รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 323 เขาเป็นพ่อของลูก
เปปเปอร์กดปิดโทรศัพท์ด้วยสีหน้าบึ้งตึง โยนโทรศัพท์มือถือลงบนหัวเตียง ในใจมีความหดหู่เศร้าหมอง ยังรู้สึกอิจฉาอยู่บ้างเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน
อิจฉาที่ลาเต้บอกว่าจะไปเยี่ยมมายมิ้นท์ก็ไปได้ ไม่จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากมายมิ้นท์เลยสักนิด แต่เขากลับไม่ได้
เห็นได้ชัดว่า เธอเคยเป็นของเขา เคยเป็นคนที่ตนเองรักที่สุด
แต่สุดท้าย กลับถูกเขาผลักไสออกไป……
เปปเปอร์จับที่หัวใจของตนเอง หัวใจที่อยู่ในหน้าอก ปวดตุ้บๆ
เขาหลุบตามองมายมิ้นท์ นัยน์ตาเป็นประกาย
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไป เธอเป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น!
ค่ำคืน ค่อยๆคืบคลานผ่านไป……
เช้าวันต่อมา มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว ในที่สุดก็ลืมตาตื่นขึ้นมา
เธอมองเพดานสีขาวสะอาด เธอตกใจ
ที่นี่ที่ไหน
เธอไม่ได้อยู่ในคอนโดมิเนียมของตนเองเหรอ ทำไมพอตื่นขึ้นมา ก็เปลี่ยนเป็นอีกสถานที่หนึ่งแล้ว
มายมิ้นท์รีบลุกขึ้นมานั่ง ด้วยความตื่นตกใจ เตรียมตั้งสติดูว่าตนเองอยู่ที่ไหน
เพิ่งจะลุกขึ้นมานั่ง เธอก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างมาดึงมือของตนเองเอาไว้ หันไปมอง คือเปปเปอร์
เปปเปอร์ดึงมือของเธอไป นอนหมอบอยู่ข้างเตียง
มายมิ้นท์ถลึงตาโต แปลกใจมากว่าทำไมเปปเปอร์มาอยู่ที่นี่ได้
แต่ต่อมาเธอพบว่าเสื้อผ้าบนตัวของตนเองผิดปกติเล็กน้อย มีแถบสีฟ้าขาว เห็นชัดว่าเป็นชุดผู้ป่วย
ดังนั้นตอนนี้ตัวเองอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาลเหรอ
มายมิ้นท์รีบดึงมือตัวเองออกมาจากมือของเปปเปอร์ วางบนหน้าผาก สีหน้าท่าทางสงสัย
นี่ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
เธอนอนหลับ แล้วทำไมตนเองถึงได้มาหลับอยู่ในห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลได้
มายมิ้นท์ดึงมือออกมาอย่างกะทันหัน จนเปปเปอร์ตกใจตื่น
เขาลืมตาเงยหน้าขึ้นมา หลังจากเห็นงว่ามายมิ้นท์ตื่นแล้ว สีหน้าก็อ่อนโยนลงทันที
“ตื่นแล้วเหรอ” เปปเปอร์เผยอริมฝีปากถามเบาๆน้ำเสียงยังมีความแหบพร่าแบบคนเพิ่งตื่นนอน ได้ยินชัดมาก
“ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” เขาลุกขึ้นยืน กดกริ่งที่หัวเตียง แล้วถามอย่างห่วงใยอีก
มายมิ้นท์มองเขา ส่ายหน้า“ไม่มี แต่ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
“เมื่อวานตอนที่ผมโทรหาคุณ อยู่ๆคุณก็เงียบเสียงไป พอผมไปดู คุณหมดสติไปแล้ว ดังนั้นผมก็เลยมาคุณมาส่งที่โรงพยาบาล” เปปเปอร์พูด
มายมิ้นท์พยักหน้าอย่างงุนงง “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง แต่ตกลงว่าฉันเป็นอะไรกันแน่ ป่วยด้วยโรคอะไร”
เธอถามอีก
เปปเปอร์ค่อยๆขยับริมฝีปาก ไม่ได้ตอบ
เขาไม่รู้จะบอกเธออย่างไร สภาพของเธอในตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าหลังจากเธอรู้แล้ว จะมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างไร
จะเสียใจหรือว่า……
เห็นเปปเปอร์ไม่ตอบ มายมิ้นท์ก็วิตก มือที่อยู่ใต้ผ้าห่มจับกันแน่นอย่างไม่รู้ตัว “บอกสิ ว่าฉันป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่”
เธอถามอีกรอบ น้ำเสียงเร่งรัด
เขาไม่ยอมบอก คงไม่ใช่ว่าเป็นโรคร้ายที่รักษาไม่ได้อะไรนะ
ในใจมายมิ้นท์ตื่นตระหนกเล็กน้อย
เปปเปอร์มองเธอ กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
เสียงของการันต์ดังขึ้นมาก่อนที่ประตู “บอกเธอตรงๆเลยสิ เรื่องแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องปิดบัง”
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว
มายมิ้นท์เงยหน้ามองไปที่ประตู “หมายความว่าอะไร”
การันต์เดินเข้ามา “คุณถูกวางยาพิษแล้ว!”
