รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 78-2 ใช่ ฉันชอบผู้ชายคนนั้น!
แน่ล่ะสิ ก็ยองอูไม่ใช่คนที่อึนคังชอบนี่นา
“นี่มันโศกนาฏกรรมชัดๆ ผู้ชายที่ชอบดันหลงแฟนเก่า ส่วนผู้ชายที่ชอบเรา เราก็ดันไม่มีใจ จากูเอ๊ย หรือแม่จะปิดหูปิดตาคบไปดี มีแฟนเป็นสัตวแพทย์ แค่คิดก็เยี่ยมแล้วไม่ใช่เหรอ จะได้มีคนช่วยคุมน้ำหนักแกอย่างจริงจัง”
“โฮ่งๆ! โฮ่งๆๆ!”
ไม่เอา! แค่คิดก็ไม่โอเคแล้ว! ทุกวันนี้ก็กินไม่พอ ถ้ามีพ่อเป็นสัตว์แพทย์มาคุมน้ำหนักอีก โอมายก็อด!
“โฮ่งๆ! โฮ่งๆ!”
“จ้า รู้แล้วๆ จะเอาข้าวให้เดี๋ยวนี้แหละ ออกไปกัน”
หลังจากเทอาหารให้จากูแล้วก็ว่าจะกินมื้อกลางวันของตัวเองบ้าง ขณะกำลังค้นตู้เย็น มือถือก็ดังขึ้น
“จากู หมู่นี้แม่ฮอตมากเลยเนอะ โทรศัพท์ดังไม่ได้หยุดเลย…”
สีหน้าของอึนคังหลังจากหยิบมือถือมาดูนั้นตึงเป๊ะ ถึงไม่ได้บันทึกเบอร์เอาไว้และไม่ขึ้นชื่อ แต่เธอก็จำได้ว่าเป็นชเวราฮี ระหว่างที่ลังเลว่าจะรับไม่รับสายก็ตัดไป แล้วก็โทรกลับมาใหม่ อึนคังสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วรับสาย
“สวัสดีค่ะ”
“ฉันชเวราฮีนะคะ”
“ค่ะ มีธุระอะไรคะ”
“เจอกันหลายครั้งแล้ว ตัวฉันเองรู้สึกสนิทขึ้นยังไงก็ไม่รู้ค่ะ ดีใจที่ได้ยินเสียงอีกครั้งนะคะ”
“ฉันไม่เห็นจะดีใจสักนิดเลยค่ะ”
“ฮ่าๆ ตรงดีนะคะ สมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญนิยายโรแมนซ์สิบเก้าบวก คุณนักเขียนโกคึมกัง”
อึนคังตกใจกับนามปากกาที่โผล่มาโดยไม่ได้คาดหมาย ผู้หญิงคนนี้คิดจะเล่นอะไร
“คุณเป็นคนดังมากเลยนี่ใช่ไหมคะ ทำไมไม่เห็นพูดถึงผลงานบ้าง ถ้าฉันรู้จะได้ช่วยโปรโมตนิยายให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วง ถ้าไม่มีธุระจะวางแล้วนะคะ ฉันจะกินข้าว”
“อ๊ะ อย่างนั้นเหรอคะ มากินกลางวันกับฉันไหม ฉันจะเลี้ยงของอร่อยๆ เอง”
“ทำไมคะ ที่บ้านฉันก็มีกับข้าวเยอะแยะ”
“ฮ่าๆ คุณโกอึนคังนี่เป็นคนที่น่าสนุกจริงๆ เพราะอย่างนี้รุ่นพี่จีฮวันถึงได้ชอบสินะคะ”
อึนคังพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
“ถ้าไม่สะดวกจะกินข้าวด้วย งั้นเราดื่มชาด้วยกันสักถ้วยนะคะ ฉันจะไปหาที่อิลซาน”
“ฉันยุ่งมากค่ะ มีงานต้องทำ เอาไว้คราวหน้า…”
“คราวหน้านี่เมื่อไหร่คะ ตอนงานแต่งของคุณสองคนน่ะเหรอ”
คำพูดที่เหมือนเย้ยหยันแปลกๆ ทำเอาอารมณ์เสียจนพูดไม่ออกอีกครั้ง
