รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 190 หลานชายของทามทอย
ใช่ ผมสืบมาแล้วว่าส้มเปรี้ยวเองก็กำลังตามหาชวนชม” ทามทอยส่งเสียงอืมหนึ่งครั้งแล้วตอบ
มายมิ้นท์เลิกคิ้ว “นี่มีอะไรเหรอ ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาเหรอ ชวนขมเป็นพี่สาวเธอ เธอจะตามหาชวนชมก็ไม่เห็นแปลกเลยสักนิดเดียวนี่คะ”
“ไม่ๆๆ” ทามทอยโบกไม้โบกนิ้วมือ “ที่เธอตามหาชวนชมไม่ใช่เพราะความรักของพี่สาวน้องสาว แต่เพื่อจะให้ชวนชมไปให้ไกลๆ ไม่ต้องปรากฏที่เมืองเดอะซีอีกตลอดไป ไม่ปรากฏตัวต่อหน้าเยี่ยมบุญสองสามีภรรยา”
“ทำไม” มายมิ้นท์ถลึงตามองอย่างแปลกใจ
ทามทอยเบ้ปาก “ยังจะทำไมได้อีกล่ะ เห็นแก่ตัวไง ถ้าตระกูลภักดีพิศุทธิ์มีเธอเป็นลูกแค่คนเดียว เธอก็จะเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลภักดีพิศุทธิ์และเอสซีกรุ๊ป แต่ถ้าชวนชมกลับมา เธอก็ไม่ใช่หนึ่งเดียวอีกต่อไปแล้ว”
“ฉันเข้าใจแล้ว ชวนชมส่งผลกระทบต่อสภานะของเธอ” มายมิ้นท์เชิดหน้า
ทามทอยดีดนิ้ว “บิงโก ก็คือแบบนี้ อีกอย่างผมได้ยินว่าเยี่ยมบุญยุบทีมอีลิทไปหนึ่งทีม คุณเดาได้มั้ยว่าทีมอีลิทนั้นจะทำอะไร”
“ทำอะไรเหรอคะ” มายมิ้นท์เอียงคอ
ทามทอยตอบว่า “ทีมอีลิทนั้น นี่คือสิ่งที่เยี่ยมบุญเตรียมไว้สำหรับส้มเปรี้ยวเป็นพิเศษ เยี่ยมบุญวางแผนไว้ว่ารอให้ถึงปีถัดมา ส้มเปรี้ยวและเปปเปอร์จัดงานหมั้นขึ้นใหม่ ก็จะทำให้ส้มเปรี้ยวเข้าไปในเอสซีกรุ๊ปอย่างมีอำนาจ ทีมอีลิท ก็คือกองหนุนที่เยี่ยมบุญเตรียมไว้ให้ส้มเปรี้ยว แต่ตอนนี้กลับยุบไปแล้วคุณลองเดาสิว่านี่มีสาเหตุจากอะไร”
นัยน์ตามายมิ้นท์เป็นประกาย “เยี่ยมบุญไม่อยากให้ส้มเปรี้ยวเป็นทายาทของเอสซีกรุ๊ปเลย
“ใช่ ก็มีแค่คำตอบนี้ จึงจะสามารถอธิบายการกระทำของเยี่ยมบุญที่ยุบกองทีมอีลิทได้ ผมเดาว่าเยี่ยมบุญอยากจะอบรมฝึกฝนชวนชม ส้มเปรี้ยวรู้เรื่องนี้เข้า จึงแทบจะทนไม่ไหวอยากจะตามหาตัวชวนชมให้เจอก่อน แล้วส่งชวนชมไปให้พ้น” ทามทอยพูดพลางลูบใต้คาง
มายมิ้นท์กระตุกรอยยิ้มเยาะหยัน “ ต่อให้ไม่เกี่ยวข้องกับทายาทของเอสซีกรุ๊ปและตระกูลภักดีพิศุทธิ์ ฉันเชื่อว่าส้มเปรี้ยวก็ต้องทำแบบนี้ คุณลองคิดดู ชวนชมเด็กขนาดนั้นก็แยกจากเยี่ยมบุญคู่สามีภรรยาแล้ว ถ้าหาตัวเธอกลับไป เยี่ยมบุญสองสามีภรรยาต้องใส่ใจดูและชวนชมมากยิ่งขึ้นแน่ ด้วยเหตุนี้อาจจะทำให้ละเลยเพิกเฉยส้มเปรี้ยวไป คุณคิดว่าจะรับไหวเหรอ”
“ที่คุณพูดก็ถูก” ทามทอยพยักหน้า จากนั้นแววตาก็ฉายแสงสว่างวาบ “มายมิ้นท์ จู่ๆผมก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมา”
“ความคิดอะไรคะ” มายมิ้นท์สนใจ
ทามทอยกระแอมหนึ่งครั้ง “คุยในโทรศัพท์ไม่สะดวกพวกเราออกมาคุยกันหน่อยเถอะ”
มายมิ้นท์ดูนาฬิกาข้อมือ ใกล้จะหกโมงแล้ว ข้างนอกฟ้ามืดแล้ว กำลังคิดจะปฏิเสธ
