รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 278 ปีโป้ที่ทำผิด
ผู้ช่วยเหมันตร์ไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับการตัดสินใจของเปปเปอร์มากนัก พยักหน้าเล็กน้อย “เข้าใจครับ!”
“ไปเถอะ เอาเอกสารพวกนี้ไปด้วย!” เปปเปอร์จับดั้งตัวเอง
ผู้ช่วยเหมันตร์มองดูเอกสารที่วางทับกันอยู่ และเอื้อมมือไปอุ้มมันขึ้นมา
ไม่นานหลังจากที่เขาจากไป โทรศัพท์มือถือของเปปเปอร์ก็ดังขึ้น เป็นสายของปีโป้
“พี่ครับ ผมเห็นงานแถลงข่าวของพี่แล้วนะ!” อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ปีโป้สวมชุดบาสและนั่งอยู่บนเก้าอี้แถวข้างสนามด้วยเหงือกที่เต็มหน้า เขาน่าจะเพิ่งออกกำลังเสร็จ ใบหน้ามีตื่นเต้นที่ไม่อาจปิดบังได้
เปปเปอร์เอนหลัง “แล้ว?”
“แล้วก็ต้องยินดีกับพี่นะสิ!”ปีโป้เช็ดเหงื่อ “พี่ครับ ยินดีด้วยนะที่พี่พ้นทุกข์แล้ว!”
ริมฝีปากที่บางของเปปเปอร์ก็มีรอยยิ้มขึ้น “โอเค พี่รู้ละ แกตั้งใจแข่งขันเถอะ วางสายก่อนละ”
เมื่อได้ยินการถอนหายใจอย่างรวดเร็วของปีโป้ เขาก็เดาออกแล้วว่าปีโป้กำลังแข่งขันอยู่แน่นอน
ในช่วงเวลานี้ การแข่งขันU17นี่อยู่ในขั้นตอนที่ร้อนแรง และมีการแข่งขันสองหรือสามครั้งในทุกวัน ดังนั้นสายนี้ ก็คงจะเป็นปีโป้ถือโอกาสในช่วงพักแล้วโทรมา
“เดี๋ยวก่อนพี่ อย่าเพิ่งวางสาย!” ปีโป้โยนผ้าเช็ดหน้าทิ้งและเรียกอย่างเร่งรีบ
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว “แกยังมีเรื่องอะไรอีก?”
“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกนะ ก็แค่อยากถามพี่ว่า ที่บนอินเทอร์เน็ตเขาว่ากันว่า……ส้มเปรี้ยวถูกอันนั้นแล้ว มันเป็นความจริงหรือไม่ครับ?” ปีโป้ถามด้วยความอยากรู้
เขาเองก็เพิ่งเห็นข่าวในบนอินเทอร์เน็ต และไม่ได้อ่านอย่างละเอียด ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือไม่
เปปเปอร์อืมไปคำหนึ่ง “เป็นความจริง!”
“เออ……” ปีโป้สูบลมหายใจเข้าลึกๆ เขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
แต่ในไม่ช้า เขาก็สงบลง เบะปากแล้วพูดว่า:“หากว่าการทำความชั่วจะต้องถูกลงโทษ เธอทำสิ่งเลวร้าย มากมายกับคุณมายมิ้นท์ และนี่คือผมกรรมของเธอ”
ดวงตาของเปปเปอร์กะพริบเล็กน้อย
คำพูดเหล่านี้กลับเตือนเขาว่าศัตรูที่ใหญ่ที่สุดของส้มเปรี้ยวนั้นก็คือมายมิ้นท์ และไม่แน่ว่าบางทีเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับมายมิ้นท์ก็ได้
แน่นอนอยู่แล้วว่า เขาไม่ได้หมายถึงว่าเรื่องนี้มายมิ้นท์เป็นคนทำ แต่เขาหมายถึงนิสัยของมายมิ้นท์ แม้ว่าเธอต้องการแก้แค้นใครคนหนึ่งก็ตาม เธอก็จะใช้มาตรการทางกฎหมายเท่านั้นและไม่ใช้วิธีนี้ แต่คนรอบข้างมายมิ้นท์นั้น ไม่แน่นอน
ดังนั้นเป็นลาเต้หรือราเม็งนะ?
หรืออาจจะเป็น……ทามทอย?
เมื่อคิดถึงสายตาที่ทั้งสามคนนี้ที่มองมายมิ้นท์ สีหน้าของเปปเปอร์ก็มืดลง และหัวใจของเขาก็หงุดหงิดมาก
สามคนนี้ต่างก็คิดอะไรกับมายมิ้น และเป็นไปได้จริงที่พวกเขาจะทำแบบนี้กับส้มเปรี้ยวเพื่อมายมิ้นท์!
“พี่?พี่?” ปีโป้ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับของเปปเปปอร์สักที ขึ้นเสียงสูงแล้วตะโกนเรียกไปสองคำ
เปปเปอร์รู้ตัวอีกทีก็พูดว่า “เรื่องอะไร?”
