รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 114 การพูดคุย
สายตามายมิ้นท์กะพริบแล้วกะพริบอีก ตัดสินใจว่าอีกสักครู่หลังจากออกไปจะไปหาหมอตรวจดูสักหน่อย
ดูว่าร่างกายของตนเองตกลงมีปัญหาอะไร ทำให้ส้มเปรี้ยวใส่ใจขนาดนี้
“ไม่ตรวจก็ไม่ตรวจล่ะ” เห็นมายมิ้นท์ยืนหยัดขนาดนี้ ความคิดที่ท่านย่าจะเกลี้ยกล่อมเธอไปหาหมอ ก็ได้แต่แล้วแล้วไป
พิศมัย ฮึ เย็นชา “แม่ ฉันดูเธอก็คือไม่รู้ดีชั่ว”
“คุณหุบปาก!” ท่านย่าดุด่าเสียงดัง
ร่างกายพิศมัยสั่นระริก ทันใดนั้นไม่พูดเลย
แม้ว่าท่านย่าอายุมากแล้ว แต่ลักษณะพลังที่อยู่บนกายกลับไม่ลดลงมาโดยตลอด
หลายปีขนาดนี้ เธอก็ได้แต่กล้าแอบตำหนิอยู่ลับหลัง ต่อหน้าไม่กล้าโต้แย้งกับท่านย่าจริงๆ
“ใช่แล้วมิ้นท์ อันนี้ให้แก” อยู่ดีๆท่านย่ายกมือขึ้น คลำเชือกสีแดงเส้นหนึ่งออกมาจากใต้หมอน
และบนเชือกสีแดงยังแขวนสิ่งของอย่างหนึ่งไว้ คือกุญแจดอกหนึ่ง
“ท่านย่า นี่ก็คือของที่ท่านบอกว่าจะเอาให้ฉันเมื่อกี้เหรอ?” มายมิ้นท์อยากรู้อยากเห็นรับกุญแจมา
เดิมทีพิศมัยกับส้มเปรี้ยวยังคิดว่าเป็นอะไรล่ะ มองเห็นกุญแจที่เก่าๆดอกหนึ่ง ทันใดนั้นก็ไม่สนใจแล้ว
ท่านย่าพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “ใช่ล่ะ นี่ก็คือเมื่อหกปีก่อน พ่อแกมอบให้กับฉัน ให้ฉันหาโอกาสคืนให้แก เดิมทีครั้งก่อนฉันก็ควรที่จะให้แก แต่ฉันไม่ได้นึกถึง ตอนนี้แกมาแล้วเอาให้แกพอดี”
มายมิ้นท์จ้องมองกุญแจที่อยู่ในมือ บนใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความสงสัยงงงวย “ท่านย่า พ่อทำไมไม่ให้กุญแจฉันโดยตรง แต่ให้ท่านส่งต่อล่ะ?”
อีกทั้ง เธอนี่จึงรู้ว่าแต่ก่อนพ่อก็กลับกลายเป็นรู้จักกันกับท่านย่า
ดูเหมือนมองออกว่าในใจเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ท่านย่ายิ้มอยู่ตอบกลับว่า “แท้ที่จริงคุณปู่ของแกกับตาเฒ่าบ้านฉันแต่ก่อนเป็นเพื่อนร่วมรบดังนั้นหกปีก่อนพ่อแกอยู่ภายใต้สภาพการณ์ที่หาแกไม่เจอ จึงมอบกุญแจให้กับฉัน เพราะว่าอยู่ในเมืองเดอะซี มีเพียงฉันที่เขาไว้วางใจได้ หลังจากนี้อีก พ่อแกก็……”
คำพูดข้างหลัง ท่านย่าไม่ได้พูด ทอดถอนใจด้วยความหดหู่หนึ่งที
มายมิ้นท์รู้ว่าสิ่งที่เธออยากพูดคือ หลังจากนี้อีก พ่อของแกก็กระโดดตึกแล้ว
มายมิ้นท์จับกุญแจไว้อย่างแน่น น้ำตาคลอ ในใจเสียใจภายหลังอย่างมากวันนั้นที่พ่อกระโดดตึกตนเองทำไมต้องไปไล่ตามเงินทุนที่แม่เลี้ยงพวกเธอชิ่งหนีไป
ถ้าหากวันนั้นเธอไม่ไปไล่ตาม อยู่ข้างกายพ่อตลอดล่ะก็ พ่ออาจจะไม่มีโอกาสกระโดดตึกล่ะ
นึกถึงนี่ น้ำตามายมิ้นท์ไหลพลั่กๆ ตกอยู่บนกุญแจที่อยู่ในมือ เสียงล้วนสะอึกสะอื้นขึ้นมาแล้ว “ท่านย่า พ่อได้พูดถึงประโยชน์ของกุญแจดอกนี้หรือไม่?”
