รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 166 ความเห็นแก่ตัวของทามทอย
“ผมก็ไม่รู้ แต่เขาดูแล้วสถานะค่อนข้างสูง ขับรถหรูหราคันหนึ่ง สวมใส่เสื้อเชิ้ตลายดอก……”
เสื้อเชิ้ตลายดอกเหรอ?
มุมปากทามทอยชักหนึ่งที ในชั่วพริบตาเดียวมีเงากายเงาหนึ่งปรากฏขึ้นในสมอง
“ผมรู้ว่าเป็นใครแล้ว เขาอยู่ที่ไหนล่ะ?” ทามทอยถาม
พ่อบ้านตอบกลับว่า “อยู่ข้างนอก”
“เชิญเขาเข้ามาเถอะ เดี๋ยวผมลงไป” ทามทอยสั่ง
พ่อบ้านขานรับเสียงหนึ่งแล้วลงไปเลย
ทามทอยหยิบมือถือขึ้นมาใหม่ พูดกับคนที่อยู่ในโทรศัพท์ทางโน้นสักหน่อยก็วางสายไปเลย ปิดประตูห้องไว้ลงไปข้างล่าง
ก็ไม่รู้ว่าอยู่ดีๆลาเต้มาหาเขามีเรื่องอะไร
“ลาเต้” ทามทอยมาถึงข้างล่าง มองเห็นลาเต้ที่อยู่บนโซฟา เกาหัวและถามว่า “คุณมาหาผมมีเรื่องอะไร ยังมาหาถึงบ้านอีก”
ลาเต้วางแก้วกาแฟที่อยู่ในมือลง ลุกขึ้นมาเดินผ่านโต๊ะน้ำชา โกรธตัวสั่นเดินไปยังทามทอย
เดินมาถึงหน้าทามทอย เขาจับเนกไทของทามทอยไว้ทันที ซักถามเสียงดัง “คนคนนั้นล่ะ?”
ทามทอยมึนงงเต็มใบหน้า “คนอะไรเหรอ?”
“ก็ผู้ชายเหี้ยๆที่รังแกที่รักในคืนนั้น!” ลาเต้สายตาแดงระเรื่อร้องตะโกนพูด
ทามทอยได้ยินคำนี้ สีหน้าเปลี่ยนไป “คุณพูดอะไร มายมิ้นท์ถูกคนรังแกแล้วเหรอ?”
“ใช่ อยู่ในวันเกิดของผมคืนนั้น ที่รักเมาเหล้า ถูกเพื่อนของคุณรังแกแล้ว ตอนนี้ยัง……”
“ยังอะไร?” ทามทอยดึงมือของลาเต้ออก กลับจับคอเสื้อของลาเต้ไว้ทันที รีบเร่งถามว่า “พูดสิ ยังอะไร?”
ลาเต้เห็นลักษณะท่าทีตื่นเต้นรีบเร่งแบบนั้นของทามทอย ในใจรู้สึกมีความประหลาดใจเล็กน้อย
เขาเอาใจใส่กับเรื่องของที่รักมากเกินไปแล้วหรือไม่?
แต่ลาเต้ก็ไม่ได้คิดมากขนาดนั้นเช่นกัน ผลักทามทอยออก กำกำปั้นอย่างแน่นตอบกลับว่า “ตอนนี้ที่รักตั้งครรภ์แล้ว!”
“อะไรนะ?” ทามทอยเบิกตาโพลงมาก
มายมิ้นท์……ตั้งครรภ์แล้วเหรอ?
“ตอนนี้คุณยังไม่บอกผมว่าคนนั้นเป็นใครเหรอ?” ลาเต้ร้องตะโกน
ทามทอยอ้าปากแล้วอ้าปากอีก
เขาจะบอกได้ยังไง
คนนั้น เป็นเปปเปอร์ล่ะ
เห็นทามทอยไม่พูด ก้มหัวกำลังคิดอะไรอยู่ ลาเต้ยิ่งโมโหมากขึ้น กำปั้นล้วนสั่นระริกแล้ว “ทามทอย คุณอยากช่วยเขาปกปิดเหรอ?”
