รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 234 ดึงผมส้มเปรี้ยว

เปปเปอร์ที่เปลี่ยนหน้ากระดาษก็หยุดชะงัก ดวงตาหลบหลีกเล็กน้อย “งั้นนายบอกหน่อย ท่าทีปกติที่ฉันมีต่อส้มเปรี้ยวเป็นยังไง”

“อ่อนโยน เอาใจ เชื่อฟัง” การันต์ค่อยๆ พูดออกมาสามคำ

เปปเปอร์ได้ยินหนึ่งคำก็ขมวดคิ้วหนึ่งที

การันต์กอดอก “นายเหมือนไม่ค่อยพอใจกับข้อสรุปของฉันนะ?”

“เปล่า” เปปเปอร์กลับมาสนใจที่เอกสารอีกครั้ง

ไม่พอใจแล้วยังไง เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าข้อสรุปของการันต์นั้นถูกต้อง

เมื่อก่อนเขามีท่าทีแบบนี้กับส้มเปรี้ยวจริงๆ

“แล้วนายขมวดคิ้วทำไม” การันต์มองเขา

เปปเปอร์พูดเรียบๆ “ก็ไม่ทำไม”

การันต์ทำเสียงเฮอะเบาๆ “จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่า เหมือนนายจะเปลี่ยนไปมากหลังจากนายประสบอุบัติเหตุรถยนต์ครั้งนี้ โดยเฉพาะท่าทีของนายที่มีต่อส้มเปรี้ยว เกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกนาย? ทำไมจู่ๆ นายถึงเย็นชากับส้มเปรี้ยว”

เปปเปอร์หยิบปากกาหมึกซึมขึ้นมา เซ็นชื่อตัวเองลงบนเอกสารอย่างงดงามดั่งหงส์ร่อนมังกรรำ “ไม่มีอะไรระหว่างเรา ฉันแค่รู้สึกว่าเมื่อก่อนท่าทีที่ฉันมีต่อส้มเปรี้ยวมันไม่ค่อยถูกต้อง อยากทำให้มันถูกต้องแค่นั้น”

“แต่นายไม่อยากเจอเธอ” แว่นตาข้างหนึ่งของการันต์สะท้อนแสง

เปปเปอร์ปิดเอกสารนี้แล้ววางไว้ข้างๆ แล้วหยิบอีกเล่มมาเปิดอีกครั้ง

ตอนนี้เขารู้สึกซับซ้อนกับส้มเปรี้ยวมาก เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตัวเองไม่ใจเต้นกับส้มเปรี้ยวแล้ว เขาเข้าใจอย่างรางๆ ว่า ตัวเองอาจจะไม่รักส้มเปรี้ยวแล้ว เขาจึงไม่อยากเจอเธอ

นอกจากเหตุผลนี้ ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญมาก และทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน นั่นก็คือเขาพบว่าทั้งๆ ที่ตัวเองไม่รู้สึกอะไรกับส้มเปรี้ยวแล้ว แต่ตอนที่เห็นส้มเปรี้ยว ส้มเปรี้ยวก็ยังพาอารมณ์เขาไป ซึ่งเหมือนเมื่อก่อน ตอนเห็นส้มเปรี้ยวได้รับความน้อยใจ ก็อยากมอบทุกอย่างให้กับเธอ ถึงแม้ตอนนี้ความรู้สึกนี้จะจางลงไม่น้อย แต่มันก็ยังมีอยู่จริงๆ ซึ่งทำให้เขาค่อนข้างอารมณ์เสีย

หลักฐานที่ตรงไปตรงมาที่สุดก็คือวันก่อน กั้นด้วยประตูห้องผู้ป่วย เขาเผชิญหน้ากับส้มเปรี้ยวผ่านประตูกระจกห้องผู้ป่วย ในขณะนั้น เขาเห็นดวงตาแดงก่ำของส้มเปรี้ยวในใจก็เกิดความสงสาร อยากเรียกเธอเข้ามา อยากเช็ดน้ำตาให้เธอ บอกให้เธออย่าร้องไห้ แต่ตัวเองยังไม่ทันได้ทำ คุณย่าก็ไล่ส้มเปรี้ยวไปแล้ว

แต่พอส้มเปรี้ยวออกไป ความสงสารในใจเขาก็หายไปทันที ในหัวสมองไม่มีความคิดอยากจะปลอบเธอให้เธอหยุดร้องไห้เช่นกัน ทันใดนั้นทั้งร่างก็กลายเป็นอยู่ในสภาพสงบนิ่งเหมือนก่อนหน้าที่ยังไม่เจอเธอ ราวกับทั้งหมดเมื่อครู่นี้คือภาพลวงตา

แต่เขารู้ นั่นไม่ใช่ภาพลวงตา ตราบใดที่เขาเจอส้มเปรี้ยว ความคิดและความรู้สึกเขา มันจะเริ่มอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราวกับมีมือที่มองไม่เห็น กำลังผลักให้เขาทำดีกับส้มเปรี้ยว ผลักให้เขารักส้มเปรี้ยว

