รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 69 การพบกันอีกครั้งโดยไม่ได้คาดหมาย
“คะ คุณนักเขียน?”
ยองอูตกใจ อึนคังรีบเช็ดน้ำตา
“ร้อง ร้องไห้ทำไม…”
“ไข่ต้มกับมันอร่อยมากเลยค่ะ เวลาฉันได้กินของอร่อยๆ แล้วน้ำตาจะไหลออกมาเอง”
“อ้า…ครับ”
เห็นยองอูพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วอึนคังก็หัวเราะคิก รู้สึกตั้งแต่ที่โรงพยาบาลแล้ว ว่าเขาเป็นคนที่ใสซื่อและจริงจังจริงๆ
โกหกอะไรก็เชื่อหมด ท่าทางคงจะโกหกไม่เป็น ช่างเป็นคนละเผ่าพันธุ์กับนายเลยนะ คุณรยู ผู้มองอะไรก็สงสัยไปทุกสิ่ง ทั้งเรื่องจริงและเรื่องน่าสงสัย
“คุณหมอ ฉันขอไปด้วยได้ไหมคะ”
“ไปไหนครับ”
“ศูนย์พักพิงที่คุณหมอจะไปอาสาไงคะ”
“หา?”
ยองอูตกใจ อึนคังเอียงคอถาม
“ไม่ได้เหรอคะ”
“เอ่อ เปล่าครับ ไม่ใช่ไม่ได้ ยังไงก็ขอบคุณนะครับ ที่นั่นคนไม่พอตลอด ถ้าไปช่วยก็คงช่วยได้มากเลย แต่มันไม่ใช่งานง่ายๆ เลยนะครับ หมาแมวกว่าสามสิบตัว แค่ทำความสะอาดกับอาบน้ำก็ใช้เวลาเป็นวันแล้ว ส่วนใหญ่เป็นงานใช้แรง จะเหนื่อยมาก…”
“เหมาะเลยค่ะ! ฉันถนัดใช้แรงมาก แรงก็เยอะ! ตอนคุณหมอรักษาพวกเด็กๆ ฉันก็จะทำความสะอาดแล้วก็อาบน้ำให้ไงคะ ฉันจะตั้งใจทำงาน ไม่รบกวนเด็ดขาด!”
“ไม่จำเป็นต้องไปช่วยผมหรอกครับ… มีแพลนจะไปสวนพฤกษชาติไม่ใช่เหรอครับ”
“พวกต้นไม้อยู่กันมาเป็นร้อยปี ไม่ได้ดูวันนี้ คราวหน้าค่อยมาดูก็ได้ แต่พวกสัตว์คอยให้ไปช่วยอยู่ไม่ใช่เหรอคะ ถ้ามีโอกาสฉันก็อยากไปช่วยค่ะ”
อึนคังสีหน้าจริงจัง
“ปัญหาก็คือต้องฉีดวัคซีนกันบาดทะยักมาก่อน”
“จำไม่ได้เหรอคะ ตอนที่ฉันตัดสินใจเก็บจากูมาเลี้ยง คุณหมอบอกว่าฉีดอีกรอบก็ดี แล้วฉันก็ฉีดแล้ว!”
“อ๋า งั้นเหรอครับ งั้นก็ ไปด้วยกันนะครับ”
“ค่า! ว่าแต่มื้อกลางวันของเรา จะไปกินกันก่อนใช่ไหมคะ”
“เอ่อ ก็ที่กินไปก่อนหน้า…”
“เอ๋ ไม่นะ! แค่นั้นมันพอยาไส้ที่ไหนกันล่ะคะ คนเราต้องเอาอาหารใส่ท้องถึงจะมีแรง!”
“มันก็ยัง…”
“หน้าสถานีชองพยองมีร้านอาหารเยอะแยะเลย! ฉันจะไปกินกลางวันที่นั่นนะคะ!”