“ห๊ะ” มายมิ้นท์อึ้งไปเล็กน้อย “ยาพิษเหรอ”
การันต์พยักหน้า
มายมิ้นท์ถูกจับแน่นยิ่งขึ้น“วาง……ยาพิษอะไรกัน”
เธอจำไม่ได้ว่าตนเองแตะต้องหรือว่ากินอะไรที่มีพิษมา
ดังนั้น ทำไมเธอถึงถูกวางยาพิษ
มายมิ้นท์มองไปทางเปปเปอร์อีก
ครั้งนี้เปปเปอร์ไม่ปิดบัง ในเมื่อการันต์ได้พูดมาแล้ว
“พิษที่คุณได้รับเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ไม่ได้มีอันตรายกับร่างกาย แต่มีอันตรายถึงชีวิต กับเด็กในท้องของคุณ ซึ่งจะทำให้เด็กมีพัฒนาการผิดรูปและเสียชีวิตในที่สุด” เปปเปอร์กำหมัดแน่น มองไปยังมายมิ้นท์ เสียงแหบพร่าเล็กน้อย
รูม่านตามายมิ้นท์ขยายใหญ่ เอามือมาวางบนท้องโดยไม่รู้ตัว “ผิด……รูป แล้วก็ตายเหรอ”
เปปเปอร์ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่พยักหน้า
มือที่อยู่บนท้องของมายมิ้นท์กระชับแน่น อ้าปากค้าง นานพักใหญ่จึงพูดออกมาได้ “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้”
การันต์ที่พิงอยู่บนผนังอีกด้าน เสริมอีกประโยคว่า “คุณถูกพิษมาประมาณครึ่งเดือนแล้ว ตอนนี้เด็กในท้องคุณผิดรูปไปแล้ว”
ผิดรูปไปแล้วเหรอ!
สีหน้ามายมิ้นท์เปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบก้มหน้ามองลูกในท้องตัวเองทันที “ดังนั้น……เด็กคนนี้……”
“จำต้องเอาออกครับ!” การันต์บอกเธอ
มายมิ้นท์สีหน้าซีดเผือด ตัวเกร็ง มีออร่าที่ซับซ้อนที่ไม่สามารถอธิบายได้ออกมาจากทั่วร่างกายของเขา
เปปเปอร์คิดว่าเธอทำใจไม่ได้ เสียใจ มีความสงสารอยู่ในแววตา พูดปลอบใจว่า “ไม่เป็นไรครับ ต่อไป……”
“ก็ดีนะคะ” จู่ๆมายมิ้นท์ก็เงยหน้าขึ้นมา เผยให้เห็นรอยยิ้ม
แต่ว่ารอยยิ้มนั้น เราสามารถมองเห็นความกล้ำกลืนฝืนทนอย่างยิ่ง
เธอกำลังฝืนยิ้มอย่างยินดี
“ก็ดีอะไรกัน” เปปเปอร์มองเธออย่างไม่พอใจ
มายมิ้นท์สูดลมหายใจ สงบสติอารมณ์ของตนเอง พูดเบาๆว่า “แน่นอนว่าคือเด็กคนนี้ ตอนแรกฉันก็เตรียมจะไปเอาออกอยู่แล้ว นัดกับโรงพยาบาลในต่างประเทศเอาไว้แล้ว วันเสาร์นี้ก็จะไปทำการผ่าตัด ตอนนี้เด็กคนนี้มีพัฒนาการที่ผิดรูปไปแล้ว ความคิดที่ฉันจะเอาเด็กออกก็ยิ่งมุ่งมั่นหนักแน่นยิ่งขึ้น ดังนั้นก็ดีมากเลย”
แม้เธอจะพูดแบบนี้ แต่ในใจกลับเจ็บปวด ปวดร้าว แม้แต่ขอบตา ก็ยังรื้นขึ้นมา
ที่จริงแล้วหลังจากอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง เธอก็มีความรู้สึกดีๆต่อเด็กคนนี้แล้ว
ด้านข้าง การันต์ได้ยินคำพูดของมายมิ้นท์ นอกจากตกใจแล้ว ก็ไม่ได้มีท่าทีตอบโต้อะไรเป็นพิเศษ