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เปปเปอร์ก็กำปากกาหมึกซึมแน่น ปกปิดระลอกคลื่นที่แฝงในดวงตา

การันต์เห็นเปปเปอร์จู่ๆ ไม่พูดไม่จา ก็แบมือ แล้วหันตัวเดินออกไป

ณ ทางเดินห้องโถงใหญ่ชั้นหนึ่งในโรงพยาบาล

ส้มเปรี้ยวออกมาจากลิฟต์ ก็เห็นมายมิ้นท์ที่เดินมาอยู่ไม่ไกล

มายมิ้นท์ก็เห็นเธอแล้วเช่นกัน จงใจทำหน้าประหลาดใจ “คุณส้มเปรี้ยว บังเอิญจังเลย”

ส้มเปรี้ยวไม่รู้ว่ามายมิ้นท์มาหาเธอโดยเฉพาะ ก็กำมือ “คุณมาทำอะไรที่โรงพยาบาล?”

คงไม่ได้มาหาเปปเปอร์หรอกนะ?

ดูเหมือนมองออกว่าในใจส้มเปรี้ยวกำลังคิดอะไร ดวงตามายมิ้นท์เกิดแสงสว่างเคลื่อนผ่านไป ยกยิ้มขึ้นมา “ฉันน่ะเหรอ แน่นอนว่ามาเยี่ยมประธานเปปเปอร์ไง ได้ยินว่าเขาประสบอุบัติเหตุรถยนต์ ในฐานะอดีตภรรยา ก็ควรมาแสดงความเสียใจหน่อย ยังไงก็เคยรักกันนะ คุณส้มเปรี้ยว คุณเพิ่งเยี่ยมประธานเปปเปอร์แล้วลงมาใช่ไหม? งั้นพอดีเลย รบกวนคุณบอกเลขห้องผู้ป่วยประธานเปปเปอร์กับฉันหน่อยสิ”

“เธออย่าแม้แต่จะคิด!” ส้มเปรี้ยวตอบกลับด้วยดวงตาแดงก่ำ

มายมิ้นท์จงใจถอนหายใจด้วยความเสียใจ “อย่างนั้นก็ช่างเถอะ ฉันไปถามที่โต๊ะพยาบาลก็ได้”

ขณะที่พูด เธอก็จะเดินผ่านส้มเปรี้ยวเข้าไปในลิฟต์

ส้มเปรี้ยวคว้าแขนเธอไว้ ดึงเธอกลับมา “ไม่ให้ไป ฉันเตือนเธอไว้นะมายมิ้นท์ ไม่ให้ไปเจอเปปเปอร์ นั่นคู่หมั้นฉัน!”

“แล้วยังไง พวกคุณยังไม่แต่งงานกันไม่ใช่เหรอ?” มายมิ้นท์แสร้งยิ้มขณะมองส้มเปรี้ยว

ส้มเปรี้ยวโกรธเพราะรอยยิ้มและคำพูดนี้ของเธอ ร่างสั่นเล็กน้อย “เราจะแต่งงานกันไม่ช้าก็เร็ว!”

“ฉันว่าไม่แน่นะ ได้ยินว่าประธานเปปเปอร์ไม่อยากเจอเธอมาสองวันแล้วนี่ ดูเหมือนอยากเลิกกับเธอนะ แบบนี้ก็พอดีเลย งั้นโอกาสฉันก็มาถึงแล้ว” มายมิ้นท์เสยผมยิ้มสวยขณะพูดขึ้น

แต่ในใจเธอกลับอยากอาเจียน

ที่แท้การเสแสร้งว่าเป็นชู้มันเป็นเรื่องที่น่าขยะแขยงแบบนี้นี่เอง ต่อไปเธอจะไม่เสแสร้งแล้ว

ส้มเปรี้ยวมีสีหน้าเปลี่ยนไป “เธอว่าไงนะ? โอกาสมาถึงแล้ว? เธออยากแต่งงานใหม่กับเปปเปอร์เหรอ?”

“ใช่แล้ว ฉันท้อง เด็กเป็นลูกของเขา แน่นอนว่าต้องแต่งงานใหม่ ฉันจะไม่ให้เด็กในท้องฉันกลายเป็นลูกที่มีแม่คนเดียวหรอก ฉันคิดว่าคุณส้มเปรี้ยวใจกว้างแบบนี้ คงไม่อยากเห็นเด็กไร้เดียงสา ไม่มีครอบครัวที่สมบูรณ์หรอกใช่ไหม?” มายมิ้นท์กะพริบตา สังเกตสีหน้าท่าทางส้มเปรี้ยว

ส้มเปรี้ยวมีสีหน้าท่าทางเหมือนที่เธอคาดการณ์ไว้ มันค่อยๆ บิดเบี้ยวอุบาทว์ขึ้นมา

มายมิ้นท์รู้แล้วจริงๆ ว่าตัวเองท้องลูกของเปปเปอร์

อย่างที่คิดไว้ ถ้ามายมิ้นท์รู้ จะต้องอยากแต่งงานใหม่กับเปปเปอร์แน่ๆ เฮอะ ไหนบอกไม่ได้รักเปปเปอร์แล้วไง เป็นคำพูดเหลวไหลจริงๆ ด้วย!