“ครับ เอางั้นก็ได้ครับ”
ยองอูที่ถูกอึนคังกดดันตกลงอย่างไม่เต็มใจ อึนคังยิ้มสดใสพลางปอกส้ม
กินเก่งจริงๆ กินเยอะขนาดนี้แต่ไม่ได้ดูน่าเกลียด กลับน่ารักด้วยซ้ำ หมากับเจ้าของเหมือนกันกระทั่งเรื่องกิน ยองอูอมยิ้ม
“ว่าแต่คุณนักเขียนไม่แต่งนิยายเรื่องใหม่เหรอครับ ผมไปหาดูไม่เห็นเจอ”
“กำลังเตรียมตัวอยู่ค่ะ มีกำหนดออกตอนซากุระบานปีหน้า!”
สีหน้าของยองอูสดใสขึ้น
“บอกได้ไหมครับว่าเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร…”
“อืม พระเอกเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน ปิศาจจอมจู้จี้ที่เนี้ยบและอนามัยจัด นางเอกเป็นหมอปัสสาวะวิทยาที่โก๊ะๆ และมีปัญหาคือจำหน้าคนไม่เก่ง ทั้งสองคนมีเรื่องกระทบกระทั่งนู่นนี่แล้วก็ตกหลุมรักกัน ประมาณนี้ค่ะ”
“น่าสนุกเหมือนเดิมเลยนะครับ เออ ขาประจำที่โรงพยาบาลผมก็มีที่ปรึกษาด้านการเงินนะครับ เป็นผู้ชายและเป็นเจ้าของแมว”
“จีองเหรอคะ”
ยองอูตกใจ อึนคังย้ำ
“คุณพีบีรยูจีฮวัน เป็นที่ปรึกษาให้นิยายใหม่ของฉันค่ะ”
“เอ๋?”
“โลกกลมจังนะคะ”
“ครับ กลมมากครับ คุณนักเขียนกับพ่อจีอง มาเจอกันแบบนี้ได้ยังไง เขาเท่มากๆ เลยเนอะครับ”
“แล้วก็มุ้งมิ้งใช่เล่นด้วยนะคะ ใครกันจะยอมเป็นทาสแมว”
“ฮ่าๆ”
จีฮวันขึ้นแท็กซี่กลับไปที่บ้าน โดยไม่รู้ว่ายองอูมานั่งข้างๆ อึนคังแทนที่ที่นั่งเดิมของตัวเอง และทั้งสองคนกำลังนินทาเขาอย่างสนุกสนาน
[รถไฟออกแล้วสินะครับ ผมกำลังขึ้นแท็กซี่กลับไปอิลซาน เพราะรถไฟใช้เวลานานเกิน นัดกับตัวแทนจัดหางานที่โซลตอนห้าโมงเย็น ผมใจร้อน มีอะไรต้องเตรียมอีกเยอะ เที่ยวสวนพฤกษชาติให้สนุกนะครับ หาอะไรอร่อยๆ กินแล้วพักผ่อน เดี๋ยวผมตามไป]
อึนคังไม่ตอบ สงสัยขึ้นรถไฟไปจะหลับเลย ไม่ก็มัวแต่ดูวิวนอกหน้าต่าง ถึงอีกไม่นานก็เจอกัน แต่อย่างไรก็น่าจะตอบสักนิด
แค่คิดถึงตอนเดินทางออกจากบ้าน ไปใช้เวลาค่ำคืนอันเร่าร้อน ร่างกายของจีฮวันก็ร้อนขึ้นมาแล้ว
ถ้ามีอ่างอาบน้ำด้วยก็ดีสิ วันนี้จะไม่ให้พักหายใจหายคอทั้งคืนเลย เตรียมใจเอาไว้ให้ดี โกอึนคัง!
* * *
อึนคังและยองอูลงที่สถานีชองพยอง และแวะกินทักคาลบีกับบะหมี่เส้นบัควีทเป็นอาหารกลางวัน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังศูนย์พักพิงสัตว์
เจ้าของที่อยู่ดูแลหมาแมวถูกทิ้งหลายสิบตัวที่บ้านนอกเก่าๆ คนเดียวเป็นหญิงอายุหกสิบกว่าที่มีผมสีขาวและมีสายตาเป็นประกายน่าประทับใจเหมือนดวงตา
“อ้าว วันนี้ไม่ได้มาคนเดียวหรือคุณหมอ”
สายตาของเจ้าของบ้านพักพิงที่มองมายังอึนคังเป็นประกายแจ่มชัด เป็นสายตาของคนที่ปล่อยวาง ไม่มีความต้องการหรือความโลภอะไรเป็นพิเศษ
“ลูกค้าที่โรงพยาบาลผมครับ บังเอิญเจอกันบนรถไฟ”
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อโกอึนคัง หนูดื้อขอตามคุณหมอมาด้วย หนูเองก็เลี้ยงหมาถูกทิ้ง ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาท อยากขอมาเป็นผู้ช่วยด้วยอีกคน จะให้อาบน้ำหรือทำอะไรก็สั่งมาได้เลยค่ะ!”
