รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 169 แผนการพัฒนาถูกเปลี่ยน
เปปเปอร์เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของสีหน้ามายมิ้นท์อยู่ตลอด
จ้องมองลักษณะท่าทีที่จิตหดหู่ของเธอ ไม่รู้ทำไม ในใจมีความรู้สึกใจร้ายไม่ลงเล็กน้อย
เพียงแค่ระดับมาตรฐานแผนการพัฒนาของเธอวางอยู่ที่ไหน เขาใจร้ายไม่ลงขนาดไหน ก็ไม่สามารถให้เส้นสายแก่เธอได้เช่นกัน
เยี่ยมบุญรับรู้ว่าตนเองคว้าตำแหน่งผู้ร่วมลงทุนมาได้จริงๆ ดีใจจนหัวเราะออกมา
เขารู้ว่าระดับมาตรฐานแผนการพัฒนาของตนเองเป็นยังไง อยากจะคว้าตำแหน่งผู้ร่วมลงทุนมาได้ เป็นไปไม่ได้เลยสักนิดแต่เขากลับคว้ามาได้
ด้วยเหตุนี้ เห็นได้ชัดว่าจะเป็นเปปเปอร์เห็นแก่ส้มเปรี้ยวจริงๆ สละทิ้งกฎเกณฑ์ที่ไม่มีเบื้องหลัง เปิดประตูหลังให้แก่เขาพ่อตาคนนี้ล่ะ
คิดอยู่ เยี่ยมบุญมองสายตาของเปปเปอร์ นั่นคือยิ่งมองยิ่งพอใจ
เป็นอย่างที่คิดไว้เป็นลูกเขยที่ดีของเขาจริงๆนะ
เปปเปอร์ขมวดคิ้วขึ้นมา
สายตาของเยี่ยมบุญนี้เกิดอะไรขึ้นอย่างนี้ล่ะ?
ไม่ได้คิดมาก เปปเปอร์เม้มปากหนึ่งที่ พูดด้วยเสียงเย็นชาสดใสว่า “ตำแหน่งผู้ร่วมลงทุนทั้งห้าได้กำหนดแล้ว พรุ่งนี้ในเวลานี้สามารถไปเซ็นสัญญาที่นวบดินทร์กรุ๊ป ตอนนี้ผมจะเปิดเผยแผนการพัฒนาทั้งห้านี้ออกมา ให้ทุกคนที่ไม่ได้ถูกเลือกดูสักหน่อย ทำไมพวกเขาถูกเลือก แล้วพวกคุณพ่ายแพ้อยู่ตรงไหน”
“นี่ไม่เลว” มีคนพยักหน้าเห็นด้วย
มายมิ้นท์ก็เป็นส่วนที่เห็นด้วยนั้นเช่นกัน
เธอก็อยากจะรู้เช่นกัน แผนการพัฒนาของตนเอง ตกลงแย่กว่าของพวกเขาขนาดไหน
และตอนที่เห็นผู้ช่วยเหมันตร์ฉายแผนการพัฒนาอยู่บนจอ มายมิ้นท์ตะลึงงันไปทั้งตัว “เป็นอย่างนี้ไป ได้ยังไง!”
เธอร้องออกมาอยู่ในใจ
คนทั้งหลายต่างคนต่างมองไปยังเธอ
“ประธานมายมิ้นท์ คุณเป็นยังไงแล้วล่ะ?” ประธานธนภูมิ ที่นั่งอยู่ข้างกายเธอ สงสัยงงงวยถามไปประโยคหนึ่ง
มายมิ้นท์ไม่ได้ตอบกลับเขา สายตาจ้องมองที่แผนการพัฒนาของเยี่ยมบุญอย่างแน่น “ประธานเปปเปอร์ เชิญท่านบอกกับฉัน ทำไมแผนการพัฒนาของฉัน ชื่อกลับกลายเป็นของประธานเยี่ยมบุญล่ะ?”
อะไรนะ?
