รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 261 คุณปล่อยมือเถอะ
ในดวงตาของเปปเปอร์ดำมืดลง “ผมเคยรับปากคุณจริงๆ แต่ว่าผมรับปากแค่ว่าจะไม่ขัดขวางคุณ แต่ไม่ได้รับปากว่าจะไม่แต่งงานซ้ำกับมายมิ้นท์”
“คุณ……” ทามทอยโกรธจนหน้าบิดเบี้ยว
แต่ไม่ช้า เขาก็สงบลงอีกครั้ง “ได้ เปปเปอร์คุณหาช่องโหว่ได้เก่งจริงๆ แต่ว่าคุณบอกจะแต่งงานใหม่ก็แต่งงานใหม่เหรอ? คุณคิดว่ามายมิ้นท์จะเห็นด้วยเหรอ?”
ริมฝีปากบางของเปปเปอร์ขยับเล็กน้อย ไม่ได้ต่อคำอีก
ทามทอยเห็นภาพฉากนี้ ก็ยิ้มเย้ยหยันออกมา “คุณดูสิ ตัวคุณเองยังไม่มีความมั่นใจในการตอบคำถามข้อนี้เลย งั้นผมจะตอบคุณให้ มายมิ้นท์ไม่แต่งงานซ้ำกับคุณหรอก ดังนั้นคุณควรล้มเลิกความคิดที่ไม่สมจริงนั่นของคุณไปแต่เนิ่นๆดีกว่า”
“คุณมีเหตุผลอะไรมาคิดว่ามายมิ้นท์จะปฏิเสธ?” เปปเปอร์มองดูเขาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
“ก็เหตุผลจากทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำต่อมายมิ้นท์ตลอดหกปีที่ผ่านมาไง!” ทามทอยเอามือกอดอกเอาไว้ พูดเสียงเย็นชา: “ความรุนแรงทางจิตใจที่คุณปฏิบัติต่อมายมิ้นมาตลอดหกปี คุณคงจะยังไม่ลืมใช่ไหม? ดังนั้นคุณมีสิทธิอะไรไปแต่งงานซ้ำกับเธออีก? แค่เพราะว่าคุณรู้ตัวว่าคุณตกหลุมรักเธอแล้ว? เปปเปอร์ คุณไม่รู้สึกว่านี่มันน่าขำมากเหรอ?”
ฟังคำพูดเสียดสีของเขา เปปเปอร์กำหมัดของเขาเอาไว้
ใช่ เขาไม่ปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำต่อมายมิ้นท์ในอดีต
แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำผิดไป เขาจะชดเชยให้เธอเป็นเท่าตัว
ทามทอยไม่รู้ว่าเปปเปอร์กำลังคิดอะไรอยู่ เขานวดขมับตัวเอง “เปปเปอร์ พูดจริงๆ ผมรู้สึกว่าคุณไม่คู่ควรมากเลยคุณรู้ตัวไหม? ตอนที่คุณไม่รักเธอ คุณเห็นเธอแต่ทำเหมือนมองไม่เห็นเธอ ตอนที่คุณรักเธอ คุณก็อยากตามง้อเธอกลับไป คุณเห็นมายมิ้นท์เป็นอะไร? เป็นสิ่งของที่กวักมือก็มาโบกมือก็ไปเชื่อฟังคุณมากอย่างนั้นเหรอ?”
เปปเปอร์หรี่ตาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “นี่ก็แค่จินตนาการส่วนตัวของคุณเองเท่านั้น!”
“ใช่ นีคือจินตนาการส่วนตัวของผม แต่ว่าการกระทำของคุณ ก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? คุณไม่รักมายมิ้นท์ เพราะอะไรถึงรับปากแต่งงานกับมายมิ้นท์ มายมิ้นท์เธอพูดแล้วว่า ขอแค่คุณปฏิเสธ เธอจะไม่บีบบังคับคุณเลย แต่ว่าคุณไม่ได้ปฏิเสธไม่ใช่เหรอ?”
