รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 171 โดนตบหน้า
เยี่ยมบุญไม่ตอบกลับ พูดจาแปลกประหลาดว่า: “ส้มเปรี้ยวละ?”
“ส้มเปรี้ยวอยู่บนห้อง” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ตอบกลับ
เยี่ยมบุญหรี่ตาไปสักครู่ เดินขึ้นตึกไป
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เห็นเขาโมโหขนาดนี้ ก็รู้สึกกังวลอย่างยิ่ง
หรือเป็นเพราะส้มเปรี้ยวทำเรื่องอะไร ที่สร้างความบาดหมางให้เขาโมโห ?
คิดอย่างนี้แล้ว คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็รีบลุกขึ้น ตามขึ้นไป
เยี่ยมบุญมาถึงหน้าห้องส้มเปรี้ยว ยกมือเคาะประตูอย่างแรง
สักพัก ประตูก็เปิด ส้มเปรี้ยวใส่ชุดนอนยืนอยู่หลังประตู สีหน้าเหมือนยังนอนไม่ค่อยอิ่ม “พ่อ มีอะไรหรอกค่ะ?”
เยี่ยมบุญเห็นเธอทำตัวแบบนี้ ในใจก็โมโหยิ่งขึ้น
เขาหงุดหงิด โมโหจากที่ประชุมอย่างมาก แต่เธอกลับนอนอยู่ที่บ้านอย่างสุขสบาย
ยิ่งคิดยิ่งโมโห สุดท้ายเยี่ยมบุญทนไม่ไหว ยกมือขึ้น ตบไปอย่างแรง
เสียงดังเพียะ!
ส้มเปรี้ยวโดนตบจนล้มลงที่พื้น คนทั้งคนตกตะลึงไปหมด
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ที่วิ่งตามมาก็ส่งเสียงกรีดร้อง รีบไปกอดเธอไว้ “ส้มเปรี้ยว”
ส้มเปรี้ยวเอามือจับหน้าไว้ เงยหน้ามองเยี่ยมบุญที่สีหน้าโมโหอย่างไม่น่าเชื่อ
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน นอกจากตกตะลึง ยังมีความโกรธ “เยี่ยมบุญคุณบ้าไปแล้วเหรอ คุณตบลูกสาวทำไม?”
“ฉันตีมันทำไม แกถามมันดูสิว่ามันทำไรไป?” เยี่ยมบุญชี้ไปทางส้มเปรี้ยวด้วยมือที่สั่น
ส้มเปรี้ยวลุกขึ้นจากการประคองของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ น้ำตาคลอแล้วพูดว่า: “พ่อ ตกลงหนูทำไรไป พ่อพูดสิ”
“ใช่ นายพูดสิ” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ลูบหน้าลูกสาว ส่งสารลูกจนน้ำตาไหลออกมา “ส้มเปรี้ยว เจ็บไหมลูก?”
บนใบหน้าที่ขาวขนาดนี้กลับมีรอบนิ้วมือหลายที่
ดูจากการตบในเมื่อกี้ รู้เลยว่าเมื่อกี้เยี่ยมบุญตบแรงขนาดไหน
“เจ็บ” ส้มเปรี้ยวกัดริมฝีปากไว้ น้ำตาไหลออกมา
“เจ็บก็ถูกละ!” เยี่ยมบุญพูดอย่างเย็นชาว่า: “แกบอกกับฉันว่า ฉันจะได้รับตำแหน่งผู้ร่วมงาน ฉันยคิดว่าแกพูดโน้มน้าวให้เปปเปอร์ใช้เส้นสายให้กับฉัน แต่ฉันคิดไม่ถึงเลย แกแอบเปลี่ยนการวางแผนของคนอื่น”
ได้ยินประโยคนี้แล้ว ส้มเปรี้ยวก็หลบสายตาอย่างถ่อมตัว
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็ตกใจเหมือนกัน
แต่ไม่ช้า คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร “เปลี่ยนไปแล้วก็เปลี่ยนไปสิ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย ถึงกับต้องตบลูกเลยหรอ?”
