รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 217 เริ่มงานเลี้ยง
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
เปปเปอร์เชิดคางขึ้นเล็กน้อย
เขานึกว่า เธอจงใจเล็งเป้าไปที่มายมิ้นท์
“ฉันอยากบอกอะไรนายหน่อย เปปเปอร์” เยี่ยมบุญทำหน้าจริงจัง มองเปปเปอร์อย่างไม่พอใจ “ถึงส้มเปรี้ยวยังไม่ได้หมั้นกับนายอย่างเป็นทางการ แต่คราวก่อนงานหมั้นที่โดนมายมิ้นท์ทำลายไป ก็ประกาศให้คนนอกรู้แล้วว่า ส้มเปรี้ยวคือคู่หมั้นนาย ในเมื่อเป็นคู่หมั้นแล้ว ก็ให้แหวนสักวงสิ นี่นายไม่มีอะไรให้เลย คนอื่นจะขำส้มเปรี้ยวเอา”
“พ่อ อย่าทำแบบนี้เลย เปปเปอร์มีความคิดของตัวเอง เราอย่าไปบังคับเขา” ส้มเปรี้ยวดึงแขนเสื้อเยี่ยมบุญ รีบพูดโน้มน้าว
ในขณะที่โน้มน้าว เธอก็ไม่ลืมมองไปทางเปปเปอร์อย่างรู้สึกผิด ด้วยท่าทางกลัวเขาจะโกรธ “ขอโทษนะเปปเปอร์ คำพูดของพ่อฉัน คุณไม่ต้องใส่ใจ”
“ไม่เป็นไร คุณลุงพูดถูก ฉันควรให้แหวนคุณสักวง” เปปเปอร์ตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา
ที่เขาไม่ให้แหวนส้มเปรี้ยวมาตลอด ก็เพราะไม่อยากให้ จึงจงใจบอกว่าแต่งงานก่อนค่อยให้
สำหรับทำไมไม่อยากให้ เขาเองก็พูดไม่ออก แต่เยี่ยมบุญพูดถูก ส้มเปรี้ยวได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นเขาแล้ว ถ้าเขาไม่ให้แหวนสักวง คนในแวดวงก็จะดูถูกส้มเปรี้ยวไม่มากก็น้อย
“เปปเปอร์ คุณพูดจริงเหรอ?” ส้มเปรี้ยวมองเปปเปอร์อย่างมีความสุข
เปปเปอร์เห็นเธอดีใจแบบนี้ แววตาก็อ่อนโยนลง “จริงสิ”
ส้มเปรี้ยวคือผู้หญิงที่เธอรัก คือคนที่ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดว่า อยากให้เธอมีความสุขตลอดชีวิต
เขาจะไม่ให้แหวนกับเธอเพราะในใจมีอารมณ์ที่พูดไม่ออกได้อย่างไรกัน
“เปปเปอร์ คุณดีจัง” ส้มเปรี้ยวโผเข้าหาอ้อมกอดเปปเปอร์ด้วยความดีใจ
เยี่ยมบุญจ้องมองเธอแสร้งทำเป็นโกรธ “แค่แหวนวงเดียวก็ทิ้งพ่อคนนี้เลยนะ หัวใจผู้หญิงอยู่ที่สามีจริงๆ ด้วย”
“พ่อ!” ส้มเปรี้ยวหันศีรษะกลับไป แสร้งตะโกนอย่างงอนๆ แต่ที่สบสายตากับเยี่ยมบุญคือแววตาที่พวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจ
ถูกต้อง พวกเขาสองพ่อลูกจงใจมาหาเปปเปอร์
ก่อนหน้านี้ พวกเขาไปสอบถามมารู้เรื่องแล้ว ว่าคนที่อยู่ห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่งคือเปปเปอร์ จึงวางแผนนี้ออกมา ให้เปปเปอร์ยอมให้แหวนเธอ ให้เธอได้ตำแหน่งคู่หมั้นอย่างแท้จริง
ไม่คิดว่าจะสำเร็จจริงๆ และสำเร็จอย่างราบรื่นมากด้วย
“เปปเปอร์ งั้นพรุ่งนี้เราไปเลือกแหวนกันไหม? ฉันอยากได้DR ถึงแม้แหวนยี่ห้อนั้นจะหรูหรา แต่ราคาทั่วไปไม่แพง บอกได้ว่าถูกด้วยซ้ำ แต่ฉันก็อยากได้มัน เพราะมันหมายความว่าผู้ชายซื้อแหวนได้แค่วงเดียว” ส้มเปรี้ยวเงยหน้ามองเปปเปอร์ “เปปเปอร์ ได้ไหม?”
