รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 165 เป็นลูกของผม
คนที่อยู่นอกออฟฟิศได้ยินเสียงย่างก้าวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลังจากคิดอะไรได้ รีบหมุนตัว เดินไปยังบันไดหนีไฟอย่างรวดเร็ว
รอผ่านไปสองนาที คนคนนั้นได้ยินเสียงประตูลิฟต์ปิด จึงออกมาจากบันไดหนีไฟอีก จ้องมองออฟฟิศของมายมิ้นท์มองแล้วมองอีก หยิบมือถือออกมา โทรออกไปสายหนึ่ง
นวบดินทร์กรุ๊ป ผู้ช่วยเหมันตร์กำลังยืนจัดเก็บเอกสารอยู่ข้างโต๊ะทำงานของเปปเปอร์ ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น หยุดการกระทำในมือลง “ประธานเปปเปอร์ ผมไปรับสายก่อน”
นิ้วมือของเปปเปอร์กำลังจิ้มแป้นพิมพ์อยู่ ได้ยินคำพูดของเขา หน้าก็ไม่เงย อืม เสียงหนึ่ง
หลังจากได้รับอนุญาต ผู้ช่วยเหมันตร์หยิบมือถือออกมา มองสายที่โทรเข้า ตาขมิบแล้วขมิบอีก “ประธานเปปเปอร์ คือทัต”
“ใครนะ?” เปปเปอร์ขมวดคิ้วขึ้นมา ในชั่วขณะไม่มีปฏิกิริยากลับมา
ผู้ช่วยเหมันตร์เตือนสติ “ก็คือผู้ช่วยคนหนึ่งที่พวกเราเอาเงินหว่านซื้อความสะดวกจากเทนเดอร์กรุ๊ปในครั้งก่อน ผู้ช่วยคนนั้นส่งเอกสารไปให้ออฟฟิศของคุณมายมิ้นท์บ่อย ดังนั้นพวกเราเอาเงินหว่านซื้อความสะดวกกับเขา ให้เขาสังเกตข่าวของเด็กที่อยู่ในท้องของคุณมายมิ้นท์สักหน่อย ก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้โทรมาโดยตลอด ตอนนี้โทรมาแล้ว คิดว่าน่าจะมีข่าวของเด็กในท้องคุณมายมิ้นท์”
ได้ยินคำพูดนี้ เปปเปอร์เงยหน้าขึ้นทันที ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความรีบเร่งที่ไม่ปิดบังสักนิด “รับ”
“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ขานรับเสียงหนึ่ง ก็รับสายเลย
“ผู้ช่วยเหมันตร์ครับ” โทรศัพท์ทางโน้น ทัตทักทายเสียงหนึ่งอย่างเกรงใจ
ผู้ช่วยเหมันตร์โบกมือต่อๆกัน “เอาล่ะ รีบพูดเถอะ มีข่าวการตั้งครรภ์ของคุณมายมิ้นท์แล้วใช่หรือไม่?”
“ท่านเดาไม่ผิด เมื่อกี้ผมไปส่งเอกสาร อยู่นอกประตูได้ยินประธานมายมิ้นท์กับประธานลาเต้พูดเรื่องการตั้งครรภ์อยู่”
ผู้ช่วยเหมันตร์ดันแว่นตา “ประธานเปปเปอร์ ดูจากลักษณะท่าทีประธานลาเต้รู้ว่าคุณมายมิ้นท์ตั้งครรภ์แล้ว”
เปปเปอร์เม้มปาก “ถามเขา ได้ยินไหมว่าเด็กคนนั้นเป็นของลาเต้หรือไม่”
ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า ส่งต่อคำพูดของเขา
ทัตที่อยู่ในโทรศัพท์ทางโน้นตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่ของประธานลาเต้ ผมได้ยินประธานมายมิ้นท์พูดว่า เด็กที่อยู่ในท้องประธานมายมิ้นท์ได้มาโดยเธอมีความสัมพันธ์โดยบังเอิญกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในวันเกิดของประธานลาเต้คืนนั้น”
ผู้ช่วยเหมันตร์บอกคำพูดเหล่านี้ให้เปปเปอร์ฟังทันที
เปปเปอร์ฟังจบ นัยน์ตาดุเดือด กระวนกระวายขึ้นในทันที
เป็นของเขา!
เด็กที่อยู่ในท้องมายมิ้นท์ เป็นของเขา!
