รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 276 ยิงธนูดอกเดียวได้นกสามตัว
ณที่งานแถลงข่าว การแถลงข่าวก็ยังคงดำเนินต่อไป
นักข่าวคนนั้นยังคงตามถามต่อไปว่า:“ประธานเปปเปอร์ครับ ทำไมคุณถึงบอกว่าคุณส้มเปรี้ยวมีจิตใจที่ชั่วร้ายละครับ?เป็นเพราะคุณส้มเปรี้ยวทำอะไรไปหรือเปล่าครับ?คุณพูดรายละเอียดให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ?”
นักข่าวและผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดนั้น ต่างก็มองดูเปปเปอร์ด้วยความคาดหวัง
สำหรับพวกเขา นอกจากชอบพูดนินทาเรื่องในวงการบันเทิงแล้ว เรื่องของคนไฮโซและคนรวยนั้นก็เป็นที่พวกเขาชอบนินทากันมากที่สุด
เนื่องจากติดต่อไม่ได้ เลยอยากรู้มาก
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบางของเขา “ไม่ได้ พวกคุณแค่รู้เหตุผลที่แท้จริงที่ผมถอนหมั้นก็พอแล้ว ที่เหลือไม่จำเป็นต้อง แค่นี้แหละ งานแถลงข่าวในวันนี้จบลงเพียงเท่านี้!”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็วางไมโครโฟนลง เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง แล้วเดินออกจากห้องประชุม
เหตุผลที่เขาไม่ต้องการที่จะเปิดเผยเรื่องที่น่าขยะแขยงส้มเปรี้ยวนั้น หลักๆแล้วก็เป็นเพราะว่าเขาไม่อยากผลักดันมายมิ้นท์ให้ตกอยู่ในที่ที่อันตราย
แม้ว่ามายมิ้นท์จะเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเรื่องที่ส้มเปรี้ยวเคยทำนั้น แต่บางคนที่มีเจตนาอื่น ก็จะเดาไปมั่วว่าเป็นเพราะมายมิ้นท์ทำอะไรลงไปหรือเปล่า จึงทำให้ส้มเปรี้ยวปฏิบัติต่อเธอเช่นนั้น
การจากไปของเปปเปอร์ ทำให้ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดและสื่อในงานแถลงข่าวนั้นรู้สึกอึดอัดมาก
กระตุ้นความอยากรู้ของพวกเขา แต่ก็เดินจากไปอย่างไม่สนอะไร มันช่างไม่ใช่เรื่องที่คนจะทำได้จริงๆเลย
แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปขวางเปปเปอร์ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงหันไปหาผู้ช่วยของเปปเปอร์ โดยหวังว่าผู้ช่วยของเปปเปอร์จะอธิบายให้พวกเขาสักหน่อย
ผู้ช่วยเหมันตร์มองดูสายตาของคนพวกนี้ แล้วฝืนยิ้ม
เขาดูออกว่าคนพวกนี้คิดอะไรอยู่
พูดตามตรง เขาเองก็รู้สึกว่าเจ้านายของเขาทำเรื่องอะไรที่ไม่ใช่คนทำลงไปได้จริงๆเลย อุบไว้แล้วจากไป สุดท้ายก็ทิ้งให้เขาต้องเป็นคนจัดการเอง
แอบถอนหายใจ ผู้ช่วยเหมันตร์หยิบไมโครโฟนขึ้นมาและเริ่มรับมือกับสื่อ