ทามทอยที่อยู่ปลายสายนั้นราวกับเดาได้ รีบเอ่ยปากก่อนที่เธอจะพูด “พรุ่งนี้ผมจะไปต่างประเทศ ไม่มีเวลาแล้ว ดังนั้นถ้าจะคุยกัน ก็มีแค่วันนี้วันเดียว อีกอย่างเรื่องที่ผมจะคุยกับคุณจะรีรอไม่ได้ ถ้าปล่อยนานเกินไป ก็ไม่มีความหมายแล้ว”
ได้ยินดังนั้น มายมิ้นท์ก็กัดริมฝีปาก สุดท้ายจึงรับปาก “ได้ จะคุยกันที่ไหนคะ”
ทามทอยได้ยินว่าเธอตกลงแล้ว ก็กำหมัดอย่างตื่นเต้น ปากก็ยังรักษาความใจเย็นพูดว่า “ดรีมไวด์ เป็นไง”
ไปออกเดทที่นั่น น่าจะไม่เลว
ได้ยินว่าเด็กผู้หญิงต่างก็ชอบไปที่แบบนั้น
“สวนสนุกเหรอ” มุมปากมายมิ้นท์กระตุก “แค่พูดคุยกัน หาร้านกาแฟอะไรสักร้านก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องไปที่แบบนั้นด้วย”
แววตาทามทอยมองไปทางอื่นอย่างน้อยใจ “ประเด็นสำคัญก็คือพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องผมและพี่สะใภ้เดินทางไปทำธุรกิจ ทิ้งลูกชายของพวกเขาไว้ให้ผม เด็กคนนั้นก็ร้องจะไปสวนสนุก ดังนั้น……มายมิ้นท์ คุณก็ช่วยผมหน่อยเถอะ ขอร้อง”
มายมิ้นท์ได้ยินคำร้องขอที่น่าสงสารของเขา นวดเบาๆที่หว่างคิ้ว “ก็ได้ งั้นก็ไปที่นั่น”
ใบหน้าทามทอยเผยให้เห็นรอยยิ้มแห่งความสำเร็จ “ได้ งั้นผมไปรับคุณ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันขับรถไปเองจะเร็วกว่าหน่อย เจอันที่ประตูสวนสนุกนะคะ” มายมิ้นท์พูดพลางยิ้ม
ทามทอยส่งเสียงตอบรับอืม จากนั้นก็วางสาย
เขาวางโทรศัพท์มือถือลง รีบวิ่งไปชั้นล่างมาที่ห้องรับแขก อุ้มหลานตัวน้อยที่กำลังนั่งเล่นจิ๊กซอว์อยู่บนโซฟาขึ้นมา หอมแรงๆฟอดหนึ่ง “ไมโล ไป อาพาหลานไปเที่ยวสวนสนุก”
เด็กน้อยไมโลเช็ดหน้าอย่างรังเกียจ “ผมไม่ไป สวนสนุกมีอะไรสนุก สู้เล่นจิ๊กซอว์ที่บ้านไม่ได้”
ได้ยินคำนี้ ทามทอยที่เมื่อก่อนพึงพอใจในความเงียบเรียบร้อยของไมโลมากแค่ไหน ตอนนี้ก็รู้สึกเกลียดความเก็บตัวเรียบร้อยนี้มาก
เขาอุ้มเด็กน้อยออกไปข้างนอก “ไม่ได้ หลานต้องไป เพื่อเรื่องสำคัญในชีวิตของอา หลานก็ช่วยเสียสละหน่อยเถอะนะ”
“……ไม่!” ไมโลร้องคร่ำครวญ
มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าที่ทามทอยนัดเธอออกไปพูดคุย ความจริงแล้วยังมีจุดประสงค์อื่นด้วย
หลังจากเธอวางสายแล้ว ก็ขับรถไปที่สวนสนุก
เมื่อถึงสวนสนุก ก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่ม
มายมิ้นท์จอดรถเรียบร้อย เพิ่งจะปลดล็อคเข็มขัดนิรภัย ก็ได้ยินเสียงเคาะหน้าต่างรถ
เธอก้มลงมอง ใบหน้าเล็กๆแสนน่ารักปรากฏตรงหน้าเธอ เรียกเธอด้วยเสียงเล็กๆหวานๆว่า “น้าสะใภ้”
มายมิ้นท์ตกใจเสียงที่เรียกว่าน้าสะใภ้ของเด็กน้อยไปชั่วขณะ จากนั้นก็ลูบหน้าเด็กน้อย หัวเราะออกมา “หนูน้อย หนูจำคนผิดแล้วจ้ะ ฉันไม่ใช่อาสะใภ้หนู”
