รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 220 ไล่พวกเขาออกไป
“วัยรุ่นพวกนี้ใส่ร้ายคุณส้มเปรี้ยวไหม ฉันว่าพูดเฉยๆ ไม่ได้ แต่ต้องคุยกันด้วยหลักฐาน ทุกท่านคิดว่าไงคะ?” ทันใดนั้น คุณหญิงนิภาก็ละออกมาจากแขนท่านธนวัฒน์ เดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ยิ้มลึกซึ้งให้กับทุกคนขณะพูดขึ้น
ทุกคนพยักหน้า รู้สึกว่ามีเหตุผล
ส้มเปรี้ยวเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าคุณหญิงนิภา ในใจก็เต้นตึกตัก ทันใดนั้นก็ยิ่งเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีทันที ร่างกายเกร็งขึ้นมา
เปปเปอร์รู้สึกถึงความผิดปกติของส้มเปรี้ยว ก็ก้มหน้าถามเธอ “เป็นอะไรเหรอ?”
“ฉัน……ฉันไม่เป็นไรค่ะ” ส้มเปรี้ยวฝืนเค้นมุมปากตอบกลับ “แค่เมื่อกี้ล้มแล้วเจ็บนิดหน่อย เปปเปอร์ คุณพาฉันไปหาหมอได้ไหม?”
สัญชาตญาณของเธอบอกเธอว่า ต้องรีบออกไปจากที่นี่
ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดเรื่องที่เหนือการควบคุมของเธอได้
เปปเปอร์อยากพูดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ว่ารอเรื่องนี้จัดการเรียบร้อยก่อนค่อยไป
แต่เห็นแววตาขอร้องของส้มเปรี้ยว สุดท้ายก็พยักหน้าเห็นด้วย
เขาพยุงแขนส้มเปรี้ยว หันตัวจะเดินจากไป
มายมิ้นท์หรี่ดวงตาอัลมอนด์ เรียกพวกเขาไว้อย่างเย็นชา “หยุด เรื่องยังไม่รู้เรื่องเลย จะไปทำไม?”
“นั่นสิ มิ้นท์คือคนที่พวกคุณกล่าวหาว่าผลักเธอ เธอยังยืนตรงนี้ไม่ไปไหนเลย? พวกคุณจะไปทำไม? คงไม่ได้ร้อนตัวหรอกนะ” ลาเต้ก็พูดขึ้น
ทามทอยและราเม็งก็พยักหน้าตาม
ในดวงตาคุณหญิงนิภายิ่งมีความเยาะเย้ยเคลื่อนผ่านไป
“เราไม่ได้ไป” ส้มเปรี้ยวหันศีรษะกลับไป ขอบตาแดงก่ำ พูดด้วยเสียงน้อยใจ “ฉันแค่เจ็บร่างกาย อยากไปหาหมอ เปปเปอร์เป็นพยานได้”
เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย แสดงออกว่าเป็นแบบนี้จริงๆ “เราไปหาหมอแล้วจะกลับมา”
“รอพวกคุณกลับมา ใครจะไปรู้ว่ามันนานแค่ไหน” ราเม็งกอดอก พูดเสียงเรียบ
“ถูกต้อง ไปหาหมอไม่จำเป็นต้องไปเองนะ ถ้าบาดเจ็บสาหัสจะทำยังไง เรียกหมอมาดีกว่า คุณหญิงนิภา ได้ไหมครับ?” ทามทอยมองไปที่คุณหญิงนิภา
คุณหญิงนิภาพยักหน้า “ได้แน่นอน”
ขณะที่พูด ก็เรียกบริกรมาหนึ่งคน สั่งให้เขาไปเชิญหมอมา
ส้มเปรี้ยวจะหยุดก็ไม่ทันแล้ว ทำได้แค่มองบริกรเดินออกไปไกลๆ โดยที่ทำอะไรไม่ได้ ในใจแผดเผาด้วยความโกรธ
เธอรู้
คนพวกนี้ กำลังมุ่งเป้ามาที่เธอ จงใจหาเรื่องเธอ!
“คุณส้มเปรี้ยว สีหน้าคุณดูผิดปกตินะ ไม่พอใจที่เราช่วยคุณเรียกหมอเหรอ? ไม่ได้นะ เราแค่หวังดีกับคุณ คุณไม่ขอบคุณก็ช่างเถอะ ยังจะโกรธอีก เกินไปแล้วจริงๆ” ลาเต้มองส้มเปรี้ยว กล่าววิพากษ์วิจารณ์ด้วยท่าทางแบบคุณนี่ไม่รู้ประสีประสาเลยนะ
คนอื่นก็ตอบรับคำพูดเช่นกัน “นั่นสิคุณส้มเปรี้ยว คุณเป็นแบบนี้มันผิดปกติ”
“พวกคุณ……” ส้มเปรี้ยวโกรธแทบตายแล้ว
เปปเปอร์ตบบ่าเธอ “เอาล่ะส้มเปรี้ยว พวกเขาก็พูดถูกนะ คุณไม่ควรโกรธจริงๆ นั่นแหละ”
“ฉัน……” ร่างกายส้มเปรี้ยวสั่นสะท้าน
เธอโกรธเรื่องนี้เหรอ?