“มีแน่นอน” ท่านย่ายื่นกระดาษทิชชูให้เธอแผ่นหนึ่ง “พ่อแกบอกว่านี่เป็นกุญแจของบ้านเก่าตระกูลกิตติภัคโสภณ ในบ้านเก่ามีของชิ้นหนึ่งสำหรับแกมากล่าวสำคัญมาก ดูเหมือนเป็นสร้อยคอเส้นหนึ่ง ให้แกต้องหาให้เจอ เพราะว่าสร้อยคอเส้นนั้นเกี่ยวกับความลับขนาดใหญ่อยู่อย่างหนึ่ง ส่วนเป็นความลับอะไร พ่อแกไม่ได้บอก”
“ได้ ฉันรู้แล้ว ขอบคุณท่านย่า” มายมิ้นท์สืบขี้มูก สืบแล้วสืบอีก น้ำตาหยุดไหล บังคับบีบรอยยิ้มออกมาหนึ่งทีตอบกลับ
ท่านย่าตบหลังมือของเธอต่อๆกัน “เวลาค่ำแล้ว กลับไปก่อนเถอะ คราวหน้าค่อยมาเยี่ยมท่านย่าอีก”
“อืม” มายมิ้นท์ตัดคำเธอ “งั้นท่านย่า ฉันไปก่อนแล้ว”
พูดจบ เธอหยิบกระเป๋าที่อยู่ข้างๆสะพายไว้เดินไปยังประตู ไม่มองพิสมัยกับส้มเปรี้ยวแม้แต่หนึ่งที
พิศมัยเยาะเย้ยเสียดสี “ไม่มีมารยาท”
มายมิ้นท์ได้ยินแล้ว กิริยาท่าทางหยุดชะงักหนึ่งที จากนั้นยิ้มเย็นชายิ้ม ยิ้มแล้วยิ้มอีก เปิดประตูต่ออย่างไม่ใส่ใจสักนิดออกไปเลย
ก็อยู่ตอนที่เธอใกล้จะเดินถึงลิฟต์ อยู่ดีๆถูกคนเรียกไว้แล้ว “รอสักครู่”
มายมิ้นท์หยุดการย่างก้าว หันหน้าเย็นชาจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงข้าม “คุณส้มเปรี้ยว มีเรื่องอะไรเหรอ?”
“พวกเรามาคุยกันหน่อยเถอะ” ส้มเปรี้ยวยิ้มพูดอยู่
มายมิ้นท์ยักคิ้ว “มาคุยกันหน่อยเหรอ?”