“เมื่อกี้ผมถามพี่เนี่ย เรียกพี่ไปหลายครั้งแล้วก็ไม่มีการตอบสนอง พี่ทำไรเนี่ย?” ปีโป้ และพูดอย่างไม่พอใจ
เปปเปอร์นวดขมับไปครู่หนึ่ง “คิดเรื่องยู่ เมื่อกี้แกถามอะไรนะ?”
“ผมอยากจะถามว่าทำไมเมื่อครั้งก่อนตอนที่พี่ออกจากโรงพยาบาล พี่ก็อยากถอนหมั้นกับส้มเปรี้ยวทันทีเลย?” ปีโป้พูดคำถามของเขาอีกครั้ง
เขาไม่เชื่อหรอกว่า พี่ชายจะถอนหมั้นกับส้มเปี้ยว เป็นเพราะเธอมีจิตใจที่โหดร้ายเหมือนในงานแถลงข่าวนั้น
พี่ใหญ่รู้ว่าส้มเปรี้ยวมีจิตใจที่ไม่ดีตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมก่อนหน้านี้ไม่ถอนหมั้นละ แต่กลับคิดอยากจะถอนหมั้นหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ ต้องเหตุผลอย่างอื่นแน่นอน
คราวที่แล้วเขาไม่ได้ถาม แต่คราวนี้ เขาจะต้องถามให้ชัดเจนอย่างแน่นอน
“แกหน้าจะรู้นะว่าตอนแรกที่พี่คบกับส้มเปรี้ยว เป็นเพราะเธอเป็นเพื่อนทางจดหมายของพี่ใช่ไหม” เปปเปอร์มองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วพูดอย่างเฉยเมย
ปีโป้พยักหน้า “ผมรู้ครับ!”
แม้ว่าตอนนั้นเขาจะยังเล็กอยู่ อายุเพียงสิบขวบ แต่เรื่องที่พี่ชายเขามีเพื่อนทางจดหมายคนหนึ่งและยังตกหลุมรักเพื่อนทางจดหมายคนนั้น เรื่องนี้เขารู้ดีทั้งหมด
เพียงแต่ว่าเขาไม่รู้จักชื่อเพื่อนทางจดหมายของพี่ชายใหญ่เท่านั้นเอง ก็ยังเด็กไง และไม่มีความสนใจในสิ่งเหล่านี้
“แต่ตอนนี้พี่พึ่งรู้ว่า ส้มเปรี้ยวมันเป็นของปลอม เธอไม่ใช่เพื่อนทางจดหมายของพี่ เพื่อนทางจดหมายที่แท้จริงคือมายมิ้นท์” เมื่อเปปเปอร์พูดถึงมายมิ้นท์เสียงของเขาก็อ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ห้ะ!” ปีโป้กระโดดขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ
โค้ชและเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ข้างๆ ก็ตกใจเพราะเขา
“โป้ นี่นายทำอะไรเนี่่ย?” โค้ชทำสีหน้าไม่ดีตักเตือนเขา “เงียบหน่อย ทุกคนกำลังพักผ่อนอยู่”
ตอนนั้นเองที่ปีโป้ถึงตระหนักได้ว่าปฏิกิริยาของเขาตอนนี้มันเวอร์เกินไป และยิ้มอย่างเขินอายว่า “ผมขอโทษครับโค้ช ผมรู้ผิดแล้วครับ”
พูดจบ เขาก็เอาโทรศัพท์มือถือไว้แล้วเดินออกจากสนามกีฬา และไปที่ที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง จากนั้นเขาจึงค่อยพูดต่อว่า: “พี่ พี่บอกว่า พี่มายมิ้นท์ถึงจะเป็นเพื่อนทางจดหมายของพี่ที่แท้จริง”
เปปเปอร์อืมไปคำหนึ่ง
ปีโป้เกาหัว “ทั้งอย่างงั้นละก็ ก็แสดงว่าส้มเปรี้ยวปลอดตัวเป็นพี่มายมิ้นท์ละสิ?”
เปปเปอร์ก็อืมไปคำหนึ่งเหมือนเดิม
ปีโป้ทุบกำแพงอย่างโกรธเคือง “ให้ตายเถอะ ส้มเปรี้ยวหญิงไร้ยางอายนั่น ผมไม่เคยเจอใครที่น่าเกลียดไปกว่าเธออีกเลย เรื่องเข้าครอบครองบ้านหรือที่ดินของผู้อื่นโดยพลการเช่นนี้ เธอยังทำลงไปได้ แต่ว่าเธอรู้ว่าพี่กับพี่มายมิ้นท์เขียนจดหมายระหว่างกันได้ยังไง?”
“เธอกับมายมิ้นท์เป็นเพื่อนร่วมห้องในมหาวิทยาลัย และเคยเห็นจดหมายที่พี่เขียนให้มายมิ้นท์ และอาศัยข้อมูลในจดหมายนั้น เดาตัวตนของพี่ได้ ดังนั้นเธอจึงแกล้งปลอมตัวเป็นมายมิ้นท์” เปปเปอร์กล่าวด้วยสีหน้าที่เย็นชา ในน้ำเสียงของเขานั้นมีแต่ความรังเกียจส้มเปรี้ยว
“ที่แท้เป็นอย่างงี้นี่เอง แอบดูจดหมายของพี่มายมิ้นท์……เดี๋ยวก่อน จดหมาย?”