ส้มเปรี้ยวไม่สนใจจะคิดว่ามายมิ้นท์รู้ได้อย่างไรกันแน่ เธอจ้องท้องมายมิ้นท์อย่างมุ่งร้าย

ทุกอย่างมันเป็นเพราะไอ้เด็กเหลือขอนี่

ตราบใดที่ไม่มีไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ เธอจะดูสิว่ามายมิ้นท์จะเอาอะไรมาอ้างเพื่อแต่งงานใหม่กับเปปเปอร์

ส้มเปรี้ยวยิ้มบ้าคลั่ง ผลักไปที่มายมิ้นท์ทันที

มายมิ้นท์ป้องกันเธอมานานแล้วล่ะ หรี่ตา แล้วหลบร่างไปข้างๆ

ส้มเปรี้ยวผลักอากาศ ล้มลงกับพื้นทันที

มายมิ้นท์ยิ้มเยาะ เดินไปข้างหน้า จับเส้นผมเธอไว้ ดึงร่างเธอขึ้นมา จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างหนึ่งตบหน้าเธอซ้ายขวาสองที

เพี้ยะๆ เสียงที่ชัดเจนมากดังขึ้น

ใบหน้าส้มเปรี้ยวปรากฏรอยนิ้วมือทันที ดูแล้วสะบักสะบอมน่าสงสารสุดขีด

ทั้งสองไม่ได้สังเกต จู่ๆ ลิฟต์ด้านหลังพวกเธอก็เปิดออก ชายคนหนึ่งที่นั่งรถเข็นเห็นการกระทำของพวกเธอ มือสองข้างที่วางไว้บนที่วางแขนรถเข็น กำหมัดแน่น ราวกับระงับอารมณ์อะไรบางอย่าง

“มายมิ้นท์ แกกล้าตบฉัน!” ส้มเปรี้ยวถูกมายมิ้นท์กดลงพื้น แต่แรงเธอสู้มายมิ้นท์ไม่ได้ แน่นอนว่าไม่สามารถผลักมายมิ้นท์ขึ้นไปได้ ทำได้แค่หยิกแขนมายมิ้นท์สองข้าง ทำให้มายมิ้นท์เจ็บแล้วปล่อยเธอ

แต่มายมิ้นท์ไม่ทำ ยิ่งเธอหยิกแรงมากเท่าไร มายมิ้นท์ก็ดึงเส้นผมเธอแรงมากเท่านั้น

ส้มเปรี้ยวเหมือนรู้สึกได้ว่าหนังศีรษะตัวเองจะหลุดออกมาทั้งหมด เจ็บจนหน้าย่นเข้าหากัน

“ทำไมฉันจะไม่กล้าตบแก แกคิดว่าแกเป็นใคร แกกล้าผลักฉัน อยากฆ่าลูกในท้องฉัน ฉันตบแกก็แค่เป็นการป้องกันตัวเอง ถึงจะทะเลาะกันจนเข้าโรงพัก ฉันก็มีเหตุผล” มายมิ้นท์พูด ขณะที่ดึงเส้นผมส้มเปรี้ยวอีกครั้ง

ที่จริงแล้วเธอจงใจบอกส้มเปรี้ยว ว่าลูกในท้องของเธอคือลูกของเปปเปอร์ และจงใจพูดกับส้มเปรี้ยวว่าอยากแต่งงานใหม่กับเปปเปอร์ เพราะอยากกระตุ้นส้มเปรี้ยว กระตุ้นให้ส้มเปรี้ยวลงมือกับเธอ เมื่อเป็นแบบนี้ เธอถึงจะมีเหตุผลในการทำคืน แล้วเอาเส้นผมส้มเปรี้ยว

ถึงแม้วิธีนี้จะรุนแรงและเสี่ยงอยู่บ้าง เป็นไปได้อย่างมากว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่เพื่อไม่ให้ถูกสงสัยว่าเธอจงใจเอาเส้นผมส้มเปรี้ยว ก็มีแค่วิธีนี้เท่านั้น แต่โชคดีที่เธอระวังตัวจากส้มเปรี้ยวล่วงหน้า เลยทำให้ส้มเปรี้ยวทำร้ายตัวเองอย่างแรง

“กรี๊ด!” ส้มเปรี้ยวน้ำตาไหลออกมาอย่างเจ็บปวด จ้องมายมิ้นท์ด้วยความอาฆาต “ปล่อยฉัน!”

“ฉันไม่ปล่อย!” มายมิ้นท์จ้องหน้าเธออย่างเหยียดหยาม