“ใช่ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่มันผิดที่เธอทำงานไม่ละเอียด ปลีกตัวผู้ช่วยเหมันตร์ออกไป ตัวเองแอบเปลี่ยนข้อมูลเองในห้องรับเเขกที่มีกล้องวงจรปิด นี่ไม่ใช่นำหลักฐานส่งในมือให้คนอื่นชัดๆ เลยหรือ?” เยี่ยมบุญมองดูส้มเปรี้ยวอย่างเย็นชา
ส้มเปลี้ยนยืนตัวแข็ง “หนู……หนูไม่รู้ว่าที่นั่นมีกล้องวงจรปิด”
“ฮึ พึ่งมารู้ตอนนี้ มันสายไปแล้ว แกรู้หรอไม่ยัยมายมิ้นท์มันบอกว่าการวางแผนนี้ไม่ใช่ของฉัน แกรู้หรือไม่ตอนนั้นฉันรู้สึกอาบอายแค่ไหน ประธานยี่สิบกว่าคนนั่งอยู่ตรงนั้น หลังจากนี้ แกจะให้ฉันอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าต่อได้ไง!” เยี่ยมบุญเอ่ย
ส้มเปรี้ยวก้มหน้าลง ไม่กล้าส่งเสียง
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ลูบหลังของเขาเบาๆ “เยี่ยมบุญ คงไม่ร้ายแรงขนาดนั้นหรอมั้ง”
“จะไม่ขนาดนั้นได้ยังไง ครั้งนี้ฉันขายขี้หน้าขนาดนี้ ใครก็รู้ว่าฉันมีลูกสาวที่แอบเปลี่ยนการวางแผนของคนอื่น ลูกสาวที่มือเท้าไม่สะอาด ฉันกลายเป็นตัวตลกของเมืองเดอะซีรู้หรือไม่”
เยี่ยมบุญชี้ไปทางคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ “ยังมีคุณอีก คุณเชื่อหรือไม่ตอนนี้คุณออกไปเม้าท์มอยกับวงการค์คุณนายทั้งหลาย พวกเขาจะใช้สายตาเย้ยหยันมองดูคุณ”
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ได้ยินเช่นนี้ ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที “ไม่……ไม่หรอกมั้ง?”
“เป็นไปไม่ได้ได้ไง?” เยี่ยมบุญหัวเราะเยาะเย้ย
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็เชื่อคำที่เขาพูด มองดูส้มเปรี้ยวอย่างสับสน
ส้มเปรี้ยวรู้สึกได้ว่าคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็เริ่มโทษตัวเองแล้ว กัดฟันไว้อย่างแน่น ร้องไห้แล้วพูดว่า: “แต่ที่หนูทำไปก็เพื่อพ่อนะค่ะ หนูแค่อยากให้พ่อได้ตำแหน่งผู้ร่วมงาน”
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ได้ยินเช้นนี้ ความโทษในใจ ก็หายไปทันที พยักหน้า “ใช่แล้วเยี่ยมบุญ ส้มเปรี้ยวก็ประสงค์ดีแต่กลับเป็นร้าย”
เยี่ยมบุญพูดเยาะเย้ยว่า: “เป็นเพราะคุณนั้นแหละที่ตามใจมันเกินไป เลี้ยงให้มันเป็นแบบนี้ โหดร้ายก็ช่างเถอะ แถมยังโง่อีก ทำงานไม่เรียบร้อย ยังเหลือหลักฐานร่องรอยไว้อีก คุณเชื่อไหมล่ะ พวกเราทั้งบ้านต้องลำบากเพราะมันแน่ๆ”
ส้มเปรี้ยวเบิกตาโต “พ่อ?”
เขาไม่กลัาเชื่อเลยว่า พ่อจะดูเขาเช่นนี้ บอกว่านางโหดร้ายแล้วก็โง่
ทันใดนั้น ในใจส้มเปรี้ยวก็มีความแค้นปรากฏขึ้น ดวงตาทั้งคู่แดงไปหมด
เพื่อไม่ให้เยี่ยมบุญจับสีหน้าที่แปลกไปของเธอได้ เธอก็รีบก้มหัวลง ทำสีหน้าน้อยอกน้อยใจ น่าสงสารอย่างยิ่ง
เยี่ยมบุญรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย คงเป็นเพราะโมโหเกินไป
เขานวดขมับเบาๆ “สองวันนี้ แกอยู่บ้านสำนึกผิดดีๆ ละ”
พูดจบ เขาก็หันเดินออกไป เตรียมลงไปข้างล่างตึกกินยาแก้ปวดหัวสักหน่อย
พอเยี่ยมบุญไปแล้ว คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็รีบปลอบใจ: “ส้มเปรี้ยว เมื่อกี้พ่อหนูกำลังโมโหอยู่ คำที่พูดไปหนูไม่ต้องเก็บไปคิดในใจหรอกนะ”
ส้มเปรี้ยวพยักหน้า อืมอย่างเสียงสะอึก “แม่ หนูอยากอยู่เงียบๆ สักพักค่ะ แม่ออกไปเถอะ”