“ไม่นานหรอกค่ะ ชั่วโมงนึง ไม่สิ แค่ครึ่งชั่วโมง ฉันมีเรื่องสัญญาบางอย่างที่คุณโกอึนคังทำกับรยูจีฮวันจะคุยด้วย”
* * *
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง อึนคังก็มานั่งเผชิญหน้ากับชเวราฮีในคาเฟ่แถวสวนริมทะเลสาบที่เธอไม่เคยมาเลยสักครั้ง
ผิวเรียบลื่นไร้ริ้วรอยและจุดด่างดำยังกับทำโฟโต้ช็อป นี่ใช่คนจริงๆ หรือ มองตรงๆ ทั้งหู ตา จมูก ปาก เพอร์เฟกต์ไปหมด ให้หรี่ตามองก็ยังเพอร์เฟกต์ รูปร่างหน้าตาที่ยากจะเจอในชีวิตจริง อารมณ์ประมาณนั่งอยู่กับคิมแตฮีหรืออีนายองก็ไม่ปาน
อึนคังมัวแต่ชื่นชมชเวราฮีจนสติหายไปกว่าครึ่ง ลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังโมโหอยู่
ราฮียื่นกระดาษจากกระเป๋าแบรนด์เนมสุดคลาสสิกยื่นให้อึนคัง ราวกับบอกว่าเธอหมดเวลาเพลิดเพลินกับหน้าตาที่สวยงามของฉันแล้ว ซึ่งกระดาษแผ่นนั้นคือสัญญา ‘เพื่อนนอน’ ของอึนคังกับจีฮวัน
อึนคังอึ้งมองสัญญา ใช่สัญญาระหว่างเธอกับจีฮวันจริงๆ สัญญาที่ถูกคนอื่นยื่นให้กลางวันแสกๆ ช่างประหลาดและรู้สึกแปลกๆ
“เลิกโกหกเรื่องแต่งงานได้แล้ว จริงๆ แล้วพวกคุณเป็นอะไรกัน สัญญาคู่นอนนี่ มันดูประหลาดและน่ารังเกียจว่าไหมคะ”
ราฮีเชิดหน้าเหมือนมองคนที่ต่ำกว่า ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง นึกว่าเธอเชิดใส่ได้คนเดียวเหรอ รู้ไว้ด้วยฉันก็เชิดได้เหมือนกัน
“ถ้าให้พูดตรงๆ… ก็ตามที่เห็นนั่นแหละ จะให้เล่าไหมคะว่าครั้งแรกเราเจอกันได้ยังไง มันตลกมากเลยค่ะ”
“ไม่ต้องค่ะ ไม่จำเป็น…”
“ฉันอยู่ชั้นบนห้องรยูจีฮวัน ฉันอยู่ชั้นสิบห้า รยูจีฮวันชั้นสิบสี่ อยู่มาวันนึงจู่ๆ ลิฟต์เกิดเสีย ฉันเลยต้องเดินขึ้นบันไดมาอย่างช่วยไม่ได้…”
“ฉันไม่อยากฟัง…”
“ท้องก็ปวดมากกกก ท้องฉันดันมาเสีย! ฉันก็พยายามอั้น จังหวะที่ขึ้นมาถึงชั้นสิบสี่ โอมายก็อด! ไม่ไหว ไม่ไหว ไม่ไหวแล้ว! จะระเบิด! ตอนนั้นรยูจีฮวันกำลังเปิดประตูจะเข้าห้องพอดี ฉันเลยรีบวิ่งหนีเข้าไปอึในห้องน้ำโดยไม่สนว่าเป็นห้องคนอื่นแล้วก็หนีมา ตอนหลังมารู้ทีหลังว่าฉันทำส้วมเต็ม อึไหลท่วมห้องน้ำ ก๊ากๆ”
อึนคังขำก๊าก มองราฮีที่ตกใจตัวแข็ง
“ขำนะคะ ว่าไหม”
“ไม่อยากจะเชื่อ เห็นสภาพสกปรกแบบนั้น รยูจีฮวันมี เอ่อ ผูกสัมพันธ์กับคุณเนี่ยนะคะ ผู้ชายคนนั้นเป็นคนรักสะอาดเจ้าระเบียบ งานอดิเรกคือทำความสะอาดกับชอปปิ้ง”
