รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 216 จงใจเพิ่มราคา
ส้มเปรี้ยวก็ฟังออกว่าคนที่ตะโกนราคาหนึ่งล้านเมื่อครู่นี้คือลาเต้ เดาว่าเขาต้องการซื้อแหวนกลับมาให้มายมิ้นท์แน่ๆ
เฮอะ อย่าแม้แต่จะคิด
“หนึ่งล้านสองแสน!” ส้มเปรี้ยวยกป้ายอีกครั้ง
เยี่ยมบุญที่อยู่ข้างๆ หางตากระตุก รีบเอ่ยห้าม “พอได้แล้วส้มเปรี้ยว อย่าเพิ่มราคาอีก แหวนวงนี้มันไม่คุ้มราคาหนึ่งล้านสองแสนเลย”
“ฉันไม่สน ฉันจะให้มายมิ้นท์สมความปรารถนาไม่ได้” ส้มเปรี้ยวกัดปาก พูดด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
เยี่ยมบุญขมวดคิ้ว อยากจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงชายคนนั้นก็ดังขึ้นอีก “หนึ่งล้านห้าแสน!”
เสียงนี้……
มายมิ้นท์ทำหน้าดีใจ “นั่นราเม็ง เต้ นั่นราเม็ง”
“ฉันรู้ว่าเป็นเจ้านั่น” ลาเต้พยักหน้า จากนั้นก็ยกป้ายขึ้น “หนึ่งล้านเจ็ดแสน”
ส้มเปรี้ยวเกลียดลาเต้และผู้ชายคนนั้นที่ตะโกนราคาหนึ่งล้านห้าแสนแทบตาย
ผู้ชายสองคนนี้ ทำเพื่อเอาชนะเธอล่ะสิ
“สองล้าน!” ส้มเปรี้ยวกำป้ายในมือ ตัดสินใจแล้ว เพิ่มราคาอีกสามแสน
ทุกคนอยู่ในความปั่นป่วน
เปปเปอร์ที่ห้องส่วนตัวชั้นสองก็ขมวดคิ้วเป็นปม
ส้มเปรี้ยวคิดจะทำอะไรกันแน่?
ทำไมต้องอยากได้แหวนวงนั้น
“สามล้าน!” เปปเปอร์กดปุ่ม
ผู้จัดประมูลสูดหายใจไอเย็นเข้าลึกๆ ตะโกนราคาที่เขาเสนอด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย
ทุกคนที่อยู่ในงานประหลาดใจอีกครั้ง
เพิ่มราคาหนึ่งล้านภายในครั้งเดียว
ใครรวยขนาดนี้?
ทุกคนมองไปที่ห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่งตรงบันได
เยี่ยมบุญก็เช่นกัน เขาหรี่ดวงตาชรา เริ่มสงสัยว่าคนที่อยู่ห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่งใช่เปปเปอร์หรือไม่
สำหรับที่เปปเปอร์ปฏิเสธไม่ให้พวกเขาเข้าไปในห้องส่วนตัว ในใจเยี่ยมบุญไม่พอใจอย่างมาก
เขาคือว่าที่พ่อตาของเปปเปอร์นะ เปปเปอร์ทำแบบนี้ ไม่กลัวเขาไม่พอใจเหรอ?
“สามล้านห้าแสน!” ในเวลานี้ ลาเต้ก็เพิ่มราคาอีกครั้ง
ทันใดนั้น เสียงราเม็งก็ดังขึ้นอีกครั้ง “สี่ล้าน”
“สี่ล้านห้าแสน!” ทามทอยที่ไม่ได้เข้าร่วมมาตลอด จู่ๆ ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
มายมิ้นท์ส่ายหน้าซ้ำไปซ้ำมา “บ้าไปแล้วๆ พวกนายบ้าไปกันหมดแล้ว”
“มิ้นท์ไม่ต้องกลัว เธอยังดูไม่ออกเหรอ? เราไม่ได้อยากซื้อแหวนวงนั้น แค่อยากจัดการส้มเปรี้ยวเท่านั้นเอง” ลาเต้เขย่าป้ายขณะยิ้มแล้วพูดขึ้น
มายมิ้นท์กลอกตาใส่เขา “แน่นอนว่าฉันเดาออก แต่นายอย่าลืมนะ ชั้นสองยังมีอีกคนนะ คนที่นั่งห้องส่วนตัวของงานประมูล ตัวตนไม่ธรรมดา ไม่ใช่คนที่เราขัดใจได้ง่ายๆ ถ้าสุดท้ายคนที่อยู่ชั้นสองเป็นคนซื้อแหวนไป ไม่ใช่ส้มเปรี้ยว พวกนายที่จงใจเพิ่มราคา จะเผลอขัดใจอีกฝ่ายได้นะ”
“ไม่ต้องห่วง เราขัดใจกันมานานแล้ว คุณชายในงานประมูลแห่งนี้ เป็นเพื่อนร่วมชั้นมหาวิทยาลัยฉัน เราสอบถามเขามาแล้ว คนที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่งคือเปปเปอร์”
ลาเต้เบ้ปาก “เปปเปอร์กับส้มเปรี้ยวอยู่ทีมเดียวกัน ไม่ว่าจะจัดการใครในพวกเขาได้ เราก็ชนะหมด”
มายมิ้นท์อึ้งเล็กน้อย “เปปเปอร์?”
