รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 144 ถูกงูกัด
“เอาละปีโป้ ขอโทษส้มเปรี้ยวเดี๋ยวนี้” เปปเปอร์ขมวดคิ้วและเร่งเร้าอย่างไร้ความอดทน
ปีโป้ก้มศีรษะลงด้วยความรู้ตัวว่าเขาผิด “ขอโทษ”
น้ำเสียงของเขาไม่เต็มใจเท่าไรนัก
เปปเปอร์ดูเยือกเย็น “ปีโป้ ความจริงใจอยู่ที่ไหน?”
ปากของปีโป้เบ้สูง น้ำเสียงก็ดังขึ้นเช่นกัน “ผมขอโทษครับพี่ส้มเปรี้ยว ได้หรือยัง?”
“ได้ค่ะ ไม่เป็นไรแล้ว” ส้มเปรี้ยวยิ้มขึ้นอย่างรวดเร็วและโบกมือเพื่อเป็นการให้อภัย
ปีโป้พึมพำแล้วหันหลังเดินออกไปไม่ไกลนัก เขาคร่ำครวญอยู่คนเดียว
เมื่อมองตามหลังของเขาไป ดวงตาของเปปเปอร์ก็มืดลง จากนั้นเขาก็มองไปที่ส้มเปรี้ยวซึ่งอยู่ข้างๆ ว่า “ขอโทษนะส้มเปรี้ยว ปีโป้ยังเด็กเลยไม่ค่อยรู้เรื่องราว คุณ……”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ใส่ใจหรอก” ส้มเปรี้ยวยิ้ม
หัวคิ้วของเปปเปอร์ดูผ่อนคลายลง “เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ?”
“ไม่ค่ะ” ส้มเปรี้ยวส่ายหัว
เปปเปอร์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “งั้นก็ดีครับ”
“อ้าวที่รัก คุณจะไปไหน?” ทันทีที่เสียงของเขาสิ้นสุดลง ก็ได้ยินเสียงของลาเต้ดังขึ้น
เปปเปอร์หันศีรษะไปมองที่มายมิ้นท์โดยไม่รู้ตัว
เขาเห็นมายมิ้นท์เดินไปทางลำธารที่อยู่ไม่ไกลนัก “ฉันจะไปล้างหน้า”
“อ้อ ถ้าอย่างนั้นระวังอย่าตกลงไปในแม่น้ำนะครับ” ลาเต้เตือน
มายมิ้นท์หยุดและกลอกตาใส่เขา
ลาเต้ยิ้ม “ผมก็แค่เป็นห่วงไม่ใช่เหรอ?”
“เอาละค่ะ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับมา” มายมิ้นท์หันหลังกลับและเดินต่อไป
เปปเปอร์เห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองแบบนั้น ดวงตาของเขาก็ดูเหมือนมีอะไรปกคลุม
ส้มเปรี้ยวที่อยู่ข้างๆ เห็นเขาเป็นแบบนี้ และรู้ว่าเขาหึงจึงอดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีของตนเอง
“น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ” ทามทอยมองคนเหล่านี้ด้วยรอยยิ้ม
“เปปเปอร์คะ ฉันก็จะไปล้างมือด้วยเหมือนกัน” ในขณะนั้นส้มเปรี้ยวก็พูดขึ้นกับเปปเปอร์
เปปเปอร์มองไปที่มายมิ้นท์ซึ่งนั่งยองๆ อยู่ริมลำธาร เขาไม่ได้เห็นด้วยในทันที “เดี๋ยวค่อยไปนะครับ รอให้มายมิ้นท์ล้างเสร็จก่อน”
ตอนนี้เขาไม่สบายใจเลยที่จะปล่อยให้ส้มเปรี้ยวและมายมิ้นท์อยู่ด้วยกันตามลำพัง
ไม่ใช่ว่าไม่วางใจมายมิ้นท์ แต่ไม่วางใจส้มเปรี้ยวต่างหาก ไม่มีใครรู้ว่าบุคลิกที่สองของส้มเปรี้ยวจะปรากฏขึ้นอีกเมื่อไหร่
“แต่มือของฉันเหงื่อออกเยอะมากเลยค่ะ ฉันรู้สึกไม่สบายตัวเลย” ส้มเปรี้ยวแบฝ่ามือเพื่อแสดงให้เปปเปอร์เห็น
เปปเปอร์มองไปที่ฝ่ามือเปียกชุ่มของเธอ แต่ก็ยังไม่เห็นด้วย “ทนอีกสักครู่นะครับ”
“ค่ะ” ส้มเปรี้ยวก้มหน้าลงอย่างเศร้าสร้อยผิดหวัง
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เปปเปอร์เห็นเธอทำแบบนี้ก็คงทำให้เขาใจอ่อน
แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เขารู้สึกว่าตอนนี้ทุกย่างก้าวของเธอไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขามากเหมือนเมื่อก่อน ตรงกันข้าม มายมิ้นท์……
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เปปเปอร์ก็มองไปที่แผ่นหลังของมายมิ้นท์ด้วยดวงตาที่ลึกล้ำ
“พี่ครับ มานี่หน่อยสิ” ปีโป้โบกมือมาทางเปปเปอร์
“เดี๋ยวผมมานะ” เปปเปอร์พูดกับส้มเปรี้ยว
ส้มเปรี้ยวพยักหน้า “ไปเถอะค่ะ”
เปปเปอร์ส่งเสียงพึมพำในลำคอ เขาก้าวขาขึ้นและเดินไปหาปีโป้ “เรียกทำไม!”
