รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 325 การผ่าตัดสำเร็จลุล่วง
เปปเปอร์เจ็บปวดหัวใจอย่างยิ่ง หายใจยังลำบาก
ใช่แล้ว ตอนแรกที่เธอรู้ว่าท้อง เขาไม่ยอมรับ
แต่ตอนนี้เขายอมรับแล้ว ลูกกับไม่อยู่แล้ว
เป็นความผิดของเขาผู้เป็นพ่อคนนี้ ถ้าเขารู้ตัวว่าตัวเองรักมายมิ้นท์เร็วกว่านี้ ตนเองถูกสะกดจิต ก็อาจจะไม่หย่ากับมายมิ้นท์ เด็กคนนี้ก็จะได้รับการปกป้องดูแลอย่างดี
แต่ทั้งหมด ไม่มีคำว่าถ้า
ทันใดนั้น ก็มีเสียงคนเคาะประตูห้องพักผู้ป่วย
มายมิ้นท์กับเปปเปอร์มองไปพร้อมกัน คือพยาบาลคนหนึ่ง
พยาบาลยิ้มให้ทั้งสองคน “คุณมายมิ้นท์ ฉันจำเป็นต้องขอพูดคุยกับญาติสักหน่อยนะคะ ”
“ฉันไม่มี……”
มายมิ้นท์กำลังจะบอกว่าตนเองไม่มีญาติ บอกกับตนเองโดยตรงได้เลย ผลปรากฏว่าพูดไปได้ครึ่งเดียว ก็ถูกเปปเปอร์ขัดจังหวะขึ้นว่า “ผมก็คือญาติครับ”
มายมิ้นท์เบิกตาโพลง ยิ้มออกมาด้วยความโกรธ
คนคนนี้ช่างหน้าด้านจริง!
ถึงกับบอกว่าเป็นญาติเธอ!
“มีเรื่องอะไรเหรอครับ บอกผมมาเถอะ “เปปเปอร์เพิกเฉยสายตาโกรธเคืองของหญิงสาวที่อยู่ด้านหลัง ก้าวขาเดินไปทางพยาบาล
สองคนพูดคุยพึมพำกันอยู่ที่ประตูหลายนาที
มายมิ้นท์ไม่ได้มอง แต่หันหน้าไปมองนอกหน้าต่างไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เวลานี้เอง เธอใจเย็นลงแล้ว
เธอกำลังคิดว่า คืนนั้นเมื่อสามเดือนก่อน ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เห็นชัดว่าคนที่มีอะไรกับเธอคือเปปเปอร์ แต่ทำไมหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมา คนที่เธอมองเห็นกลับเป็นผู้ชายอีกคน
แล้วยัง เรื่องยาพิษในตัวเธอ ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ตกลงว่าใครเป็นคนวางยากันแน่
ขณะที่มายมิ้นท์คิดเท่าไหร่ก็หาคำตอบไม่ได้ เปปเปอร์ก็กลับมา
“พยาบาลบอกว่า สาเหตุเพราะยาพิษ หลังจากทำแท้งครั้งนี้แล้ว ภายในสองปีนี้ คุณอาจจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก” สายตาเปปเปอร์มองไปที่ท้องของมายมิ้นท์
เดิมไม่ควรที่ตะบอกเธอเรื่องนี้ เพราะเกรงว่าอาจจะทำให้เกิดความเครียดในขณะที่ตั้งครรภ์ได้
แต่เขามาคิดดูแล้ว ก็ตัดสินใจว่าจะไม่ปิดบังเธอ
ต่อไป เขาจะไม่ปิดบังอะไรเธออีก
เมื่อได้ยินว่าภายในสองปีนี้ตนเองจะไม่สามารถตั้งท้องได้อีก มายมิ้นท์ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมาก ได้แต่ตอบรับเรียบๆว่า “อ้อ จริงเหรอ”
ก็แค่สองปีเท่านั้น ไม่ใช่ตลอดชีวิตเสียหน่อย ดังนั้นไม่มีอะไรน่ากลัว
อีกอย่าง ภายในเวลาสองปีนี้เธอไม่คิดจะแต่งงานด้วยซ้ำ จะคิดที่จะมีลูกได้อย่างไร
เห็นปฏิกิริยาเฉยชาของมายมิ้นท์ เปปเปอร์แม้จะรู้สึกสบายใจแต่ก็มีความรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย
สบายใจที่เมื่อเธอได้ยินเรื่องนี้แล้ว ไม่ได้เศร้าเสียใจ แต่พอเห็นเธอไม่แยแสแบบนี้ ในใจก็รู้สึกไม่ค่อยสบายนัก
เพราะเธอไม่สนใจว่าตนเองจะตั้งท้องได้อีกหรือไม่ แสดงว่าภายในสองปีนี้เธอไม่คิดจะอภัยให้เขา แล้วอยู่กับเขา
“เมื่อวานตอนคุณไปหาฉัน รู้สึกมั้ย ว่าฉันถูกพิษ ใครเป็นคนทำ” มายมิ้นท์จู่ๆก็หันหน้ามามองเปปเปอร์
เปปเปอร์ส่ายหน้า “ไม่รู้ แต่ก็พอจะเดาได้”
“อ๋อเหรอ” มายมิ้นท์หยีตามอง
เปปเปอร์สบตากับเธอ พูดชื่อออกมาสามชื่ออย่างช้าๆ
เมื่อได้ยินสามชื่อนี้แล้ว มายมิ้นท์ก็ตัวแข็งทื่อทันที พูดด้วยจิตใต้สำนึกว่า “เป็นไปไม่ได้!”