เมื่อเปปเปอร์ได้ยินว่า ‘ผู้ชายซื้อแหวนได้แค่วงเดียว’ คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย อยากบอกว่าไม่ได้อย่างลืมตัว แต่เห็นแววตารอคอยของเธอ สุดท้ายก็ระงับความปฏิเสธในก้นบึ้งจิตใจลงไป แล้วพยักหน้า “ได้สิ”
“ขอบคุณนะเปปเปอร์” ส้มเปรี้ยวกอดเขาแน่นอย่างดีใจ
ริมฝีปากบางของเปปเปอร์กระตุก แต่ไม่ดีใจเลย แค่รู้สึกหงุดหงิดมาก
ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาก็ผลักส้มเปรี้ยวออกเบาๆ “เอาล่ะ ส้มเปรี้ยว คุณลุง เราไปที่งานเลี้ยงกันก่อนดีกว่า ท่านธนวัฒน์กับคุณหญิงนิภากำลังรอเราไปดูแลอยู่”
“นายพูดถูก งั้นเรารีบไปกันเถอะ” เยี่ยมบุญพยักหน้า
ตระกูลลิลิตประกายเข้มแข็งเกรียงไกรกว่าตระกูลภักดีพิศุทธิ์อยู่บ้าง
ถึงแม้จะไม่เทียบเท่าตระกูลนวบดินทร์ แต่ตระกูลภักดีพิศุทธิ์ของพวกเขาก็ต้องสรรเสริญ ขัดใจไม่ได้
ในเวลานี้ ภายในห้องโถงใหญ่งานเลี้ยงที่สว่างไสว ทุกคนยกแก้วฉลองกัน
มายมิ้นท์ถือแก้วผลไม้มองซ้ายมองขวา กำลังหาอะไรบางอย่าง
ลาเต้ถือจานขนมมายื่นให้เธอ “ไปส่งไอ้ทามทอยแล้ว ไม่รู้ช่วงนี้มันเป็นบ้าอะไร ทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนเปปเปอร์ แต่ไม่ไปหาเปปเปอร์ อยากจะอยู่รอบๆ เรา ไล่ยังไงก็ไม่ไป น่ารำคาญแทบตาย”
“เอาล่ะ เขาไม่ได้มีเจตนาร้าย อีกอย่างนิสัยเขาก็ไม่แย่ เป็นคนช่างพูด คบกับเขาก็ผ่อนคลายดี” มายมิ้นท์รับขนมมาขณะยิ้มแล้วพูดขึ้น
ถึงแม้เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมช่วงนี้ทามทอยถึงมาหาพวกเขาบ่อยๆ
แต่เธอรู้ ทามทอยไม่ใช่ศัตรูพวกเขา
“ช่างเถอะ ไม่พูดถึงมันแล้ว มิ้นท์ เมื่อกี้เธอกำลังมองอะไรอยู่น่ะ” ลาเต้ดื่มไวน์ก่อนถามขึ้น
“หาราเม็งน่ะสิ ตั้งแต่งานประมูลเริ่ม จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่เห็นเขาเลย แค่ได้ยินเสียงเขาเท่านั้น” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วตอบ
“ได้ยินพี่คิดถึงฉันขนาดนี้ ฉันดีใจมากจริงๆ” สิ้นเสียงเธอ ด้านหลังก็มีเสียงอ่อนโยนของชายหนุ่มดังขึ้น
บนหน้ามายมิ้นท์มีรอยยิ้มเซอร์ไพรส์ทันที จากนั้นก็รีบหันตัวไปอย่างรวดเร็ว เห็นหนุ่มที่อยู่ห่างตนไม่ถึงสองเมตร เธอก็เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว “ราเม็ง นายจริงๆ ด้วย!”
“ฉันเอง” ราเม็งอมยิ้มพยักหน้า จากนั้นก็ยื่นแขนออกไปกอดเธอ ถึงแม้จะกอดแน่น แต่ก็ไม่ขาดความอ่อนโยน
ราเม็งซุกศีรษะบนไหล่มายมิ้นท์ ถูเบาๆ ในน้ำเสียงอ่อนโยน มีความสะอึกสะอื้นเล็กน้อย “พี่ ฉันคิดถึงพี่มากเลย”
มายมิ้นท์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ลูบศีรษะเขา “เอาล่ะ ฉันก็คิดถึงนายเหมือนกันนะ เด็กดี ออกมาก่อนเร็ว ทุกคนมองอยู่นะ”
“ไม่ พี่ ให้ฉันกอดพี่อีกสักพักนะ” ราเม็งไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยเธอ แต่ยังกอดเธอแน่นขึ้นอีก
มายมิ้นท์แค่มองเขายังเป็นเด็ก หลังจากส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง ก็ปล่อยให้เขาทำไป
ลาเต้ที่อยู่ข้างๆ เห็นฉากนี้ ก็กลอกตาขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
ราเม็งเจ้าเด็กนี่ ก็แสร้งทำท่าหมาน้อยขี้อ้อนหลอกลวงมิ้นท์ แลกกับสัมผัสใกล้ชิดของมิ้นท์ เหยียดหยามมาก!