“ใช่แล้ว” ลาเต้พยักหน้า
มายมิ้นท์กัดปาก ในใจซับซ้อนและเหลือทน
ที่แท้คนที่เสนอราคาประมูลกับส้มเปรี้ยวในตอนแรกสุด ก็คือเปปเปอร์จริงๆ
ทำไมเปปเปอร์ต้องการซื้อแหวนวงนี้? นี่มันแหวนแต่งงานของเธอ เขาซื้อไปทำไม ให้ส้มเปรี้ยวเหรอ?
เป็นไปได้อย่างไร
มายมิ้นท์ส่ายหน้า ปฏิเสธการเดานี้
แหวนแต่งงานของอดีตภรรยา ให้ภรรยาปัจจุบัน คนทั่วไปไม่ทำกันหรอก ดังนั้นเขาน่าจะมีจุดประสงค์อื่น แต่มันคืออะไรนั้น มายมิ้นท์ไม่เข้าใจ และขี้เกียจคิดมัน
อย่างไรก็ตามแหวนวงนี้ เธอไม่ต้องการมันตั้งนานแล้ว ทำไมต้องไปคิดด้วยว่าคนอื่นจะซื้อไปทำไม
“ห้าล้าน!” เปปเปอร์ที่อยู่ห้องส่วนตัวชั้นสองรายงานราคาอีกครั้ง
เดิมทีแล้วส้มเปรี้ยวอยากยกป้ายอีกครั้ง แต่ถูกเยี่ยมบุญกดเอาไว้แน่น
เยี่ยมบุญมองเธอด้วยสีหน้ามืดมน “ถ้าลูกกล้าเสนอราคาอีก พ่อจะหักขาลูก”
เงินหลายล้านซื้อแหวนที่คนอื่นเคยสวม เธอคิดได้ไง
ถึงแม้เธอจะอิจฉามายมิ้นท์ ไม่พอใจที่มายมิ้นท์มีแหวนที่เปปเปอร์ให้ก็ทำไม่ได้
สุดท้ายส้มเปรี้ยวก็กลัว ทำได้แค่มองบุคคลปริศนาที่ห้องส่วนตัวฉันสองประมูลแหวนวงนั้นไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้
ทุกคนในสถานที่แสดงความคิดเห็นกันอย่างเซ็งแซ่
เงินห้าล้านซื้อแหวนวงหนึ่ง ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ชั้นสองเป็นคนโง่หรืออะไร
แหวนถูกนำไปที่ชั้นสองอย่างรวดเร็ว
เปปเปอร์มองแหวนในผ้ากำมะหยี่สีดำ แววตาลุ่มลึกไม่เข้าใจ
เมื่อมายมิ้นท์ออกไปจากตระกูลนวบดินทร์ ไม่ได้สวมอะไรทั้งนั้น เอาไปแค่แหวนวงนี้
แต่ตอนนี้ แม้แต่แหวนวงนี้ ก็ยังกลับมาสู่มือเขาด้วยวิธีการนี้
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ที่มายมิ้นท์ก็ไม่มีของที่เกี่ยวข้องกับเขาอีกแล้ว
คิดถึงตรงนี้ เปปเปอร์ก็กำแหวนแน่นทันที หัวใจเหมือนโดนใครสักคนแทง มันค่อนข้างเจ็บ
การประมูลจบลงอย่างรวดเร็ว ทุกคนลุกขึ้นออกไปจากสถานที่ประมูลทั้งหมด มุ่งหน้าไปที่ห้องโถงใหญ่งานเลี้ยงชั้นบน
เมื่อเห็นคนด้านล่างเดินออกไปหมดแล้ว เปปเปอร์ก็ลุกขึ้นจากโซฟา เดินออกไปจากห้องส่วนตัวพร้อมไม้เท้า
เพิ่งเดินออกไป ก็เห็นเยี่ยมบุญและส้มเปรี้ยวเดินเข้ามาหา
ส้มเปรี้ยวเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ “เปปเปอร์……คนที่ซื้อแหวนไป คือคุณจริงๆ ด้วย!”