จะเป็นพวกเขาสามคนได้อย่างไร
เปปเปอร์เห็นมายมิ้นท์ไม่เชื่อ ริมฝีปากบางก็เม้มเข้าหากัน “ความจริงแล้ว พวกเขาสามคนมีความเป็นไปได้มากที่สุด”
“คุณมีหลักฐานหรือเปล่า” มายมิ้นท์์กำมือแน่น
“ผมไม่มีหลักฐาน ตอนนี้ผมกำลังใจคนไปสืบดู แต่คนที่ชอบคุณ ไม่ยอมรับเด็กในท้องคุณ ก็มีแค่พวกเขาสามคน ดังนั้นพวกเขาสามคนมีเหตุผลที่จะลงมือ” เปปเปอร์เสียงเข้ม
มายมิ้นท์เบิกตาโต “คุณบอกว่า……พวกเขาสามคนชอบฉันเหรอ”
นี่จะเป็นไปได้อย่างไร!
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว “คุณไม่รู้เหรอ”
ริมฝีปากมายมิ้นท์ขยับ พูดไม่ออก
เปปเปอร์เห็นท่าทางอย่างนี้ ก็เข้าใจว่าเธอไม่รู้จริงๆว่าพวกลาเต้สามคนนั้นชอบเธอ
วินาทีนี้ เปปเปอร์ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
พวกทามทอยสามคนนั้นพูดเต็มปากว่ารักมายมิ้นท์ ผลปรากฏว่ามายมิ้นท์ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาชอบเธอ
เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว เขามีความสุขมากกว่าเยอะ อย่างน้อยมายมิ้นท์ก็รู้ว่าเขารักเธอ
ทันใดนั้น ความเย่อหยิ่งและความรู้สึกว่าตนเหนือกว่าก็เข้ามาในใจ ริมฝีปากบางของเปปเปอร์ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
มายมิ้นท์สัมผัสได้ว่าตอนนี้เขาอารมณ์ดีมาก ก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขานึกเรื่องอะไรดีออกแล้ว
แต่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอก้มหน้า นิ้วมือเกี่ยวกระหวัดกันอย่างสับสน
ราเม็ง ลาเต้แล้วก็ทามทอยชอบเธอเหรอ!
การได้รู้เรื่องนี้ทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลาเต้เป็นเพื่อนชายคนสนิทของเธอ รูปแบบการคบหาก็เป็นแบบเพื่อสนิททั่วไป เธอไม่เคยคิดอะไรอย่างอื่นกับเขาเลย และก็คิดไม่ถึงว่าลาเต้จะ……
แล้วก็ราเม็ง เธอคิดกับราเม็งเหมือนน้องชายมาตลอด ไม่เคยคิดล้ำเส้น ดังนั้นราเม็งทำไมถึงชอบเธอได้นะ
สำหรับทามทอย……
สีหน้ามายมิ้นท์เยือกเย็นลง
นึกถึงสิ่งที่ทามทอยปิดบังตนเอง ความรู้สึกดีที่มีต่อทามทอยในใจ หายไปในชั่วพริบตา
ต่อไป เธอกับทามทอยก็เป็นเพียงเพื่อนร่วมงานธรรมดาเท่านั้น แม้แต่เพื่อนก็ไม่ใช่แล้ว
เห็นมายมิ้นท์สีหน้าไม่สู้ดี เปปเปอร์รีบถามว่า “เป็นอะไร ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”
มายมิ้นท์ไม่ได้สนใจเขา ท่าทางเย็นชา
เปปเปอร์ปวดร้าวในใจ
มายมิ้นท์ในสภาพนี้ ท่าทางเหมือนในตอนที่หย่ากัน ห่างเหิน เย็นชา
เห็นชัดว่าช่วงนี้ เธอไม่ให้อภัยเขา แต่ท่าทีที่มีต่อเขานั้น ก็เปลี่ยนไปมาก ไม่ได้เย็นชาขนาดนั้น ไม่ให้เขาเข้าใกล้แล้ว
แต่ตอนนี้ กลับไปเป็นเหมือนตอนแรกแล้ว
เพราะว่า เธอรู้ว่าลูกเป็นลูกของเขาหรือไม่
หรือเพราะว่า เขาไม่บอกเธอเลย ว่าคนในคืนนั้นคือเขา ดังนั้นท่าทีของเธอจึงเปลี่ยนไป
