รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 170 จบเรื่องแล้ว
ผู้ช่วยเหมันตร์เห็นเถ้าแก่ล้วนให้ตนเองพูดแล้ว ก็ไม่ปกปิดอีกเช่นกัน พยักหน้าหงึกๆตอบกลับว่า “หลังจากผมรับแผนการพัฒนาของคุณมายมิ้นท์ไว้ไม่นาน คุณส้มเปรี้ยวก็ปรากฏตัวแล้ว ก็มาส่งแผนการพัฒนาเช่นกัน ระหว่างทางที่ผมออกไปเทกาแฟให้กับคุณส้มเปรี้ยว ทิ้งแผนการพัฒนาไว้ในห้องรับแขก ในเวลานั้นในห้องรับแขกมีเพียงคุณส้มเปรี้ยวอยู่……”
พูดถึงที่นี่ ยังมีอะไรไม่เข้าใจอีก
แผนการพัฒนาของมายมิ้นท์ ถูกส้มเปรี้ยวสับเปลี่ยน
เปปเปอร์หนังตาหย่อน ในใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความผิดหวัง
“คุณพูดเหลวไหล!” เยี่ยมบุญตบโต๊ะลุกขึ้น จ้องมองผู้ช่วยเหมันตร์อย่างโมโห “คุณกล้าใส่ร้ายป้ายสีส้มเปรี้ยว เปปเปอร์ นี่ก็คือผู้ช่วยที่ดีของคุณเหรอ”
แท้ที่จริงเขาก็รู้เช่นกัน แผนการพัฒนาเป็นส้มเปรี้ยวสับเปลี่ยนจริงๆ
แต่นั่นยังไงล่ะ เขายอมรับไม่ได้เด็ดขาด
“ประธานเยี่ยมบุญ ผมโอ้อวดตัวเองว่าเป็นคนเที่ยงธรรมซื่อตรง คำพูดที่พูดเมื่อกี้ จะไม่มีคำโกหกสักนิด ถ้าหากท่านไม่เชื่อ ผมสามารถดึงกล้องวงจรปิดของห้องรับแขกออกมา” ผู้ช่วยเหมันตร์จ้องมองเยี่ยมบุญ พูดอย่างไม่พอใจ
เขาทำงานมาหลายปี กว่าจะมาถึงตำแหน่งนี้ได้มันยากมาก เป็นไปได้ยังไงที่จะไร้สาเหตุไร้ที่มาไปใส่ร้ายคนคนหนึ่ง
นั่นไม่ใช่ทำให้ตนเองตกงานเหรอ?
ได้ยินผู้ช่วยเหมันตร์พูดว่าสามารถดึงกล้องวงจรปิดออกมา ทันใดนั้นใบหน้าเยี่ยมบุญก็ซีดแล้ว
มายมิ้นท์หัวเราะเยาะ “ประธานเยี่ยมบุญ ลูกสาวของท่านช่างกตัญญูจริงๆนะ เพื่อที่จะให้ท่านได้รับตำแหน่งผู้ร่วมลงทุน แม้แต่เรื่องที่ไร้ยางอายขนาดนี้ล้วนทำออกมาได้”
“จริงนะ ลูกสาวท่านช่างทำให้พวกเราเปิดโลกทรรศน์จริงๆ” มีคนพูดคล้อยตาม
เยี่ยมบุญสีหน้าขาวซีดปนแดงก่ำ เหมือนดั่งจานสี อึดอัดไปทั้งตัวจนแทบอยากจะหาหลุมทะลวงเข้าไปใจจะขาด
เขาไม่เคยขายหน้าขนาดนี้เหมือนวินาทีนี้ในตอนนี้มาก่อน ถึงแม้ตอนที่ถูกจับเข้าโรงพักก็ไม่มี
ถึงยังไงตอนที่ถูกจับเข้าโรงพัก ข้างนอกล้วนไม่รู้ว่าตกลงเขาทำอะไร แต่ครั้งนี้ล้วนไม่เหมือน คนทั้งหลายล้วนรู้ว่าส้มเปรี้ยวแอบสับเปลี่ยนแผนการพัฒนาของคนอื่น กระทั่งยังรู้สึกว่าเขาเป็นสั่ง กระทั่งเขาล้วนสามารถนึกถึงว่าวันหลังคนที่อยู่ในวงการจะวิพากษ์วิจารณ์เขายังไง
ในวินาทีนี้ ในใจเยี่ยมบุญแค้นมากเลย
แค้นมายมิ้นท์ แค้นเธอว่าทำไมต้องพูดความจริงเรื่องแผนการพัฒนาเป็นของเธอออกมา ยอมรับความเสียหายนี้ไว้เองไม่ได้เหรอ?