“ฉันเองแหละ” แววตาเปปเปอร์หลบหลีกเล็กน้อย ยอมรับอย่างผ่อนคลาย
ตราบใดที่อยากตรวจสอบ ก็ตรวจสอบได้แล้วว่าคนในห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่งคือเขา
ดังนั้นไม่มีอะไรที่ยอมรับไม่ได้
“ทำไมล่ะ?” ขอบตาส้มเปรี้ยวเปียกชื้นทันที กัดปากมองเขา ราวกับเขาทำเรื่องน่าเสียใจกับเธอ “ทำไมคุณต้องซื้อแหวนวงนั้นด้วย อยากคืนให้คุณมายมิ้นท์เหรอ?”
เยี่ยมบุญก็จ้องเขม็งเปปเปอร์เช่นกัน
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว “มันไม่มีอะไร ตอนแรกที่ซื้อแหวนวงนั้น ด้านในสลักสัญลักษณ์ตระกูลนวบดินทร์เอาไว้ ไม่อยากให้อยู่กับคนอื่น”
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาซื้อแหวนจริงๆ
อีกเหตุผลหนึ่ง เขาไม่อยากให้คนอื่นได้แหวนวงนี้ไป พอคิดว่าแหวนอาจจะถูกลาเต้ ทามทอย หรือชายอีกคนซื้อไป ในใจเขาก็ไม่พอใจอย่างอธิบายไม่ได้
ส้มเปรี้ยวไม่รู้ว่าในใจเปปเปอร์กำลังคิดอะไร ได้ยินเขาพูดว่าด้านในแหวนมีสัญลักษณ์ตระกูลนวบดินทร์ น้ำตาก็หยุดไหลทันที “จริงเหรอ?”
เปปเปอร์เอาแหวนออกมาจากกระเป๋า ส่งให้เธอ “คุณดูมันได้”
ส้มเปรี้ยวรับมันมาตรวจสอบจริงๆ
เปปเปอร์เห็นว่าเป็นเช่นนั้น ริมฝีปากบางก็เม้ม
ถึงแม้เขาจะให้เธอดูมัน แต่เธอกลับดูมันจริงๆ เขารู้สึกว่ามันขัดตาอย่างอธิบายไม่ได้ เพราะนี่เธอแสดงออกว่าไม่เชื่อใจเขา
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ในจดหมาย เธอเคยบอกเองว่า เธอจะเชื่อใจเขา แต่จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเธอเหมือนไม่เคยทำมันเลย
กำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินเสียงเซอร์ไพรส์ของส้มเปรี้ยว “มีจริงๆ ด้วย”
เปปเปอร์เก็บความคิดเอาไว้ ริมฝีปากบางเผยอเบาๆ ตอบกลับ “แน่นอน”
“ขอโทษนะเปปเปอร์ ที่ฉันเข้าใจคุณผิด ฉันนึกว่าที่คุณซื้อมา เพราะอยากคืนให้คุณมายมิ้นท์” ส้มเปรี้ยวคืนแหวนให้เปปเปอร์
เยี่ยมบุญหัวเราะดังลั่นขึ้นมา “ในเมื่อเป็นความเข้าใจผิด งั้นเคลียร์กันก็ดีแล้ว”
เปปเปอร์ตอบอืม รับแหวนมา จากนั้นก็ใช้นิ้วโป้งเช็ดแหวนโดยไม่รู้ตัว
หลังจากเช็ดเสร็จแล้ว ทันใดนั้นเขาถึงได้ตอบสนอง ไม่คิดว่าตัวเองจะรังเกียจที่ส้มเปรี้ยวทำแหวนสกปรก
“เปปเปอร์?” ส้มเปรี้ยวยื่นมือมาโบกตรงหน้าเปปเปอร์
เปปเปอร์ได้สติกลับมา “ทำไมเหรอ?”
“ฉันจะถามว่าคุณเป็นอะไร ทำไมจู่ๆ ก็เหม่อลอย” ส้มเปรี้ยวมองเขาแล้วถามขึ้น
เปปเปอร์ผลุบตาลงแล้วพูดเสียงเรียบ “ไม่มีอะไร แค่นึกถึงบางเรื่อง จริงสิ ส้มเปรี้ยว ทำไมคุณถึงอยากประมูลแหวนวงนี้เหรอ?”
เขาใส่แหวนกลับไปในกระเป๋า จ้องมองส้มเปรี้ยวด้วยแววตาตรวจสอบ
ส้มเปรี้ยวก้มหน้าอย่างน้อยใจ “ก็เพราะเปปเปอร์ไม่ยอมให้แหวนฉันไม่ใช่เหรอ บอกว่าแต่งงานก่อนค่อยให้ พอฉันเห็นคุณมายมิ้นท์บริจาคแหวนวงนี้ ก็นึกขึ้นได้ว่าที่คุณก็มีอีกวง คิดว่าซื้อมาจะได้เป็นคู่กับคุณ และถือว่าคุณเป็นคนให้ฉัน ฉันก็เลยประมูล