รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 172 เหยียดหยามทั้งสอง
“เธอเป็นคนใหม่หรอ?” ส้มเปรี้ยวมองดูหน้ารีเซฟชั่นอย่างสีหน้าไม่ดี
พนักงานเคาน์เตอร์ส่ายหน้า “แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว”
“ในเมื่อไม่ใช่ แล้วเธอจะมาห้ามฉันทำไม เธอไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร?” ส้มเปรี้ยวชี้ตัวเอง
เธอเป็นคู่หมั้นของเปปเปอร์ อีกไม่นานก็จะเป็นภรรยาของท่านประทานนวบดินทร์กรุ๊ปหลังจากนี้
พนักงานหน้าเคาน์เตอร์นี้กล้าดียังไงมาขวางข้า?
เผชิญกับการค้อนติงของส้มเปรี้ยว พนักงานหน้าเคาน์เตอร์รู้สึกมีความกดดันอย่างมาก
เธอพยายามคงรอยยิ้มไว้บนใบหน้า ตอบกลับอย่างขอโทษว่า “คุณส้มปรี้ยว ฉันรู้ว่าคุณคือใครค่ะ แต่ฉันไม่สามารถปล่อยคุณขึ้นไปได้จริงๆ ค่ะ นี่คือคำสั่งของท่านประธานเปปเปอร์ค่ะ”
“คำสั่งของเปปเปอร์?” สั้มเปรี้ยวตกตะลึง แล้วหยิกฝ่ามืออย่างแน่น ถามอย่างเย็นชาว่า “สั่งว่าอะไร?”
“ท่านประธานเปปเปอร์สั่งว่า ต่อไปท่านมาบริษัทตระกูลนวบดินทร์ ต้องนัดไว้ล่วงหน้าก่อน ถ้าหักไม่นัดไว้ล่วงหน้า ก็ไม่ให้พวกเราปล่อยท่านเข้าไป หักคุณส้มเปรี้ยวไม่เชื่อ สามารถติดต่อกับท่านประธานเปปเปอร์เองได้เลยค่ะ”
พูดจบ พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ทำความเคารพ เดินไปขวางไว้หน้าลิฟต์ส่วนตัวของท่านประธาน ไม่ให้ส้มเปรี้ยวขึ้นไป
ส้มเปรี้ยวเห็นอย่างนี้ โมโหจนหน้าแดงไปหมด
รอไว้นะ เดียวเธอจะบอกให้เปปเปอร์ไล่พนักงานนี้ออกไป
ส้มเปรี้ยวทำเสียง”ฮึ” หันหลังเดินไปนั่งพักที่ล็อบบี้ แล้วโทรหาเปปเปอร์
เปปเปอร์ยังประชุมอยู่ที่โรงแรม ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย จแล้วมองดูหน้าจอโทรศัพท์
เห็นเป็นส้มเปรี้ยวโทรมา สีหน้าของเธอก็ไม่ค่อยดี จากนั้นก็วางสายเลยทีเดียว
ส้มเปรี้ยวเห็นหน้าจอโทรศัพท์ที่เด้งกลับเมนูหลัก คนทั้งคนตกตะลึงไปหมด
เปปเปอร์วางสายเธอเหรอ?
ในขณะที่โกรธ ในใจส้มเปรี้ยวก็รู้สึกวิกฤตเล็กน้อย
เขาทำไรอยู่?ทำไมไม่รับสายของเธอ?