“เสียมารยาทอะไรกันจ๊ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ อยู่คนเดียวงานอาบน้ำเด็กๆ เป็นงานที่หนักมาก ยังไงช่วยจัดการขยะรีไซเคิลกับทำความสะอาดรอบๆ กรงให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ”
“ค่า!”
อึนคังใส่ชุดกันเปื้อน หน้ากาก และถุงมือที่เจ้าของบ้านพักพิงเอามาให้เต็มยศ และเริ่มลงมือทำงาน
ภายในสวนกว้างมีกรงเหล็กที่เป็นที่อยู่ของพวกหมาใหญ่สามกรง และมีของหมาเล็กอีกสิบกรง
หมาๆ ทุกตัวมองอึนคังและเริ่มตื่นเต้นคึกคัก ทั้งดันทั้งตะกุยกรงอยากจะออกมา พวกหมาตัวเล็กพุ่งเข้ามาหาอึนคัง แต่ติดเชือกที่ผูกคอเอาไว้
พวกหมาๆ ดูไม่ได้มุ่งจะมาทำร้ายเธอ แค่อยากเข้าใกล้อีกนิด อึนคังรู้สึกได้ถึงความต้องการของหมาๆ ที่อยากให้สบตา อยากให้จับและอาบน้ำให้สวยๆ แล้วก็เจ็บปวดใจ
แม้จะถูกทิ้งอย่างน่าเศร้า แต่ก็ไม่ลืมความรักที่เคยได้รับมาจากคนในระยะเวลาสั้นๆ เห็นคนแล้วก็ยังกระดิกหาง
“หวัดดีจ้ะเด็กๆ ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันมาช่วยทำความสะอาดบ้านพวกเธอ!”
อึนคังสบตาทักทายกับพวกหมาๆ ทีละตัว หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือทำความสะอาดด้วยความดีใจที่ได้ดูแลจากู ส่วนยองอูหยิบกระเป๋าหมอจากเป้ออกมากาง และทำการรักษา
“โตลเป็นยังไงบ้างครับ”
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ แต่ความเร็วในการงอกขึ้นมาใหม่ของเนื้อก็ไม่ปกติ จะคนหรือสัตว์อะไรๆ ก็ไม่เหมือนตอนอายุยังน้อยกันทั้งนั้น”
“เอาละ ไหนดูหน่อยสิว่าดีขึ้นขนาดไหนแล้ว”
มีเยอะที่สัตว์ที่ถูกทิ้งมีโรคมาด้วยไม่มากก็น้อย ยองอูใส่ยาให้สัตว์ที่ตาเป็นโรค ฆ่าเชื้อโรคที่แผล ให้สัตว์ที่มีพยาธิกินยาถ่ายพยาธิ คัดแยกและดูสัตว์ที่ป่วยตามลำดับ
“เตรียมบริเวณที่คลอดของนาบีเอาไว้หรือยังครับ”
“ทำไว้สองที่ตามที่คุณบอกค่ะ แต่ดูเหมือนนาบีจะไม่ชอบ”
“ต้องเป็นที่ที่ไม่มีแมวตัวอื่นมารบกวนครับ ขอดูที่หน่อยได้ไหมครับ”
ระหว่างที่ยองอูเข้าบ้านไปดูแมว อึนคังก็ทำงานไปเงียบๆ
* * *
ขณะที่อึนคังทำความสะอาดรอบกรง ล้างชามน้ำและข้าวหมา เก็บกล่องอาหารกับถุงพลาสติกมามัดด้วยเชือกป่านจนเหงื่อท่วม จีฮวันก็มาพบตัวแทนจัดหางานที่บาร์ชั้นบนสุดของโรงแรมที่มีเฉพาะสมาชิกที่เข้าออกได้
“ผู้จัดการจัดตั้งมูลนิธิเหรอครับ”
จีฮวันถามด้วยสีหน้าสงสัย ตัวแทนจัดหางานจึงอธิบาย