เธอโกรธที่คนพวกนี้ไม่ให้เธอออกไปต่างหาก!
แต่คำพูดนี้ ส้มเปรี้ยวพูดออกมาไม่ได้ ทำได้แค่ระงับความโกรธสุดฤทธิ์ ไม่พูดอะไร
ไม่นานนัก หมอก็มาถึง
ด้วยการจ้องมองของทุกคน ส้มเปรี้ยวไม่กล้าปฏิเสธ ทำได้แค่ให้หมอตรวจสอบ
หมอตรวจสอบเสร็จแล้วก็พูดขึ้น “คุณท่านนี้ไม่ได้เป็นอะไร แค่ล้มผิวหนังแขนถลอกเท่านั้น แปะปลาสเตอร์ก็พอแล้ว”
“ฉันรู้แล้ว ไปส่งหมอ” คุณหญิงนิภาพูดกับบริกรที่พาหมอมา
หลังจากบริกรและหมอออกไปแล้ว มายมิ้นท์ก็เสยผมพูดขึ้น “เอาล่ะ เรื่องตลกจบลงแล้ว ในเมื่อคุณส้มเปรี้ยวไม่เป็นอะไร งั้นเรามาจัดการเรื่องเมื่อกี้กันต่อดีกว่า ทำให้รู้เรื่องเร็วๆ ว่าคุณส้มเปรี้ยวล้มได้ยังไง จะได้จบเรื่องเร็วๆ”
“เฮอะ เธอพูดมากแค่ไหนก็ลบความจริงที่เธอผลักส้มเปรี้ยวไม่ได้หรอก” ขนมผิงชี้ไปที่มายมิ้นท์
เปปเปอร์มองขนมผิงอย่างเย็นชา ก้นบึ้งจิตใจก็ยิ่งเกลียดชัง
เขาไม่ชอบคนพวกนี้ที่ประณามมายมิ้นท์อย่างอธิบายไม่ได้
เยี่ยมบุญก็ตอบรับคำ “สาวน้อยตระกูลมหาเอกรัตนาก็พูดถูก เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว คุณหญิงนิภา เธอเข้ามาที่นี่ได้ แน่นอนว่าพวกคุณส่งบัตรเชิญไป แต่สำหรับคนที่นิสัยไม่ดีแบบนี้ ฉันคิดว่าคุณรีบไล่ไปดีกว่านะ จะได้ไม่ทำลายงานเลี้ยงครั้งนี้”
เปปเปอร์ขมวดคิ้วเป็นปม “คุณลุง เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนเลยนะครับ”
“ไม่ชัดเจนได้ยังไง สาวน้อยตระกูลมหาเอกรัตนาพูดชัดเจนขนาดนั้นแล้ว และคนตรงนี้มากมายก็เห็นกันหมด เปปเปอร์ นี่นายคงไม่ได้กำลังปกป้องอดีตภรรยานายใช่ไหม?” เยี่ยมบุญเบิกดวงตาชรากว้าง
ส้มเปรี้ยวก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียใจอีกสองที
เปปเปอร์หงุดหงิดใจเล็กน้อย ดึงเนกไท ตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ฉันไม่ได้ปกป้องใคร ทุกอย่างต้องคุยกันด้วยหลักฐาน ถึงจะเห็นแล้วยังไง หลักฐานล่ะ?”
มายมิ้นท์มองเขาด้วยความประหลาดใจ ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดโดยไม่คิดว่าเขาจะพูดจายุติธรรม
นี่ไม่เหมือนเขาเลยอ่า
ปกติเขาเชื่อใจส้มเปรี้ยวโดยไม่มีขอบเขตไม่ใช่เหรอ?