เป็นเพราะเรื่องที่เธอเปลี่ยนการวางแผนเหรอ จึงโกรธไม่รับสายเธอ หรือว่า……
ส้มเปรี้ยวกัดริมฝีปากล่างของเธอ ไม่อยากคิดต่อไป แล้วโทรหาเปปเปอร์อีกครั้ง
ไม่ว่าจะยังไง เธอก็จะต้องให้เขารับสายให้ได้
“พูดเสร็จหมดแล้วใช่ไหม ต่อมาเรามาพูดถึงข้อควรระวังและกฎความร่วมมือกันนะครับ ฝ่ายผม……”
เปปเปอร์ยังไม่พูดจบ ก็ถูกเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นรบกวนอีกครั้ง
เขาเห็นเป็นส้มเปรี้ยวโทรมา อีกแล้ว สีหน้ามืดจนน่าเกลียด ในดวงตามีแววร่องรอยลำคัญผ่านไป จากนั้นก็วางสายอีกครั้ง
ปรากฏว่าวางสายไปไม่กี่วินาที ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ประทานผู้อาวุโสที่นั่งอยู่มุมล่างขวาของเขา แอบมองด้วยความสงสัย และเห็นชื่อที่บันทึกไว้บนมือถือของเขาเป็น ‘ส้มเปรี้ยว’ ก็หัวเราะ “ประธานเปปเปอร์ ในเมื่อเป็นคู่หมั้นโทรมาก็รับเถอะ หักมีเรื่องสำคัญอะไรละ”
มายมิ้นท์ที่อยู่ท้ายโต๊ะประชุมและอยู่ห่างจากเปปเปอร์มากที่สุด ได้ยินคำเหล่านี้ ก็เลิกคิ้วที่สวยของเธอ
ที่แท้คือส้มเปรี้ยวโทรมานี่เอง
มายมิ้นท์มองดูเปปเปอร์อย่างน่าสนใจ
เธอรักส้มเปรี้ยวมากไม่ใช่หรือ?
ตอนนี้กลับไม่รับสายส้มเปรี้ยวสักงั้น แถมยังลำคัญที่ส้มเปรี้ยวโทรมาอีก หรือว่าระหว่างสองคนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?
คนที่คิดแบบนี้ ไม่ใช่มีแค่มายมิ้นท์คนเดียว ประธานท่านอื่นก็คิดแบบนี้เหมือนกัน
เพราะการกระทำของเปปเปอร์เมื่อกี้ ทุกเห็นก็เห็นกับตาเหมือนกัน
ระหว่างประธานเปปเปอร์กับยัยตระกูลภักดีพิศุทธิ์นั้น หักเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาก็ควรที่จะกำหนดทัศนคติใหม่ที่มีต่อตระกูลภักดีพิศุทธิ์ใหม่แล้ว
สองเดือนนี้ ตั้งแต่ตระกูลภักดีพิศุทธิ์เอื้อมประธานเปปเปอร์ได้ ก็ทำเหมือนตัวเองสูงส่งขึ้น พวกเขาดูตระกูลภักดีพิศุทธิ์ขัดตามานานแล้ว แน่นอนว่าก็หวังว่าตระกูลภักดีพิศุทธิ์จะถูกประธานเปปเปอร์รังเกียจทอดทิ้ง
“ขอโทษนะครับ การประชุมขอหยุดชั่วคราว ผมออกไปรับโทรศัพท์แป๊บ” เปปเปอร์ไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไง จับโทรศัพท์ที่ยังดังอยู่แล้วลุกขึ้น
เธอรู้ว่า หักปล่อยให้เรื่องมันไปต่อโดยไม่สนใจ หักตัวเองยังไม่รับ ส้มเปรี้ยวก็จะโทรมาอีกแน่ๆ
ต่อให้ตัวเองปิดเครื่อง ส้มเปรี้ยวก็จะโทรหาผู้ช่วยเหมันตร์แน่เลย