“ไม่เลว”
มายมิ้นท์ยิ้มแล้ว “ขอให้ฉันพูดตามตรง ฉันไม่คิดว่าพวกเรามีอะไรน่าคุยกันนะ”
“ไม่ พวกเรามีเรื่องมากมายที่คุยกันได้” สายตาส้มเปรี้ยวระวังไม่ได้ตั้งใจกวาดผ่านส่วนท้องของมายมิ้นท์ พูดเสียงเบาๆ
ก่อนหน้าเดือนกว่าๆ ขนมผิงเคยถ่ายภาพที่มายมิ้นท์กับเปปเปอร์เข้าไปในห้องนอนเดียวกัน ล้วนไม่ได้ออกมานานมาก เธอรู้ว่า อยู่ภายใต้สภาพการณ์ชายหญิงเพียงลำพังแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ล้วนไม่เกิดอะไร และเมื่อกี้มายมิ้นท์ได้กลิ่นซุปไก่อยากจะอาเจียน ดังนั้นเธอมีความสงสัยอย่างมากว่ามายมิ้นท์จะตั้งครรภ์แล้ว
และตามด้วยเวลาการตั้งครรภ์ยิ่งนาน ปฏิกิริยาร่างกายก็จะยิ่งรุนแรง มายมิ้นท์ย่อมจะคิดว่าตนเองป่วยแล้ว จากนั้นไปตรวจเช็คที่โรงพยาบาล ไม่แน่ว่าหลังจากรอมายมิ้นท์รู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ ก็จะพาลูกนอกสมรสที่อยู่ในท้องไปหาเปปเปอร์ ให้เปปเปอร์รับผิดชอบ
คิดอยู่ มือทั้งสองข้างของส้มเปรี้ยวอดไม่ไหวที่จะกำขึ้นมาอย่างแน่น
กล่าวโดยสรุป เธอจะไม่ให้มายมิ้นท์มีโอกาสทำเช่นนี้เด็ดขาด
เปปเปอร์เป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบมากคนหนึ่ง ถ้าหากมายมิ้นท์ตั้งครรภ์แล้วจริงๆ ไม่แน่ว่าจะเพื่อลูกนอกสมรสที่อยู่ในท้องของมายมิ้นท์แต่งงานกับมายมิ้นท์ใหม่อีกครั้งจริงๆ งั้นเธอวางแผนจัดการอย่างเหนื่อยยากลำบากมาหลายปีขนาดนี้ จะไม่ใช่กลายเป็นเรื่องขำขันฉากหนึ่งแล้วเหรอ!
สีหน้าของส้มเปรี้ยวค่อยๆบิดเบี้ยวขึ้นมา นัยน์ตาเต็มไปด้วยเจตนาร้าย
มายมิ้นท์ทำตายี๋แล้วทำตายี๋อีก ในใจเข้าใจชัดเจนแล้ว ฝ่ายตรงข้ามมาโดยไม่หวังดี
“ได้ งั้นพวกเราก็มาคุยกันได้แล้ว” มายมิ้นท์หลับตาลง “ฉันก็อยากรู้เช่นกัน ตกลงคุณจะคุยอะไรกับฉัน”
“ในเมื่อคุณยินยอมแล้ว งั้นก็ตามฉันมาเถอะ” รอยยิ้มของส้มเปรี้ยวไม่ถึงนัยน์ตา
สายตามายมิ้นท์สลัว “ไม่คุยกันอยู่ที่นี่เหรอ?”
“ที่นี่คนไปๆมาๆ ไม่สะดวก”
“ได้ล่ะ งั้นคุณนำทาง” มายมิ้นท์อมยิ้มทำท่าทางเชิญอย่างหนึ่ง
ในใจส้มเปรี้ยว ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง
ยิ้มเถอะ
ดูเธอว่าอีกสักครู่ยังจะยิ้มออกมาได้อีกไหม!