“ผมมีเรื่องจะบอกพี่” ปีโป้ยิ้มอย่างลึกลับ
ส้มเปรี้ยวมองไปยังพี่น้องสองคนที่กำลังพูดคุยอยู่ ไม่แน่ใจว่าปีโป้กำลังพูดถึงเธอกับเปปเปอร์หรือไม่
แต่ถึงจะใช่ เธอก็ไม่สนใจ
แค่คำพูดไม่ดีนิดหน่อย เธอมีวิธีทำให้เปปเปอร์ไม่เชื่อหรอกน่ะ
ริมฝีปากส้มเปรี้ยวเผยอขึ้น เธอละสายตาจากเขาเดินไปทางลำธาร
มายมิ้นท์กำลังนั่งยองๆ ล้างหน้าอยู่ข้างลำธาร โดยมีกระจกแต่งหน้าถือไว้ในมือ
ส้มเปรี้ยวเข้ามาและนั่งลงข้างๆ ห่างไปสามสี่เมตร
ส้มเปรี้ยวเอื้อมมือออกไปในลำธารที่หนาวเย็นและหันไปทักทายมายมิ้นท์ด้วยรอยยิ้ม “คุณมายมิ้นท์”
มายมิ้นท์เหล่มองหล่อนแต่ไม่ได้ตอบสนอง เธอเอากระจกใส่ไว้ในกระเป๋าข้างๆ พร้อมกับล้างมือแล้วจะจากไป
ส้มเปรี้ยวเข้าใจในการกระทำของมายมิ้นท์และไม่ได้หยุดเธอ
เธอมาเพื่อล้างมือจริงๆ และไม่ได้คิดจะทำอะไรกับมายมิ้นท์
ก่อนอื่น ไม่มีที่กำบังในที่นี้ ทุกคนจะรับรู้ได้ทันทีหากเธอเคลื่อนไหว
ถ้าจะจัดการกับมายมิ้นท์ที่นี่ ก็เท่ากับรนหาที่ตาย กำไรจะได้ไม่คุ้มกับการสูญเสีย
มายมิ้นท์ล้างมือเสร็จแล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเช็ดหน้าและยืนขึ้นหยิบกระเป๋าของเธอจากไป
ส้มเปรี้ยวชายตามองออกไป ทันใดนั้นก็เห็นงูตัวสีดำเกาะอยู่ที่กิ่งไม้ด้านหลังมายมิ้นท์
งูได้ยืดคอของมันออกมาแล้ว แลบลิ้นตามสัญชาตญาณ จับจ้องไปที่มายมิ้นท์ด้วยตาอันเย็นเยียบคู่นั้น ท่าทางมันเหมือนจะพร้อมกัดได้ทุกเมื่อ
เมื่อเห็นฉากนี้ ส้มเปรี้ยวก็ผงะจนเกือบตะโกนออกมา
แต่ในไม่ช้าเธอก็หุบปากของเธอลงอีก ทำท่าทางสงบอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็มีแผนการบางอย่างเกิดขึ้นในใจของเธอ
อืม ที่นี่มีผู้คนจำนวนมากจับจ้องอยู่ เธอจึงไม่สามารถทำอะไรกับมายมิ้นท์ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่สามารถใช้งูจัดการกับมายมิ้นท์ได้
เมื่อคิดเช่นนั้น ส้มเปรี้ยวก็หรี่ตาลงลุกขึ้นยืนทันทีและพูดเสียงดังว่า “คุณมายมิ้นท์คะ!”