เปปเปอร์กำกำปั้นอย่างแน่น
ข่าวนี้อาจจะตื่นตะลึงมากเกินไป เขากำอย่างรุนแรงมาก จนกระทั่งกำปั้นล้วนมีการสั่นระริกเล็กน้อย
ผู้ช่วยเหมันตร์เห็นแล้ว ก็เข้าใจอะไรได้แล้วเช่นกัน กลืนน้ำลายแล้วกลืนน้ำลายอีก กดความตื่นตะลึงที่อยู่ในใจลง พูดกับโทรศัพท์ทางโน้นว่า “ผมรู้แล้ว วันหลังไม่ต้องจับตาดูต่ออีก……”
“ไม่ ให้เขาทำต่อ” เปปเปอร์ตัดคำผู้ช่วยเหมันตร์ เสียงแหบเล็กน้อยพูดว่า “ไม่เพียงแค่จะให้เขาจับตาดูไว้ ยังต้องให้เขาจับตาดูให้ละเอียดหน่อย ดีที่สุดคือเวลาไปการตรวจครรภ์ และโรงพยาบาลในการตรวจครรภ์ของมายมิ้นท์ล้วนสืบให้ชัดเจน เงินรางวัลเท่าตัว”
ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าต่อๆกัน “ครับ”
จากนั้นบอกคำพูดของเปปเปอร์ให้ทัตรับรู้
ทัตดีใจจนตบหน้าอกรับรองทันทีว่า จะไม่ให้พวกเขาผิดหวัง
คุยสายจบ ผู้ช่วยเหมันตร์จ้องมองเปปเปอร์ “ประธานเปปเปอร์ เด็กที่อยู่ในท้องคุณมายมิ้นท์ เป็นของท่าน”
เปปเปอร์หนังตาหย่อน “อืม” เสียงหนึ่ง
“ท่านคิดว่าจะทำยังไงดี? จะเก็บไว้หรือว่า……”
“การคงอยู่ของเด็กคนนั้น ไม่ได้อยู่บนกายผม แต่เป็นมายมิ้นท์ ถ้าหากเธออยากเก็บไว้ ผมจะแอบวางแผนทุกอย่างให้ดีๆแก่เธอ ให้เธอคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย ถ้าหากเธอไม่อยากเก็บไว้ ผมก็จะเคารพเธอเช่นกัน” เปปเปอร์พูด
แต่ตอนพูดถึง ‘ถ้าเธอไม่อยากเก็บไว้’ หัวใจเขาปวดจี๊ดหนึ่งทีอย่างประหลาดใจ
กระทั่งยังมีความว้าวุ่นเล็กน้อย
“มิน่าล่ะเมื่อกี้ท่านให้ทัตเอาเวลาและโรงพยาบาลในการตรวจครรภ์ของคุณมายมิ้นท์ล้วนสืบให้ชัดเจนล่ะ ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง” ในที่สุดผู้ช่วยเหมันตร์ก็เข้าใจเจตนาของเปปเปอร์แล้ว
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบางๆอยู่ ไม่ได้พูด
ผู้ช่วยเหมันตร์จ้องมองรูปถ่ายของส้มเปรี้ยวที่อยู่ข้างคอมพิวเตอร์มองแล้วมองอีก มีความรู้สึกคำพูดติดที่ปาก
เปปเปอร์เห็นแล้ว ทำตายี๋ “มีอะไรก็พูดออกมาเถอะ”
“แท้ที่จริงผมอยากจะพูดว่า ถ้าหากคุณมายมิ้นท์เลือกที่จะเก็บเด็กไว้ ถ้าหากวันหลังคุณส้มเปรี้ยวกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์รู้แล้ว จะ……หรือไม่” ผู้ช่วยเหมันตร์มีความกังวลเล็กน้อย
ด้วยใจที่แคบของคุณส้มเปรี้ยวกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์ จะรับเด็กคนนั้นที่อยู่ในท้องของคุณมายมิ้นท์ไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เห็นได้ชัดว่าเปปเปอร์ก็รู้ถึงจุดนี้เช่นกัน มีความรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย นวดระหว่างคิ้วนวดแล้วนวดอีก “ณ เวลานี้อย่าให้ส้มเปรี้ยวกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์รู้ก่อน สำหรับสิ่งอื่น รอมายมิ้นท์ทำการเลือกแล้วค่อยว่ากันเถอะ สืบให้ได้ว่าเวลากับโรงพยาบาลที่มายมิ้นท์จะไปตรวจครรภ์คราวหน้า ส่งคนไปทักทายกับโรงพยาบาลทางโน้นก่อน ให้หมอถามมายมิ้นท์สักหน่อยว่า ตกลงจะเก็บเด็กคนนั้นไว้หรือว่าจะเอาออก”
“เข้าใจครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า
เปปเปอร์โบกมือ “ไปเถอะ”
ผู้ช่วยเหมันตร์หมุนตัวออกไปเลย
เปปเปอร์พิงไปยังหลังเก้าอี้พิงแล้วพิงอีก หลับตาไว้บีบสันจมูกอยู่
มายมิ้นท์ คุณจะเลือกอะไรนะ?
กำลังคิดอยู่ มือถือที่อยู่บนโต๊ะทำงาน ตื้ด เสียงหนึ่งดังขึ้นเลย
เปปเปอร์ลืมตาขึ้น ยืดตัวตรงไปดู เป็นข้อความที่มายมิ้นท์ส่งเข้ามา
ในเวลานี้เธอส่งข้อความให้กับเขา
เรื่องที่เธออยากบอกกับเขาก็คือเรื่องที่ตั้งครรภ์งั้นเหรอ?