เปปเปอร์ขมวดคิ้วขึ้นมา หมุนตัวมองไปยังจอภาพที่อยู่ข้างหลัง
เขาจ้องมองแผนการพัฒนาของเยี่ยมบุญ ไม่ได้พบเห็นว่าที่ไหนไม่ถูกเลย หันหน้ากลับมาอีกครั้ง “นี่เป็นของประธานเยี่ยมบุญ”
แผนการพัฒนาชุดนี้ เหมือนอย่างที่เมื่อวานเขาเห็นเป็นของเยี่ยมบุญ
แต่เยี่ยมบุญกลับสีหน้าที่ใจฝ่อขึ้นมาเลย
แท้ที่จริงตอนที่แผนการพัฒนาถูกฉายออกมาเมื่อกี้ เขาก็พบเห็นว่าไม่ถูกแล้ว แผนการพัฒนาที่เขียนชื่อเขาไว้ ไม่ใช่แผนการพัฒนาของเขาเลยสักนิด แม้ว่าเขาจะประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้คิดจะเปิดเผยเช่นกัน ถึงยังไงผิดแล้วก็ได้แต่ผิดต่อไปอีก อีกทั้งเขาก็รู้สึกถึงว่าเขาได้รับตำแหน่งผู้ร่วมลงทุนไม่ใช่เปปเปอร์ทำเพื่อส้มเปรี้ยวเปิดประตูหลังให้กับเขาแต่เป็นเพราะว่า แผนการพัฒนาชุดนี้
ดังนั้นเขายิ่งไม่สามารถยอมรับว่าแผนการพัฒนาชุดนี้ไม่ใช่ของเขา แต่เขานึกไม่ถึง แผนการพัฒนาชุดนี้กลับกลายเป็นของมายมิ้นท์อีนังเด็กคนนั้น อีนังเด็กคนนั้น ถึงขนาดยังเปิดเผยออกมาอีก
“เปปเปอร์คุณพูดเหลวไหล!” มายมิ้นท์ได้ยินเปปเปอร์พูดว่านั่นเป็นของเยี่ยมบุญ โมโหจนสั่นระริกไปทั้งตัว ก็สนใจไม่ได้ที่จะเรียกเขาประธานเปปเปอร์แล้ว เรียกทั้งชื่อและนามสกุลออกมาโดยตรง “นี่ทั้งๆที่เป็นแผนการพัฒนาของฉัน อย่าคิดว่าพวกคุณใส่ชื่อเยี่ยมบุญ มันก็จะกลายเป็นของเยี่ยมบุญแล้ว”
ได้ยินคำว่าใส่ชื่อของ‘เยี่ยมบุญ’นี้ของเธอ คนทั้งหลายล้วนตื่นตะลึงเลย
เปปเปอร์ยิ่งทำตายี๋ขึ้นมา “คุณหมายความว่า เป็นพวกเราเปลี่ยนแผนการพัฒนาของคุณกลายเป็นของประธานเยี่ยมบุญเหรอ?”
“ไม่ใช่เลยเชียวเหรอ?” มายมิ้นท์จ้องมองเขาอย่างเย็นชา อารมณ์รุนแรงมาก “ฉันนึกไม่ถึงพวกคุณจะไร้ยางอายขนาดนี้จริงๆ เพื่อที่จะให้เยี่ยมบุญได้รับตำแหน่งผู้ร่วมลงทุน ก็ใช้วิธีการที่หน้าไม่อายเช่นนี้”
ถ้าหากแผนการพัฒนาของเธอแย่มาก ถูกคัดออกเลยจริงๆ เธอย่อมยอมรับอย่างสุดจิตสุดใจแน่นอน
แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เป็นเช่นนี้ แผนการพัฒนาของเธอดีมาก ไม่งั้นก็จะไม่ถูกเยี่ยมบุญแย่งไป ยังได้รับตำแหน่งผู้ร่วมลงทุนอีก ดังนั้นเรื่องนี้ เธอย่อมไม่แล้วไปเช่นนี้อย่างเด็ดขาด
จ้องมองมายมิ้นท์ที่โมโหสุดขีด และจ้องมองเยี่ยมบุญที่ก้มหัวอยู่มีลักษณะท่าทีที่เห็นได้ชัดว่าใจฝ่อแบบนั้นอีก
เปปเปอร์เข้าใจแล้ว สิ่งที่มายมิ้นท์พูดเป็นความจริง
แผนการพัฒนาที่อยู่บนจอภาพ เป็นของมายมิ้นท์ แต่ไม่ใช่ของเยี่ยมบุญจริงๆ
เยี่ยมบุญกลับกลายเป็นขโมยแผนการพัฒนาของคนอื่น ปลอมแปลงเป็นของตนเอง!
