนาดนั้น
อึนคังจ้องตอบอย่างท้าทาย สายตาของชายคนนั้นยิ่งไม่พอใจมากขึ้น
เอ๊ะ ผู้ชายคนนี้ ดูคล้ายๆ ใครที่เรารู้จักไหมนะ อึนคังหยุดเดินและหันหลังกลับไป
จีฮวันที่ไม่สามารถก้าวออกจากหน้าช่องบรรจุอัฐิของแม่ได้แต่ยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นน้ำแข็ง อึนคังมองด้านหน้าสลับกับด้านหลังไปมา
“อ้า…”
ว่าลูกชายเหมือนแม่แล้ว แต่คุณพีบีเหมือนรวมยีนจากทางพ่อ ทั้งรูปร่าง หน้าตา เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน อึนคังสบตากับจีฮวันแล้วทำปากพะงาบๆ
คุณพ่อเหรอ
หลังจากสบตากับอึนคัง จีฮวันก็ก้าวเดินราวกับน้ำแข็งได้ละลายลงแล้ว สีหน้าเย็นชามาก ไม่เหมือนผู้ชายที่เคยพูดคุยและจับมือกันก่อนหน้านี้ สีหน้าของจีฮวันก่อนหน้านี้อ่อนโยน เป็นรยูจีฮวันที่อึนคังรู้จัก
จีฮวันคว้ามือของอึนคังมาจับไว้
“ไปกันเถอะครับ”
อ้าว ไม่ใช่คุณพ่อหรอกเหรอ สายตาของผู้ชายคนนั้นย้ายจากอึนคังไปที่จีฮวัน แต่ก็ยังคงเป็นสายตาที่ไม่พอใจเหมือนเดิม
ขณะที่จีฮวันดึงมืออึนคังพาเดินออกไปจากห้องเก็บอัฐิ
“หยุดอยู่ตรงนั้น”
เสียงเย็นนะเยือกเหมือนพื้นหินอ่อนดังขึ้น ชั่วแวบนึงที่ท้ายทอยของอึนคังเย็นวาบลงมาตามต้นคอถึงกระดูกสันหลัง
ไม่ได้ตะคอกเสียงดัง หรือเป็นคำด่าอะไร แต่กลับรู้สึกเหมือนร่างกายขยับไม่ได้ ราวกับกระต่ายป่าได้ยินเสียงเสือคำราม
อึนคังตกใจหันไปมองจีฮวัน จีฮวันบอกด้วยเสียงสงบเยือกเย็น
“ไปคอยที่รถก่อนนะครับ เดี๋ยวผมตามไป”
ดูเหมือนไม่ควรซักไซ้และต้องทำตามที่เขาบอกเท่านั้น อึนคังที่รีบเดินอยู่นั้นไปชนเข้ากับใครบางคน
“อ๊ะ ขอโทษค่ะ”
ผู้หญิงที่ดูอายุราวสี่สิบกลางๆ ยิ้มน้อยๆ แสดงว่าไม่เป็นไร เป็นผู้หญิงที่ให้ความรู้สึกผ่ายผอม ด้วยรูปร่างที่สูงกับใบหน้าเรียวๆ
ผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในห้องเก็บอัฐิ และได้ยินเสียงดังออกมา
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะคุณจีฮวัน”
หืม? อึนคังหยุดเดิน
“คุณจีฮงจีฮวันอะไร แม่ที่ไหนพูดกับลูกแบบนั้น คนอื่นมาได้ยินหัวเราะตาย!”
ความสนใจของอึนคังถูกกระตุ้นอีกครั้ง อย่าหันไปนะโกอึนคัง เธอจะหันไปไม่ได้เด็ดขาด มันเสียมารยาท! คุณพีบีต้องไม่ชอบแน่ อย่าอยากรู้อยากเห็นเรื่องในบ้านของคนอื่น ถ้าหันไปเธอตายแน่! รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า! ออกไป!
อึนคังไม่หันกลับไป ยืดหลังตั้งตรงเดินไปยังล็อบบี้ด้วยท่าทางดูเป็นผู้ใหญ่ แต่อึนคังที่กำลังเดินผ่านประตูหมุนออกไปข้างนอก กลับถูกประตูตีกลับเข้ามาในล็อบบี้อีกครั้ง อึนคังเอามือตีหน้าผากตัวเอง
“จะบ้าตาย! ย้อนกลับเข้ามาได้ยังไง โอ๊ย แค่ประตูก็หมุนออกไปไม่ได้ ยัยบ้า!”
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนพึมพำ อึนคังรีบหลบหลังเสาล็อบบี้ด้วยความไวแสง และค่อยๆ ยื่นหน้าออกมาดู
เห็นจีฮวันเดินออกมาจากห้องเก็บอัฐิ โดยมีชายวัยกลางคนตามออกมา และผู้หญิงคนนั้นก็เดินตามหลังมาอีกที
จีฮวันกำลังโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว ชายวัยกลางคนมองท่าทางแบบนั้นราวกับเป็นเรื่องน่าขัน ส่วนผู้หญิงอีกคนมองทั้งคู่สลับกันด้วยความกระวนกระวาย
จีฮวันทนไม่ไหวจึงหันกลับไป
“มาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครให้มาตามใจ มีสิทธิ์อะไร!”