แน่นอนว่า เป็นไปไม่ได้หรอกที่สื่อเหล่านี้จะรับรู้อะไรจากปากเขา
สุดท้ายไม่รู้จะทำไงต่อดี สื่อเหล่านี้ก็ออกจากบริษัทตระกูลนวบดินทร์และไปที่เอสซีกรุ๊ป ต้องการจะไปสัมภาษณ์เยี่ยมบุญ เพื่อดูว่าจะสามารถได้เบาะแสอะไรจากทางเยี่ยมบุญหรือไม่
แต่เยี่ยมบุญไม่ยอมรับการสัมภาษณ์ เพียงแค่โพสต์วิดีโออันหนึ่งลงบนเว็บไซต์ทางการเท่านั้น
ในวิดีโอ ดวงตาของเยี่ยมบุญแดงไปหมด สีหน้ากังวล ซึ่งสมเป็นภาพที่ทำหน้าเศร้าเนื่องจากลูกสาวเกิดอุบัติเหตุ
เขามองกล้องแล้วพูดว่า:“สวัสดี ชาวเน็ตทุกคน ผมคือเยี่ยมบุญ ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี่ มีข่าวที่อยู่ท็อปๆบนอินเทอร์เน็ตนั้น เป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับลูกสาวผม ผมขอโทษที่ใช้ทรัพยากรเครือข่ายไปมาก ในขณะเดียวกัน ผมก็หวังให้ชาวเน็ตเลิกสนใจเรื่องนี้อีกต่อไป ลูกสาวผมเป็นผู้เสียหาย ตอนนี้เธอยังอยู่ในหอICUไม่ตื่นเลย ถ้าเธอตื่นมาเห็นคนอื่นพูดถึงความเศร้าของเธอทางเน็ตมากมายขนาดนี้ หล่อนจะเสียใจมากขนาดไหน!”
พูดถึงตรงนี้ เขายกมือขึ้นและเช็ดน้ำตาที่หางตา แล้วพูดต่อว่า:“สำหรับคำที่ประธานเปปเปอร์พูดในงานแถลงข่าวว่าลูกสาวของผมมีจิตใจที่ชั่วร้าย นี่มันเป็นการใส่ร้ายชัดๆ ผมยอมรับว่าลูกสาวของฉันมีข้อบกพร่องบางอย่างในตัวเธอ แต่มันไม่ถึงเหมือนที่ประธานเปปเปอร์พูดหรอกครับ อีกอย่างเธอทำร้ายใครเหรอ?ทุกคนก็ยังดีๆอยู่ไม่ใช่เหรอ?ดังนั้นผมเลยอยากขอให้ทุกคนอย่าเชื่อคำพูดของประธานเปปเปอร์ครับ และอย่าโพสต์ความคิดเห็นที่ทำให้คนเสียใจบนอินเทอร์เน็ตเลยครับ พวกคุณต้องรู้ว่าความคิดเห็นของพวกคุณนั้น อาจกลายเป็นมีดด้ามหนึ่ง ที่ฆ่าลูกสาวผมทิ้งได้!”
เยี่ยมบุญสูดหายใจเข้าลึกๆ และจ้องไปที่กล้องราวกับว่าเขากำลังจะเห็นใครบางคนผ่านกล้อง “ผมไม่รู้ว่าทำไมประธานเปปเปอร์ถึงพูดลูกสาวผมส้มเปรี้ยวเช่นนี้ แต่ผมคิดว่า อย่างน้อยพวกคุณทั้งสองก็เคยรักกัน มาก่อน คุณมาพูดฝ่ายหญิงแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลยนะครับ แน่นอนว่าผมเองก็รู้ว่าส้มเปรี้ยวถูกรังแกและมันก็ทำให้คุณขายหน้า ดังนั้นคุณจึงอยากถอนหมั้นกับเธอเร็วๆ ผมเข้าใจและยอมรับมัน ต่อจากนี้ไปทั้งตระกูลนวบดินทร์และตระกูลภักดีพิศุทธิ์จะไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป โอเคครับ ที่ผมต้องพูดมีเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณครับ!”