“ไม่ใช่……”
“ในเมื่อไม่ใช่ งั้นคุณก็พูดออกมา หลังจากที่รักถูกเขารังแก ไม่ได้ปรากฏหน้าก็แล้วไป แต่ตอนนี้ที่รักตั้งครรภ์แล้ว เขายังคิดจะหลบอยู่ที่ลับเหรอ?”ลาเต้พูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน。
สีหน้าทามทอยประหลาด “ไม่ใช่ล่ะ เพียงแค่เขาไม่อยู่ในประเทศ”
“กลับกลายเป็นอยู่ต่างประเทศเหรอ?” ลาเต้โมโหจนกำปั้นชนกันสองที “ฮึ คิดว่าอยู่ต่างประเทศก็จะสามารถหลบหลีกไม่รับผิดชอบทั้งหมดได้เหรอ? อย่าหวังเลย ตอนนี้คุณโทรหาคนนั้นเดี๋ยวนี้ ให้เขาไสหัวกลับมา!”
สายตาทามทอยกะพริบระยิบระยับอย่างใจฝ่อ “นี่เกรงว่าไม่ได้ แม้ว่าผมเป็นเพื่อนเขา แต่ก็ไม่ใช่เพื่อนที่คุ้นเคยมากเป็นพิเศษ เขาค่อนข้างลึกลับ ผมก็รับรองไม่ได้ที่จะติดต่อเขาได้หรือไม่”
“อะไรนะ?” ลาเต้ขมวดคิ้ว
ทามทอย อะแฮ่ม เสียงหนึ่ง “งั้นอย่างนี้ คุณกลับไปก่อนเถอะ อีกสักครู่ผมลองติดต่อเขาดู ถ้าหากติดต่อได้ล่ะก็ ผมค่อยบอกกับคุณดีไหม?”
“ไม่ได้ ผมไม่กลับ คุณเอาวิธีการติดต่อเขาให้ผม ผมติดต่อเอง” ลาเต้ยื่นมือออก
ทามทอยนึกไม่ถึงว่าเขาจะเซ้าซี้ขนาดนี้ ณ เวลานั้นปวดหัว
เขากล้าเอาเบอร์โทรของเปปเปอร์ให้ได้ยังไง ถ้าหากให้ลาเต้กับมายมิ้นท์รู้ว่าคนในคืนนั้นเป็นเปปเปอร์ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นยังไงล่ะ
อีกทั้งในใจเขาก็มีความเห็นแก่ตัวเช่นกัน ไม่อยากให้มายมิ้นท์รู้ลูกที่อยู่ในท้องของเธอเป็นของเปปเปอร์
คิดแล้วคิดอีก ทามทอยทำตายี๋หนึ่งที “ได้ได้ได้ ผมให้คุณ คุณรีบไปเถอะ”
เขาเดินไปถึงหน้าโต๊ะน้ำชา หากระดาษปากกาจากลิ้นชักใต้โต๊ะน้ำชา เขียนเบอร์โทรอย่างหนึ่งเข้าไป จากนั้นยื่นให้ลาเต้โดยตรง
ลาเต้มองหนึ่งที “ชื่อล่ะ?”