เปปเปอร์ทำตายี๋อย่างอันตรายขึ้นมา รอบตัวเต็มไปด้วยความเย็นชาที่อึมครึมน่ากลัวอยู่
คนทั้งหลายเข้าใจ เขาโมโหแล้ว
“ชื่อไม่ใช่ผมใส่เข้าไป” เปปเปอร์จ้องมองมายมิ้นท์ น้ำเสียงพูดอย่างจริงจัง
มายมิ้นท์เห็นสภาพ ความโมโหที่อยู่ในใจลดลงเล็กน้อย “ไม่ใช่คุณจริงๆเหรอ?”
“ผมไม่สนที่จะทำเช่นนั้น” เปปเปอร์ตอบกลับ
มายมิ้นท์กัดริมฝีปาก
เธอมองออกได้ สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง
ดังนั้นชื่อแผนการพัฒนาของเธอถูกเปลี่ยน เขาไม่รู้เส้นสนกลในจริงๆ
“ประธานเยี่ยมบุญ ในเมื่อประธานเปปเปอร์บอกว่าไม่เกี่ยวกับเขา งั้นดูแล้วก็มีแต่คุณทำเองแล้ว เชิญคุณอธิบายกับฉันสักหน่อย ทำไมแผนการพัฒนาของฉัน จะกลายเป็นของคุณล่ะ!” มายมิ้นท์จ้องมองเยี่ยมบุญซักถามด้วยเสียงที่เย็นชา
คนอื่นๆเห็นความคึกคักไม่รังเกียจว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต่างคนก็ต่างเอ่ยปากอย่างสนใจเช่นกัน
“ใช่สิ ประธานเยี่ยมบุญ พูดล่ะ นี่เป็นแผนการพัฒนาของคุณจริงๆเหรอ?”
“ก็ใช่สิ บอกกับพวกเราทุกคนสักหน่อยล่ะ”
เยี่ยมบุญได้ยินความสงสัยของคนเหล่านี้ ในใจโมโหอย่างมาก ตบโต๊ะลุกขึ้นพูดว่า “ผมจะพูดอะไรได้ นี่ย่อมเป็นแผนการพัฒนาของผมอยู่แล้ว”
“แต่ประธานมายมิ้นท์บอกว่านี่เป็นของเธอล่ะ” มีคนพูดอีก
เยี่ยมบุญจ้องมองไปยังมายมิ้นท์ สายตาคลุมเครือหนึ่งที ฝืนทำเป็นสงบพูดว่า “คุณว่าเป็นของคุณ ก็จะเป็นของคุณเหรอ?”
“แผนการพัฒนาของตัวฉันเองฉันจะจำไม่ได้เลยเชียวเหรอ?” มายมิ้นท์โมโหจนหัวเราะ
เยี่ยมบุญยิ่งใจฝ่อมากขึ้นแล้ว แต่ภายนอกยังคงถึงตายก็ไม่ยอมรับ “ได้ ในเมื่อคุณคิดว่าเป็นของคุณ งั้นคุณบอกกับผมชื่อแผนการพัฒนาของคุณ ตกลงกลายมาเป็นของผมได้ยังไง อย่าบอกว่าผมขโมยนะ แม้แต่เทนเดอร์กรุ๊ปกับนวบดินทร์กรุ๊ปผมล้วนไม่ได้ไป จะขโมยยังไงล่ะ?”
มายมิ้นท์อึ้งชะงักไปหนึ่งที อยู่ดีๆตอบไม่ได้
ใช่สิ เยี่ยมบุญไม่เคยได้มาเทนเดอร์กรุ๊ป อีกทั้งทุกครั้งที่เธอเขียนแผนการพัฒนาจบไปส่วนหนึ่ง ก็จะล็อกไว้อยู่ในลิ้นชัก หรืออาจจะนำกลับบ้านโดยตรง เป็นไปไม่ได้ที่จะให้คนที่เยี่ยมบุญเอาเงินหว่านซื้อความสะดวกไปขโมยที่เทนเดอร์กรุ๊ปเลยสักนิด
อีกทั้งเปปเปอร์ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เปลี่ยนชื่อแผนการพัฒนาของเธอ แต่แผนการพัฒนาของเธอ กลับกลายเป็นชื่อของเยี่ยมบุญจริงๆ ตกลงนี่เป็นเรื่องอะไรกันแน่?
