รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 332 เปปเปอร์นออกใจ
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว “คิดบัญชี คิดบัญชีอะไร?”
“ไม่รู้ เขาคนนั้นไม่ยอมบอก เขาบอกจะรอพี่กลับมาถึงจะยอมบอก พี่จะกลับมา พี่รีบกลับมาเถอะ” ปีโป้เร่งเร้า
เปปเปอร์ตอบอืมไป “เข้าใจแล้ว”
หลังจากตัดสาย เขาก็ขมวดคิ้วแล้วก็พูดว่า “กลับคฤหาสน์ ไม่ไปโรงแรมแล้ว”
เดิมทีเขาตั้งใจว่าจะพักที่โรงแรมคืนนี้ พรุ่งนี้ตอนที่มายมิ้นท์ออกจากโรงบาลพยาบาลเขาจะได้มาถึงที่นี่เร็วหน่อย
แต่ตอนนี้เยี่ยมบุญไปที่คฤหาสน์ เขาต้องกลับไปที่คฤหาสน์ก่อน
“ครับ คุณเปปเปอร์” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้ารับ
หลังชั่วโมงกว่า เปปเปอร์ก็มาถึงคฤหาสน์
คนใช้ได้ยินเสียงรถ จึงรีบออกไปเปิดประตู “คุณชายใหม่ กลับมาแล้วเหรอคะ”
“เยี่ยมบุญยังไม่กลับไปอีกหรอ?” เปปเปอร์ยื่นเสื้อคลุมในมือให้เธอ
คนใช้ส่ายหัว “ไม่ค่ะ คุณนายและคุณชายเล็กกำลังคุยกับเขาค่ะ”
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากล่าง เขาไม่ได้พูดอะไร เขาเปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น
ทันทีที่เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขาก็ได้ยินเสียงที่แหลมคมของพิศมัย “คนที่นามสกุลภักดีพิศุทธิ์ เมื่อไหร่คุณจะออกไป”
“ผมจะไม่ไปไหน ผมจะไม่ไปไหนจนกว่าเปปเปอร์จะกลับมา วันนี้ผมขอพูดที่นี่เลยแล้วกัน ถ้าเปปเปอร์ไม่ให้คำอธิบายกับผม ผมจะไม่มีวันจบกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์ของคุณ!”
เปปเปอร์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมิด “หื้ม? ถ้าอย่างนั้นผมอยากจะรู้ว่าทำไมคุณถึงไม่ยอมจบกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์!”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ทั้งสามคนในห้องนั่งเล่นก็เงียบไปทันที
หลังจากนั้น ปีโป้ก็ลุกขึ้นยืนอย่างมีความสุข “พี่ พี่กลับมาแล้ว”
“เปปเปอร์ ในที่สุดแกก็กลับมาแล้ว เร็วเข้า รีบไล่คนคนนี้ออกไป ฉันรู้สึกรำคาญมาก!” พิศมัยชี้ไปที่เยี่ยมบุญที่นั่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าอ้วนของเธอไม่สามารถซ่อนความรังเกียจที่แรงกล้าไว้ได้
เยี่ยมบุญโมโหมากๆ
ผู้หญิงอ้วนคนนี้ช่างเย่อหยิ่งจริงๆ!
เมื่อสองสามเดือนก่อน ตระกูลภักดีพิศุทธิ์ของพวกเขายังคงเป็นหนึ่งในยี่สิบตระกูลที่ยิ่งใหญ่ของเมืองเดอะซี ทุกครั้งที่ผู้หญิงอ้วนคนนี้เห็นพวกเขา อย่าพูดเลยว่าเธอจะกระตือรือร้นแค่ไหน ทำตัวสนิทสนมกันเหมือนญาติเลย
แต่ตอนนี้ตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็ตกต่ำมาก ผู้หญิงอ้วนคนนี้กลับเปลี่ยนไปทันที โดยเฉพาะใช้สายตาที่เหยียดหยามมองที่พวกเขา เขารู้สึกโมโหมากจริงๆ!
ไอ้แก่ปิยศักดิ์ ในตอนนั้นเขาชอบผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไงกัน? เป็นไปได้ไหมว่าเขาทานพวกอาหารดีๆ มามากเลย เลยอยากลองชิมอุจจาระข้างนอกบ้าง?
เมื่อเห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเยี่ยมบุญ ดวงตาของเปปเปอร์ก็เย็นชาทันที และเขายกมือขึ้นเพื่อปลอบพิศมัย “ผมเข้าใจแล้วครับ คุณแม่ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม มันดึกแล้ว คุณแม่กับปีโป้กลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อนก่อนนะครับ”
“ฉันไม่พักผ่อน ฉันจะอยู่ดูว่า ตกลงแล้วเขาต้องการคิดบัญชีอะไรกับตระกูลนวบดินทร์!” หลังจากพูดจบ พิศมัยก็นั่งลง
ปีโป้ก็พยักหน้าติดต่อกัน “ผมก็อยากอยู่เหมือนกัน”
เมื่อเห็นว่าคุณแม่และน้องชายของเขาไม่ยอมจากไป เปปเปอร์ก็ไม่ได้ยืนกราน เขาเดินไปที่โซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับเยี่ยมบุญ ก่อนที่เขาจะนั่งลง เขานั่งไขว่ห้าง และมองดูเขาอย่างเฉยเมย “พูดมาเถอะ มาหาผมเพื่อคิดบัญชีไม่ใช่เหรอ?”
