รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 193 คุณอาที่ตาบอด
ผู้ช่วยเหมันตร์จับที่ผม
มายมิ้นท์กับคุณทามทอยแยกจากกันแล้ว แต่เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนั้น ทำไมถึงยังอยู่กับคุณมายมิ้นท์อีก
หรือว่า อีกเดี๋ยวคุณทามทอยจะกลับมา
ได้ยินคำพูดของผู้ช่วยเหมันตร์ เปปเปอร์ก็หน้าบึ้ง
มายมิ้นท์ไม่ได้กลับไปก็ไม่เท่าไหร่ ทำไมทามทอยยังทิ้งหลานชายเอาไว้กับเธออีก
“ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน” เปปเปอร์เม้มปากถาม
ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบว่า “อยู่ทางถ้วยชาม้าหมุนนี่ครับ คุณมายมิ้นท์พาไมโลไปเล่น เล่นอย่างมีความสุขมากเลยครับ”
มีความสุข……
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว
คิดไม่ถึงว่า เธอจะเหมือนเด็กน้อยแบบนี้ ยังเล่นของเล่นพวกนี้
“ผมรู้แล้ว จับตาพวกเขาไว้ อย่าให้มายมิ้นท์ทำเด็กหายไป” เปปเปอร์สั่งเสียงเข้ม
ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าพลางกลั้นหัวเราะ “เข้าใจแล้วครับ”
อะไรที่บอกว่าอย่าให้มายมิ้นท์ทำเด็กหายไป
เห็นชัดว่าประธานเปปเปอร์แค่อยากรู้ว่าคุณมายมิ้นท์ทำอะไรตลอดเวลาเท่านั้นเอง แต่ไม่อยากบอกตรงๆ ก็เลยเอาเด็กมาเป็นข้ออ้าง
อีกด้าน บนถ้วยชาม้าหมุน
ไมโลหัวเราะอย่างมีความสุขมาก “คุณอาสะใภ้สนุกจริงๆเลยครับ”
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดมาตลอดว่านิสัยของตนเองเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กทั่วไปมาก ดังนั้นจึงไม่ชอบมาเที่ยวสถานที่แบบนี้ คิดว่าสถานที่แบบนี้มีแต่เด็กเล็กๆที่ไร้เดียงสาเท่านั้นถึงจะชอบมาเที่ยว
แต่หลังจากวันนี้ได้มาแล้ว เขาก็พบว่า ที่นี่สนุกมากจริงๆ
มายมิ้นท์เห็นไมโลปล่อยมือจากที่จับ ก็รีบไปอุ้มเขาเอาไว้ “ไมโลระวังหน่อย อย่าปล่อยมือจากที่จับ รีบจับเอาไว้เร็ว”
แม้ว่าถ้วยชาม้าหมุนจะไม่ได้อันตรายเหมือนเครื่องเล่นอย่างอื่น
แต่เพราะเป็นเด็กเล็ก ก็ยังต้องระมัดระวัง
“ครับคุณอาสะใภ้” ไมโลเอามือกลับไปจับที่เดิมอย่างเชื่อฟัง
หลังจากเล่นไปรอบหนึ่งลงมาแล้ว ไมโลก็ยังอารมณ์ค้างอยู่
มายมิ้นท์เห็นอย่างนั้น ก็ได้แต่พาเขาไปเล่นอีกหนึ่งรอบ
ลงมาจากการเล่นรอบนี้ ไมโลก็น่าจะพอใจแล้ว จากนั้นเขาก็ลูบท้อง “คุณอาสะใภ้ครับ ไมโลเริ่มหิวแล้วครับ”
“หิวแล้วเหรอ” มายมิ้นท์มองซ้ายมองขวา มองเห็นร้านอาหารร้านหนึ่งไม่ไกลจากตรงนั้น ยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นอาพาไปกินของกินดีมั้ย กินเสร็จแล้ว เล่นอีกหน่อยแล้วก็กลับบ้านกัน”
“ครับ” ไมโลพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
มายมิ้นท์ชอบเด็กคนนี้แล้ว ลูบศีรษะเขา จูงเขาไปที่ร้านอาหาร
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เปปเปอร์เองก็รู้ข่าวว่ามายมิ้นท์กับไมโลไปร้านอาหาร
“ประธานเปปเปอร์ ท่านก็จะไปเหรอครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ถาม
เปปเปอร์หน้าบึ้ง “ผมจะไปทำไม”