พูดจบ เขาก็คำนับให้กล้อง จากนั้นวิดีโอก็จบลง
ชาวเน็ตที่ดูวิดีโอนี้จบแล้ว ไม่ว่าจะรังเกียจส้มเปรี้ยวหรือเป็นเพียงคนทั่วไปที่อยากเสือก ต่างก็เปลี่ยนทัศนคติของพวกเขาไปในขณะนี้
“ใช่แล้ว ส้มเปรี้ยวเป็นผู้เสียหายนี่นะ และไม่ใช่ว่าเธอต้องการอยากถูกรังแก แต่ชาวเน็ตเหล่านั้นกลับมาดุเธอว่าไร้ยางอายทางอินเทอร์เน็ต และยังบอกว่าปรบมือข้างเดียวไม่ดัง ฉันสงสัยจริงๆเลยว่าพวกเขามีทัศนคติไหม ไม่กลัวว่าผู้เสียหายตื่นมาเห็นคอมเม้นต์พวกนี้แล้วคิดไม่ออกแล้วฆ่าตัวตายเหรอ?”
“นักรบคีย์บอร์ดเหล่านี้ไม่น่ากลัวหรอก พวกเขาสนใจแต่ความสุขของตัวเองและไม่สนว่าใครเป็นผู้เสียหาย”
“ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่ประธานเยี่ยมบุญพูดนั้นค่อนข้างสมเหตุสมผล ประธานเปปเปอร์บอกว่าส้มเปรี้ยวมีจิตใจที่ชั่วร้าย แต่จริงๆ แล้วเราเองก็ยังไม่เคยเห็นส้มเปรี้วทำสิ่งเลวร้ายอะไรเลย ดังนั้นพวกเราเลยต้องคอยตรวจสอบว่าคำเหล่านี้จริงหรือไม่ อีกอย่างละก็อย่างน้อยเขากับส้มเปรี้ยวก็เคยรักกันมาก่อน และตอนนี้ก็มาพูดฝ่ายหญิงเช่นนี้ ช่างไม่มีศีลธรรมจริงๆเลย”
“……”
มีการอภิปรายกันมากมายบนอินเทอร์เน็ต บางคนเชื่อเปปเปอร์ และบางคนก็ด่าเปปเปอร์ แต่กับส้มเปรี้ยวแล้ว กลับกลายเป็นเห็นใจกันหมด
ณ นวบดินทร์กรุ๊ปในสำนักงานของประธาน เปปเปอร์กำลังดูคอมเม้นค์เหล่านี้อยู่ แต่ใบหน้ากลับไม่แสดงอาการใดๆเลย แต่รอบกายของเขาเต็มไปด้วยความเย็น
ผู้ช่วยเหมันตร์ยืนอยู่ข้างหลังเขา ดันแว่นแล้วพูดว่า:“ผมต้องบอกว่า เยี่ยมบุญนี่มันเก่งจริง เขาโยนความผิดทั้งหมดให้คุณและคนที่รังแกส้มเปรี้ยว ส่วนพวกเขากลับกลายเป็นผู้เสียหายที่ไม่มีความผิดใดๆเลย?”
ในตอนแรก หลังจากที่ประธานเปปเปอร์เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของส้มเปรี้ยวแล้ว ชาวเน็ตทุกคนต่างก็เชื่อว่าส้มเปรี้ยวเป็นคนแบบนั้นจริงๆ ดังนั้นแม้ว่าส้มเปรี้ยวจะถูกรังแก แต่ชาวเน็ตก็ไม่เห็นอกเห็นใจและเห็นด้วยกับที่ประธานเปปเปอร์ถอนหมั้น
แต่ตอนนี้ ทันทีที่วิดีโอของเยี่ยมบุญออกมา สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ชาวเน็ตเริ่มสงสัยว่าคำพูดของประธานเปปเปอร์นั้นเป็นจริงหรือเท็จ และชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นเท็จ ก่อนอื่น พวกเขาเองก็ไม่เคยเห็นส้มเปรี้ยวทำอะไรที่ไม่ดีลงไปจริง อย่างที่สองคือส้มเปรี้ยวเป็นผู้ได้รับความเสียหายของเหตุการณ์เรื่องนี้ที่เกิดขึ้น
และผู้คนมักจะเห็นอกเห็นใจผู้ที่อ่อนแอและผู้ที่เสียหายโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นสถานการณ์ในตอนนี้ก็คือ ความคิดเห็นที่ไม่ดีทั้งหมดที่เกี่ยวกับส้มเปรี้ยวในบนอินเทอร์เน็ตนั้นได้หยุดลงหมดแล้ว และตลาดหุ้นของเอสซีกรุ๊ปก็เพิ่มขึ้นไปตามด้วย
สรุปแล้ว เยี่ยมบุญวางแผนการได้ดีเยี่ยมจริงๆเลย เรียกได้ว่ายิงธนูนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว!
