รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 256 สารภาพความรู้สึกถึงท
ส้มเปรี้ยวฟังเสียงฝีเท้าของเขา ราวกับว่ามันกำลังเหยียบอยู่ในใจเธอ ทำให้หัวใจของเธอหดตัวตามไปด้วย ความตื่นตระหนกและหวาดกลัวทั้งหมดโจมตีเข้ามา
เธอถอยหลังออกไปโดยสัญชาตญาณ ริมฝีปากสั่นเทาเปล่งเสียงออกมาไม่ได้
เปปเปอร์เห็นท่าทางแบบนั้น ในสายตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ “คุณตอบไม่ได้ใช่ไหม เพราะว่าคุณไม่ได้อาศัยอยู่ในเขตนิวเทาน์ริเวอร์ คุณไม่ได้เลี้ยงสุนัข แล้วก็ไม่มีแม่เลี้ยงกับน้องสาวอะไรนั่น ดังนั้นตอนนี้คุณยังกล้าพูดได้เต็มปากอยู่อีกเหรอว่าคุณคือต้นไผ่?”
พรึ่บ!
ส้มเปรี้ยวทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้น สายตาเฉื่อยชาไปทั้งคู่
เปปเปอร์เห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็รู้เลยว่าเธอปิดซ่อนเอาไว้ไม่ได้แล้ว ยอมรับแล้ว
“ส้มเปรี้ยว!” คุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์รีบร้อนเดินเข้ามา กอดส้มเปรี้ยวเอาไว้ เขย่าไหล่ของส้มเปรี้ยว “ส้มเปรี้ยวหนูเป็นอะไรไปลูก?”
ริมฝีปากส้มเปรี้ยวขยับเล็กน้อย อยากจะพูดอะไร แต่กลับพูดอะไรไม่ออก
คุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์จนปัญญา ได้แต่ไปถามเปปเปอร์ “เปปเปอร์ คุณกับส้มเปรี้ยวกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่กันแน่? อะไรคือแอบอ้างเป็นมายมิ้นท์ ต้นไผ่คืออะไร ทำไมฉันถึงฟังไม่เข้าใจเลยสักคำเดียว”
เปปเปอร์ไม่ได้มองเธอ มองดูส้มเปรี้ยวด้วยสายตาเย้ยหยันตอบกลับไปว่า: “ลูกสาวของคุณ แอบอ้างตัวเป็นคนรักที่แท้จริงของผม เสพสุขอยู่บนความสุขของการได้รับการปฏิบัติที่เธอไม่สมควรจะได้รับมันมาหกปี”
“อะไรนะ? คุณไม่ได้รักส้มเปรี้ยว?” คุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์เปล่งเสียงสูง
เปปเปอร์เฮอะออกมาอย่างเย็นชา “ผมไม่เคยรักเธอมาก่อนเลย คนที่ผมรักมาโดยตลอดคือมายมิ้น มายมิ้นท์คือเพื่อนทางจดหมายของผม เธอแอบอ้างตัวว่าเป็นมายมิ้นท์ถึงได้มายืนอยู่ข้างกายผม ไม่อย่างนั้นคุณคิดว่า หกปีก่อนหน้านั้นผมที่ไม่เคยพบเธอมาก่อน ทำไมจู่ๆผมถึงบอกว่ารักเธอได้!”
“นี่……” คุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์ถูกถามจนพูดไม่ออก
ใช่แล้ว หกปีที่แล้ว เพราะฐานะที่ไม่เท่าเทียมกัน เด็กสองคนนี้ไม่เคยพบกันมาก่อนจริงๆ
ไม่ ควรจะพูดว่า เปปเปอร์ไม่เคยเห็นส้มเปรี้ยวเพียงฝ่ายเดียวต่างหาก แต่ส้มเปรี้ยวเคยเห็นเปปเปอร์มาก่อน เพราะเปปเปอร์เก่งยอดเยี่ยมมากขนาดนี้ เด็กสาวในแวดวง มีคนไหนบ้างที่ไม่ชอบเขา
แต่แล้วเมื่อหกปีก่อนมีวันหนึ่ง จู่ๆเปปเปอร์ก็โผล่มาที่บ้านตระกูลภักดีพิสุทธิ์ บอกว่าจะคบหากับส้มเปรี้ยว ตอนนั้นเธอก็รู้สึกว่ามันแปลกแล้ว เปปเปอร์ไม่เคยเห็นส้มเปรี้ยว ทำไมกลับบอกว่าหลงรักส้มเปรี้ยวได้ อีกทั้งสายตานั่น ยังลึกซึ้งมากเป็นพิเศษ
แต่ว่าตอนนั้นเธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก รู้สึกแค่ว่าเปปเปอร์ตกหลุมรักส้มเปรี้ยวตั้งแต่แรกพบ บวกกับอายุยังน้อย ดังนั้นจึงรักกันร้อนแรงไปหน่อย
แต่คิดไม่ถึงว่า ความรักครั้งนี้ ส้มเปรี้ยวจะเป็นนกพิราบครองรังนกกางเขนเข้าครอบครองบ้านคนอื่นโดยพลการ
คิดถึงตรงนี้ คุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์มองส้มเปรี้ยวด้วยแววตาแปลกประหลาดครู่หนึ่ง
ส้มเปรี้ยวเลี่ยงสายตาของเธอด้วยความร้อนตัว จากนั้นก็ลุกขึ้นมา ไปจับแขนของเปปเปอร์เอาไว้ ร้องไห้พูดออกมาว่า “ขอโทษด้วยเปปเปอร์ ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว ฉันรู้ตัวว่าทำผิดไปแล้วจริงๆ ฉันไม่ควรแอบอ้างเป็นมายมิ้นท์ แต่ว่าฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะว่าฉันรักคุณ……” เรื่องแอบอ้างเป็นมายมิ้นท์ ส้มเปรี้ยวรู้ว่าไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีกแล้ว
ตอนนี้เรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องจัดการ ก็คือต้องยอมรับผิดอย่างจริงใจ ได้รับการยกโทษจากเปปเปอร์
เมื่อเป็นแบบนี้ เธอก็ยังมีโอกาส!