ยังแค้นเปปเปอร์ แค้นเขาว่าทำไมไม่จัดการเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว คนที่ยิ่งต้องแค้นยังคงเป็นส้มเปรี้ยวอีนังเด็กคนนั้นแน่นอน
“ประธานเปปเปอร์ ”มายมิ้นท์เห็นเยี่ยมบุญพูดไม่ออกแล้ว ก็เลยไม่เฝ้ามองอยู่บนกายเขาอีก แต่จ้องมองไปยังเปปเปอร์ที่อยู่ตำแหน่งประธาน “ในเมื่อความจริงแจ่มชัดแล้ว เรื่องนี้ท่านคิดที่จะจัดการยังไง คือให้ประธานเยี่ยมบุญได้รับตำแหน่งผู้ร่วมลงทุนต่อ หรือว่า……”
“ในเมื่อความจริงชัดเจนแล้ว ผมจะประกาศ ยกเลิกตำแหน่งผู้ร่วมลงทุนของเยี่ยมบุญ มอบให้ประธานมายมิ้นท์ทุกคนไม่มีความคิดเห็นที่ไม่พอใจใช่ไหม?” เปปเปอร์ตัดบทเธอ สายตากวาดมองปที่ใบหน้าคนทั้งหลาย
ทุกคนส่ายหัว “ไม่มี”
อย่าเพิ่งพูดถึงตำแหน่งของเยี่ยมบุญ เดิมทีก็ควรเป็นของมายมิ้นท์อยู่แล้ว
อีกทั้งแผนการพัฒนาของมายมิ้นท์ เมื่อกี้พวกเขาเพิ่งเห็นทั้งหมด ไม่เลวจริงๆ
“ประธานเยี่ยมบุญ คุณล่ะ คุณมีความคิดเห็นที่ไม่พอใจไหม?” เปปเปอร์ชี้ถึงเยี่ยมบุญ
เยี่ยมบุญสีหน้าฝืนใจเหลือเกิน “ไม่มีแน่นอน”
ถึงแม้เขามี จะทำยังไงได้อีกล่ะ?
เปปเปอร์พยักหน้าหงึกๆ ย้ายสายตากลับไปบนใบหน้ามายมิ้นท์ “พวกเขาล้วนไม่มีความคิดเห็นที่ไม่พอใจ ตอนนี้ได้หรือยัง?”
“ได้แล้ว” นัยน์ตามายมิ้นท์แว็บผ่านความเบิกบานใจเล็กน้อย
ในที่สุด ในที่สุด เธอก็คว้าตำแหน่งผู้ร่วมลงทุนได้แล้ว
ที่พนันกันกับเตชิต เธอชนะแล้ว!
มายมิ้นท์ตื่นเต้นจนกำกำปั้นสองข้างอย่างแน่น
เปปเปอร์สัมผัสถึงความดีใจของเธอ นัยน์ตาก็แว็บผ่านรอยยิ้มเล็กน้อยเช่นกัน แต่ไม่นานก็หายไปแล้ว เชิดคาง พอกำลังจะพูดอะไร อยู่ดีๆมายมิ้นท์เอ่ยปากอีกว่า “แต่ประธานเปปเปอร์ มันยังไม่หมดเพียงเท่านี้!”
คำพูดนี้ ทำให้คนทั้งหลายตาเป็นประกาย ทันใดนั้นเกิดความสนใจขึ้นมา
ดูแล้วคุณมายมิ้นท์คนนี้ยังเป็นคนที่ใจโลภคนหนึ่งนะ ได้ชื่อแผนการพัฒนากับตำแหน่งผู้ร่วมลงทุนยังไม่พอ ยังอยากจะฉวยโอกาสเรียกเอาผลประโยชน์อื่นอีกล่ะ
เยี่ยมบุญโมโหร้องตะโกน “มายมิ้นท์ คุณอย่าได้คืบจะเอาศอก!”