“ตามที่บอก เรากำลังหาผู้จัดการที่จะช่วยดำเนินการจัดตั้งมูลนิธิเกี่ยวกับซีเอสอาร์ วางพื้นฐานในการก่อตั้งมูลนิธิทั้งหมดจนบรรลุผลให้เกิดประโยชน์กับเงินลงทุน จัดทำด้านการทำงานและหน้าที่กระบวนการบริหารทั้งหมดที่จำเป็นต่อการจัดตั้งมูลนิธิ”
“ทำไมถึงเสนอตำแหน่งนั้นให้ผม… ก็ทราบนี่ครับว่ากว่าสิบปีผมใช้ชีวิตอยู่แต่ในวงการการเงิน ถ้าจะหาผู้จัดการก่อตั้งมูลนิธิซีเอสอาร์ก็ควรเลือกคนในบริษัทไม่ใช่เหรอครับ”
ตัวแทนจัดหางานยิ้มพลางส่ายหน้าเบาๆ ราวกับคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเขาต้องตอบประมาณนี้
“สถานการณ์ในบริษัทไม่ค่อยจะดี ก็ควรจะหาข้างนอกใช่ไหมล่ะครับ สเปกการทำงานและสเปกผู้ร่วมงานที่ลูกค้าต้องการตรงกับคุณจีฮวันพอดีเป๊ะ อย่างแรก เป็นผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ทางที่จำเป็นต่อการจัดตั้งมูลนิธิและมีคอนเนกชั่น อย่างที่สอง มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องบัญชีและงานจัดเก็บภาษีเพื่อความโปร่งใสของมูลนิธิเพื่อสาธารณประโยชน์ อย่างที่สาม มีประสบการณ์ทำงานที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการลงทุน พอๆ กับที่ทำกำไรให้มูลนิธิ นี่เป็นข้อเสนอที่ทางฝ่ายลูกค้าเสนอมาครับ”
“พูดก็คือ ต้องการความสามารถสินะครับ”
“ถูกต้องครับ การจะมอบหมายเรื่องการจัดการ การลงทุน บัญชีต่างๆ แยกเป็นคนๆ ไป ค่อนข้างลำบากน่ะครับ ลูกค้าเลยอยากหามือโปรคนเดียวไปเลยที่จะมารับผิดชอบงานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และก็ให้ผู้จัดการทำหน้าที่กำหนดและแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสมกับงานและความสามารถต่อไป สรุปก็คือ คุณจีฮวันสามารถเลือกคนที่ถูกโฉลกและสร้างมูลนิธิตามรสนิยมของตัวเอง โอกาสในการได้ควบคุมมูลนิธิสาธารณประโยชน์ของกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ติดหนึ่งในสามสิบอันดับวงการการเงินมีไม่บ่อยนะครับ”
ภายในปากของจีฮวันยุบยิบไปหมด ตำแหน่งผู้รับผิดชอบก่อตั้งมูลนิธิของบริษัทในสามสิบอันดับของวงการการเงิน ไม่ใช่มีมาไม่บ่อย แต่แทบไม่มีเลยต่างหาก
เป็นโอกาสเดียวที่จะได้ระดมคอนเนกชั่นและความรู้ที่มีมาสร้างผลงาน นานแล้วที่ไม่ได้รู้สึกถึงความกระหายในชัยชนะ
จีฮวันยกแก้วน้ำที่ว่างเปล่า กำลังจะเรียกคน พนักงานก็พุ่งเข้ามาเติมน้ำให้ราวกับคอยอยู่