ในเมื่อเขาสนใจแค่เพียงเธอ เด็กในท้องเธอ ไม่ได้อยู่ในขอบเขตความสนใจของเขา ดังนั้นเธอจะเก็บเด็กคนนั้นไว้หรือไม่ เขาไม่สนใจ
ส่วนอารมณ์ของเปปเปอร์นั้นกลับพลุ่งพล่านขึ้นมา
เขามองมายมิ้นท์อย่างตื่นตกใจ เสียงทุ้มต่ำ “คุณพูดว่าอะไรนะ คุณนัดกับโรงพยาบาลในต่างประเทศไว้แล้ว จะทำการผ่าตัดในวันเสาร์เหรอ”
“ใช่” มายมิ้นท์พยักหน้า
“ทำไมไม่บอกผม” เปปเปอร์ถามด้วยสีหน้าขึงขัง
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เธอกลับไม่พูดอะไร ไม่เผยข่าวคราวอะไรเลยสักนิด กว่าเขาจะรู้ เธอก็ผ่าตัดเสร็จไปนานแล้ว!
มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว มองเขาอย่างแปลกใจ “นี่มันเรื่องของฉัน ทำไมต้องบอกคุณด้วย”
พวกเขาหย่ากันนานแล้ว
ไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องบอกทุกเรื่อง กับอดีตสามีหรอกนะ!
เปปเปอร์อึ้งไปชั่วขณะ ทันใดนั้นก็ใจเย็นลง
เขาตั้งสติได้ เธอยังไม่รู้ว่าเขาคือพ่อของลูก จึงไม่ยอมบอกเขาแน่นอน
จะบอกเหรอ
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบาง ลังเลเล็กน้อย
ด้านข้าง การันต์ที่ยืนมองอย่างทองไม่รู้ร้อนจู่ๆก็แสยะยิ้มมุมปาก เอ่ยปากว่า “เพราะว่าเขาคือพ่อแท้ๆของเด็กในท้องคุณ ดังนั้นแน่นอนเขาหวังว่าคุณจะบอกเขา!”
ม่านตาเปปเปอร์หดตัว หันมามองการันต์ทันที
คนผู้นี้ กลับช่วยพูดแทนเขาแล้ว
มายมิ้นท์ตั้งสติกลับมาจากอาการตื่นตกใจ มีความสับสนตื่นตกใจอยู่ในแววตา แล้วก็มองมาที่การันต์“คุณกำลังพูดอะไร เปปเปอร์เป็นพ่อแท้ๆของเด็กในท้องฉันเหรอคะ”
“ใช่ครับ!” การันต์ดันแว่น
“คุณกำลังล้อเล่นอะไร นี่มัน……”
ยังพูดไม่ทันจบ มายมิ้นท์ใช้หางตามองก็มองเห็นความสับสนในแววตาเปปเปอร์ คำพูดต่อจากนั้น ก็ชะงักพูดไม่ออกแล้ว
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ คุณจะเป็นพ่อของลูกฉันได้ยังไง” มายมิ้นท์กลับส่ายหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
แต่ตอนนี้สีหน้าเธอซีดเผือด แสดงให้เห็นถึง ความว้าวุ่นและสับสนในใจของเธอ
เปปเปอร์เห็นท่าทางแบบนี้ของมายมิ้นท์ ก็เหมือนมีอะไรอุดในลำคอ “ที่เขาพูดไม่ผิด ผมเป็นพ่อของลูกในท้องคุณจริง คนในคืนนั้น คือผม”
มายมิ้นท์หน้ามืด ร้างเซถลา เกือบจะล้มลง
เปปเปอร์ก้าวมาข้างหน้า คิดจะมาพยุงเธอไว้
มายมิ้นท์เอามือไปจับที่หมอน เพื่อให้ตัวเองยืนได้มั่นคง ตะโกนเสียงดังว่า “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”