ทามทอยมองดูเขา “ในเมื่อคุณไม่ได้ปฏิเสธ ก็หมายความว่าคุณยินยอมพร้อมใจเอง แต่หลังจากแต่งงานแล้ว คุณกลับไม่สนใจไยดีมายมิ้นท์เลย ปล่อยให้เธอถูกคนในครอบครัวคุณรังแก แม้กระทั่งตัวคุณเองก็เป็นหนึ่งในจำนวนคนที่รังแกเธอด้วย ในตอนนั้นเธอรักคุณ ดังนั้นท่าทีที่คุณมีต่อเธอ ทำเธอเสียใจมากแค่ไหนคุณรู้ไหม?”
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบางเอาไว้แน่น ไม่ได้พูดอะไร
เขารู้ เขาต้องรู้อยู่แล้ว
เขาจำได้ตอนที่เพิ่งแต่งงานใหม่ๆ สายตาที่เธอมองเขาสดใสมันขนาดนั้น ราวกับมีแสงกำลังส่องประกาย แต่ว่าแสงสว่างในแววตาของเธอค่อยๆจางหายไป จนกลายเป็นสีเทา แม้แต่ตัวเธอเองก็ไร้ชีวิตชีวาไป
แต่ตัวเขาเองในตอนนั้นทำอย่างไรเล่า?
ไม่ได้สนใจเป็นห่วงว่าเพราะอะไรเธอถึงกลายเป็นแบบนั้น แต่กลับรู้สึกเห็นแล้วมันหงุดหงิดน่ารำคาญ!
คือตัวเขาเองที่ผิดต่อมายมิ้นท์!
คิดถึงตรงนี้ เปปเปอร์รู้สึกแค่ว่าหัวใจราวกับถูกเข็มทิ่มแทง อัดแน่นไปด้วยเจ็บปวดรวดร้าว
เห็นเปปเปอร์ไม่พูดอะไร ทามทอยถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “คุณคิดว่าสิ่งที่คุณทำร้ายมายมิ้นท์ มีเพียงแค่นี้เหรอ?”
เปลือกตาเปปเปอร์สั่นเล็กน้อย
ทามทอยพูดขึ้นมาอีกว่า: “ตอนที่ส้มเปรี้ยวเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา คุณถึงกับเสนอให้มายมิ้นท์ย้ายออกจากคฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์ เพียงเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับส้มเปรี้ยว ในตอนนั้นพวกคุณยังไม่ได้หย่ากันใช่ไหม มายมิ้นท์ยังเป็นภรรยาของคุณ คุณให้ภรรยาที่แท้จริงของคุณ ย้ายออกเพื่อให้ที่ว่างสำหรับมือที่สาม การกระทำไร้เหตุผลเกินไปแบบนี้ แม้แต่เพลย์บอยอย่างเลอแปงยังไม่ทำเลย คุณที่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนชั้นยอดอย่างคุณ กลับทำมันออกมาได้”
พูดถึงตรงนี้ เขายิ้มด้วยความไม่เข้าใจอย่างมาก “เปปเปอร์คุณรู้ไหมตอนที่ผมได้ยินเรื่องนี้ ผมก็แปลกใจมาก สงสัยกระทั่งว่าคุณถูกผีเข้าสิงหรือเปล่า และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณทำแบบนี้ เป็นการเอามีดเสียบเข้าไปในหัวใจของมายมิ้นท์อย่างไม่ต้องสงสัยเลย”
“นั่นไม่ใช่เจตนาจริงๆของผม!” เปปเปอร์ลืมตาขึ้นมาตอบทันที
แต่เขารู้ดีแก่ใจ ไม่ว่าจะถูกสะกดจิตหรือไม่
สุดท้ายก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรื่องพวกนี้ เขาเป็นคนทำจริงๆ
ทามทอยส่ายหน้า “ไม่ว่าจะเป็นเจตนาที่แท้จริงของคุณหรือไม่ พูดเรื่องพวกนี้ตอนนี้มีประโยชน์อะไร หลายเดือนมานี้ ส้มเปรี้ยวทำร้ายมายมิ้นท์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณก็ไม่ได้ทำอะไรเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ดังนั้นคุณยังมีหน้าอะไรไปตามง้อมายมิ้นท์ แต่งงานซ้ำกับมายมิ้นท์อีก? เปปเปอร์ ปล่อยมายมิ้นท์ไปเถอะ กว่าเธอจะเดินออกจากความรู้สึกที่มีต่อคุณกลับมาเป็นตัวเองได้มันไม่ง่ายเลย คุณให้เธอสมหวังไม่ดีเหรอ?”