“ขอบคุณครับ”
พนักงานส่งยิ้มให้แล้วก็หายไป ตัวแทนจัดหางานผิวปาก ‘วิ้ว’
“มหัศจรรย์จริงๆ หลายรอบแล้วนะครับเนี่ย พนักงานที่นี่เอาแต่จ้องคุณจีฮวัน รู้ว่าน้ำหมดก็วิ่งเข้ามาเลย”
จีฮวันใส่สูทชุดใหม่ที่อึนคังสั่งตัดให้ตามคำสั่งของอึนคัง ดูโดดเด่นเป็นพิเศษในที่นี้ ซึ่งเป็นสถานที่ในวงสังคมสุดหรู ต้องคอยบอกปัดพวกสาวๆ ที่ถึงแม้ไม่ได้เรียก แต่ก็คอยเข้ามาถามว่าต้องการอะไรไหม
“ผมก็รู้นะครับ แต่คุณจีฮวันมีรูปร่างหน้าตาภูมิฐานอย่างที่ไม่ค่อยเคยเจอที่ไหน เวลาไปไหนรู้ไหมครับว่าเป็นที่จับจ้อง”
“รู้สิครับ ผมเองก็มีตามีความรู้สึก”
“ถามจริงๆ เลยนะครับ การมีหน้าตาแบบนี้ มันรู้สึกยังไง ผมไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ไม่รู้เลยว่ามันอารมณ์ไหน”
“ถามจริงๆ ผมก็จะตอบให้จริงๆ คือก็เฉยๆ น่ะครับ”
“ตอบง่ายไปนะครับ นี่เป็นเหตุผลเดียวกับที่ว่าทำไมถึงได้โกรธ ตอนวอนบินบอกว่าตัวเองหน้าตาธรรมดา”
“ที่จริงมันก็อึดอัดนิดหน่อย บางทีผมเองก็รำคาญกับความสนใจที่ไม่ได้อยากได้หรือโดนเข้าใจผิดไร้สาระ คิดว่ามันเป็นความซวยที่ช่วยไม่ได้ แต่ก่อนหน้านี้ เป็นครั้งแรกที่ผมคิดว่าตัวเองโชคดีจังที่มีหน้าตาแบบนี้”
“โอ้โฮ ยังไงครับ”
“ผู้หญิงที่ชอบกุมหน้าผม จ้องด้วยสายตาหลงใหลแล้วกระซิบบอกว่างดงามครับ”
สายตาเย็นชาของจีฮวันที่ทำมาตลอดก่อนหน้านี้อ่อนโยนลง แปรเปลี่ยนจากหนุ่มเย็นชาเป็นหนุ่มหล่อหน้าสวย
“เมื่อกี้มันอะไรกันเนี่ย อารมณ์จากนิ่งๆ กลายเป็นความหล่อแบบเร่าร้อนเฉยเลยนะครับ”
“ทั้งตัวและหัวใจผมถูกผู้หญิงคนหนึ่งยึดไว้หมดแล้วล่ะครับ”
“ผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นเป็นใคร…”
ตอนนั้นเองโทรศัพท์มือถือของตัวแทนจัดหางานก็ดังขึ้น เขาเช็คข้อความ บรรยากาศที่หัวเราะคุยเล่นเป็นกันเองเมื่อครู่กลับมามีท่าทีเป็นการเป็นงานอีกครั้ง
“อีกสักครู่ผู้รับผิดชอบสำคัญจากบริษัทนั้นจะมาครับ อยากจะคุยและทานอาหารเย็นด้วยกัน”
จีฮวันตกใจขนลุก
“เอ่อ คือ นี่มันค่อนข้างกะทันหัน จะสัมภาษณ์เลยงั้นเหรอครับ”
“อย่าคิดว่าเป็นการสัมภาษณ์เลยครับ คิดว่าแค่เป็นการคุยแลกเปลี่ยนกันสบายๆ ไม่ต้องเกร็ง อ๊ะ เชิญเลยครับ”
ตัวแทนจัดหางานลุกขึ้น จีฮวันลุกตาม ชายหนุ่มวัยสี่สิบยืนหน้าสุด หลังเขาเป็นชายวัยหกสิบให้บรรยากาศของกรรมการบริหาร และตามมาด้วยหญิงสาว
จีฮวันสะดุ้งเมื่อสบตากับเธอ ผู้หญิงคนนั้นคือราฮี