เยี่ยมบุญเห็นมายมิ้นท์ไม่พูด ดีใจจนเหลิงขึ้นมาทั้งตัว “ตอบไม่ได้แล้วเหรอ ในเมื่อคุณตอบไม่ได้ งั้นคุณ……”
“ผู้ช่วยเหมันตร์” ในเวลานี้ อยู่ดีๆเปปเปอร์เอ่ยปาก
เยี่ยมบุญจ้องมองไปยังเขา ในใจมีความรู้สึกไม่เป็นสุขเล็กน้อย
นิ้วมือเปปเปอร์เคาะอยู่บนโต๊ะประชุมเคาะแล้วเคาะอีก “แผนการพัฒนาของคุณมายมิ้นท์ คุณรับมาด้วยมือตนเองใช่ไหม?”
“ใช่ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า
เปปเปอร์เชิดคางต่อๆกัน “ดูแล้วปัญหาเกิดขึ้นหลังจากคุณได้รับแผนการพัฒนาล่ะ”
มายมิ้นท์ได้ยินคำพูด จ้องมองผู้ช่วยเหมันตร์อย่างแน่น นัยน์ตาเต็มเปี่ยมด้วยความสงสัย
ผู้ช่วยเหมันตร์รู้ว่าเธอสงสัยว่าเขาถูกเยี่ยมบุญเอาเงินหว่านซื้อความสะดวกแล้วใช่หรือไม่ รีบโบกมือส่ายหัว “คุณมายมิ้นท์ ขอให้ท่านโปรดเชื่อ ผมล้วนไม่ได้ทำอะไร”
เขาเป็นผู้ช่วยของประธานเปปเปอร์ จะถูกคนอื่นเอาเงินหว่านซื้อความสะดวกได้ยังไง
อีกทั้งประธานเปปเปอร์บอกแล้ว เพียงแค่เขาทำครบสิบปี ก็จะให้หุ้นเดิมเขา0.5เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าหุ้นน้อย แต่ตามมูลค่าตลาดของนวบดินทร์กรุ๊ป หุ้น0.5เปอร์เซ็นต์ ล่วนมีมูลค่ามากกว่าสองพันล้าน ขอถามหน่อยว่าเขาทำไมต้องละทิ้ง สองพันล้านไม่เอา จะไปเลือกเอาหลายแสนหลายล้านที่เอามาหว่านซื้อความสะดวกนั้นล่ะ?
“ในเมื่อคุณล้วนไม่ได้ทำอะไร งั้นรบกวนคุณบอกกับฉัน แผนการพัฒนาของฉันทำไมกลายเป็นของเขาล่ะ” มายมิ้นท์ชี้ไปยังเยี่ยมบุญ
เรื่องนี้ เธอจะต้องทำให้ชัดเจนแน่นอน
ผู้ช่วยเหมันตร์ยิ้มขม “ขอโทษจริงๆ คุณมายมิ้นท์ ผมไม่รู้จริงๆแผนการพัฒนาของท่านเป็นผมส่งถึงหน้าประธานเปปเปอร์กับมือ ระหว่างทางไม่ได้ผ่าน……”
พูดถึงที่นี่ ดูเหมือนนึกอะไรออก ผู้ช่วยเหมันตร์เบิกตาโพลงอย่างฉับพลัน
เปปเปอร์จ้องมองเขาเป็นเช่นนี้ ทำตายี๋ขึ้นมา “คุณรู้อะไรแล้วใช่หรือไม่?”
ผู้ช่วยเหมันตร์อ้าปากแล้วอ้าปากอีก “ผมนึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง แต่……”
เขาจ้องมองไปยังเยี่ยมบุญ สายตาสลับซับซ้อน
ในใจเยี่ยมบุญดังกุ๊กๆเสียงหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเข้าใจอะไรแล้ว สีหน้าดูแย่
“ผู้ช่วยเหมันตร์ ขอร้องล่ะคุณพูดออกมาดีหรือไม่!” มายมิ้นท์จ้องมองผู้ช่วยเหมันตร์ พูดอย่างรีบร้อน
ผู้ช่วยเหมันตร์กลับจ้องมองไปยังเปปเปอร์ ซักถามความคิดของเปปเปอร์
เปปเปอร์พยักหน้าต่อๆกัน “พูดเถอะ”