“ตอนที่เขาเข้ามาในประเทศ สิ่งที่ใช้เป็นภาษาจีนกลางที่ตั้งชื่อมั่วๆในประเทศ ชื่อปลอม เขียนหรือไม่เขียนล้วนเหมือนกัน” ทามทอยลืมตาขาวพูดหนึ่งที
ลาเต้กุมกระดาษโน้ตอย่างแน่น “ไอ้ควย ยังเป็นคนต่างด้าวคนหนึ่ง คนต่างด้าวเหล่านี้ไม่ใช่โอ้อวดตัวเองเป็นสุภาพบุรุษเหรอ? กลับกลายเป็นลากสุภาพสตรีที่เมาเหล้าเข้าห้อง หน้าไม่อายสุดขีดจริงๆเลย รอผมติดต่อเขาได้ จะไปต่างประเทศซ้อมเขากับมือตนเองสักรอบ”
ลาเต้ทั้งด่าทั้งบ่นออกไปเลย
ทามทอยเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากหนึ่งที โล่งอกไปที
ดีมากเลย ในที่สุดก็ได้ไล่คนที่น่ารำคาญนี้ออกไปแล้ว
ทามทอยขึ้นไปชั้นบนใหม่อีกครั้ง โทรหาเปปเปอร์เลย
ดูเหมือนคาดเดามานานแล้วว่าเขาจะโทรมา เปปเปอร์เอ่ยปากก็ถามว่า “ลาเต้มาหาคุณแล้วเหรอ?”
“คุณรู้ได้ยังไงล่ะ?” ทามทอยประหลาดใจ
เปปเปอร์หนังตาหย่อน “มายมิ้นท์บอก”
ทามทอยนึกได้ทันที จากนั้นเบ้ปากพูดว่า “ใช่ใช่ใช่ ผมล้วนลืมไปแล้ว คุณปกปิดสถานะ เพิ่มมายมิ้นท์เป็นเพื่อน ลาเต้อยากจะผ่านผมแส่หาเรื่องคุณ เธอย่อมจะบอกให้คุณทราบสักหน่อยแน่นอน”
ฟังออกได้ถึงความรู้สึกเศร้าที่อยู่ในน้ำเสียงของทามทอย เปปเปอร์ขมวดคิ้วหนึ่งที
เขาเศร้าอะไรอยู่ล่ะ?
“ในเมื่อคุณรู้ว่าลาเต้มาหาผมแล้ว งั้นเรื่องที่มายมิ้นท์ตั้งครรภ์ คุณก็รู้แล้วใช่ไหม?” ทามทอยถาม
เกือบจะสองเดือนก่อน ก็คือเช้าวันที่สองของวันเกิดลาเต้ เปปเปอร์โทรหาเขา ให้เขาจัดการกล้องวงจรปิดทั้งหมดทิ้ง ในตอนนั้นเขาอยากรู้อยากเห็นว่ากล้องวงจรปิดอะไรต้องจัดการทิ้ง ดังนั้นก่อนที่จะจัดการก็ดูสักหน่อย ตอนที่เห็นเปปเปอร์อุ้มมายมิ้นท์เข้าไปในห้องหนึ่ง ล้วนตะลึงงันไปทั้งตัวเลย
ดังนั้นน่าจะเป็นคืนนั้นที่ทำให้มายมิ้นท์ตั้งครรภ์
“ผมรู้” เปปเปอร์พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกนิดๆ
ทามทอยทำตายี๋ “ฟังน้ำเสียงของคุณ ไม่มีความตื่นตระหนกเลยสักนิด ดูเหมือนรู้มานานแล้วล่ะ”
เปปเปอร์ อืม เสียงหนึ่ง
กลับกลายเป็นเดาถูกเลย!
“คุณรู้มานานเท่าไหร่แล้ว?” ทามทอยถามอีก
เปปเปอร์เม้มปากตอบกลับว่า “หลายวันแล้ว”
อยู่ดีๆทามทอยนึกถึงที่สนามม้าวันนั้น ดึงมุมปากหนึ่งที “มิน่าล่ะวันนั้นมายมิ้นท์อยากจะขี่ม้า คุณขัดขวางมายมิ้นท์ขี่ม้า เกรงว่าในเวลานั้นคุณก็รู้แล้วใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว” เปปเปอร์ตอบกลับอย่างเย็นชา จากนั้นถามเสียงเข้มว่า “คุณบอกกับลาเต้ว่า คนในคืนนั้นเป็นผมแล้วเหรอ?”