เยี่ยมบุญมีสีหน้าหม่อนหมอน “ก็ได้ ในเมื่อคุณพูดตรงๆ ผมก็จะไม่วนไปวนมา เปปเปอร์ คุณทำแบบนี้กับส้มเปรี้ยวได้ยังไง!”
เปปเปอร์หรี่ตา “หมายความว่ายังไง”
เขาคิดว่าที่เยี่ยมบุญมาหาเขาดึกขนากนี้ คงจะเป็นเพราะเขาไม่พอใจในเรื่องการทำงาน
คาดไม่ถึง ที่แท้ก็เป็นเพราะส้มเปรี้ยว
เยี่ยมบุญลุกขึ้นยืนและชี้ไปที่จมูกของเปปเปอร์ “ทำไมน่ะเหรอ ก็แน่นอนว่าเป็นเพราะเรื่องการนอกใจของคุณไง!”
“นอกใจ?” ปีโป้ทานแอปเปิล เมื่อได้ยินเรื่องนี้เขาเกือบสำลักตาย เขาทุบหน้าอกตัวเองหลายครั้งก่อนจะดีขึ้น เขาลืมตาและมองไปที่เปปเปอร์อย่างไม่เชื่อสายตา “พี่! พี่หย่ากับส้มเปรี้ยวแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังนอกใจอีก หรือพี่กลับไปคบกับส้มเปรี้ยวอีกครั้งเหรอ”
“ใช่ เปปเปอร์แกอย่าทำให้ฉันตกใจนะ แล้วตอนนี้ส้มเปรี้ยวก็เป็นแค่รองเท้าขาดๆ ไม่มีประโยชน์อะไร ที่สำคัญยังมีจิตใจที่ชั่วร้าย เธอจะคู่ควรกับแกได้ยังไง แกอย่าโง่สิ!” พิศมัยรีบพูดโน้มน้าวเขาอย่างรวดเร็ว
เธอไม่ต้องการให้ส้มเปรี้ยวเข้ามาในตระกูลนี้ เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักส้มเปรี้ยว เธอรู้สึกว่าส้มเปรี้ยวนั้นมีนิสัยอ่อนโยน หลังจากที่แต่งงานเข้ามาก็คงจะไม่ข้ามหน้าข้ามตาเธอ ที่สำคัญ ส้มเปรี้ยวนั้นยังมีตระกูลภักดีพิศุทธิ์คอยอยู่เบื้องหลัง
ที่สำคัญในตอนนั้นตระกูลภักดีพิศุทธิ์มีส้มเปรี้ยวเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว หลังจากที่ส้มเปรี้ยวแต่งเข้ามาในครอบครัวเธอแล้ว ถ้าอย่างนั้นแล้ว ทั้งตระกูลภักดีพิศุทธิ์และเอสซีกรุ๊ป ก็จะต้องตกเป็นของตระกูลนวบดินทร์?
ดังนั้นหลังจากที่ส้มเปรี้ยวถูกรังแก เธอยังคงรู้สึกเสียดายมาก ที่เธอต้องสูญเสียโชคลาภนี้ไป แต่หลังจากที่ความชั่วร้ายของส้มเปรี้ยวถูกเปิดเผย เธอก็ไม่รู้สึกเสียดายอีกต่อไป
เธอพิศมัยก็ไม่ใช่คนดีอะไร แต่เธอก็ไม่ใช่คนเลวอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้น ทำไมเธอถึงได้ปฏิบัติกับเปปเปอร์เหมือนกับเป็นลูกชายแท้ๆ ของเธอเอง แม้แต่เรื่องมายมิ้นท์ เธอก็ยอมรับว่าเคยรังแกกับมายมิ้นท์ แต่เธอก็แค่ปฏิบัติกับมายมิ้นท์เหมือนเป็นคนใช้คนหนึ่งของเธอเองเท่านั้น มีการตะคอกเสียงดังใส่ แต่เธอไม่เคยลงไม้ลงมือกับมายมิ้นท์เลย ดังนั้นหลังจากที่มายมิ้นท์หย่าร้างกับเปปเปอร์ และเขาได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง เธอเลยโกรธมากจนต้องไปลงไม้ลงมือกับเธอถึงที่
เมื่อเทียบกับส้มเปรี้ยวแล้ว เธอถือว่าใจดีมากแล้ว สิ่งที่ส้มเปรี้ยวทำนั้นถึงจะสามารถเรียกว่าสิ่งที่น่ากลัว หากในอนาคตส้มเปรี้ยวต้องแต่งเข้ามาในตระกูล แล้วไม่พอใจแม่สามีแบบเธอขึ้นมา เธอก็คงจะปฏิบัติต่อเธอเหมือนที่ทำกับมายมิ้นท์ใช่ไหม?
ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่สามารถปล่อยให้เปปเปอร์และส้มเปรี้ยวกลับมาคืนดีกันอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นความวิตกกังวลและความไม่พอใจในสายตาของน้องชายและคุณแม่ของเขา เปปเปอร์ก็โบกมือเล็กน้อยเพื่อส่งสัญญาณให้พวกเขาสงบลง
หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่เยี่ยมบุญที่ดูได้ใจมาก ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย “โอ้? นอกใจ? ตอนไหนกัน?”
เป็นไปได้ไหมที่เยี่ยมบุญกำลังพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเมื่อสามเดือนที่แล้ว?
เป็นไปอย่างที่คิด การเดาของเปปเปอร์เป็นจริง
เยี่ยมบุญชี้ไปที่เขา “แน่นอนว่าคือเมื่อสามเดือนที่แล้ว! เมื่อสามเดือนที่แล้วหลังจากที่หมั้นกับส้มเปรี้ยว คุณก็นอกใจส้มเปรี้ยว”
หมัดของเปปเปอร์กระชับแน่นขึ้นในทันใด และริมฝีปากบางของเขาเม้มจนเป็นเส้นตรง
เรื่องนี้จริงๆ ด้วย
แต่เยี่ยมบุญรู้ได้ยังไง?
หรือส้มเปรี้ยวจะเป็นคนบอกเขา?
เขารู้ว่าส้มเปรี้ยวรู้ว่าเด็กในท้องของมายมิ้นท์เป็นของเขา จึงไม่น่าแปลกใจที่ส้มเปรี้ยวจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาและมายมิ้นท์ในคืนนั้น
แต่เรื่องที่ส้มเปรี้ยวรู้เรื่องนี้ได้ยังไง เขาต้องทำการตรวจสอบ!
“คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร พี่ชายของผมเพิ่งหย่ากับพี่มายมิ้นท์เมื่อสามเดือนที่แล้ว ในเวลานั้น พี่ชายของผมเกลียดพี่มายมิ้นท์มาก เขาจะนอกใจไปอยู่พี่มายมิ้นท์ได้ยังไง” ปีโป้โยนแกนแอปเปิ้ลทิ้ง ก่อนจะพูดเสียงดัง
พิศมัยก็เข้ามาสมทบด้วย “ใช่สิ ใครๆ ก็รู้ว่าเมื่อสามเดือนที่แล้วในสายตาและในใจของเปปเปอร์มีแค่ส้มเปรี้ยวคนเดียว การที่เขาจะนอกใจไปหามายมิ้นท์ มันจะเป็นไปได้ยังไง ฉันว่านะคุณตั้งใจมาที่นี่เพื่อจับผิดและใส่ร้ายเปปเปอร์”
เยี่ยมบุญหัวเราะเยาะ “ผมใส่ร้ายเขา คุณปล่อยให้เขาพูดเองสิ ว่าเขานอกใจจริงไหม!”
“พี่ชายของผมไม่ทำอย่างแน่นอน!” ปีโป้ยืนเคียงข้างเปปเปอร์อย่างสุดใจ
พิศมัยก็ทำเช่นเดียวกัน เธอยืนขึ้นและชี้ไปที่จมูกของเยี่ยมบุญ ก่อนจะสาปแช่งเขา “ไอ้คนสารเลว หาว่าเปปเปอร์นอกใจ ถ้าแน่จริงก็หาหลักฐานมาสิ ไม่มีหลักฐาน นี่ก็แสดงว่าคุณกำลังสร้างข่าวลือเสียๆหายๆ ฉันสามารถแจ้งความให้ตำรวจมาจับกุมคุณได้”
นี่คือสิ่งที่มายมิ้นท์สอนเธอ
ทุกครั้งที่เธอไปหาเรื่องมายมิ้นท์ มายมิ้นท์จะปฏิบัติกับเธอแบบนี้ ตอนนี้เธอใช้สิ่งนี้เพื่อจัดการกับคนอื่น เธอเองก็รู้สึกขอบคุณเธอและก็รู้สึกสะใจมาก
“หลักฐาน?” เยี่ยมบุญพ่นลมหายใจออก “ได้ ในเมื่อพวกคุณต้องการหลักฐาน ผมก็จะเอาหลักฐานให้พวกคุณ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเปปเปอร์ก็มืดมน
ส่วนแม่และลูกชายอย่างปีโป้และพิศมัยก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
“ไม่หรอกมั้ง เขามีหลักฐานจริงๆ เหรอ” ปีโป้เปิดปากพูด
พิศมัยส่ายหัว แล้วมองไปที่เปปเปอร์ “เปปเปอร์ หรือแก…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอก็ถูกเยี่ยมบุญขัดจังหวะ “ดูสิ นี่คือหลักฐานที่คุณต้องการ!”
เขาฟาดเอกสารลงบนโต๊ะ
“นี่คืออะไร?” ปีโป้หยิบมันขึ้นมาด้วยความสงสัยก่อนจะเปิดมันออกมาดู และอ่านออกเสียง “รายงานการตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์สองเดือนกับสิบเจ็ดวัน ผู้ตรวจมาย…มายมิ้นท์?”