“คุณรักผม?” เปปเปอร์ยิ้มออกมา ยิ้มอย่างเยาะเย้ยเย็นชา
เขายกคางของส้มเปรี้ยวขึ้นมา ใช้นิ้วบีบแรง “คุณรักผม ดังนั้นคุณถึงต้องแอบอ้างเป็นมายมิ้นท์ ยึดตัวตนของมายมิ้นท์ ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูด เมื่อทุกๆคนไปชอบของของคนอื่นเข้า ก็สามารถทำแบบคุณได้ใช่ไหม ในโลกใบนี้ มีเหตุผลแบบนี้ที่ไหนกัน!”
เปปเปอร์พูด ใช้แรงบีบที่มืออีกครั้ง
ส้มเปรี้ยวเจ็บจนร้องครางออกมา น้ำตาเม็ดโตไหลลงมา
เปปเปอร์มองดูน้ำตาของเธอ รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ
แต่เขารู้ว่า เขาไม่ได้เอ็นดูสงสารเธอ แต่ว่าเกิดสถานการณ์เดียวกันกับครั้งก่อนตอนที่เกิดขึ้นในร้านอาหาร
แต่ว่าครั้งนี้ ถึงแม้จะเจ็บจนตาย เขาก็จะไม่ยอมทนกับเธออีกต่อไป
เปปเปอร์สะบัดคางของส้มเปรี้ยวทิ้งไป หยิบผ้าเช็ดหน้าตกแต่ง ออกมาจากกระเป๋าด้านหน้าหน้าอกของเสื้อสูท เช็ดถูนิ้วมือ ไม่ปิดบังความรังเกียจเดียดฉันท์บนใบหน้าเลยแม้แต่น้อย
หลังจากเช็ดเสร็จ ผ้าเช็ดหน้าเขาก็ไม่เอาแล้ว โยนทิ้งไปเลยโดยตรง
“ส้มเปรี้ยว ยกเลิกการแต่งงานผมจะรีบลงกำหนดการให้เร็วที่สุด และที่คุณแอบอ้างเป็นมายมิ้นท์ หลอกลวงความรู้สึกของผมมาหกปี ผมก็จะไม่ปล่อยไปแบบนี้ คุณทำตัวคุณให้ดีๆเถอะ”
พูดจบ สายตาเปปเปอร์ดุร้าย เหมือนหมาป่าที่เย็นชา จ้องมองไปที่ส้มเปรี้ยวลึกๆครู่หนึ่ง ส้มเปรี้ยวเห็นแล้วเกือบจะกรีดร้องออกมา ถึงได้เก็บสายตากลับมา หันหลังเดินจากคฤหาสน์ไป
ทันทีที่เงาร่างของเขาหายไปในช่องทางเข้าของห้องโถง ส้มเปรี้ยวราวกับพังทลายลงมา ขาสองข้างอ่อนแรง นั่งทรุดลงไปกองอยู่บนพื้น บนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น
น่ากลัวมาก สายตาที่เปปเปอร์มองเธอเมื่อกี้น่ากลัวมาก ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในนรก
ส้มเปรี้ยวอดที่จะขดตัวเอาไว้ไม่ได้ กอดตัวเองเอาไว้แน่น
คุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์ถอนหายใจด้วยความเอ็นดูสงสาร “นี่มันเรื่องอะไรกัน……”
“แม่ค่ะ” สองมือของส้มเปรี้ยวจับมือคุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์เอาไว้แน่น ถามด้วยความตื่นตระหนก “ตอนนี้หนูควรจะทำอย่างไรดี แม่ค่ะ ตอนนี้หนูควรจะทำอย่างไร?”
คุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์มองดูรอยแดงที่ถูกจับบนมือ อยากที่จะดึงมือออกมา แต่ส้มเปรี้ยวกลับจับเอาไว้แน่น เหมือนกับว่าถ้าเธอไม่ช่วยคิดหาวิธี ก็จะไม่ยอมปล่อยมือ
คุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์จนปัญญา จำต้องทนเจ็บปล่อยให้เธอจับต่อไป “แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ถึงอย่างไรเรื่องที่แกแอบอ้างตัวเป็นมายมิ้นท์ มันทำให้เปปเปอร์โกรธจริงๆ ที่แกทำเรื่องนี้ในตอนนั้น ทำไมถึงไม่ปรึกษาฉันกับพ่อแก ฉันกับพ่อแกก็นึกว่าคนที่เปปเปอร์รักคือแก”
เพื่อสิ่งนี้ พวกเขาผัวเมียยังคิดว่ามายมิ้นท์เป็นนกพิราบครองรังนกกางเขน แย่งตำแหน่งของลูกสาวเธอ
“พูดเรื่องพวกนี้ตอนนี้มีประโยชน์อะไร!” ส้มเปรี้ยวโยนมือคุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์ออกราวกับกำลังระบายอารมณ์ พูดเสียงแหลมว่า: “เปปเปอร์กำลังจะยกเลิกการแต่งงานกับหนูอยู่แล้ว ไม่ได้ หนูจะยกเลิกการแต่งงานกับเขาไม่ได้ กว่าหนูจะได้เป็นคู่หมั้นของเขามันไม่ง่ายเลย หนูจะยอมเสียตำแหน่งนี้ไปได้อย่างไร หนูอยู่ไม่ได้”
เธอข่วนหน้าของตัวเองอย่างแรงเหมือนเป็นบ้า บนใบหน้าที่ขาวผ่อง ถูกข่วนจนมีรอยแดงออกมา
คุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์กลัวว่าเธอจะข่วนหน้าจนเป็นแผล รีบเอามือของเธอวางลงมา พูดปลอบประโลมว่า: “ได้ ได้ ได้ เราไม่ยกเลิกการแต่งงาน ฉันเรียกพ่อแกกลับมา ปรึกษากันว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี”
พูดไป คุณนายตระกูลภักดีพิสุทธิ์ก็โทรหาเยี่ยมบุญทันที
ด้านนอก ผู้ช่วยเหมันตร์เห็นเปปเปอร์ออกมา กางร่มเดินเข้าไป “ประธานเปปเปอร์ คุยชัดเจนแล้วเหรอครับ?”
“ไปคอนโดพราวฟ้า” เปปเปอร์ไม่ได้ตอบคำถาม หลังจากที่ขึ้นรถไป ก็หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า
ผู้ช่วยเหมันตร์เห็นท่าทางเขาเหมือนจะเหนื่อยมาก อ้าปากขึ้นมา ไม่ได้เอ่ยถาม สตาร์ทรถออกไป
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ก็ถึงคอนโดพราวฟ้า
เปปเปอร์เคาะประตูคอนโดของมายมิ้นท์
มายมิ้นท์กำลังเขียนหนังสือเล่มวิเคราะห์ ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น วางปากกาลงแล้วเดินออกไป “ใครคะ?”
เปปเปอร์ได้ยินเสียงของเธอ ไม่ได้ตอบคำถาม
เขารู้ว่า ถ้าเขาตอบ บางทีเธออาจจะไม่เปิดประตูให้
มาย์มิ้นท์ไม่ได้มองกริ่งประตูอินเตอร์คอม หลังจากจามไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็เปิดประตูโดยตรงเลย
เห็นคนที่อยู่ด้านนอกประตูคือเปปเปอร์ เธอชะงักครู่หนึ่งก่อน จากนั้นก็ขมวดคิ้ว แล้วก็จะปิดประตู
มือใหญ่เปปเปอร์ยันอยู่ตรงขอบประตู หยุดเธอเอาไว้ ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยการอ้อนวอนอยู่เล็กน้อย “อย่าปิด ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“เรื่องอะไร?” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วสวย
เปปเปอร์รู้ว่าเธอจะยังไม่ปิดประตู ก็วางมือลงมา จ้องมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง สุดท้ายก็รวบเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน
มายมิ้นท์ตกใจมาก ตาสองข้างเบิกกว้าง นานพักใหญ่กว่าจะตอบสนองกลับมา โกรธจนหน้าแดงก่ำ ใช้แรงผลักเขาออกไป “เปปเปอร์ คุณทำอะไร ปล่อยฉันนะ!”
เปปเปอร์ไม่ปล่อย แต่กลับกอดเธอแน่นยิ่งขึ้น
เขาจะตัดใจปล่อยเธอไปได้ยังไง
เธอคือคนที่เขารักนะ!
มายมิ้นท์เห็นเปปเปอร์ไม่ยอมปล่อย และน้ำบนตัวเขา ทำให้เสื้อผ้าบนร่างกายของเธอเปียกไปด้วย ในใจก็ยิ่งโกรธขึ้นมา สุดท้ายกัดริมฝีปากแล้วกระทืบไปที่เท้าของเขาอย่างแรง
เปปเปอร์รู้สึกปวด ขมวดคิ้วขึ้นมา ร้องอ๊าขึ้นมาในใจ แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอ
ในตอนนี้มายมิ้นท์โกรธอย่างสิ้นเชิงแล้ว ยกมือขึ้นมาโดยตรง ตบไปที่เขาหนึ่งฉาก!