“ไปดูคุณมายมิ้นท์ อย่าให้ไมโลหายตัวไปล่ะ ถ้าคุณมายมิ้นท์ไปห้องน้ำ ก็พาไมโลเข้าไปด้วยไม่ได้อีก ทิ้งไมโลไว้ที่ร้านอาหารคนเดียวอันตรายแค่ไหน ท่านเป็นเพื่อนคุณทามทอย คงไม่อยากให้ไมโลเกิดอันตรายขึ้นแน่นอนใช่มั้ยครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ดันแว่นตา พูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
แววตาเปปเปอร์เปล่งประกาย ลุกขึ้นจากโซฟา “ผมเข้าใจแล้ว งั้นผมไปดูหน่อยแล้วกัน”
“ครับ งั้นผมไปจองที่นั่งในร้านอาหารให้ท่านก่อนนะครับ” แว่นตาของผู้ช่วยเหมันตร์สะท้อนแสง
เปปเปอร์ส่งเสียงอืม แล้ววางโทรศัพท์มือถือลง
ผู้ช่วยเหมันตร์เองก็วางโทศัพท์มือถือลงแล้ว ถอนหายใจ
เพื่อนช่วยให้เจ้านายรับรู้ถึงความรู้สึกที่มีต่อคุณมายมิ้นท์ได้เร็วขึ้น เขาต้องเสียสละทำอะไรมากมายเหลือเกิน
ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายหน้า ก้าวเข้าไปในร้านอาหาร
ที่นั่งมุมหนึ่งในร้านอาหาร มายมิ้นท์พาไมโลมานั่งกินอาหารที่นี่
เธอไม่รู้ว่าเด็กน้อยกินอะไรได้บ้าง ดังนั้นจึงสั่งอาหารที่รสชาติไม่จัดจ้านมากมาหลายอย่าง
ผ่านไปสักพัก ไมโลวางตะเกียบลง “อาสะใภ้ครับ ผมอยากไปฉี่”
“ฉี่เหรอ” มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว จู่ๆก็เกิดปัญหายุ่งยากขึ้นมา
ไมโลเป็นเด็กผู้ชาย เธอเข้าไปห้องน้ำชายไม่ได้ และพาไมโลไปห้องน้ำผู้หญิงไม่ได้ เอาไมโลให้พนักงานพาไป เธอก็ไม่สบายใจ
ทำอย่างไรดี
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ใบหน้าเล็กๆของไมโลก็แดงก่ำ “อาสะใภ้ครับ ผมจะอั้นไม่ไหวแล้วครับ”
มองเห็นท่าทางทรมานของเด็กน้อย มายมิ้นท์ก็นวดตรงหว่างคิ้ว “ช่างเถอะ อาสะใภ้ไปเรียกพนักงานมาพาหนูไปนะ หนูรออาที่นี่ก่อน ห้ามไปไหนรู้มั้ย”
ถ้าเกิดหายตัวไป เธอคงไม่สามารถชดใช้ความผิดนี้ได้
เด็กน้อยรีบพยักหน้า
มายมิ้นท์ลุกขึ้น เตรียมไปเรียกพนักงาน
เพราะว่าเดินเร็วเกินไป เธอก็เลยไม่ได้มองทางข้างหน้า ก็เลยชนเข้ากับคนที่เดินมาจากข้างหน้า
ไหล่มายมิ้นท์ถูกชนกระแทก หลังจากส่งเสียงร้อง ก็ถอยหลังไปสองก้าว
ผลของก้าวนี้ก็ไม่สามารถยืนได้มั่นคง ร่างหงายล้มไปด้านหลัง
วินาทีที่ล้มลงไปนั้น จู่ๆในหัวมายมิ้นท์ก็มีคำว่าลูกผุดขึ้นมาในหัว
เธอปกป้องท้องอย่างไม่รู้ตัว ไม่อยากล้มบนพื้น ทำให้ลูกในท้องเกิดการกระทบกระเทือน
วินาทีที่มายมิ้นท์ใกล้จะล้มลงบนพื้นนั้น จู่ๆก็มีมือใหญ่ยื่นมา จับข้อมือเธอไว้ แล้วดึงอย่างแรง
ร่างทั้งร่างของมายมิ้นท์ก็ถูกดึงขึ้นมา พุ่งไปข้างหน้า เข้าไปในอ้อมกอดที่มีกลิ่นมิ้นท์
“ไม่เป็นไรนะ” เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นบนศีรษะ แฝงด้วยความตื่นตระหนกที่มองไม่เห็น
มายมิ้นท์ฟังออกว่าเป็นเสียงใคร เงยหน้ามองไป เผชิญหน้ากับชายหนุ่มพอดี
ทันใดนั้น มายมิ้นท์ก็ผลักเขาออก ถอยหลังไปเล็กน้อย ข่มความกลัวภายในใจ พยายามตอบกลับอย่างสงบเยือกเย็น“ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะ”
