รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 337 ที่มาของหุ้นส่วน
เมื่อคิดถึงทุกอย่างที่เธอพูดกับราเม็งเมื่อวานนี้ มายมิ้นท์ก็หลับตาลง “ไม่มีอะไร”
ลาเต้เห็นท่าทีที่โกหกของเธออย่างชัดเจน ลาเต้ก็เลิกคิ้วขึ้น “จริงเหรอ แต่ฉันคิดว่ามันต้องมีอะไร ตอนที่ฉันกลับมาจากการยืมรถเข็นเมื่อวานนี้ ฉันบังเอิญได้พบกับราเม็งกำลังจากไป ตอนนั้นฉันตกใจกับท่าทีของเขามาก ท่าทีของเขาดูมืดมน พอฉันถามเขาว่าเป็นอะไร เขาก็เมินฉัน พอฉันกลับมาที่ห้องผู้ป่วย ฉันก็พบว่าท่าทีของคุณก็ไม่ปกติ ฉันเดาว่าคงมีเรื่องเกิดขึ้นระหว่างพวกเธอ เพราะตอนนั้นเธออารมณ์ไม่ดี ฉันเลยไม่ได้ถาม”
มายมิ้นท์กัดริมฝีปากล่างของเธอและเธอก็ไม่ได้พูดอะไร
ลาเต้นั่งลงข้างเตียงของเธอ “พุดเถอะ มาดูกันว่าฉันจะให้คำแนะนำกับเธอได้ไหม”
“จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไร” มายมิ้นท์นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ เขา “ฉันพบว่าราเม็งมีปัญหาทางจิต ดังนั้น…”
เรื่องที่ราเม็งวางยาเธอ เธอไม่ได้ตั้งใจจะบอกลาเต้
อย่างแรก เธอไม่ต้องการให้ลาเต้กังวล อย่างที่สอง เธอไม่ต้องการให้มีช่องว่างระหว่างลาเต้และราเม็ง
แม้ว่าระยะเวลาที่ลาเต้จะรู้จักกับราเม็ง จะไม่นานเท่าที่เธอรู้จักกับราเม็ง แต่ก็รู้จักกันมานานแล้ว ก็เป็นเพื่อนกันหมด มันไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแตกหัก
นอกจากนี้ เดิมทีเธอวางแผนที่จะให้อภัยราเม็ง และไม่คิดเล็กคิดน้อยกับสิ่งที่ราเม็งได้ทำในครั้งนี้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องพูดโดยปริยาย
“เธอ…เธอพบว่าราเม็งมีปัญหาทางจิตใจเหรอ” ลาเต้อุทาน
มายมิ้นท์หรี่ตาลง “ทำไม นายรู้อยู่แล้ว?”
ลาเต้สำลักและตระหนักได้ว่าเขาพลาดไปแล้ว
“รีบพูดมาเลย นายรู้อยู่แล้ว?” มายมิ้นท์มองไปที่เขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเฉยเมย
ลาเต้ดิ้นรนสองสามครั้ง และในที่สุดเขาก็ถอนหายใจ “อืม ฉันบอกแล้วก็ได้ ฉันรู้มานานแล้ว”
“นี่นาย…” มายมิ้นท์เตะเขาอย่างโกรธจัด “นายรู้อยู่แล้ว ทำไมนายไม่บอกฉัน”
บางทีเธออาจเกลี้ยกล่อมให้ราเม็งเข้ารับการรักษาได้ตั้งนานแล้ว
บางทีสถานการณ์ในตอนนี้ของราเม็งอาจดีขึ้นมาก และเขาจะไม่ทำอะไรเพื่อวางยาพิษเธอ
“เป็นราเม็งที่ไม่ให้ฉันพูด” ลาเต้ลูบน่องของเขาอย่างไม่พอใจ
มายมิ้นท์จ้องไปที่เขา “น่าเสียดายที่เราโตมาด้วยกัน แต่ดูนายสิ นายมีความลับกับฉันไปหมด พูดมานะ นายรู้เมื่อไหร่?”