มายมิ้นท์เหลือบตามองเขาหนึ่งทีอย่างเย็นชา “อะไรเรียกว่าได้คืบจะเอาศอก ฉันเป็นผู้ถูกทำร้าย ช่วงชิงสิทธิประโยชน์เพื่อตนเองผิดตรงไหน กลับเป็นประธานเยี่ยมบุญท่านที่เป็นผู้ทำร้ายคนหนึ่ง ไม่เพียงไม่กล่าวขอโทษ กลับยังตำหนิฉัน ไม่รู้สึกมากเกินไปแล้วเหรอ?”
“คุณ……” เยี่ยมบุญโมโหจนตาเหลือก
มายมิ้นท์ล้วนไม่สนใจเขา จ้องมองเปปเปอร์อยู่ “ประธานเปปเปอร์แผนการพัฒนาของฉันส่งขึ้นไปแต่กลับถูกคนสับเปลี่ยนอยู่ในนวบดินทร์กรุ๊ปของท่าน หน้าที่รับผิดชอบนี้ ท่านเป็นเถ้าแก่น่าจะต้องรับผิดชอบล่ะ ไม่งั้นวันหลังทุกคนยังมีใครกล้าเชื่อนวบดินทร์กรุ๊ป ใครยังจะกล้าวางของอยู่ที่นวบดินทร์กรุ๊ปล่ะ?”
“สิ่งที่ประธานมายมิ้นท์พูดถูก” มีคนพยักหน้า “ประธานเปปเปอร์ หน้าที่รับผิดชอบนี้ ท่านควรรับผิดชอบจริงๆ”
เปปเปอร์นั่งตัวตรง “เรื่องนี้สาเหตุหลักเกิดอยู่ที่นวบดินทร์กรุ๊ปจริงๆ ผมกล่าวขอโทษกับคุณมายมิ้นท์ด้วยความประมาทของนวบดินทร์กรุ๊ป”
พูดอยู่ เขาลุกขึ้นมา มือใหญ่วางไว้อยู่บนท้อง โค้งคำนับกับมายมิ้นท์
ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ทำเช่นนี้ “คุณมายมิ้นท์ ผมดูแลไม่รอบคอบเอง จึงทำให้แผนการพัฒนาของท่านถูกสับเปลี่ยน”
เห็นทั้งสองคนกล่าวขอโทษ สีหน้ามายมิ้นท์ดูดีขึ้นไม่น้อย
จากนั้น เธอมองไปยังเยี่ยมบุญอีก “ประธานเยี่ยมบุญ ประธานเปปเปอร์ล้วนกล่าวขอโทษแล้ว ท่านล่ะ?”
“คุณอยากให้ผมกล่าวขอโทษด้วยเหรอ?” เยี่ยมบุญยากที่จะเชื่อเบิกตาโพลง
มายมิ้นท์ยิ้มแล้วยิ้มอีก “ให้ท่านกล่าวขอโทษผิดตรงไหนเหรอ? แม้แผนการพัฒนาท่านไม่ได้เป็นคนสับเปลี่ยน แต่ใครจะรู้ว่าท่านสั่งคุณส้มเปรี้ยวหรือไม่ล่ะ ถึงแม้ไม่ใช่ ตั้งแต่แรกท่านไม่ใช่ยังคงคิดจะปกปิดเรื่องนี้ไปไม่อยากยอมรับว่าแผนการพัฒนาเป็นของฉันเหรอ? จนถึงผู้ช่วยเหมันตร์พูดว่าสามารถดูกล้องวงจรปิดจึงยอมรับ ดังนั้นคุณไม่ควรกล่าวขอโทษเหรอ?”