“เมื่อกี้คุณเดินอย่างรีบร้อนขนาดนี้ไปทำอะไร” เปปเปอร์มองเธอพลางเอ่ยถาม
เขาเพิ่งจะมาถึงร้านอาหาร
คิดไม่ถึงว่า พอมาถึงก็ชนเข้ากับเธอเลย
มายมิ้นท์ได้ยินคำถามของชายหนุ่ม ก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นได้ทันที จึงไม่ได้สนใจจะตอบ มองซ้ายมองขวา มองเห็นว่าข้างหน้ามีพนักงานหนึ่งคน ยกมือเรียกมาหา
“คุณผู้หญิงมีอะไรให้รับใช้ครับ” พนักงานเอ่ยถาม
มายมิ้นท์พูดว่า “ฉันมีเด็กคนหนึ่ง เป็นเด็กผู้ชายค่ะ ฉันไม่สะดวกที่จะพาแกไปห้องน้ำ จึงขอรบกวนคุณหน่อย……”
“ผมพาเขาไปเอง” เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเปปเปอร์ขัดจังหวะขึ้นมา
มายมิ้นท์มองเขาอย่างแปลกใจ “คุณ”
เปปเปอร์พยักหน้า “ไมโลเป็นหลานชายของทามทอย คุณไว้ใจที่จะเอาตัวเขาให้พนักงานที่ไม่รู้จักเหรอ”
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดง
แน่นอนว่าไม่วางใจ ต่อให้เป็นพนักงานก็ไม่ไว้ใจ
ถ้าเกิดพนักงานถูกเรียกไประหว่างทาง ไมโลจะทำอย่างไร
แต่นี่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธี
เห็นมายมิ้นท์พูดไม่ออก ในดวงตาเปปเปอร์สว่างวาบ พูดอีกว่า “ดังนั้นผมพาเขาไปเอง อย่างน้อยผมเป็นคนที่คุณรู้จัก”
มายมิ้นท์หลับตา ตอนที่ลืมตา ในใจก็มีการตัดสินใจแล้ว
“งั้นก็ได้ค่ะ รบกวนประธานเปปเปอร์ด้วยนะคะ” เธอยิ้มให้เขาอย่างซาบซึ้ง
เปปเปอร์ส่งเสียงอืม “เด็กล่ะ”
“อยู่ที่โต๊ะค่ะ”
พูดพลาง มายมิ้นท์ก็พาเขาไป
ไมโลมองเห็นเธอกลับมา ก็กระโดดลงจากโซฟา “อาสะใภ้”
“ไมโล ให้คุณอาคนนี้พาหนูไปห้องน้ำดีมั้ยคะ เขาเป็นเพื่อนกับคุณอาหนู นามสกุลนวบดินทร์” มายมิ้นท์ชี้ไปยังเปปเปอร์พร้อมเอ่ยแนะนำ
ไมโลมองเปปเปอร์ เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “ที่แท้ก็คือคุณอาเปปเปอร์นี่เอง”
“นายรู้จักฉันด้วยเหรอ ทามทอยเคยบอกเธอเหรอ” มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว
ไมโลพยักหน้า “คุณอาเคยบอกว่า คุณก็คือคนที่คุณอาบอกว่า คือคุณอาที่ตาบอดคนนั้น”
เปปเปอร์หน้าดำหน้าแดงขึ้นมาชั่วขณะ
มายมิ้นท์อดขำไม่ได้ หัวเราะออกมา
เธอพอจะรู้ว่าคนตาบอดที่ทามทอยพูดนั้นหมายความว่าอะไร
คนที่รักคนอย่างส้มเปรี้ยว ไม่ใช่คนตาบอดหรอกหรือ
“ทามทอยสอนหนูแบบนี้เหรอ” เปปเปอร์กัดฟันกรอด พูดเสียงขรึม
ไมโลกะพริบตาปริบๆ “ใช่ครับ คุณอาบอกผมแบบนี้ แต่คุณอาครับ คุณอาก็ไม่ได้ตาบอดนี่”
มายมิ้นท์ยิ่งหัวเราะเสียงยิ่งขึ้น
เปปเปอร์ได้ยินแล้ว หันไปมองทางเธอ
มองเธอหัวเราะจนดวงตาโค้งขึ้นมา แววตามืดหม่น ความโกรธในใจก็จางหายไปอย่างประหลาด
รอทีหลัง เขาค่อยไปจัดการกับทามทอย
“เอาละไมโล ไม่พูดแล้ว รีบไปห้องน้ำกับคุณอาเถอะ” มายมิ้นท์นวดแก้มที่เมื่อยเล็กน้อยจากการหัวเราะ พลางพูดกับไมโลอย่างอ่อนโยน
เธอกลัวว่าถ้าไมโลยังไม่ไปอีก เปปเปอร์ก็คงโกรธแล้วเดินหนีไปเลย
“คุณอาอุ้ม” ไมโลยืนตรงหน้าเปปเปอร์ ยกแขนเล็กๆสองข้าง ต้องการให้เปปเปอร์อุ้ม
หางตาเปปเปอร์กระตุก
ไอ้ตัวเล็กนี่ ช่างไม่เกรงใจกันเลยสักนิดเดียวจริงๆ