“ก็…” ลาเต้กลอกตาและคิดอะไรบางอย่าง
มายมิ้นท์ขมวดคิ้วอย่างเหลืออด เธอต้องการเตะเขาอีกครั้ง
ลาเต้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว เขาเลยรีบยกขาทั้งสองของเขาขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อหลบหลีกการเตะของเธอ ก่อนที่เขาจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ก็ได้ ใฉันบอกเธอก็ได้ อย่าโมโหขนาดนั้นสิ”
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระ พูดมาเร็วๆ!” มายมิ้นท์เร่งเร้า
ลาเต้ยักไหล่และแสดงสีหน้าจริงจัง “จริงๆ แล้วฉันรู้เมื่อปีก่อน ฉันได้ติดต่อกับราเม็งเมื่อสองปีก่อน คุณตาของเธอเป็นคนแนะนำ ตั้งแต่ที่พ่อของเธอเสียชีวิต หุ่นส่วนเทนเดอร์กรุ๊ปของพ่อเธอถูกแม่เลี้ยงและน้องสาวของเธอขายไปทั้งหมด ดังนั้นหลายปีมานี้ ปู่ของเธอจึงแอบซื้อหุ้นเทนเดอร์กรุ๊ป ในช่วงแรก ราเม็งซื้อตามปู่ของเธอ ฉันไม่รู้ว่าราเม็งร่วมมือกับคุณปู่ของเธอมาหลายปีแล้ว แต่ฉันเพิ่งเข้าร่วมเมื่อสองปีก่อนหน้านี้ ดังนั้นฉันเดาว่าอย่างน้อยสามปี หรือมากกว่านั้น”
“ที่แท้หุ้นของเทนเดอร์กรุ๊ปก็เป็นของฝีมือพวกนายและคุณปู่นี่เอง…” ดวงตาของมายมิ้นท์เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
เมื่อสามเดือนก่อน หลังจากที่เธอกับเปปเปอร์หย่าร้างกัน ลาเต้ก็พาเธอไปพบกับปู่ของเธอ
คุณปู่เป็นนักโบราณคดี เลยมักจะไปสำรวจบ่อยๆ ดังนั้นจึงอยู่ในสภาพขาดการติดต่อบ่อยๆ ในการแต่งงานกับเปปเปอร์เป็นเวลา 6 ปี เธอไม่เคยเจอคุณปู่ของเธอเลย และเธอก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้ ลาเต้พบคุณปู่ของเธอได้อย่างไร เธอตกใจมาก
แน่นอนว่า สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือหุ้นของเทนเดอร์กรุ๊ปที่ปู่ของเธอมี เธอรู้ว่าหลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิต แม่เลี้ยงและน้องสาวของเธอก็ขายหุ้นของเทนเดอร์กรุ๊ปไป ดังนั้นเรื่องที่ปู่ของเธอมีหุ้นเทนเดอร์กรุ๊ปจำนวนมาก เธอทั้งแปลกใจและสงสัย ว่าปู่ของเธอได้หุ้นของเทนเดอร์กรุ๊ปมาได้อย่างไร และหุ้นเหล่านี้มีมากเกินกว่าที่พ่อของเธอจะเป็นเจ้าของเมื่อตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่
แน่นอนว่า เธอคิดว่าคุณปู่ของเธอซื้อหุ้นเหล่านี้ด้วยตัวเอง แต่เธอกลับไม่คิดแบบนั้น คุณปู่เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี และเขาไม่มีเงินเดือนมากขนาดนั้น มันไม่เพียงพอที่จะซื้อหุ้นมากมายขนาดนี้ เมื่อรวมเงินทั้งหมดของเขา มูลค่าสุทธิที่เขาสามารถซื้อคืนได้ก็แค่เพียงสองในยี่สิบเท่านั้น
เธอจึงซ่อนความอยากรู้นี้ไว้ในใจ และตั้งใจว่าจะรอจนกว่าจะเจอคุณปู่อีกครั้ง แล้วเธอถึงจะถามอย่างระมัดระวัง ที่จริงเธอเคยถามไปแล้วเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ปู่ของเธอไม่ได้พูด แต่เธอรู้สึกว่า มันควรจะถามให้ชัดเจนจะดีกว่า มันคงไม่ดีถ้าปู่ของเธอไปทำข้อตกลงบางอย่างกับใครซักคน
สุดท้ายคาดไม่ถึงเลย หุ้นที่เธอถืออยู่ 51% ของหุ้นเทนเดอร์กรุ๊ป ซึ่งจริงๆ แล้วถูกซื้อโดยปู่ของเธอ ราเม็งและลาเต้
ที่แท้ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา มีคนมากมายที่ทำเพื่อเธอเงียบๆ แต่เธอไม่รู้เลย และเธอยังจะคอยตามหลังเปปเปอร์ไปเรื่อยๆ อย่างยากลำบาก เธอพยายามทำให้เปปเปอร์กลับไปเป็นคนเดิม แล้วก็จะสามารถอย๔ร่วมกับเปปเปอร์ได้ จนกลายเป็นคู่รักที่รักไคร่กัน ด้วยความคิดนี้ในใจ เธอจึงละทิ้งศักดิ์ศรีของเธอและปล่อยให้ตระกูลนวบดินทร์รังแกเธอ ตอนนี้พบมาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เธอก็รู้สึกละอายใจ และรู้สึกสงสารปู่ของเธอ ราเม็งและลาเต้มากๆ
ชั่วขณะหนึ่ง มายมิ้นท์รู้สึกว่าส่วนแบ่งในมือของเธอนั้นมากเกินไป จนเธอรู้สึกไม่สบายใจ!