ในขณะที่หัวใจของเปปเปอร์กำลังตีบตัน การันต์ก็ปรากฏตัว
เขามองมายมิ้นท์พลางแจ้งว่า “ห้องผ่าตัดเตรียมพร้อมแล้ว ทำการผ่าตัดได้เลยครับ”
“ค่ะ” มายมิ้นท์เชิดหน้า จากนั้นเปิดผ้าห่มลงจากเตียง เดินไปทางประตู
เปปเปอร์ยื่นมือยื่นมือมาจะรั้งตัวเธอ แต่สุดท้ายก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงเอามือลง
เขามีสิทธิ์อะไรไปรั้งตัวเธอไว้ ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้ไม่สามารถเอาไว้ได้แล้ว ต่อให้บอกว่าจะเก็บไว้ เขาก็ไม่มีสิทธิ์จะไปร้องขอให้เธอเก็บเด็กเอาไว้ แม้เขาจะเป็นพ่อของเด็กก็ตาม
เปปเปอร์ตามมายมิ้นท์มาที่ด้านนอกห้องผ่าตัด
มายมิ้นท์ มายมิ้นท์มองประตูห้องผ่าตัด สูดลมหายใจ ยกขาเตรียมก้าวเข้าไป
แต่ตอนที่กำลังจะเข้าไปนั้น เธอก็หยุดฝีเท้า เดินกลับมา สายตาสงบนิ่งมองมาที่เปปเปอร์ “เปปเปอร์ หลังจากไม่มีเด็กคนนี้แล้ว ฉันกับคุณ ก็จะตัดความสัมพันธ์กัน ชีวิตนี้ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”
เปปเปอร์รูม่านตาหรี่ลง กำหมัดแน่นตอบว่า “นั่นเป็นความคิดของคนเพียงฝ่ายเดียว ผมจะไม่ยอมแพ้ แม้จะไม่มีเด็กคนนี้แล้ว ผมก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาคุณกลับมาอยู่ข้างกายผม”
มายมิ้นท์ยิ้ม “เหรอคะ กล้าพนันมั้ย”
“พนันอะไร” เปปเปอร์มองเธอ
มายมิ้นท์คลำท้อง “พนันว่าฉันจะให้อภัยคุณหรือเปล่า จะกลับไปอยู่ข้างกายคุณหรือไม่ ฉันพนันว่าตลอดชีวิตนี้ คุณจะพนันนานแค่ไหน”
นัยน์ตาเปปเปอร์เปล่งประกาย จากนั้นก็มีแววตาสงสัย ค่อยๆถามว่า “ผมก็พนันตลอดชีวิต แต่ไม่ใช่ว่าใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อให้คุณกลับมาอยู่ข้างกายผม แต่พนันว่าผมจะใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตเพื่อให้คุณยกโทษให้”
ขอแค่เธออภัยให้เขา เธอกลับมาอยู่ข้างกายเขามันยากมากเหรอ
มองเห็นความมุ่งมั่นจริงจังในดวงตาของเปปเปอร์ มายมิ้นท์ก็หลุบสายตา “เหรอคะ งั้นก็ลองดู”
พูดจบ เธอเดินเข้าไปในห้องผ่าตัดโดยไม่หันกลับมามอง
เปปเปอร์ก็รออยู่ด้านนอก
ตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์มือถือเขาก็ดังขึ้น
ผู้ช่วยเหมันต์โทรมา “ประธานเปปเปอร์ วันนี้ไม่ใช่ต้องไปเยี่ยมชมโรงงานเพื่อดูผลการทดลองใช้พลังงานใหม่หรือครับ คุณยังมาได้หรือเปล่าครับ”
เปปเปอร์มองไปยังห้องผ่าตัด “ไม่ไปแล้ว เลื่อนไปคราวหน้าเลย”
“ได้ครับ” ผู้ช่วยเหมันต์ไม่ได้ถามถึงเหตุผล พยักหน้ารับคำ
หลังจากวางสาย เปปเปอร์นวดขมับ จากนั้นก็พิงผนังที่เย็นเฉียบ หลับตาลง
ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก
การันต์ออกมาก่อน
เปปเปอร์รีบลืมตาลุกขึ้นยืน มองดูเขา
ไม่รอให้เขาเอ่ยถาม การันต์ก็ถอดหน้ากากอนามัยออกตอบขึ้นมาก่อน“การผ่าตัดสำเร็จแล้วครับ อีกไม่นานเธอก็ออกมา”