“นั่นสิคะ เจอฉันแล้วคงเปลี่ยนไปมั้ง คนอนามัยจัดคนนั้นอดไม่ได้ที่จะกัดและดูดตรงนั้นที่ตัวเองปล่อยแล้วปล่อยอีก รยูจีฮวันเป็นคนบอกฉัน”
ราฮีหน้าตึง ต่างจากอึนคังที่กำลังฮึกเหิม
“ต่ำ”
“ที่ที่คนเราอยู่มาก่อนก็ต่ำหมดแหละค่ะ”
“แค่นอนด้วยกันไม่กี่ครั้ง ก็ท่าทางจะเข้าใจผิดคิดว่ารยูจีฮวันเป็นของตัวเอง”
“ฉันว่าเหมือนคุณชเวราฮีกำลังเข้าใจผิดมากกว่า ตอนนี้รู้ไหมคะว่าคุณชเวราฮีทั้งดูแปลกแล้วก็ตลก มาสั่งคนอื่นว่าอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นแค่อดีตแฟนไม่ใช่เหรอคะ ผู้หญิงที่แต่งงานมีสามีแล้ว สนใจเรื่องของแฟนเก่ามากไปหรือเปล่าคะ”
ราฮีตอบทันควันราวกับคาดไว้ก่อนแล้วว่าจะต้องเจอคำถามนี้
“ท่าทางคุณจีฮวันจะยังไม่ได้บอกสินะคะ ว่าฉันกำลังจะหย่า”
ตึง! อึนคังทำหน้าตกใจ ความสะใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของราฮี
“หมายความว่า หย่าแล้วเราจะกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ค่ะ”
ในหัวของอึนคังว่างเปล่า
“ยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้สินะคะ ก็นั่นแหละค่ะ ผู้ชายคนนั้นคงกำลังกังวล ยังไม่รู้ใจตัวเองว่าคืออะไร มาโกหกฉันว่าชอบคุณอึนคังเสียได้ หึ”
รอยยิ้มเยาะเย้ยกระจ่างชัด
“ตอนแรกก็นึกว่าเพราะชอบคุณโกอึนคังเลยกลับมาหาฉันไม่ได้ โชคดีที่ไปเจอสัญญานี่ ไม่งั้นฉันคงจะเชื่อคำพูดนั่นไปแล้ว”
“แล้วไงคะ มาหาเพราะจะบอกเรื่องนี้?”
“ค่ะ เพราะฉะนั้น ปล่อยมือจากรยูจีฮวันซะ รยูจีฮวันเป็นผู้ชายที่ให้ความสำคัญเรื่องสัญญามากกว่าชีวิต ถึงจะอยากกลับมาหาฉัน แต่เพราะติดโกอึนคัง เลยทำไม่ได้ เพราะงั้นคุณโกอึนคังช่วยยกเลิกสัญญาให้ด้วยนะคะ ฉันขอร้อง”
นี่ไม่ใช่การขอร้อง แต่เป็นคำสั่ง ท่าทางแบบนั้นทำให้อึนคังอารมณ์เสีย
“ทำฟรีเหรอคะ”
ใบหน้าของราฮีปรากฏความงงงวย
“น่าผิดหวังจังเลยนะคะ เป็นถึงสะใภ้เศรษฐีแต่ใช้วิธีแก้ปัญหาฟรีๆ ไม่ยื่นซองให้แล้วบอกว่า ไปห่างๆ ลูกชาย เอ๊ย แฟนเก่าฉัน! หรอกเหรอ”
ราฮีที่เคยงงแสยะยิ้ม
“ไม่มีซองหรอกค่ะ”
“จะขอพูดรอบเดียวนะคะ ถึงรยูจีฮวันจะยกเลิกสัญญา ฉันก็จะปฏิเสธ ข้อตกลงระบุไว้ว่า ถ้าทั้งคู่ไม่เห็นชอบร่วมกัน ก็ยกเลิกสัญญาไม่ได้ เห็นหรือเปล่าคะ”
“หรือว่าคุณชอบรยูจีฮวัน”
“ถ้าเป็นอย่างแล้วจะทำไมคะ ใช่ค่ะ ฉันชอบรยูจีฮวัน!”