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การดูถูก ลาเต้ก็ต้องยอมรับว่าเขาอิจฉาราเม็ง อิจฉาที่ราเม็งกอดมิ้นท์แบบนี้ได้
ถ้าเป็นเขา มิ้นท์ผลักเขาออกนานแล้ว
ลาเต้หัวเราะขมขื่น เงยหน้าดื่มไวน์แดงในแก้วจนหมด
ที่อยู่ไม่ไกล พวกเปปเปอร์สามคนเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ ผ่านฝูงชนมา ก็เห็นฉากกอดของมายมิ้นท์และราเม็ง
ดวงตาเปปเปอร์หดตัว มือที่จับไม้เท้า ก็เกร็งขึ้นมาทันที สีหน้ายิ่งมืดมนไม่พอใจ ในดวงตามีความเดือดดาล
ราเม็งกลับมาแล้วจริงๆ
พอกลับมามายมิ้นท์ก็กอดเขาเลย เธอชอบผู้ชายเหล่านี้วนเวียนอยู่รอบๆ เธอเหรอ?
รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกของชายข้างกาย ส้มเปรี้ยวหันศีรษะไปมอง เห็นความหึงหวงในดวงตาชายหนุ่ม แววตาเธอก็มืดมัวเศร้าหมอง
“เปปเปอร์ คนที่กอดกับคุณมายมิ้นท์น่าจะชื่อราเม็ง เป็นนายแบบที่ทำลายงานเลี้ยงการพักฟื้นของฉันกับคุณมายมิ้นท์ นึกว่าเขาจะออกไปจากเมืองเดอะซีแล้วซะอีก ไม่คิดว่าตอนนี้จะโผล่มาอีกแล้ว แถมยังกอดกับคุณมายมิ้นท์ คุณลาเต้ในฐานะแฟนคุณมายมิ้นท์ ไม่คิดว่าจะยืนมองอยู่ข้างๆ ไม่ห้ามด้วย คุณว่าพวกเขาสามคนมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?”
มุมปากส้มเปรี้ยววาดโค้งร้ายกาจ และหายไปอย่างรวดเร็ว
สีหน้าเปปเปอร์ไม่พอใจสุดขีด แค่รู้สึกว่าภาพที่มายมิ้นท์กอดกับราเม็งมันขัดตามาก ขัดตาจนเขาอยากเข้าไปแยกพวกเขา และบอกกับมายมิ้นท์ว่า ไม่ให้สนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น
แต่เขาก็แน่ใจอีกครั้ง ว่าเขาไม่มีสิทธิ
“นั่นมันเรื่องของพวกเขา ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นอะไรกัน ก็ไม่เกี่ยวกับเรา” เปปเปอร์กล่าวด้วยเสียงเย็นยะเยือกจบ ก็ละสายตากลับมาแล้วเดินไปข้างหน้า
ส้มเปรี้ยวรีบตามไป
ทางด้านมายมิ้นท์ ลาเต้วางแก้วเหล้าเปล่าลง เดินไปแยกราเม็งออก “เอาล่ะๆ กอดตั้งนานแล้ว กอดพอแล้วมั้ง”
ราเม็งเหลือบมองเขาด้วยแววตาไม่พอใจ
ลาเต้มองกลับไป “อย่าลืมนะ ตอนนี้ฉันคือแฟนในนามของมิ้นท์ นายกอดมิ้นท์นานขนาดนี้ นายจะให้คนอื่นคิดยังไง?”
ราเม็งตกตะลึงทันที จากนั้นก็มองไปรอบๆ เห็นว่ามีคนตำหนิ คาดเดาความสัมพันธ์พวกเขาทั้งสามอยู่จริงๆ ด้วย เห็นเขามองไป ก็รีบละสายตาออกไปเสแสร้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จากนั้นก็รอให้เขาละสายตากลับไป คนพวกนั้นก็พูดต่อ สิ่งที่พูดไม่น่าฟังเท่าไรนัก มีคนว่ามายมิ้นท์ว่าเป็นพวกผู้หญิงใจง่าย หาผู้ชายไปทุกที่