มายมิ้นท์ได้ยินเสียงของเธอก็หยุดฝีเท้าลงโดยไม่รู้ตัว
งูที่อยู่ข้างหลังเธอถูกกระตุ้นโดยการเคลื่อนไหวเนื่องจากเสียงของเธอกับส้มเปรี้ยว
พบว่างูตัวนั้นหดคอเข้ามา จากนั้นก็กระโดดขึ้นจากกิ่งไม้พุ่งไปที่คอของมายมิ้นท์
เมื่อเห็นว่างูกำลังจะตกลงมาบนร่างของมายมิ้นท์และกัดเข้าให้เต็มคำ รอยยิ้มบนใบหน้าของส้มเปรี้ยวก็ปรากฏขึ้น
แต่ในเวลานี้ เสียงอันรีบร้อนของชาหวานก็ดังขึ้น “ประธานมายมิ้นท์ ย่อตัวลง!”
แม้มายมิ้นท์จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จากฟังน้ำเสียงที่น่าสะพรึงกลัวของหล่อน เธอก็ไม่ลังเลที่จะย่อตัวลงอย่างเชื่อฟัง
เนื่องจากมายมิ้นท์ย่อตัวลงกะทันหัน ดังนั้นเจ้างูจึงลอยผ่านศีรษะของมายมิ้นท์ไปยังตัวของส้มเปรี้ยว
ส้มเปรี้ยวหันไปมองงูที่อยู่บนไหล่ของเธอ ทำให้เธอหน้าซีดด้วยความตกใจและกรีดร้อง “กรี๊ด!”
งูตัวนั้นฉกเข้าให้ที่ลำคอของเธอเพราะการเคลื่อนไหวเมื่อครู่ ก่อนจะเลื้อยผ่านไปในลำธารอย่างรวดเร็ว
ฉากนี้เกิดขึ้นชั่ววินาที มันเร็วจนไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เมื่อพวกเปปเปอร์วิ่งมาถึง พวกเขาก็พบว่าส้มเปรี้ยวหลับตาเป็นลมไปเสียแล้ว
“ส้มเปรี้ยว ส้มเปรี้ยว!” เปปเปอร์แสดงสีหน้าเคร่งขรึม เขาก็รีบเดินไปช่วยส้มเปรี้ยวที่นอนอยู่บนพื้น
ลาเต้ก็เข้ามาหามายมิ้นท์เช่นกัน “ที่รัก เกิดอะไรขึ้น?”
มายมิ้นท์ยังคงตกใจอยู่เล็กน้อยในขณะนี้ ปากของเธออ้าแต่พูดไม่ออก
ในที่สุด ชาหวานเป็นคนตอบว่า “งูค่ะ ประธานมายมิ้นท์เกือบจะโดนงูฉกแล้ว”
“อะไรนะ!? งู?” ลาเต้ตกตะลึงและรีบเข้ามาดูมายมิ้นท์อย่างระมัดระวัง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียด “ที่รัก คุณถูกกัดหรือเปล่า?”
แม้ว่าเปปเปอร์จะกอดส้มเปรี้ยวอยู่ แต่ดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่มายมิ้นท์
มายมิ้นท์ส่ายหัว “ฉันสบายดีค่ะ คนที่ถูกกัดไม่ใช่ฉันแต่เป็นคุณส้มเปรี้ยว”
“อ้อดี ดีแล้วครับ” ลาเต้ตบหน้าอกของเขาเบาๆ “ถ้าไม่ใช่ที่รักของผมถูกกัดก็ไม่เป็นไร ส่วนคนอื่น……”
เขามองไปที่ส้มเปรี้ยวด้วยแววตาเย้ยหยัน “สมควรได้รับผลกรรมแล้ว!”
“เงียบน่า!” มายมิ้นท์กระแทกร่างลาเต้ด้วยข้อศอกเบาๆ เป็นความหมายให้เขาระมัดระวังคำพูด
ใบหน้าของเปปเปอร์มืดมนไม่น่ามอง
เดิมทีเขาตั้งใจจะจัดการลาเต้สักหน่อย แต่เมื่อเห็นพฤติกรรมของมายมิ้นท์ ดวงตาของเขาก็เย็นชา ในที่สุดเขาก็ยอมพ่ายแพ้
“เปปเปอร์ รีบดูเร็วว่าส้มเปรี้ยวถูกกัดตรงไหน” ทามทอยเตือนขึ้น
เปปเปอร์ก้มศีรษะลงเพื่อตรวจสอบและพบร่องรอยของงูกัดที่คอของส้มเปรี้ยว รูเลือดสองรูทำให้คนเห็นรู้สึกเย็นวาบ
ปีโป้กลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “พี่ครับ นี่ไม่ใช่งูพิษใช่ไหม?”