“ก็ใช่สิ ประธานเยี่ยมบุญ สิ่งที่ประธานมายมิ้นท์พูดไม่ผิด พวกเราทั้งหลายล้วนเห็นนะ เมื่อกี้คุณยืนยันว่าแผนการพัฒนาเป็นของคุณไม่ใช่ของประธานมายมิ้นท์ ในใจคิดอะไรอยู่พวกเราล้วนรู้ ดังนั้นยังคงกล่าวขอโทษเถอะ มิฉะนั้น จะได้ไม่ยิ่งดูแย่กว่านี้” มีคนยิ้มพูด
เยี่ยมบุญโมโหจนสั่นระริกเรื่อยๆ แต่กลับตอบโต้ไม่ได้อีก ไม่งั้นเพียงจะทำให้คนเหล่านั้นยิ่งเยาะเย้ยตนเอง
เขาสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที กดความโมโหที่อยู่ในใจลงอย่างฝืนๆ จ้องมองมายมิ้นท์อยู่อย่างโกรธเคือง “ได้ ผมขอโทษ ขอโทษ พอใจหรือยังล่ะ”
“แม้ว่าการขอโทษของประธานเยี่ยมบุญมีความรู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อย แต่ประธานเยี่ยมบุญสามารถละทิ้งหน้าตามากล่าวขอโทษถือว่าไม่เลวมากแล้ว ฉันฝืนใจยอมรับล่ะ” มายมิ้นท์ยิ้มอยู่พูด
เยี่ยมบุญเกือบจะสลบไสลไป
คำว่าฝืนใจที่ดีมาก
ความแค้นในวันนี้ เขาจดจำไว้แล้ว!
“ผู้ช่วยเหมันตร์” ในเวลานี้ เปปเปอร์เอ่ยปากว่า “สั่งลงไปวันหลังส้มเปรี้ยวมาที่กรุ๊ป จะต้องนัดหมาย อย่าให้คนปล่อยเธอขึ้นไปโดยตรงอีก”
ผู้ช่วยเหมันตร์ดันแว่น “ครับ”
“เปปเปอร์คุณ……” เยี่ยมบุญประหลาดใจจ้องมองเปปเปอร์อยู่ ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทำอย่างนี้
มายมิ้นท์ก็มีความไม่อยากที่จะเชื่อเล็กน้อยเช่นกัน
หางตาเปปเปอร์กวาดผ่านเธอหนึ่งที นี่จึงจ้องมองเยี่ยมบุญอยู่ น้ำเสียงเย็นชาพูดว่า “นี่เป็นการลงโทษต่อส้มเปรี้ยวที่สับเปลี่ยนแผนการพัฒนา”
ปากของเยี่ยมบุญขมุบขมิบ ทันใดนั้นพูดไม่ออกเลย
มายมิ้นท์เงยหน้าจ้องมองเปปเปอร์หนึ่งทีเช่นกัน
เธอนึกไม่ถึง เขาที่ให้ท้ายส้มเปรี้ยวตลอดมา กลับกลายเป็นจะลงโทษส้มเปรี้ยวด้วย
พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกจริงๆ
“เปปเปอร์ อยู่ดีๆผมมีความรู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอตัวก่อนแล้วกัน” เยี่ยมบุญสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที พูดเสียงเข้ม
ถ้ายังไม่ไปอีก จะขายหน้าจนไม่เหลือชิ้นดี
เปปเปอร์ก็รู้ว่าเขาหลบหลีกอยู่เช่นกัน พยักหน้าเล็กน้อย “ผู้ช่วยเหมันตร์ส่งประธานเยี่ยมบุญออกไป”
“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ขานรับเสียงหนึ่ง จากนั้นทำท่าทางเชิญอย่างหนึ่งกับเยี่ยมบุญ
หลังจากเยี่ยมบุญไปแล้ว เปปเปอร์ปรบมือหนึ่งที “เอาล่ะประชุมต่อ”
นี่มายมิ้นท์จึงนั่งลง ประชุมต่อ
เยี่ยมบุญโกรธจนตัวสั่นกลับถึงตระกูลภักดีพิศุทธิ์
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์กำลังพอกหน้าอยู่ เห็นเขากลับมาแล้วยังประหลาดใจมาก “สามีจ๋า คุณทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้ประชุมเสร็จแล้วเหรอ?”
“ฮึ ยังจะประชุมอะไรล่ะ เกือบจะถูกทำให้โมโหจนตายอยู่ในการประชุม” เยี่ยมบุญโยนกระเป๋าเอกสารไว้บนโซฟา
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เอาแผ่นมาสก์หน้าออก “ตกลงเป็นยังไงล่ะ?”