ราฮีไม่ควรมากๆ ที่มาสั่งให้เธอเลิกยุ่งกับจีฮวัน ถึงจะโมโห แต่ทำไมคนที่ทำให้เธอต้องมาบอกความรู้สึกออกไปว่าชอบจีฮวันต้องเป็นชเวราฮีด้วย
“เฮอะ จริงๆ ด้วยสินะ คิดว่าตัวเองเหมาะกับรยูจีฮวันงั้นเหรอคะ”
“เหรอคะ ไม่เหมาะกันงั้นเหรอ แต่มองๆ ไปแล้วพวกเราก็เข้ากันได้ดีนะคะ”
อึนคังยิ้มหวาน ราฮีแสร้งยิ้มทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“ทำไมรยูจีฮวันถึงยอมคบกับคุณโกอึนคัง คนหยิ่งๆ ที่ไม่มีพื้นฐานหรือเคยรับมือ พอเจอคนอย่างคุณก็คงสดชื่นคึกคัก จิตใจคนเราก็แบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ กินแต่อาหารเลิศรส นานๆ ทีก็อยากกินข้าวบาร์เลย์บ้าง หรือปกติอยู่อะพาร์ตเมนต์ร้อยพยอง[1] ก็เห็นห้องบนดาดฟ้าโรแมนติกซะอย่างงั้น เคยนอนแต่กับผู้หญิงสวยๆ อาจจะอยากลองกับผู้หญิงขี้เหร่บ้างก็ได้จริงไหมคะ”
“เรื่องจิตใจของรยูจีฮวันก็ต้องไปลองถามเขาดู ต่อให้เอามีดมาจ่อคอ ฉันก็ไม่คิดจะยกเลิกสัญญา ล้มเลิกแล้วกลับไปซะเถอะค่ะ ฉันต้องไปทำงานแล้ว ฉันค่อนข้างยุ่งมาก”
อึนคังลุกขึ้น แต่ราฮีก็พูดลอยๆ มาเข้าหู
“งานเขียนนิยายโป๊น่ะนะ”
“อะไรนะ เมื่อกี้ว่าไงนะคะ”
“เพิ่งรู้ว่านักเขียนนิยายโป๊เป็นอาชีพที่โอเค นึกว่าจะเอาแต่ซ่อนอยู่ในห้องเพราะอาย แต่คุณก็ดูภูมิใจในการเป็นนักเขียนนิยายแบบนั้น เปิดกว้างดีนะคะ”
อึนคังพ่นลมหายใจแล้วกลับมานั่งที่เก้าอี้
“เฮ้อ พูดพร่ำอะไร นิยายโป๊อะไร นิยายสิบเก้าบวกแล้วยังไง”
“หาเงินแบบนั้นไม่อายหรือไง”
“ทำไมฉันต้องอายด้วย ฉันไปขโมย ไปปล้น เล่นการพนัน หรือผลิตยาเสพติดหรือไง มันเป็นเงินที่ฉันทำงานด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน ด้วยกำลังฉัน มือของฉัน สมองของฉันอย่างถูกต้อง มีอะไรให้ต้องหลบซ่อน เอาเวลาที่ห่วงว่าฉันจะอาย ไปห่วงเรื่องขายหน้าไปทั่วประเทศของปาร์คซองบอมแห่งบูกยองกรุ๊ปที่เมาแล้วเที่ยวไปทำร้ายคนอื่นดีกว่าไหม”
ราฮีถึงกับริมฝีปากสั่นเทา
“ทิ้งแฟนตัวเองแล้วไปแต่งงานกับลูกเศรษฐี แล้วพอสามีมีเรื่องฉาวก็ทำเป็นทนไม่ได้งั้นเหรอ ก็เลยจะหย่าแล้วกลับมาคบกับผู้ชายที่ตัวเองเฉดหัวทิ้งไปแล้วงั้นเหรอ รยูจีฮวันเป็นหมากฝรั่งของเธอหรือไง ที่จะเคี้ยวแล้วก็คายทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้น่ะ! ถึงจะไม่มีจิตสำนึกของความเป็นคนก็หัดละอายใจซะบ้างนะ!”
“รยูจีฮวันว่างั้นเหรอ บอกว่าฉันเฉดหัวเขาทิ้งงั้นเหรอ”
“ต้องให้บอกตรงๆ อย่างนั้นเลยเหรอ เขาเป็นคนใจดี…”
“ไม่ใช่นะ! ไม่ใช่ฉัน รยูจีฮวันต่างหากที่ทิ้งฉัน ที่เราเลิกกันไม่ใช่เพราะฉัน แต่เพราะรยูจีฮวัน!”
คำพูดไม่คาดคิดทำเอาอึนคังพูดไม่ออก
“ทั้งที่รยูจีฮวันรักฉันแทบตายแต่เขาก็เลือกที่จะจากไป เขาทำผิดกับฉันไว้มาก บอกว่าต้องไปจากฉันเพราะยกโทษให้ตัวเองไม่ได้! เธอจะไปรู้อะไร!”
“ทำ ทำผิดอะไร…”
“สิ่งมีชีวิตที่รยูจีฮวันเกลียดที่สุดในโลกคือพ่อ เขาตบตีภรรยากับลูกมาตลอดชีวิต รยูจีฮวันกลัวและคอยระวังตัวมากๆ เพราะกลัวว่าตัวเองจะเหมือนพ่อ เขากลัวเสมอว่าความรุนแรงที่เป็นเหมือนคำสาปจากพ่อจะตกทอดมาที่ตัวเองด้วย! แล้วการทำความผิดร้ายแรงที่ยกโทษให้ตัวเองไม่ได้มันจะคืออะไรล่ะ”
อึนคังขนลุกไปทั้งด้วยรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดี
“ระ หรือว่า…”
“รยูจีฮวัน ทุบตีฉัน”
………………………………..
[1] พยอง 1 พยองเท่ากับ 3.3058 ตารางเมตร