เปปเปอร์จับมือถือขึ้นมา เปิดดูข้อความทันที
แต่เนื้อหากลับไม่ใช่อย่างที่เขาคิดแบบนั้น เธอเพียงแค่ถามเขา อยู่ในประเทศหรือไม่
เปปเปอร์พิมพ์ว่า:ไม่อยู่
เทนเดอร์กรุ๊ป มายมิ้นท์เห็นคำนี้ ทันใดนั้นโล่งอกไปที:งั้นก็ดี
ZH:เป็นยังไงล่ะ?
มายมิ้นท์ถอนหายใจหนึ่งที ตอบกลับว่า:เพื่อนของฉันรู้เรื่องเมื่อสองเดือนก่อนที่ฉันกับคุณในคืนนั้นแล้วโมโหมาก ไปซักถามสถานะของคุณกับทามทอย อยากแส่หาเรื่องคุณ ดังนั้นคุณไม่อยู่ในประเทศก็ดี
เห็นคำพูดท่อนนี้ ริมฝีปากบางๆของเปปเปอร์งอแล้วงออีก:ผมรู้แล้ว แต่คุณบอกสิ่งเหล่านี้กับผม เป็นห่วงผมอยู่เหรอ?
มายมิ้นท์มองบน
คนนี้ช่างหลงตัวเองจริงๆ
ส่ายหัวต่อๆกัน พิมพ์ตอบกลับว่า:คุณคิดมากไปแล้ว ฉันเพียงแค่รู้สึกว่าเรื่องนี้ล้วนผ่านไปนานขนาดนีั้แล้ว ไม่จำเป็นต้องก่อให้เป็นเรื่องใหญ่อีกเท่านั้น อีกทั้งถึงแม้ฉันจะเป็นห่วงก็ต้องเป็นห่วงเพื่อนของฉันล่ะ
ความหมายของคำพูดนี้ก็คือ คุณไม่มีตำแหน่งอยู่ในใจฉัน
ดังนั้นจะเป็นห่วงคุณได้ยังไงล่ะ
ริมฝีปากบางๆของเปปเปอร์เม้มขึ้น ในใจมีความไม่พอใจเล็กน้อย พร้อมกับสีหน้าที่อยู่บนใบหน้าล้วนขึงลับลงเยอะเลย:ผมรู้แล้ว ยังมีอย่างอื่นจะพูดอีกไหม?
มายมิ้นท์:ไม่มีแล้ว
ZH:อืม
หลังจากส่งออกไป เปปเปอร์ก็จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ จ้องไปสองนาที มายมิ้นท์ล้วนไม่มีข้อความตอบกลับอีก
เปปเปอร์รู้ว่า เธอจะไม่ตอบกลับอีกแล้ว สีหน้ายิ่งดูแย่ขึ้น
ลาเต้ล้วนเพราะว่าเรื่องของคืนนั้น ไปสืบถามเขากับทามทอยแล้ว
เธอกลับกลายเป็นล้วนไม่ได้คิดที่จะบอกกับเขา ที่เธอตั้งครรภ์
แท้ที่จริงเปปเปอร์อยากให้มายมิ้นท์บอกกับเขามาก กระทั่งเอ่ยปากโดยตรงให้เขารับผิดชอบ
แต่เธอล้วนไม่มี เธอก็แบกรับด้วยตัวคนเดียวเองแบบนี้
ผู้ชายคนอื่นอาจจะดีใจมาก แต่เขากลับรู้สึกเพียงแต่หงุดหงิด
เธอพึ่งพาเขาสักหน่อย ให้เขารับผิดชอบจะตายเหรอ!
เปปเปอร์ดึงเนกไท รอบตัวมีแรงกดดันจนทำให้เขาดูเกร็งๆ
……
ตระกูลชุติเกษม
ลาเต้เดินลงจากรถ ความโมโหเต็มใบหน้าไปเคาะประตู
พ่อบ้านที่เปิดประตูถามว่า “คุณผู้ชายท่านคือ?”
“ผมมาหาทามทอย!” ลาเต้พูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
พ่อบ้านระวังตัวมองเขาแล้วมองเขาอีก
คนนี้เกรงว่าจะเป็นคู่อริของคุณชายน้อยล่ะ?
ดูเหมือนอ่านความคิดของพ่อบ้านออก ลาเต้สูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที กดความโมโหที่อยู่ในใจลง ฝืนใจยิ้มออกมาหนึ่งที “ผมเป็นเพื่อนของทามทอย พบเจอกับเรื่องรีบร้อนหน่อย ดังนั้นดูแล้วจะดุหน่อย รบกวนคุณช่วยเรียกเขาให้ผมสักหน่อย ผมมีเรื่องสำคัญมากๆจะถามเขา ขอร้องล่ะขอร้องล่ะ”
ลาเต้โค้งคำนับ
พ่อบ้านเห็นเขารีบร้อนมากจริงๆ ไม่เหมือนโกหก หลังจากลังเลเล็กน้อย พยักหน้า “งั้นก็ได้ คุณโปรดรอสักครู่”
พ่อบ้านปิดประตูไว้ ขึ้นชั้นบนไปหาทามทอยเลย
ทามทอยกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ได้ยินคำพูดของพ่อบ้าน ยักคิ้วทีนึง “มีคนมาหาผมเหรอ? ใครล่ะ?”