“ไม่ คุณให้ผมจัดการกล้องวงจรปิดทิ้ง ก็คือไม่อยากให้มายมิ้นท์รู้ว่าคนในคืนนั้นคือใคร ดังนั้นผมจะพูดอีกได้ยังไงล่ะ” ทามทอยตอบกลับด้วยสายตามืดมน
“ขอบคุณมาก”
“คุณไม่ต้องขอบคุณผม ตอนนี้ผมแค่อยากรู้ว่า คุณคิดที่จะจัดการเรื่องนี้ยังไง เตรียมตัวจะแต่งงานใหม่กับมายมิ้นท์เหรอ?” ทามทอยค่อยๆกำมือถืออย่างแน่น
ได้ยินว่าแต่งงานใหม่คำนี้ ในใจเปปเปอร์แว็บผ่านใจสั่นไหวเล็กน้อย
แต่ไม่นาน นึกอะไรออก กดทับลงไปอีก
“ไม่” เปปเปอร์รู้สึกเหนื่อยล้าบีบระหว่างคิ้วบีบแล้วบีบอีก “ผมทำให้ส้มเปรี้ยวผิดหวังมาครั้งหนึ่งแล้ว ทำให้เธอผิดหวังอีกครั้งที่สองไม่ได้”
“ทำให้ผิดหวังเหรอ?” ทามทอยลืมตาขาวหนึ่งทีอย่างดูถูก “งั้นก็ได้ คุณตัดสินใจก็พอ”
ถ้าหากเป็นแต่ก่อน เขาย่อมจะพูดกล่อมเพื่อนสนิทให้แต่งงานใหม่กับมายมิ้นท์แน่นอน ถึงยังไงมายมิ้นท์ก็ตั้งครรภ์แล้ว อีกทั้งส้มเปรี้ยวก็ไม่คู่ควรกับเพื่อนสนิทด้วยจริงๆ
แต่ตอนนี้ เขาเข้าใจว่าตนเองอาจจะมีใจสั่นไหวเล็กน้อยกับมายมิ้นท์แล้ว ดังนั้นย่อมไม่พูดกล่อมอยู่แล้ว
“ไม่แต่งงานใหม่ล่ะก็ งั้นเด็กที่อยู่ในท้องมายมิ้นท์ล่ะ? คุณน่าจะต้องรับผิดชอบล่ะ?” ทามทอยครุ่นคิแล้วพูดต่อ
เปปเปอร์หนังตาหย่อน “ผมรับผิดชอบอยู่แล้ว ถ้าหากมายมิ้นท์ยินยอมที่จะเก็บไว้ ผมจะแอบเลี้ยงดูเด็กคนนั้นกับเธอด้วยกัน ถ้าหากเธอไม่ยินยอมที่จะเก็บไว้ ผมก็จะพยายามชดเชยให้เธออย่างเต็มที่”
“อย่างนี้ก็ไม่เลวเช่นกัน แต่คุณน่าจะต้องบอกความคิดของคุณให้กับมายมิ้นท์ล่ะ?”
“ผมรู้ รอตอนที่มายมิ้นท์ทำการตัดสินใจการอยู่การไปของเด็ก ผมจะบอกกับเธอ เกี่ยวกับความคิดของผม” เปปเปอร์พูดเสียงเข้ม
ทามทอยคิดไปหลายวินาที “ผมรู้สึกว่า อย่ารอถึงเวลานั้นเลย จะบอกก็บอกเร็วหน่อย รอถึงเวลานั้นค่อยบอก มายมิ้นท์อาจจะไม่รับฟังก็ได้”
“……” เปปเปอร์เงียบสนิทเลย
ทามทอยถอนหายใจหนึ่งที “เอาล่ะ ผมพูดถึงแค่นี้ คุณพิจารณาให้ดีๆสักหน่อยเถอะ”