เธอคิดว่าเธอควรจะรับมันไว้
แล้วเธอจะมีหน้ามารับได้ยังไง ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่ได้ทำอะไรเลย
เมื่อมองเห็นท่าทีที่หดหู่และหนักใจของมายมิ้นท์ ลาเต้ก็กระโดดลงจากเตียงในโรงพยาบาลและถามอย่างรวดเร็วว่า “ที่รัก เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”
มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้นและสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อกลั้นน้ำตาของเธอไว้ “ไม่มีอะไร ฉันคิดอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันละอายใจน่ะ”
“เกิดอะไรขึ้น?” ลาเต้สงสัยมาก
มายมิ้นท์ส่ายหัว “ไม่เป็นไร”
ในอนาคต เธอจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อตอบแทนราเม็ง และความมีน้ำใจของเขา
ทันใดนั้นเธอก็พบว่าเธอเป็นหนี้คนจำนวนมากในชีวิตของเธอ!
เห็นได้ชัดว่ามายมิ้นท์มีบางอย่างในใจ แต่กลับไม่พูด เขามองดูเธออย่างลึกซึ้งครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็ยื่นมือออกไปอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ใช่สิ พูดถึงไหนแล้ว?”
“พูดถึงราเม็งและปู่ของฉันน่าจะร่วมมือกันมาอย่างน้อยสามปี” มายมิ้นท์เตือน
“ใช่ ฉันเดาว่ามันน่าจะมากกว่าสามปีแล้ว เมื่อสองปีที่แล้ว คุณปู่ของเธอก็พบฉันและขอให้ฉันเข้าร่วมในทันที หลังจากที่ฉันเข้าร่วม ฉันได้พบกับราเม็ง และเริ่มซื้อหุ้นเทนเดอร์กรุ๊ปที่กระจัดกระจายอยู่ข้างนอกพร้อมกับราเม็ง” ลาเต้พยักหน้าและกล่าวว่า
มายมิ้นท์เม้มปาก “นายกับราเม็งเจอกันเมื่อสองปีที่แล้ว ทำไมนายไม่บอกฉัน! เรื่องที่พวกนายและคุณปู่ซื้อหุ้น นายก็ไม่ยอมบอกฉัน!”
เธอคิดว่าถ้าพวกเขาบอกเธอ
เธออาจจะได้สติเร็วกว่านี้ และอาจจะเลิกคิดถึงเปปเปอร์แล้ว
“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ปู่ไม่ยอมให้ฉันบอกเธอ และราเม็งก็ไม่ยอมให้ฉันบอกเธอ เธอว่าฉันควรทำอย่างไร” ลาเต้เม้มริมฝีปากอย่างขุ่นเคือง แล้วพูดว่า “ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ฉันใช้เวลากับราเม็งค่อนข้างเยอะ ตอนแรกฉันก็รู้ว่าเขาผิดปกติ แต่พูดไม่ได้ จนกระทั่งปีที่แล้วฉันถึงได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าเขามีปัญหาทางจิต หลังจากที่ฉันรู้ ผู้ชายคนนั้นก็ขู่ฉันว่าอย่าพูด ที่สำคัญฉันไม่ได้รับอนุญาตให้บอกเธอ ฉันต้องซ่อนมันไว้ให้เขาจนกว่าเธอจะรู้ด้วยตัวเอง”
มันอย่างนี้นี่เอง!
มายมิ้นทบีบฝ่ามือแน่น “นายรู้ไหมว่าปัญหาทางจิตของราเม็งเกิดขึ้นได้ยังไง”
“ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ฉันรู้ว่าปัญหาทางจิตใจของเขาค่อนข้างร้ายแรง และคาดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นนานแล้ว”
นานมาก……
มายมิ้นท์หรี่ตาลง
ดังนั้นดูเหมือนว่า ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาเกิดอะไรกับราเม็ง จนทำให้เขาเป็นแบบนี้
เมื่อสิบปีราเม็งทั้งอ่อนโยนและชอบยิ้ม มันไม่น่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้
“ยังไงก็ตาม ที่รัก เธอรู้เรื่องของราเม็งแล้ว เธอจะทำยังไง” ลาเต้ถามอย่างเคร่งขรึม
มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว “ฉันจะทำอะไรได้อีก ถ้าป่วยก็ต้องรักษา ต้องหาวิธีที่จะชักชวนราเม็งให้เข้ารับการรักษา”