“ผมไม่ได้จำผิดครับ คุณก็คือน้าสะใภ้ผม” เด็กน้อยพูดพลางดึงมือของเธอ
มายมิ้นท์กะพริบตาปริบๆ ไม่ได้ดึงมือออกมา ปล่อยให้เด็กน้อยดึง
ประเด็นคือหนูน้อยคนนี้น่ารักมาก ขาวๆอ้วนๆ เห็นแล้วทำให้เธอชอบมาก
อีกอย่างมือของเด็กน้อยเองก็นุ่มนิ่ม มือที่ดึงเธอก็เหมือนกับฟองน้ำ สบายมากเป็นพิเศษ ทำให้เธอเองก็รู้สึกไม่อยากจะดึงมือออกมา
ที่แท้เด็กน้อย ก็น่ารักแบบนี้นี่เอง
ลูกในท้องของเธอ ก็จะน่ารักเหมือนกับเด็กน้อยคนนี้หรือเปล่านะ
มืออีกข้างของมายมิ้นท์คลำที่ท้อง อดที่จะคิดไม่ได้
แต่ไม่นาน เธอก็ดึงมือออก แววตากลับมาสงบตามปกติใหม่อีกครั้ง
ไม่ จะคิดต่อไปอีกไม่ได้
ไม่อย่างนั้น จะกระทบความคิดที่จะเอาเด็กคนนี้ออก
หลับตาลง มายมิ้นท์สูดลมหายใจลึกๆ สายตามองไปที่ใบหน้าของเด็กน้อยอีกครั้ง “หนูน้อย ผู้ใหญ่ที่มากับหนูอยู่ไหนจ๊ะ”
“อยู่ที่นี่ครับ” ทันใดนั้น ร่างสูงปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเด็กน้อย ย่อตัวลง ยิ้มยิงฟันขาวให้มายมิ้นท์
มายมิ้นท์ตกใจเล็กน้อย “ทามทอย”
“คุณอา” เด็กน้อยปล่อยมือเธอ เงยหน้าเรียกทามทอยที่อยู่ด้านหลัง
มายมิ้นท์ได้ยินแล้ว ก็เข้าใจทั้งหมดได้ทันที “ที่แท้เด็กน้อยคนนี้ก็คือหลานชายคุณเอง”
“ใช่ครับ น่ารักมั้ย” ทามทอยอุ้มเด็กน้อยขึ้นมา “เขาชื่อว่าไมโล。”
“น่ารักมากค่ะ” มายมิ้นท์พยักหน้า
ไมโลกอดคอของทามทอยเอาไว้ “อาสะใภ้ก็สวยมากครับ”
มายมิ้นท์เหล่มองทามทอย “คุณบอกให้เขาเรียกเหรอคะ”
“ไม่ใช่ครับ เขาเรียกเอง คงเพราะผมนัดคุณออกมา เขาเลยคิดว่าคุณเป็นแฟนผม ผมแก้ไขให้เขาเรียกให้ถูกแล้ว ใครจะไปรู้ว่าเขาก็ยังเรียกเหมือนเดิมผมก็ไม่รู้จะทำยังไง คุณอย่าถือสาเลยนะครับ” ทามทอยพูดด้วยสีหน้าเขินๆ
ไมโลหัวเราะหึๆอยู่ในใจ
อะไรที่บอกว่าเขาเรียกเอง เห็นชัดว่าคุณอาตัวร้ายคนนี้เป็นคนบอกให้เรียกแบบนี้
ถ้าไม่เป็นเพราะTransformers ชุดลิมิเต็ดอิดิชั่นชุดนั้น เขาก็คงจะไม่ถูกใส่ร้ายแบบนี้
“ไม่ถือสาค่ะ” มายมิ้นท์ส่ายหน้า จากนั้นก็เกิดประตูลงจากรถ ยิ้มพลางพูดกับไมโลอย่างอ่อนโยนว่า “ไมโล ฉันไม่ใช่แฟนของคุณอาหนูนะ ดังนั้นหนูจะเรียกว่าอาสะใภ้ไม่ได้ หนูควรจะเรียกฉันว่าคุณน้าจ้ะ”
“ไม่ ผมจะเรียกคุณว่าอาสะใภ้ครับ อุ้ม!” ไมโลปล่อยมือจากคอของทามทอย ยื่นมือออกไปให้เธออุ้ม
มายมิ้นท์พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเล็กน้อย จับใต้รักแร้ของเด็กน้อย เอาเด็กน้อยมาอุ้มไว้
ช่างเถอะ อาสะใภ้ก็อาสะใภ้
ให้เด็กเรียกไม่กี่ครั้ง ก็คงไม่ได้ทำให้สึกหรออะไร
“มายมิ้นท์ คุณวางแกลงเถอะ คุณยังท้องอยู่นะ” ทามทอยพูดพลางมองที่ท้องของมายมิ้นท์
มายมิ้นท์หอมแก้มไมโล “ไม่เป็นไรค่ะ ไมโลไม่หนัก อีกอย่างฉันก็ชอบเขามากเลย”
ไม่ไกลจากตรงนั้น เปปเปอร์มองเห็นภาพนี้ ก็เม้มปาก