เมื่อพูดถึงนี่ ปีโป้ก็เปล่งเสียงสูงขึ้นมา ทันใดนั้นก็นึกบางอย่างได้ และลืมตาโตขึ้นมา
เมื่อสามเดือนก่อน เขาเห็นจดหมายจำนวนมากจากที่พี่มายมิ้นท์ ซองจดหมายพวกนั้นกลายเป็นสีเหลืองแล้ว แค่ดูก็ดูออกได้ว่ามีมาหลายปีแล้ว
หรือว่าจดหมายพวกนั้นก็คือ……
เปปเปอร์กลืนน้ำลาย และมือทั้งสองข้างก็กำโทรศัพท์ไว้อย่างแน่น แล้วแกล้งถามว่า “พี่ครับ นามแฝงของพี่กับพี่มายมิ้นท์คืออะไรเหรอครับ”
“แกถามอันนี้ทำไม?”เปปเปอร์ขมวดคิ้ว
ปีโป้กระทืบเท้า “โอ๊ย พี่ พี่ตอบผมมาก่อน มันมีประโยชน์!”
เปปเปอร์ฟังน้ำเสียงที่เร่งรีบของเขา เม้มริมฝีปากที่บาง และค่อยๆ เอ่ยชื่อสองชื่อออกมา “ข้าวก้อง ต้นไผ่!”
“เออ……” ปีโป้เงยหน้าขึ้น แล้วสูบลมหายใจเข้าลึกๆ “เป็นข้าวก้องจริงๆด้วย!”
“หมายความว่ายังไง?” เปปเปอร์หรี่ตาลง “แกรู้อะไรบางอย่างใช่ไหม?”
ปีโป้ก้มหัวลงและตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า:“ครับ เมื่อสามเดือนที่แล้ว ผมได้เข้าโรงพักเพระว่าไปต่อสู้กับคนอื่นแล้วพี่มายมิ้นท์เป็นคนมาประกันตัวผมออกมาเองครับ ผมจึงตามเธอไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ และเห็นจดหมายจำนวนมากในที่นั่น ผมหยิบมันขึ้นมาซองหนึ่ง ชื่อที่ลงนามนั้นชื่อว่าข้าวก้อง และผมก็เอาจดหมายฉบับนั้นกลับบ้านด้วยครับ พี่ก็เคยเห็นอยู่”
ทันทีที่เขาพูด เปปเปอร์ก็จำได้ว่าคืนหนึ่งเมื่อสามเดือนที่แล้ว เขาเห็นจดหมายฉบับหนึ่งในห้องของปีโป้
จดหมายฉบับนั้น เหมือนจดหมายที่เขาเคยส่งให้ต้นไผ่มาก่อน ตอนนั้นในใจของเขาก็มีความรู้สึกคลุมเครือขึ้นมา เขาหยิบจดหมายขึ้นมา แต่ยังไม่รอเขาได้อ่านดูดีๆก่อน จดหมายนั้นก็ถูกปีโป้เอากลับคืนไป
ที่แท้จดหมายฉบับนั้น เป็นจดหมายที่เขาเขียนให้ต้นไผ่จริงๆด้วย
ขณะนี้ปีโป้เองก็รู้ตัวแล้วว่า เขาได้เรื่องไม่ดีลงไป เดิมทีพี่ใหญ่และพี่มายมิ้นท์อาจได้พบเจอกันเช้ากว่านี้ แต่เป็นเพราะเขา ถึงได้ล่าช้ามาจนถึงตอนนี้ ในใจเขารู้สึกผิดมาก
“พี่ครับ ผม……”
“ทำไมแกไม่ให้ฉันอ่านจดหมายฉบับนั้นตั้งแต่แรก!” เปปเปอร์ถือโทรศัพท์ไว้อย่างแน่นและถามอย่างเฉยชา
ปีโป้ด้วยความรู้สึกผิด “ผม……ผมเอาจดหมายนั้นคืนมาจากที่พี่มายมิ้นท์ เพื่อที่จะให้พี่ดูจริงๆ อยากบอกให้พี่รู้ว่าพี่มายมิ้นท์กำลังคบกับใครบางคนจากทางจดหมาย แต่ผมพึ่งรู้ทีหลังว่าพี่มายมิ้นท์ไม่ได้น่าเกลียดอย่างที่ผมคิดไว้ในตอนแรกเลย ดังนั้นผมเลยกลัว่าเมื่อบอกพี่แล้ว พี่จะโกรธพี่มายมิ้นท์ ผมจึง… ”
เขาไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้น
แต่เปปเปอร์ก็เข้าใจ
เขาจับโทรศัพท์ไว้แน่ๆ ราวกับว่าเขากำลังระงับอะไรบางอย่างอยู่ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็วางสายไปเลย วางมือไว้บนตา รอบตัวของเขานั้นเงียบมาก