“คุณพูดกับผมเยอะแยะขนาดนี้ นี่ถึงจะเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของคุณใช่ไหม อยากให้ผมปล่อยมือ ไม่ขัดขวางการตามจีบมายมิ้นท์ของคุณ” เปปเปอร์หัวเราะเยาะและมองดูเขา
ทามทอยก้มหน้าหัวเราะไปครู่หนึ่ง “คุณพูดถูก นี่คือจุดประสงค์ของผมจริงๆ แต่ที่มากกว่านั้น ผมกำลังร้องขอความเป็นธรรมแทนเธอด้วย แล้วก็เปปเปอร์ คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าหลังจากที่แต่งงานใหม่กับเธอแล้ว คุณจะสามารถปกป้องเธอได้อย่างดี? แม่ของคุณ ส้มเปรี้ยว ยังมีตระกูลภักดีพิสุทธิ์อีก เว้นเสียแต่คุณจะกำจัดคนพวกนี้ให้หมด ไม่อย่างนั้นคุณปกป้องเธอไม่ได้หรอก คุณมีแต่จะทำร้ายเธออีกครั้ง ดังนั้นคุณลองคิดดูดีๆเถอะ” พูดจบ ทามทอยตบบ่าเขาเบาๆ ขอตัวลาออกไป
ตอนที่เดินไปถึงหน้าประตู ทามทอยเห็นท่านย่ากับป้าแดง รู้สึกประหลาดใจก่อน จากนั้นก็จะกล่าวคำทักทาย
ท่านย่าส่ายหน้าให้เขา
ทามทอยยิ้มให้อย่างเข้าใจ จากนั้นก็เดินออกไป
ท่านย่าถึงได้ผลักประตูห้องผู้ป่วยเข้าไป “เปปเปอร์”
“ท่านย่า ท่านย่ามาแล้ว” เปปเปอร์เอามือที่กำลังนวดขมับอยู่ลง เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเล็กน้อย
ท่านย่านั่งลงตรงข้างเตียงผู้ป่วย “เหมันตร์บอกว่าแกเป็นไข้ ดังนั้นย่าเลยมาเยี่ยมแกโดยเฉพาะ คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินการสนทนาระหว่างแกกับลูกชายตระกูลชุติเกษม เปปเปอร์ แกตกหลุมรักมายมิ้นท์?จริงๆเหรอ?”
“คนที่ผมรัก คือเธอมาโดยตลอด และมีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น” เปปเปอร์มองต่ำแล้วตอบคำถาม
ไม่ว่าจะเป็นต้นไผ่ หรือว่ามายมิ้นท์ ก็คือคนคนเดียวกัน
เขาหลงรักต้นไผ่ก่อน ต่อมาก็หลงรักมายมิ้นท์
คนคนเดียวกัน เขาตกหลุมรักถึงสองครั้ง!