ไม่สิ น่าจะเรียกว่ายิงธนูนัดเดียวได้นกสามตัว
เยี่ยมบุญยังแก้แค้นที่ประธานเปปเปอร์ถอนหมั้นกับส้มเปรี้ยวอีก เพราะคำพูดของในเมื่อกี้ของเยี่ยมบุญนั้น มันเป็นการจงใจที่จะทำให้ชื่อเสียงของประธานเปปเปอร์แปดเปื้อน ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ถอนหมั้นแล้วยังจะมาทำให้ชื่อเสียงของคู่หมั้นแปดเปื้อนเช่นนี้ มันทำให้ชาวเน็ตเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีขึ้นกับเขา นี่ไงตอนนี้ชาวเน็ตหลายคนก็เริ่มด่าว่าประธานเปปเปอร์แล้วไม่ใช่เหรอ?
ว่าแล้ว ขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่าสินะ
ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายหัวไปมาก
มายมิ้นท์เองก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้แล้วเหมือนกัน
เธอตระหนักได้ยิ่งขึ้นว่า เยี่ยมบุญไอ้เจ้าเล่ห์นี่ไม่ง่ายเลยที่จะรับมือกับเขา
ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถประมาทเลินเล่อเพียงเพราะแค่เธอเคยเอาชนะเยี่ยมบุญมาสองสามครั้งมาก่อน ไม่เช่นนั้นเธอจะตายยังไงก็ไม่รู้เลย
เมื่อนึกถึงตรงนี้ มายมิ้นท์ก็หรี่ตาที่สวยงามลงเล็กน้อย ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความจริงจัง
ในอีกด้านหนึ่ง ราเม็งปิดคอมพิวเตอร์แล้วโทรหาการันต์ “เมื่อไหร่คุณจะปล่อยวิดีโอของส้มเปรี้ยวออกไป ตอนนี้เยี่ยมบุญได้เคลียร์เรื่องส้มเปรี้ยวไปเรียบร้อยแล้ว”
“ไม่รีบ” การันต์ตอบ: “รอส้มเปรี้ยวตื่นขึ้นมาแล้วค่อยว่ากัน กูรู้จักเธอดี เธอจะต้องทำอะไรบางอย่างแน่นอน ดังนั้นถึงตอนนั้นค่อยปล่อยวิดีโอออกมา ก็จะสามารถส่งเธอลงไปในนรกได้อีกครั้ง ”
ราเม็งพยักหน้าครุ่นคิด “กูรู้ละ”
การันต์ก็ถามว่า “มึงจัดการเรื่องกล้องวงจรปิดเสร็จยัง?”
“เสร็จแล้ว เดี๋ยวกูส่งให้มึง” ราเม็งตอบ
การันต์อืมไปคำหนึ่ง “โอเค”
นวบดินทร์กรุ๊ป
เปปเปอร์อ่านบทสรุปความร่วมมือทั้งหมดกับเอสซีกรุ๊ป แล้วส่งแบบสรุปให้ผู้ช่วยเหมันตร์ “แจ้งให้ทราบ เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ยกเลิกความร่วมมือทั้งหมดกับเอสซีกรุ๊ป!