“เข้าใจๆ เรื่องธุรกิจสำคัญ แต่เรื่องครอบครัวก็สำคัญ ท่านประธานเปปเปอร์รีบไปเถอะ อย่าปล่อยให้คู่หมั้นรอนานเกินไป” ประธานทั้งหลายยิ้มหัวเราะ
เปปเปอร์พยักหัวเล็กน้อย เดินออกไปจากห้องประชุม
แน่นอนว่าผู้ช่วยเหมันตร์ก็ตามออกไปด้วย
พอทั้งสองออกไปแล้ว ห้องประชุมก็ดูดเดือดขึ้นมาทันที
“ประธานเปปเปอร์เป็นหนุ่มหล่อหายากนะเนี้ย แต่เสียดาย สายตาที่ดูผู้หญิงไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ไปชอบยัยตระกูลภักดีพิศุทธิ์นั้นได้ พวกเองดูท่าทีการโทรโทรศัพท์ของยัยตระกูลภักดีพิศุทธิ์นั้นสิ ก็รู้เลยว่ามันโวยวายทะเลาะคุยอยากขนาดไหน คบกับผู้หญิงแบบนี้ ต่อไปประธานเปปเปอร์คงต้องเหนื่อยแน่เลยยย”
“จะไม่ใช่ได้ไงละ ก่อนหน้านี้ฉันมีคนรักหนึ่งคนก็เป็นแบบนี้ ไม่รับโทรศัพท์ก็โทรอยู่นั่นแหละ ลำคัญจะแย่อยู่แล้วเชียว”
“ประธานมายมิ้นท์” จู่ๆ ก็มีประธานคนหนึ่งหันมองมายมิ้นท์
มายมิ้นท์กำลังดื่มชาในขณะเผือกฟังพวกเขาพูดเรื่องของประธานเปปเปอร์กับส้อมเปรี้ยว กำลังฟังอย่างมีความสุขอยู่ ไม่คิดว่าจะมีคนCUEเธอ
“ประธานคณาธิป มีเรื่องอะไรหรือเปล่าค่ะ?” มายมิ้นท์วางแก้วชาลง ยิ้มอย่างสุภาพให้กับประธานที่เรียกเธอ
ประธานคณาธิปพูดว่า: “เทียบความสวย ความสามารถแล้ว เธอดีเยี่ยมกว่าหนูตระกูลภักดีพิศุทธิ์เยอะเลย ประธานเปปเปอร์หย่ากับเธอแล้วเลือกหนูตระกูลภักดีพิศุทธิ์นั้น ไม่มีบุญจริงๆ เลย”
มายมิ้นท์มองดูเขาสักครู่ ทันใดนั้นก็รู้ว่าในใจคนคนนี้คิดไรอยู่
คนคนนี้กำลังอิจฉารุ้นน้อง ที่แก่งกว่ารุ้นพี่สามารถคว้าตำแหน่งผู้ร่วมงานได้ ก็เลยอยากจะยุให้รำ ตำให้รั่วความสัมพันท์ระหว่างเธอกับเปปเปอร์และส้มเปรี้ยวทั้งสามคน เพิ่มความแค้นระหว่างทั้งสามคนให้มากขึ้น
ไม่เอาไหนจริงๆ เลย
มายมิ้นท์ด่าประธานคณาธิปในใจให้ยับไปแล้วหลายครั้ง ต่อหน้ากลับยิ้มแล้วพูดว่า: “ประธานคณาธิปล้อเล่นแล้วมั้งค่ะ เหมือนประธานเปปเปอร์นั้นจะเรียกว่าไม่มีบุญได้ไงค่ะ กลับกันแล้วเธอยังมีบูญมากเลยค่ะ เพราะเธอหารักแท้เจอแล้ว อีกอย่างตอนนี้กำลังนิยมแบบเทพบุตรที่เก่งทุกอย่างกับสาวน้อยเกเรไม่ใช่หรือค่ะ?ประธานเปปเปอร์ก็ชอบสาวน้อยเกเรเหมือนคุณส้มเปรี้ยวนั่นแหละค่ะ ส่วนฉัน……”