“เฮอะ เปปเปอร์ ฉันว่านายกำลังพูดจาปกป้องอดีตภรรยานายอยู่นะ” สายตาเยี่ยมบุญหันไปมองมายมิ้นท์ เกิดความถากถางขึ้นมา “คิดไม่ถึงจริงๆ เลยนะ เธอมีวิธีจับผู้ชายอยู่หมัด พวกผู้ชายข้างกายยังไม่พอ แม้แต่อดีตสามี……”
“ไอ้แก่ แกพูดอะไร แกเชื่อไหมว่าฉันต่อยแกได้!” ลาเต้โกรธสุดขีด กำหมัดขึ้นมาแล้วจะพุ่งไป
“เต้ หยุด!” มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดง หยุดเขาเสียงดัง
ทามทอยก็เดินไปข้างหน้าดึงลาเต้ไว้ “พอได้แล้วลาเต้ อย่าทำตัวงี่เง่า ฉันรู้ว่านายโกรธ ฉันก็โกรธเหมือนกัน แต่นายต่อยคนอื่นไม่ได้ ส้มเปรี้ยวล้มยังไง เราไม่เห็นมัน แต่ถ้านายต่อยคนอื่น คนตรงนี้จะเห็นกันหมด ถึงตอนนั้นจะเดือดร้อน”
ถึงแม้ราเม็งจะเสียใจนิดหน่อยที่ลาเต้ไม่ได้จัดการเยี่ยมบุญ แต่เขาตัดสินใจแล้ว หลังจากกลับไปแล้ว ต้องสั่งสอนเยี่ยมบุญสักครั้ง
เยี่ยมบุญไม่รู้ว่าตัวเองโดนจ้องมอง เขาก้าวถอยหลังด้วยความหวาดผวา จากนั้นก็พาลโกรธชี้ไปที่ลาเต้ “ไอ้เด็กตระกูลรัตติพีระ ไม่คิดว่าจะกล้าลงมือกับฉัน คุณหญิงนิภาพวกคุณตระกูลลิลิตประกายตอนเชิญคนมา ไม่กรองคนหน่อยเหรอ? ทำไมเชิญมาทุกคนเลย”
คุณหญิงนิภายิ้ม “คุณพูดถูก ไม่ได้กรองก็เลยเชิญพวกคุณมาไง เป็นความผิดพลาดฉันจริงๆ แหละ”
ทันใดนั้น รอยยิ้มเธอหายไป การแสดงออกน่าเกรงขามขึ้นมา แล้วพูดเสียงดัง “ใครก็ได้มานี่หน่อย เอาตัวสองพ่อลูกตระกูลภักดีพิศุทธิ์ออกไป!”
ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา คนที่นั่นก็มึนงง
ควรไล่พวกมายมิ้นท์ไม่ใช่เหรอ? ทำไมคนที่โดนไล่คือสองพ่อลูกตระกูลภักดีพิศุทธิ์ล่ะ?
ทุกคนแสดงความเห็นกันขึ้นมา
แม้แต่พวกมายมิ้นท์ก็สงสัยอย่างมาก
ตอนที่พวกเขาได้ยินคำพูดแรกของคุณหญิงนิภา ก็นึกว่าคนที่จะโดนไล่ออกไปคือพวกเขา
แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเยี่ยมบุญกับส้มเปรี้ยว
เปปเปอร์มองคุณหญิงนิภา ผลุบเปลือกตาลง เหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง นวดหว่างคิ้วอย่างเหนื่อยล้า มือที่ประคองส้มเปรี้ยวไว้ครึ่งหนึ่ง ก็ปล่อยแล้ว
“ส้มเปรี้ยว ฉันผิดหวังมาก!” ทันใดนั้นเขาก็พูดประโยคหนึ่ง
“เปปเปอร์……” ส้มเปรี้ยวกระวนกระวายแล้ว อยากจับแขนเสื้อเขาไว้ แต่ถูกเขาหลบ
หัวใจส้มเปรี้ยวจมสู่ก้นบึ้งทันที
สัญชาตญาณเธอถูกต้อง รอยยิ้มคุณหญิงนิภาในตอนนั้นน่าสงสัยมาก
อย่างที่คิดไว้ สถานการณ์ในตอนนี้ มันเกินความคาดหมายและการควบคุมของเธออย่างสิ้นเชิง
สีหน้าเยี่ยมบุญแย่มาก “คุณหญิงนิภา คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
“ไม่ได้ล้อเล่น” คุณหญิงนิภายิ้มสบตากับเขา
ใบหน้าชราของเยี่ยมบุญกระตุกสองสามครั้ง “ขอถามเหตุผลหน่อย ทั้งๆ ที่เราเป็นเหยื่อ คุณกลับไล่พวกเราไป ถ้าคุณไม่ให้เหตุผลเรา ตระกูลลิลิตประกายของคุณก็ต้านทานไม่อยู่ และหลังจากวันนี้ไป ตระกูลลิลิตประกายของคุณจะเป็นศัตรูกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์ของฉัน”
“คุณเยี่ยมบุญกำลังขู่หญิงชราอย่างฉันเหรอ?” คุณหญิงนิภายิ้มเยาะถามขึ้น
เยี่ยมบุญทำเสียงแข็ง “ไม่กล้าหรอก ฉันแค่รู้สึกมันไม่ยุติธรรมกับฉัน”
“ไม่ต้องห่วง ฉันทำอะไรยุติธรรมตลอด ที่ฉันไล่พวกคุณไป แน่นอนว่ามีเหตุผลของฉัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือลูกสาวคุณ” คุณหญิงนิภามองไปที่ส้มเปรี้ยว