“อืม” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ถอนหายใจ แล้วเอ่ยตกลง
เขาลงมาถึงชั้นล่าง เห็นเยี่ยมบุญนั่งอยู่บนโซฟา กำลังเงยหน้ากินยาอยู่ กำลังจะบ่นเขาสักหน่อย พอเห็นภาพเช่นนี้ ก็บ่นไม่ลงแล้ว
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เดินไปแล้วนั่งลง “เยี่ยมบุญ ส้มเปรี้ยวรู้ผิดแล้ว เจ้าก็ให้อภัยเธอครั้งนี้เถอะ”
เยี่ยมบุญถอนหายใจ “ข้าแค่กลัว ยังมีรอบหนึ่งรอบสามอีกนะสิ ว่าแล้วไม่ใช่ลูกแท้……”
“เยี่ยมบุญ!” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เหมือนได้รับแรงกระตุ้นบางอย่าง รีบเร่งระดับเสียงเพื่อขัดจังหวะเขาทันที “คำแบบนี้ ห้ามพูดเด็ดขาด”
เยี่ยมบุญทำเสียง”ฮึ ” “ได้ๆๆ ฉันไม่พูด ยังไงฉันก็รู้ละ ส้มเปรี้ยวมันความฉลาดอยู่ แต่เป็นเพียงความเฉลียวฉลาดในเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง ทำงานไม่เคยเพอร์เฟคเลย อย่างนี้ต่อไปสักวันหนึ่งต้องเกิดเรื่องแน่ ฉันก็ไม่ไว้ใจที่นำเอสซีกรุ๊ปให้เธอหรอก แต่ว่ายังดี พวกเรายังมีชวนชมอยู่”
พูดถึงลูกสาวคนโต คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็เช็ดน้ำตา “นี่ก็จะสองวันแล้ว ทำไมชวนชมยังไม่มาหาพวกเรานะ เยี่ยมบุญ ฉันยิ่งอยู่ก็อยู่รู้สึกว่า เป็นเพราะชวนชมส่งสายที่พวกเราไม่เอาเธอหรือเปล่า ก็เลยไม่มา เยี่ยมบุญ พวกเราไปหาชวนชมเถอะ ให้ชวนชมรู้ว่า พวกเราไม่ได้ทอดทิ้งเธอ”
เยี่ยมบุญพยักหน้า “อืม เดียวฉันจะให้ผู้ช่วยกระจายข่าวในเน็ต คุณถ่ายรูปสร้อยของคุณแล้วส่งมาให้ฉัน”
“อืม!” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์หยุดร้องไห้ ยิ้มรับปากอย่างเร็ว
ราวบันไดบนชั้นสอง ส้มเปรี้ยวได้ยินว่าพวกเขากำลังตามหาชวนชม มื่อที่จับราวบันไดไว้ ก็จับแน่นขึ้น
ว่าแล้ว พี่สาวของเธอคนนี้ไม่ใช่คนดีไร ยังไม่กลับมา ก็จะแย่งความรักจากพ่อแม่ และการสืบถอมมรดกของเอสซีกรุ๊ปกับเธอ
ดังนั้น เธอจะให้พี่สาวที่แย้งของกับเธอกลับมาได้ไงละ!
ส้มเปรี้ยวหันหลังเดินเข้าห้อง หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรออกไป “ฮัลโหล ฉันเอง คนที่ฉันบอกให้เธอหา หาเจอหรือยัง?”
ทางโทรศัพท์มีเสียงของผู้ชายดังผ่านมา “ยังหาไม่เจอครับ”
ไอ่ขยะ!
ส้มเปรี้ยวโมโหกระทืบเท้า
สองวันแล้ว ก็ยังหาชวนชมไม่เจอ ไม่ใช่ขยะคืออะไร
“ฉันให้เวลาแกอีกสองวัน ถ้าแกยังหาไม่เจออีก แกรอไว้เลยนะ!” ส้มเปรี้ยวข่มขู่อย่างเย็นชา
จากนั้น เธอก็วางโทรศัพท์ลง เปลี่ยนเสื้อออกไปอย่างเร็ว ขับรถไปที่นวบดินทร์กรุ๊ป
ในเมื่อเรื่องที่เธอแอบเปลี่ยนการวางแผนถูกเปิดแผยหมดแล้ว ส่วนทางเปปเปอร์ เธอก็จำเป็นต้องรีบไปปลอบใจเขา
เมื่อถึงนวบดินทร์กรุ๊ป ส้มเปรี้ยวก็เดินไปลิฟต์ส่วนตัวของท่านประธานตามปกติ
ปรากฏว่ายังเดินไม่ถึงที่ลิฟต์ ก็ถูกพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เรียกหยุด “คุณส้มเปรี้ยว ไม่ทราบว่าคุณมีนัดไหมค่ะ?”
ส้มเปรี้ยวเบิกตาโตอย่างไม่น่าเชื่อ “นัด?ฉัน?”
“ใช่ค่ะ” พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ยิ้มและพยักหน้า แต่ในใจกลับคิดอยากรู้อยากเห็น
คุณส้มเปรี้ยวเลิกกับท่านประธานแล้วหรอ ไม่งั้นทำไมท่านประธานถึงไม่ให้เธอเข้าไปล่ะ?