ส้มเปรี้ยวงอมุมปากงอแล้วงออีก หมุนตัวเดินไปยังข้างหน้า
มายมิ้นท์จ้องมองภาพด้านหลังของเธออยู่ สีหน้าที่อยู่บนใบหน้าค่อยๆกลับคืนสู่ความสงบ เม้มริมฝีปากแดงอยู่หยิบมือถือออกจากกระเป๋าโทรหาเปปเปอร์
แม้ไม่รู้ว่าส้มเปรี้ยวได้รับการกระทบกระเทือนอะไร ทำไมอยู่ดีๆรีบเร่งปรากฏเจตนาร้ายกับเธอขนาดนี้ กระทั่งยังนำเธอไปยังอีกสถานที่หนึ่งโดยเฉพาะ เห็นได้ชัดว่าอยากจะลงมือกับเธอ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเธอจะไม่โต้ตอบคืนได้ยังไงอีกล่ะ
เธอก็ให้เปปเปอร์ฟังสักหน่อย ตกลงว่าส้มเปรี้ยวชั่วร้ายขนาดไหนล่ะ เธอก็ไม่เชื่อว่าเปปเปอร์ได้ยินแล้วในใจยังจะสามารถไม่เกิดความรู้สึกแสลงใจกับส้มเปรี้ยวได้อีก ไม่แน่ว่า ยังจะด้วยเหตุนี้เลิกกันกับส้มเปรี้ยวล่ะ ถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆ งั้นก็เป็นส้มเปรี้ยวที่หาเรื่องเอง
ไม่นานโทรศัพท์ก็ถูกรับแล้ว เสียงที่ต่ำและน่าฟังของเปปเปอร์ส่งมา “มีเรื่องอะไรเหรอ?”
มายมิ้นท์จ้องมองหน้าจอของอินเตอร์เฟซการโทรอยู่ ไม่ได้ตอบกลับ แต่รีบเร่งฝีเท้าไล่ตามส้มเปรี้ยว
ส้มเปรี้ยวพาเธอมาถึงบันได
มายมิ้นท์วางมือเธออยู่ข้างหลังเอ่ยปากพูดว่า “คุณส้มเปรี้ยว คุณพาฉันมาถึงบันไดหนีไฟของแผนกผู้ป่วยในระดับสูง ตกลงอยากคุยอะไรกับฉันเหรอ!?”
คิดว่ามายมิ้นท์ไม่ทันระวังโดนมือถือโทรผิดสาย เปปเปอร์ที่กำลังเตรียมตัวจะวางสายลูกตาหดอย่างกะทันหัน
ส้มเปรี้ยวอยู่กับมายมิ้นท์ที่นั่นเหรอ?
ส้มเปรี้ยวมือกอดอกไม่ได้ตอบกลับมายมิ้นท์ กลับเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ “ที่นี่น่าจะไม่มีกล้องวงจรปิดล่ะ?”
“คุณอยากจะทำอะไร!?” มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดงอย่างแน่น ระวังตัวจ้องมองเธออยู่
คนที่อยากรู้เหมือนกัน ยังมีเปปเปอร์
เปปเปอร์เข้าใจแล้วว่าสายนี้ไม่ใช่มายมิ้นท์ไม่ทันระวังโทรผิด แต่เธอตั้งใจโทรหาเขา จุดประสงค์ก็คืออยากจะให้เขาได้ยินคำสนทนาของเธอกับส้มเปรี้ยว กระทั่งยังบอกตำแหน่งคำสนทนาให้กับเขาอีก
นึกถึงจุดนี้ เปปเปอร์จับมือถืออย่างแน่น สั่งกับผู้ช่วยเหมันตร์ที่ขับรถอยู่ว่า “ขับเร็วหน่อย”
“ได้” ผู้ช่วยเหมันตร์ขานรับเสียงหนึ่ง เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว
ในบันได ส้มเปรี้ยวเอามือปิดปากหัวเราะเสียงหนึ่ง จากนั้นสีหน้าขึงลับลง ความโหดเหี้ยมเต็มตาจ้องมองมายมิ้นท์อยู่ “คุณมายมิ้นท์ คุณรู้ไหมว่าฉันเกลียดคุณขนาดไหน? ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยวันแรกก็เกลียดแล้ว พวกเราทั้งสองก็คือศัตรูโดยกำเนิด อยู่ได้เพียงแค่คนเดียว ดังนั้นมายมิ้นท์ คุณไปตายดีหรือไม่ล่ะ?”