ท่านย่าฟังคำตอบของเปปเปอร์ บนใบหน้าไม่มีความแปลกใจเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าท่านรู้มานานมากแล้ว
ในใจเปปเปอร์รู้สึกจมดิ่ง
เป็นแบบนี้จริงๆ ทุกคนต่างรู้กันดี คนที่เขารักคือมายมิ้นท์ แต่กลับไม่มีใครบอกกับเขา
ถ้าหากมีใครสักคนบอกกับเขา เขาจะรู้ใจตัวเองได้เร็วกว่านี้ไหม รู้ว่าตัวเองถูกสะกดจิตอยู่
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบางขณะที่กำลังคิดอยู่
ท่านย่าถอนหายใจ “ตอนนั้นย่าก็เคยบอกแล้ว ว่าให้แกอย่าเสียใจภายหลัง แกบอกว่าแกจะไม่เสียใจภายหลังเด็ดขาด แต่ตอนนี้……”
เปปเปอร์รู้สึกแค่ว่าหน้าของตัวเอง เหมือนถูกคนตบอย่างแรงหนึ่งฉาก เจ็บแบบปวดแสบปวดร้อน
ใช่แล้ว ตอนนั้นท่านย่าเคยเกลี้ยกล่อมเขา บอกให้เขาว่าไม่ต้องหย่า ให้เขาใช้ชีวิตกับมายมิ้นท์ดีๆ แต่เขาก็ไม่ฟัง ท่านย่าบอกว่าให้เขาอย่าเสียใจภายหลัง ตอนนั้นเขาพูดอย่างแน่วแน่ว่าตัวเองจะไม่เสียใจภายหลังแน่นอน
แต่ตอนนี้ เขาเสียใจภายหลังจริงๆแล้ว……
หัวใจเปปเปอร์เจ็บปวดทรมาน
ท่านย่าสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเขา ตบไปที่หลังมือของเขาเบาๆ “เปปเปอร์ ตอนนี้เสียใจภายหลังก็สายไปแล้ว ฟังคำพูดของลูกชายตระกูลชุติเกษม ปล่อยมือเถอะ”
“ไม่!” เปปเปอร์ตอบปฏิเสธด้วยสีหน้าดุร้าย “ผมรักเธอมาสิบกว่าปี ผมจะปล่อยมือได้อย่างไร”
“สิบกว่าปี? แกกับหนูมิ้นท์ไม่ใช่เพิ่งจะรู้จักกันเมื่อหกปีกว่าเหรอ? สิบกว่าปีมาได้อย่างไร?” ท่านย่ามึนงง
เปปเปอร์กำหมัดแน่นและมองดูเธอ “ท่านย่า มายมิ้นท์ต่างหากที่เป็นเพื่อนทางจดหมายของผม”
“อะไรนะ?” ท่านย่าตะลึงไป “มิ้นท์คือเพื่อนทางจดหมายของแก งั้นส้มเปรี้ยวก็คือตัวปลอมสิ?”
“ใช่!” พูดถึงส้มเปรี้ยว แววตาเปปเปอร์ประกายความโกรธขึ้นมาเล็กน้อย กัดฟันตอบกลับไปว่า: “เธอแอบอ้างตัวเป็นมายมิ้นท์!”
นานพักใหญ่กว่าที่คลื่นลูกใหญ่ในใจท่านย่าจะสงบลง ตบเบาๆไปที่หน้าอก “มิน่าล่ะส้มเปรี้ยวถึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแกชอบดอกไม้ชนิดไหน ที่แท้ก็เป็นตัวปลอมนี่เอง แกก็เหลือเกิน เพื่อนทางจดหมายเป็นตัวจริงหรือตัวปลอมแกยังแยกไม่ออก เสียทีที่แกเป็นถึงผู้บริหารจัดการกลุ่มบริษัทใหญ่โตแบบนี้!”
ท่านย่ากลอกตาใส่เปปเปอร์อย่างไม่สบอารมณ์
เวรกรรมจริงๆ ส้มเปรี้ยวผู้หญิงคนนั้น นกพิราบครองรังนกกางเขนเรื่องหน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้ยังทำออกมาได้
เปปเปอร์ก็โง่เหลือเกิน แยกของจริงของปลอมไม่ออก ถ้าหากเปปเปอร์รู้เร็วกว่านี้ว่ามายมิ้นท์ต่างหากที่เป็นตัวจริง บางทีตอนนี้ลูกของเปปเปอร์กับมิ้นท์คงจะวิ่งได้แล้วมั้ง