มายมิ้นท์ยิ้มแย้มกว่าเดิม “ประธานคณาธิปเมื่อกี้ท่านก็พูดแล้วว่า ฉันสวยกว่ามีความสามารถเยี่ยมกว่าคุณส้มเปรี้ยว ดังนั้นฉันก็ขอหน้าด้านเรียนตัวเองว่าเทพธิดาที่เก่งนะคะ เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องหาแฟนหนุ่มสไตล์แบ๊วๆ ใสๆ ที่เหมือนกับสาวน้อยเกเรอย่างคุณส้มเปปรี้ยวสิคะ แฟนหนุ่มหล่อ ปากหวานอ้อนคนเป็น เพราะฉะนั้นฉันกับประธานเปปเปอร์หย่ากัน กับฉันและประธานเปปเปอร์ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ต่อไปประธานคณาธิปก็อย่าพูดอะไรว่าไม่มีบุญนะคะ”
“ประธานมายมิ้นท์พูดถูกครับ……” ประธานคณาธิปฝืนยิ้ม
ผู้หญิงคนนี้หน้าด้านจริงๆ เลย เหยียดหยามประธานเปปเปอร์และยัยตระกูลภักดีพิศุทธิ์ บอกประธานเปปเปอร์ชอบรสนิยมแปลกประหลาด ชอบคนที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ยังบอกประธานเปปเปอร์ไม่หนุ่ม อ้อนคนไม่เป็น เทียบแฟนหนุ่มสไตล์แบ๊วๆ ใสๆ ไม่ได้ แถมยังบอกยัยตระกูลภักดีพิศุทธิ์นั้นคือของที่ไม่มีประโยชน์ที่ประธานเปปเปอร์ชอบ
พอพูดเสร็จ เธอยังหน้าด้านมาชมตัวเองอีก ทำให้คนยอมรับความพ่ายแพ้อย่างจริงใจเลย
ไม่เพียงแต่ประธานคณาธิปเท่านั้นที่รู้สึกพูดไม่ออก ประธานคนอื่นๆ ก็รู้สึกไม่รู้จะพูดไรกับการวิจารณ์ของมายมิ้นท์ที่พูดให้ประธานคณาธิป
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็รู้แก่ใจว่า ยัยมายมิ้นท์นี้ไม่ใช่เป็นคนที่จะไปยั่วได้ง่ายๆ เลย หากกล้าที่จะทำไรไม่ดีต่อเธอ เธอก็กล้าที่จะเอาคืนแน่นอน
มันก็ใช่ หากเป็นคนที่ยั่วได้ง่ายๆ เลย เยี่ยมบุญก็คงไม่เสียเปรียบในมือเธอหรอก
มายมิ้นท์จ้องมองพวกคนที่หยุดพูดและสงบลง ยกแก้วชาขึ้นมาอีกครั้ง ปิดปังรอยยิ้มบนมุมปาก
นอกห้องประชุม เปปเปอร์รับโทรศัพท์
เธอยังไม่ทันเอ่ยปาก เสียงส้มเปรี้ยวก็ดังผ่านมา มีความน้อยใจแล้วบ่นว่า “เปปเปอร์ ทำไมคุณถึงไม่รับสายฉัน?”
“ผมกำลังประชุมอยู่” เปปเปอร์ขมวดคิ้ว ตอบอย่างเฉยชา
ส้มเปรี้ยวกัดริมฝีปากไว้ “แต่ว่าเมื่อก่อนตอนคุณประชุม ก็รับสายฉันนี่นะ เปปเปอร์ คุณโกรธฉันแล้วใช่หรือไม่?”
นัยน์ตาเปปเปอร์มองลง ปกปิดความหมองคล้ำในดวงตา “งั้นเธอลองพูดดูสิว่า ผมโกรธไรคุณ?”
“โกรธที่ฉันเปลี่ยนการวางแผนของคุณมายมิ้นท์ไป” ส้มเปรี้ยวตอบกลับอย่างเบา
เปปเปอร์เม้มปาก “ดูท่าแล้วคุณก็รู้แล้วสินะ”
“อืม คุณพ่อกลับมาบอกฉันเอง” ส้มเปรี้ยวพยักหน้า “ดังนั้นฉันจึงรีบไปหาคุณที่บริษัทตระกูลนวบดินทร์ไงละ อยากอธิบายให้คุณฟัง แต่ว่าฉันขึ้นไปไม่ได้ เปปเปอร์ คุณเป็นคนบอกให้พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ ห้ามให้ฉันขึ้นไปเหรอ?